‘ ชอบเดินทาง เลยได้เที่ยว และเพราะชอบเที่ยว ก็เลยได้เดินทาง ‘
หลังจากเคลียร์งานจบไปแล้ว สายตาก็เหลือบไปเห็นตัวเลขสีแดงๆบนปฏิทิน ค่ะ วันหยุด 3 วัน และคำถามถัดมาก็คือ “ไปไหนดี?”
เบื่ออากาศเย็นๆ จอมปลอมจากแอร์ออฟฟิศ ก็เลยหาที่เที่ยว ที่ที่มีอากาศเย็นๆ สบายๆ นั่นแหละค่ะ สาเหตุที่มา “แม่ฮ่องสอน”
พิกัดสะพานซูตองเป้ เหตุผลก็แค่อยากไป...... จากนั้นก็ดูว่าห่างจากบ้านรักไทยแค่ไหน เพราะเราจะขี่มอเตอร์ไซต์ไปค่ะ ที่เราเลือกนอนที่บ้านรักไทย เพราะเราเคยไปค้างที่ปางอุ๋งมาแล้ว เราโทรไปหาที่ชาสารักไทย…….ไม่ว่างงงงงงง และเพราะจากบ้านรักไทยไปสะพานซูตองเป้นั้น ไกลมากกกกกก เบนเข็มเลยค่ะทีนี้ ไปหาที่พักในตัวเมืองแทน
คอฟฟี่ มอร์นิ่ง เป็นตัวเลือกที่ดี ตอนโทรไปถาม พนักงานบอกมีเหลือห้องเดียว เป็นห้องเล็ก และไม่มีทีวี เรารีบบอกเลยว่า เอาค่ะ!! 5555 กลัวไม่มีที่นอน ห้องพักคืนละ 300 บาท กรี๊ดมากกกกก พี่เค้าให้เราไปจ่ายวันไปถึง ไม่ต้องโอน โอ๊ยยยยยย สวย ใจดี มีน้ำใจ 5555555
จากนั้นก็โทรไปจองตั๋วสมบัติทัวร์ ก็เหลือแค่เตรียมตัว เราหาพิกัดของสะพานซูตองเป้เท่านั้นค่ะ ส่วนที่อื่นๆ เรากะไปถามระหว่างเอา ไม่มีแผนอะไรในหัวเลย ไปเรื่อยๆ
งานนี้ฉายเดี่ยวค่ะ เป็นทริปกระทันหันมากกกกก ไม่ชวนใครทั้งนั้น ไม่บอกใครด้วย ไปถึงปุ๊ป โทรหาแม่ปั๊ป โดนบ่นยาวววว เย้!!
พร่ำเพ้ออ่ะ ไปค่ะ ไปเปรี้ยวที่แม่ฮ่องสอนกัน LETs GO ซิคะ รออะไร
สมบัติทัวร์ ถนนวิภาวดี
ช่วงที่เรานั่งอยู่บนรถทัวร์ มีน้อง 2 คน มาด้วยกัน แต่นั่งแยกกัน เราก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย น้องเค้าจะไปปางอุ๋ง เราเลยแนะนำพอที่เราจะบอกได้ คุยกันแบบไม่ถามชื่อ ก็ดีค่ะ ความสัมพันธ์ใหม่ๆ มิตรภาพดีๆ มีอยู่ทุกที่
แวะทานข้าวที่นี่ค่ะ อย่าถามหาพิกัด เราหลับมาตลอดทาง เรากินไปนิดนึง มันไม่ใช่เวลาอ่ะ กินไม่ลง เอาให้กระเพาะอาหารพอมีอะไรย่อยนิดหน่อย เรากลัวปวดท้องค่ะ งานเข้าอีก การเข้าห้องน้ำรถทัวร์มันไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไหร่นัก เคยรู้สึกป่ะคะ คือมันไม่มั่นคงอ่ะ
ถึงที่ บขส.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 9 โมงเช้า อากาศกำลังดี ไม่ร้อน กำลังสบายๆ
พอถึง บขส.แม่ฮ่องสอน ก็นั่งพี่วินฯ เข้าไปในเมือง ด้วยราคา 40 บาท
คอฟฟี่ มอร์นิ่ง เป็นสไตล์ที่เราชอบนะ อะไรที่เป็นไม้ๆ บ้าน โต๊ะ เก้าอี้ เราว่ามันดูมีสเน่ห์ดี
หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็ลงมาหากาแฟกินกันค่ะ เราชอบบรรยากาศที่นี่ค่ะ เหมือนบ้าน อบอุ่นดี
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราดันมาช่วงงาน 'ปอยเหลินสิบเอ็ด' พอดี...แล้วคอฟฟี่ มอร์นิ่ง อยู่ตรงข้ามเทศบาล...... ลำโพงอยู่ตรงหน้าต่างเลยอ่ะ คิดแล้วว่าคืนนี้คงเดินหาที่สิงสถิต ดึกๆค่อยกลับมานอน
หลังจากพักเหนื่อยเรียบร้อย ไปค่ะ ไปตระเวนเที่ยวกัน นี่เดินเรื่อยเปื่อยมาก......คุยโทรศัพท์กับแม่เพลิน
อากาศดีไง แดดแรง ร้อนด้วย แต่โอเค ประเด็นคือ เจอนักบิน ขี่บิ๊กไบท์ออกมา แว่นดำ หล่อดี ....ดึงสติค่ะที่รัก!!!
