รีวิวหนังใหม่น่าชมสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าคงจะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ครับ นอกจากเรื่อง พยัคฆ์ร้าย 007 Spectre (2015) ภาพยนตร์เฟรนไชน์ภาคต่อที่มีเรื่องราวมาถึงภาคที่ 25 แล้ว !! (เฉพาะภาพยนตร์นะนี่)
แต่เอาจริงๆ ทั้ง 25 ตอนที่ผ่านมานั้น ขาดความต่อเนื่องกันครับ เนื่องด้วยกาลเวลาหลายสิบปี เปลี่ยนนักแสดง ก็ต้องเปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่เริ่มใหม่อีก ก็เหมือนการรีบูธนั่นละครับ ผมจึงจัดว่าทั้งสี่ภาคที่ผ่านมาของ Daniel Craig นั้นก็คือการรีบูธเช่นกัน
บอกกันตรงนี้เลยว่า รีวิวนี้ผมจะไม่สปอยล์ถึงเนื้อหาเรื่องราวในภาคใหม่แม้แต่นิดเดียวครับ แต่ผมจะประมวลผลข้อมูลโดยรวมทุกภาคทั้งสี่ภาคที่ผ่านมา ให้คุณๆได้มีฟิลลิ่งเพิ่มในการตัดสินใจไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้กัน
ประวัติ 007 ในเวอร์ชั่นของเครกนั้นเขียนประวัติให้ใหม่ตั้งแต่ภาคคาสิโนรอยัลเลยละ ในภาคคาสิโนรอยัลจึงถือว่าเป็นภาคแรกในเวอร์ชั่นเครก และกำหนดให้บอนด์นั้นเกิดในปี 1968 ครับผม ซึ่งในภาคล่าสุด Spectre ในปี 2015 นี้ เจมส์ บอนด์ จึงมีอายุ 47 ปีบริบูรณ์นะครับ ให้รับทราบข้อมูลกับตรงนี้ไว้ก่อนเบื้องต้น
ข้อมูลต่อไป เรื่องราวของคาสิโนรอยัลและควอนตัมออฟโซเลคนั้นเกิดขึ้นในช่วงต่อเนื่องกัน แต่ภาคสกายฟอลนั้นห่างมาอีกหกปีให้หลัง และภาคปัจจุบันสเปคเทรนั้นห่างจากสกายฟอลอีกสองถึงสามปีตามเส้นเวลาจริงครับ
ซึ่งทั้งสี่ภาคที่ผ่านมาของบอนด์ในเวอร์ชั่นเครกนั้น เนื้อเรื่องต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียวกันหมดครับ ถึงเนื่อเรื่องภาค3และ4จะโดดจากภาค1และ2ไปบ้าง แต่นั่นก็เพราะระยะเวลาที่ห่างกัน
มาในภาคล่าสุดนี้ ผู้ชมคาดหวังว่าสเปคเทรจะต้องดีงามเทียบเท่าหรือมากกว่าสกายฟอลแน่ๆ การตั้งธงเช่นนั้นจะทำให้คุณดูหนังไม่สนุกเอานะผมว่า เพราะบอนด์ทุกภาคที่ผ่านมา มีดีมีแย่ปนๆกันไป จริตใครจริตมันครับ ยกตัวอย่างสำหรับผมนะ (เฉพาะในเวอร์ชั่นเครก)
สาวบอนด์ที่ดีที่สุดคือ เวสเปอร์ ลินด์ ในคาสิโนรอยัล /
ตัวร้ายที่สุดคือ ดิอาโก รอดริเกซ ในสกายฟอล /
ลึกลับที่สุดคือ มิสเตอร์ไวท์ ในคาสิโนรอยัลและควอนตัมฯ /
ระห่ำแตกและดุเด็ดเผ็ดมันที่สุดคือ คาสิโนรอยัล /
น่าเบื่อที่สุดคือ ควอนตัม ออฟ โซแลค /
ภาพรวมครบรสที่สุดคือ สกายฟอล /
สังเกตกันไหมครับ ว่าผมยังไม่รวมภาคสเปคเทรเข้าไปด้วย เพราะถ้าผมนำไปรวม จะมีผลต่อการตัดสินใจของคุณๆไม่มากก็น้อยเลยละ ผมจึงตัดการนำมาเปรียบเทียบนะครับ และเริ่มรีวิวSpectre ณ บัดนี้
Daniel Craig รับบทเป็น James Bond

ใน Spectre นั้น เปิดเรื่องราวมาช่วงแรกก็ระห่ำแตกเช่นเคย เรียกอะดรีนาลีนให้เลือดลมเราสูบฉีดซักเล็กน้อยตั้งแต่เริ่ม ก่อนที่จะให้เรานั่งฟังเพลงประกอบภาพยนตร์พร้อมกับเครดิตนักแสดงและทีมงาน ที่มาพร้อมกับภาพกราฟฟิคตามสไตร์หนัง 007 ครับ หนวดปลาหมึกงี๊ยั๊วเยี๊ย เพื่อให้เพลงประกอบลดความตื่นเต้นลงมาบ้างนิดนึง
ช่วงต่อมาก็เริ่มเข้าสู่เรื่องราวอันลึกลับให้บอนด์ต้องตามสืบสวนตามประสาหนังสายลับ เกมส์การเชือดเฉือนชิงไหวชิงพริบของบอนด์กับองค์กรลึกลับที่ชื่อ Spectre ก็ชวนลุ้นระทึกไปเป็นลำดับ แต่เกมส์การเมืองของ M คนใหม่ก็เข้มข้นเช่นกัน Mต้องพยายามหาทางยื้อการมีอยู่ของหน่วยMI6ให้ดำรงอยู่ให้ได้ เนื่องจากมะรอมมะร่อเหลือเกินที่จะถูกยุบหน่วย
Ralph Fiennes รับบทเป็น M

เมื่อบอนด์เริ่มสืบเรื่องลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความจริงที่บอนด์ไม่อาจยอมรับได้ก็เปิดเผยออกมา บอนด์จะตัดสินใจอย่างไรกับเบื้องหลังความจริงขององค์กรลึกลับSpectreนี้ ต้องดูในภาพยนตร์กันนะครับ
ตามสไตร์หนังแอ็คชั่นแทบทุกเรื่องเป็นก็คือ เนื้อเรื่องแนวสืบสวนขมวดปมพล็อตทวิสประมาณ50% และฉากบู๊ไล่ลายิงสนั่นเมืองระเบิดภูเขาเผากระท่อมอีกประมาณ50% แต่ที่บอนด์ทุกภาคที่ผ่านมาและภาคล่าสุดนี้นั้นโดดเด่นกว่าหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นๆ เพราะว่าหนังตระกูล007นั้นทำออกมามีสไตร์ทุกเรื่อง หนังมันมีคลาส มีความหรู มีรสนิยม
และที่บอนด์ของเครกโดดเด่นกว่าบอนด์ทุกคนก็คือความดิบเถื่อนในบทบู๊และความดาร์คมืดหม่นในเรื่องราวครับ เรื่องราวชีวิตเจมส์ บอนด์ ของเครก จึงดูดราม่ากว่าบอนด์ทุกคน (แต่หล่อน้อยสุดนะ ฮ่า..!!)