ตอนอยู่ที่ร้านกาแฟ ก็เจอหมอ แม่ฮ่องสอน ดี๊ดี~~~
มีร้านให้เช่ารถ อยู่หลังเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนค่ะ ร้าน JD วันละ 150 บาท มัดจำ 1000 บาท พร้อมบัตรประชาชน
พี่คนที่ให้เช่ารถ ดีมากอ่ะ ให้ข้อมูลเราเยอะมาก อธิบายให้ฟังหมดเลย อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง งานนี้เราแว๊นรอบเมืองเลยค่ะ งงบ้าง หลงบ้าง แต่เชื่อเหอะ ยังไงก็หาทางเจอ เพราะมันทะลุกันไปหมด เราบอกพี่เค้าไปว่า ครึ่งวันนี้จะเที่ยวในเมือง ส่วนพรุ่งนี้จะไปเที่ยวทางทิศเหนือ ไปสะพานซูตองเป้
ได้มาแล้ววววว เปรี้ยวใจของเรา
ไปค่ะที่รัก ไปแว๊นซ์กัน
พี่เค้าแนะนำว่า ครึ่งวันบ่ายให้ไปไหว้พระในเมือง 12 วัด!! .....นี่ก็บ้าจี้ ไปหมดเกือบทุกวัดเลย
แต่เพราะเผลอ ออกนอกประตูเมือง เลยยาวไปสะพานซูตองเป้ซะเลย สรุปหลงค่ะ เลี้ยวผิด แถมเจอคนไทยใหญ่ บอกทางผิดอีก แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเราหลงวันนี้ พรุ่งนี้เช้า เราจะได้ไม่หลง โคตรคิดบวก 55555
สะพานซูตองเป้ ช่วงบ่ายสามโมงค่ะ แดดดีจริงๆ
เรากลับมาไม่ทันพระอาทิตย์ตกหลังพระธาตุดอยกองมู แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ล่ะกันนะ ยังมีเวลาอีกวัน เที่ยวทิศเหนือครึ่งวัน อีกครึ่งวันมีเวลาเหลือเฟือ คนที่นี่เวลาบอกทาง เค้าจะเน้นทิศค่ะ ใช้ เหนือ-ใต้-ออก-ตก นี่เป็นคนงงทิศอ่ะ ออก-ตก อันไหนซ้าย อันไหนขวา
เพจ “ชมรมเด็กวัด สวนธรรมภูสมะ สะพานซูตองเป้” บอกว่า พระจะออกบิณฑบาต ตอน 6 โมงเช้า จำนวน 9 รูป
เรากลับมาที่พัก แต่จอดรถไม่ได้ เพราะทางเทศบาลจัดงานค่ะ เลยต้องไปจอดซอยข้างๆบ้านพักตำรวจ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ไปเดินที่ถนนคนเดิน หน้าวัดจองคำ จองกลางค่ะ ร้านค้าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะส่วนมากน่าจะไปตั้งร้านที่งานปอยเหลินสิบเอ็ดกันซะมากกว่า
หลังจากซื้อของฝาก แวะเติมน้ำมัน ก็กลับมาที่พัก เหมือนเดิม จอดรถข้างนอก และเดินหาของกินเรื่อยเปื่อย ร้านค้าจะมาตั้งตอนประมาณ 5 โมงเย็น เทศบาลจะเปิดถนนเส้นนี้เลย ของขายเยอะมาก ระยะทางประมาณกิโลนึง
การอาบน้ำตอนตีห้า แล้วแว๊นมอ'ไซต์ ฝ่าความหนาวมา จิตใจต้องเข้มแข็งแค่ไหน? แต่พอถึงสะพาน.....