สาวบอนด์ใน Spectre ทั้งสองคนก็โดดเด่นไม่แพ้สาวบอนด์ที่ผ่านๆมาครับ (เด่นกว่าสาวบอนด์ที่ผ่านมาทุกคนยกเว้น Eva Green ในคาสิโนรอยัล คนนั้นชนะเลิศ) โดยเฉพาะตัวแม่อย่าง Monica Bellucci ที่อายุอานามปาเข้าไป 51 ปี แล้ว แต่ขุ่นแม่โมนิก้ายังเซี๊ยอยู่เลยนะนี่
Monica Bellucci รับบทป็น Lucia

พวกการลำดับภาพ / ซาวด์ประกอบ / แสงสีเสียง /ก็ถือว่าสมมาตรฐานครับ หนังระดับนี้นี่นะ ผมข้ามตรงนี้กันไปเลยนะ บอกได้คำเดียวว่าดีเยี่ยมตลอดเรื่อง
ส่วนมิสมันนีเพนนีเลขาหน้าห้องเอ็มกลายเป็นสายลับสาวผิวดำขาลุย แทนที่จะเป็นมนุษย์ป้าแก่ๆ และคิวที่เป็นวัยรุ่นเฟี้ยวฉลาดล้ำซะงั้น แทนที่จะเป็นมนุษย์ลุงบ้าเทคโนโลยี ตรงนี้ผมถือเป็นสีสันในบอนด์เวอร์ชั่นล่าสุดครับ ซึ่งทั้งสองก็ปรากฎตัวร่วมแสดงตั้งแต่สกายฟอลละ ไม่ขัดตาแต่อย่างใด เพราะผมไม่ได้เอาไปเทียบกับเวอร์ชั่นอื่นๆ
พวกออฟชั่นเสริมเก็ดเจ็ตทั้งหลายแหล่ที่เป็นสเน่ห์ของบอนในทุกเวอร์ชั่นตลอดหลายสิบปีนั้น ก็ถูกบทแอ็คชั่นของเครกกลืนไปเรียบร้อยตั้งแต่คาสิโนรอยัลแล้วครับ ผมจึงไม่คาดหวังเห็นอุปกรณ์ไฮเทคเวอร์ๆล้ำๆในหนังบอนด์ยุคปัจจุบันนี้ละ ซึ่งใน Spectre ก็ได้ยินเสียงแว่วๆจากแฟนๆ007บางคนว่า บอนด์ภาคนี้ของเล่นไม่เจ๋งเลย แหม่.. สายลับนะครับ จะเอาของเล่นมากมายอะไรนักหนา ปฎิธานไหวพริบสิสำคัญกว่าของเล่นอีก (แต่รถสปอร์ตภาคนี้ก็สวยล้ำสุดๆนะ คิดถึงแอสตันมาติน โดนระเบิดไปในสกายฟอลซะแล้ว)
Oberhauser ตัวร้ายภาคนี้ก็เลวดีนะครับ ดูร้ายมีมิติกว่าตัวร้ายหลายๆคนที่ผ่านมา ถึงจะทรงพลังไม่เท่าสกายฟอลก็เถอะ เพราะคนนั้นเล่นไว้ดีเหลือเกิน ดาราเจ้าบทบาทระดับแถวหน้าฮอลลีวูดเลยนะตัวร้ายในสกายฟอลเนี่ย
Christoph Waltz รับบทเป็น Oberhauser

เอาละ ผมตัดสินใจในนาทีสุดท้าย ผมให้007 Spectre ภาคนี้(ภาค4)ดีไม่เท่าสกายฟอลครับ(ภาค3) แต่ดีงามเทียบเท่าคาสิโนรอยัล(ภาค1) และดีกว่าควอนตัมออฟโซแลค(ภาค2)
ซึ่งปมความลับในภาค Spectre นี่ ผมยกให้ว่ามีความซับซ้อนเยอะกว่าบอนด์ทุกภาคที่ผ่านมาซะด้วยซ้ำนะ คือมันจะปมเยอะไปไหน 555+ และความบันเทิงมันอยู่ที่ความซับซ้อนและปมที่ค่อยๆเฉลยนี่ละครับ
และในตอบจบนั้น แฟนๆ007คงมีปมให้คิดต่อหลังออกจากโรงหนังละครับ ว่าทีมผู้สร้างจะทำยังไงกับเรื่องราวในภาคต่อไปกันต่อละทีนี้ ถ้าอยากรู้ว่าทำไมจึงต้องมีคำถาม แฟนๆจงตามไปชม 007 Spectre (2015) กันโดยพลัน !!

7.5/10
[CR] Spectre (2015) กับเรื่องที่ 4 ในบทบาท James Bond ของ Daniel Craig [MOVIRISTA]
รีวิวหนังใหม่น่าชมสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าคงจะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ครับ นอกจากเรื่อง พยัคฆ์ร้าย 007 Spectre (2015) ภาพยนตร์เฟรนไชน์ภาคต่อที่มีเรื่องราวมาถึงภาคที่ 25 แล้ว !! (เฉพาะภาพยนตร์นะนี่)
แต่เอาจริงๆ ทั้ง 25 ตอนที่ผ่านมานั้น ขาดความต่อเนื่องกันครับ เนื่องด้วยกาลเวลาหลายสิบปี เปลี่ยนนักแสดง ก็ต้องเปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่เริ่มใหม่อีก ก็เหมือนการรีบูธนั่นละครับ ผมจึงจัดว่าทั้งสี่ภาคที่ผ่านมาของ Daniel Craig นั้นก็คือการรีบูธเช่นกัน
บอกกันตรงนี้เลยว่า รีวิวนี้ผมจะไม่สปอยล์ถึงเนื้อหาเรื่องราวในภาคใหม่แม้แต่นิดเดียวครับ แต่ผมจะประมวลผลข้อมูลโดยรวมทุกภาคทั้งสี่ภาคที่ผ่านมา ให้คุณๆได้มีฟิลลิ่งเพิ่มในการตัดสินใจไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้กัน
ประวัติ 007 ในเวอร์ชั่นของเครกนั้นเขียนประวัติให้ใหม่ตั้งแต่ภาคคาสิโนรอยัลเลยละ ในภาคคาสิโนรอยัลจึงถือว่าเป็นภาคแรกในเวอร์ชั่นเครก และกำหนดให้บอนด์นั้นเกิดในปี 1968 ครับผม ซึ่งในภาคล่าสุด Spectre ในปี 2015 นี้ เจมส์ บอนด์ จึงมีอายุ 47 ปีบริบูรณ์นะครับ ให้รับทราบข้อมูลกับตรงนี้ไว้ก่อนเบื้องต้น
ข้อมูลต่อไป เรื่องราวของคาสิโนรอยัลและควอนตัมออฟโซเลคนั้นเกิดขึ้นในช่วงต่อเนื่องกัน แต่ภาคสกายฟอลนั้นห่างมาอีกหกปีให้หลัง และภาคปัจจุบันสเปคเทรนั้นห่างจากสกายฟอลอีกสองถึงสามปีตามเส้นเวลาจริงครับ
ซึ่งทั้งสี่ภาคที่ผ่านมาของบอนด์ในเวอร์ชั่นเครกนั้น เนื้อเรื่องต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียวกันหมดครับ ถึงเนื่อเรื่องภาค3และ4จะโดดจากภาค1และ2ไปบ้าง แต่นั่นก็เพราะระยะเวลาที่ห่างกัน
มาในภาคล่าสุดนี้ ผู้ชมคาดหวังว่าสเปคเทรจะต้องดีงามเทียบเท่าหรือมากกว่าสกายฟอลแน่ๆ การตั้งธงเช่นนั้นจะทำให้คุณดูหนังไม่สนุกเอานะผมว่า เพราะบอนด์ทุกภาคที่ผ่านมา มีดีมีแย่ปนๆกันไป จริตใครจริตมันครับ ยกตัวอย่างสำหรับผมนะ (เฉพาะในเวอร์ชั่นเครก)