ตระการตามากก สวยงามตามท้องเรื่อง~~~
ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค แต่ระหว่างทางที่มา หน้าชามากค่ะ มือไม้แข็งไปหมด แลดูเหมือนจมูกจะหายไป~~~ หลังจากใส่บาตร เดินขึ้นไปที่วัด และถ่ายรูป ก็ประมาณ 7 โมงเช้า ได้เวลากลับเข้าตัวเมือง แต่เพราะว่าเรายังไม่อยากกลับ เลยขี่มอเตอร์ไซต์ต่อไปเรื่อยๆ พิกัดแรก >>> พระตำหนักปางตองค่ะ ที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ป่า และมีลานจอดฮอฯ ตอนนั้นอยากรู้ อยากเห็นไปหมด รู้มาว่าลานจอดฮอฯ มีมุม 360 องศาค่ะ น่าจะกว้างน่าดู ก็เลยไป
*ข้อเสียของการขี่มอเตอร์ไซต์ คือ เราจะไปเรื่อยๆ อีกนิด อีกนิด และอีกนิด กะว่าขึ้นพระตำหนักฯ แล้วจะกลับ นี่อีกนิดนึง จะถึงบ้านรักไทยแล้ว พออีกนิดก็ปางอุ๋งพอดี เราไปเรื่อยๆค่ะ ไม่อยากจำกัดเวลา อย่างเที่ยวสบายๆ
เราเปลี่ยนเป็นเสื้อยืด ตอนออกมาจากสะพานซูตองเป้ แต่ระหว่างทางสะท้านมากกกก เพราะขี่ขึ้นเขา อากาศเย็นกว่าข้างล่าง แน่นอน...ไม่มีที่เปลี่ยนเสื้อแล้วด้วย ทนไปค่ะคุณ
ออกมาจากพระตำหนักฯ ตอน 9 โมงเช้า ไปค่ะ ไปต่อกันที่บ้านรักไทย
[CR] แบกเป้ ตะลุยเดี่ยว ไปเปรี้ยวที่แม่ฮ่องสอน
หลังจากเคลียร์งานจบไปแล้ว สายตาก็เหลือบไปเห็นตัวเลขสีแดงๆบนปฏิทิน ค่ะ วันหยุด 3 วัน และคำถามถัดมาก็คือ “ไปไหนดี?”
เบื่ออากาศเย็นๆ จอมปลอมจากแอร์ออฟฟิศ ก็เลยหาที่เที่ยว ที่ที่มีอากาศเย็นๆ สบายๆ นั่นแหละค่ะ สาเหตุที่มา “แม่ฮ่องสอน”
พิกัดสะพานซูตองเป้ เหตุผลก็แค่อยากไป...... จากนั้นก็ดูว่าห่างจากบ้านรักไทยแค่ไหน เพราะเราจะขี่มอเตอร์ไซต์ไปค่ะ ที่เราเลือกนอนที่บ้านรักไทย เพราะเราเคยไปค้างที่ปางอุ๋งมาแล้ว เราโทรไปหาที่ชาสารักไทย…….ไม่ว่างงงงงงง และเพราะจากบ้านรักไทยไปสะพานซูตองเป้นั้น ไกลมากกกกกก เบนเข็มเลยค่ะทีนี้ ไปหาที่พักในตัวเมืองแทน
คอฟฟี่ มอร์นิ่ง เป็นตัวเลือกที่ดี ตอนโทรไปถาม พนักงานบอกมีเหลือห้องเดียว เป็นห้องเล็ก และไม่มีทีวี เรารีบบอกเลยว่า เอาค่ะ!! 5555 กลัวไม่มีที่นอน ห้องพักคืนละ 300 บาท กรี๊ดมากกกกก พี่เค้าให้เราไปจ่ายวันไปถึง ไม่ต้องโอน โอ๊ยยยยยย สวย ใจดี มีน้ำใจ 5555555
จากนั้นก็โทรไปจองตั๋วสมบัติทัวร์ ก็เหลือแค่เตรียมตัว เราหาพิกัดของสะพานซูตองเป้เท่านั้นค่ะ ส่วนที่อื่นๆ เรากะไปถามระหว่างเอา ไม่มีแผนอะไรในหัวเลย ไปเรื่อยๆ
งานนี้ฉายเดี่ยวค่ะ เป็นทริปกระทันหันมากกกกก ไม่ชวนใครทั้งนั้น ไม่บอกใครด้วย ไปถึงปุ๊ป โทรหาแม่ปั๊ป โดนบ่นยาวววว เย้!!
ช่วงที่เรานั่งอยู่บนรถทัวร์ มีน้อง 2 คน มาด้วยกัน แต่นั่งแยกกัน เราก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย น้องเค้าจะไปปางอุ๋ง เราเลยแนะนำพอที่เราจะบอกได้ คุยกันแบบไม่ถามชื่อ ก็ดีค่ะ ความสัมพันธ์ใหม่ๆ มิตรภาพดีๆ มีอยู่ทุกที่
แวะทานข้าวที่นี่ค่ะ อย่าถามหาพิกัด เราหลับมาตลอดทาง เรากินไปนิดนึง มันไม่ใช่เวลาอ่ะ กินไม่ลง เอาให้กระเพาะอาหารพอมีอะไรย่อยนิดหน่อย เรากลัวปวดท้องค่ะ งานเข้าอีก การเข้าห้องน้ำรถทัวร์มันไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไหร่นัก เคยรู้สึกป่ะคะ คือมันไม่มั่นคงอ่ะ
คอฟฟี่ มอร์นิ่ง เป็นสไตล์ที่เราชอบนะ อะไรที่เป็นไม้ๆ บ้าน โต๊ะ เก้าอี้ เราว่ามันดูมีสเน่ห์ดี
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราดันมาช่วงงาน 'ปอยเหลินสิบเอ็ด' พอดี...แล้วคอฟฟี่ มอร์นิ่ง อยู่ตรงข้ามเทศบาล...... ลำโพงอยู่ตรงหน้าต่างเลยอ่ะ คิดแล้วว่าคืนนี้คงเดินหาที่สิงสถิต ดึกๆค่อยกลับมานอน
อากาศดีไง แดดแรง ร้อนด้วย แต่โอเค ประเด็นคือ เจอนักบิน ขี่บิ๊กไบท์ออกมา แว่นดำ หล่อดี ....ดึงสติค่ะที่รัก!!!
ตอนอยู่ที่ร้านกาแฟ ก็เจอหมอ แม่ฮ่องสอน ดี๊ดี~~~
พี่คนที่ให้เช่ารถ ดีมากอ่ะ ให้ข้อมูลเราเยอะมาก อธิบายให้ฟังหมดเลย อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง งานนี้เราแว๊นรอบเมืองเลยค่ะ งงบ้าง หลงบ้าง แต่เชื่อเหอะ ยังไงก็หาทางเจอ เพราะมันทะลุกันไปหมด เราบอกพี่เค้าไปว่า ครึ่งวันนี้จะเที่ยวในเมือง ส่วนพรุ่งนี้จะไปเที่ยวทางทิศเหนือ ไปสะพานซูตองเป้
ได้มาแล้ววววว เปรี้ยวใจของเรา
ไปค่ะที่รัก ไปแว๊นซ์กัน
พี่เค้าแนะนำว่า ครึ่งวันบ่ายให้ไปไหว้พระในเมือง 12 วัด!! .....นี่ก็บ้าจี้ ไปหมดเกือบทุกวัดเลย
แต่เพราะเผลอ ออกนอกประตูเมือง เลยยาวไปสะพานซูตองเป้ซะเลย สรุปหลงค่ะ เลี้ยวผิด แถมเจอคนไทยใหญ่ บอกทางผิดอีก แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเราหลงวันนี้ พรุ่งนี้เช้า เราจะได้ไม่หลง โคตรคิดบวก 55555
ตระการตามากก สวยงามตามท้องเรื่อง~~~
ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค แต่ระหว่างทางที่มา หน้าชามากค่ะ มือไม้แข็งไปหมด แลดูเหมือนจมูกจะหายไป~~~ หลังจากใส่บาตร เดินขึ้นไปที่วัด และถ่ายรูป ก็ประมาณ 7 โมงเช้า ได้เวลากลับเข้าตัวเมือง แต่เพราะว่าเรายังไม่อยากกลับ เลยขี่มอเตอร์ไซต์ต่อไปเรื่อยๆ พิกัดแรก >>> พระตำหนักปางตองค่ะ ที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ป่า และมีลานจอดฮอฯ ตอนนั้นอยากรู้ อยากเห็นไปหมด รู้มาว่าลานจอดฮอฯ มีมุม 360 องศาค่ะ น่าจะกว้างน่าดู ก็เลยไป
*ข้อเสียของการขี่มอเตอร์ไซต์ คือ เราจะไปเรื่อยๆ อีกนิด อีกนิด และอีกนิด กะว่าขึ้นพระตำหนักฯ แล้วจะกลับ นี่อีกนิดนึง จะถึงบ้านรักไทยแล้ว พออีกนิดก็ปางอุ๋งพอดี เราไปเรื่อยๆค่ะ ไม่อยากจำกัดเวลา อย่างเที่ยวสบายๆ
เราเปลี่ยนเป็นเสื้อยืด ตอนออกมาจากสะพานซูตองเป้ แต่ระหว่างทางสะท้านมากกกก เพราะขี่ขึ้นเขา อากาศเย็นกว่าข้างล่าง แน่นอน...ไม่มีที่เปลี่ยนเสื้อแล้วด้วย ทนไปค่ะคุณ