สาวบอนด์ที่ดีที่สุดคือ เวสเปอร์ ลินด์ ในคาสิโนรอยัล /
ตัวร้ายที่สุดคือ ดิอาโก รอดริเกซ ในสกายฟอล /
ลึกลับที่สุดคือ มิสเตอร์ไวท์ ในคาสิโนรอยัลและควอนตัมฯ /
ระห่ำแตกและดุเด็ดเผ็ดมันที่สุดคือ คาสิโนรอยัล /
น่าเบื่อที่สุดคือ ควอนตัม ออฟ โซแลค /
ภาพรวมครบรสที่สุดคือ สกายฟอล /
สังเกตกันไหมครับ ว่าผมยังไม่รวมภาคสเปคเทรเข้าไปด้วย เพราะถ้าผมนำไปรวม จะมีผลต่อการตัดสินใจของคุณๆไม่มากก็น้อยเลยละ ผมจึงตัดการนำมาเปรียบเทียบนะครับ และเริ่มรีวิวSpectre ณ บัดนี้
ใน Spectre นั้น เปิดเรื่องราวมาช่วงแรกก็ระห่ำแตกเช่นเคย เรียกอะดรีนาลีนให้เลือดลมเราสูบฉีดซักเล็กน้อยตั้งแต่เริ่ม ก่อนที่จะให้เรานั่งฟังเพลงประกอบภาพยนตร์พร้อมกับเครดิตนักแสดงและทีมงาน ที่มาพร้อมกับภาพกราฟฟิคตามสไตร์หนัง 007 ครับ หนวดปลาหมึกงี๊ยั๊วเยี๊ย เพื่อให้เพลงประกอบลดความตื่นเต้นลงมาบ้างนิดนึง
ช่วงต่อมาก็เริ่มเข้าสู่เรื่องราวอันลึกลับให้บอนด์ต้องตามสืบสวนตามประสาหนังสายลับ เกมส์การเชือดเฉือนชิงไหวชิงพริบของบอนด์กับองค์กรลึกลับที่ชื่อ Spectre ก็ชวนลุ้นระทึกไปเป็นลำดับ แต่เกมส์การเมืองของ M คนใหม่ก็เข้มข้นเช่นกัน Mต้องพยายามหาทางยื้อการมีอยู่ของหน่วยMI6ให้ดำรงอยู่ให้ได้ เนื่องจากมะรอมมะร่อเหลือเกินที่จะถูกยุบหน่วย
เมื่อบอนด์เริ่มสืบเรื่องลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความจริงที่บอนด์ไม่อาจยอมรับได้ก็เปิดเผยออกมา บอนด์จะตัดสินใจอย่างไรกับเบื้องหลังความจริงขององค์กรลึกลับSpectreนี้ ต้องดูในภาพยนตร์กันนะครับ
ตามสไตร์หนังแอ็คชั่นแทบทุกเรื่องเป็นก็คือ เนื้อเรื่องแนวสืบสวนขมวดปมพล็อตทวิสประมาณ50% และฉากบู๊ไล่ลายิงสนั่นเมืองระเบิดภูเขาเผากระท่อมอีกประมาณ50% แต่ที่บอนด์ทุกภาคที่ผ่านมาและภาคล่าสุดนี้นั้นโดดเด่นกว่าหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นๆ เพราะว่าหนังตระกูล007นั้นทำออกมามีสไตร์ทุกเรื่อง หนังมันมีคลาส มีความหรู มีรสนิยม
และที่บอนด์ของเครกโดดเด่นกว่าบอนด์ทุกคนก็คือความดิบเถื่อนในบทบู๊และความดาร์คมืดหม่นในเรื่องราวครับ เรื่องราวชีวิตเจมส์ บอนด์ ของเครก จึงดูดราม่ากว่าบอนด์ทุกคน (แต่หล่อน้อยสุดนะ ฮ่า..!!)
สาวบอนด์ใน Spectre ทั้งสองคนก็โดดเด่นไม่แพ้สาวบอนด์ที่ผ่านๆมาครับ (เด่นกว่าสาวบอนด์ที่ผ่านมาทุกคนยกเว้น Eva Green ในคาสิโนรอยัล คนนั้นชนะเลิศ) โดยเฉพาะตัวแม่อย่าง Monica Bellucci ที่อายุอานามปาเข้าไป 51 ปี แล้ว แต่ขุ่นแม่โมนิก้ายังเซี๊ยอยู่เลยนะนี่
พวกการลำดับภาพ / ซาวด์ประกอบ / แสงสีเสียง /ก็ถือว่าสมมาตรฐานครับ หนังระดับนี้นี่นะ ผมข้ามตรงนี้กันไปเลยนะ บอกได้คำเดียวว่าดีเยี่ยมตลอดเรื่อง
ส่วนมิสมันนีเพนนีเลขาหน้าห้องเอ็มกลายเป็นสายลับสาวผิวดำขาลุย แทนที่จะเป็นมนุษย์ป้าแก่ๆ และคิวที่เป็นวัยรุ่นเฟี้ยวฉลาดล้ำซะงั้น แทนที่จะเป็นมนุษย์ลุงบ้าเทคโนโลยี ตรงนี้ผมถือเป็นสีสันในบอนด์เวอร์ชั่นล่าสุดครับ ซึ่งทั้งสองก็ปรากฎตัวร่วมแสดงตั้งแต่สกายฟอลละ ไม่ขัดตาแต่อย่างใด เพราะผมไม่ได้เอาไปเทียบกับเวอร์ชั่นอื่นๆ
พวกออฟชั่นเสริมเก็ดเจ็ตทั้งหลายแหล่ที่เป็นสเน่ห์ของบอนในทุกเวอร์ชั่นตลอดหลายสิบปีนั้น ก็ถูกบทแอ็คชั่นของเครกกลืนไปเรียบร้อยตั้งแต่คาสิโนรอยัลแล้วครับ ผมจึงไม่คาดหวังเห็นอุปกรณ์ไฮเทคเวอร์ๆล้ำๆในหนังบอนด์ยุคปัจจุบันนี้ละ ซึ่งใน Spectre ก็ได้ยินเสียงแว่วๆจากแฟนๆ007บางคนว่า บอนด์ภาคนี้ของเล่นไม่เจ๋งเลย แหม่.. สายลับนะครับ จะเอาของเล่นมากมายอะไรนักหนา ปฎิธานไหวพริบสิสำคัญกว่าของเล่นอีก (แต่รถสปอร์ตภาคนี้ก็สวยล้ำสุดๆนะ คิดถึงแอสตันมาติน โดนระเบิดไปในสกายฟอลซะแล้ว)
Oberhauser ตัวร้ายภาคนี้ก็เลวดีนะครับ ดูร้ายมีมิติกว่าตัวร้ายหลายๆคนที่ผ่านมา ถึงจะทรงพลังไม่เท่าสกายฟอลก็เถอะ เพราะคนนั้นเล่นไว้ดีเหลือเกิน ดาราเจ้าบทบาทระดับแถวหน้าฮอลลีวูดเลยนะตัวร้ายในสกายฟอลเนี่ย
เอาละ ผมตัดสินใจในนาทีสุดท้าย ผมให้007 Spectre ภาคนี้(ภาค4)ดีไม่เท่าสกายฟอลครับ(ภาค3) แต่ดีงามเทียบเท่าคาสิโนรอยัล(ภาค1) และดีกว่าควอนตัมออฟโซแลค(ภาค2)
ซึ่งปมความลับในภาค Spectre นี่ ผมยกให้ว่ามีความซับซ้อนเยอะกว่าบอนด์ทุกภาคที่ผ่านมาซะด้วยซ้ำนะ คือมันจะปมเยอะไปไหน 555+ และความบันเทิงมันอยู่ที่ความซับซ้อนและปมที่ค่อยๆเฉลยนี่ละครับ
และในตอบจบนั้น แฟนๆ007คงมีปมให้คิดต่อหลังออกจากโรงหนังละครับ ว่าทีมผู้สร้างจะทำยังไงกับเรื่องราวในภาคต่อไปกันต่อละทีนี้ ถ้าอยากรู้ว่าทำไมจึงต้องมีคำถาม แฟนๆจงตามไปชม 007 Spectre (2015) กันโดยพลัน !!
7.5/10