ตอนนี้มีหลากหลายอารมณ์มาก พีคสุดก็ตอนท้ายนี่แหละผมนี่ร้องลั่นห้องเลย

เปิดตอนมาสรุปพวกสปายทั้งสามคนไม่รอด
พวกนาเรียนกับคาซึกิได้คุยกันว่าทำไมถึงรู้ตำแหน่งได้
อย่างที่คาซึกิเคยพูดไว้ศัตรูน่าจะอยู่บนท้องฟ้า
นาเรี่ยนก็พูดแผนเฮฟเว่นดอร์ ที่เป็นแผนฟื้นฟูดาวเทียม ซึ่งน่าจะเป็นแผนที่ล้มเหลวไปแล้ว
สรุปคือพวกป้ามันเก็บไว้ใช้กันเอง
นาเรี่ยนก็เลยบอกตามหากันเถอะ เพราะไม่งั้นต้องสู้ทั้งเฟสตูม ทั้งมนุษย์

ตัดมาบนเครื่องบิน
แม่ของมิวะได้คุยกับเอมิลี่ โดยมิวะนอนหนุนตักอยู่
สรุปก็คือแม่ของมิวะก็ยังเป็นแม่ของมิวะอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ใช่คนแล้ว
เอมิลี่รู้สึกเสียใจกับมิวะและแม่ของมิวะ แม่ของมิวะไม่ได้ติดใจอะไรเพราะตอนนี้เธอสามารถเข้าใจมิวะได้แล้ว
จบที่แม่ของมิวะปลอบเอมิลี่

มายะหมกตัวอยู่ที่ฟาฟเนอร์นอนดูปืนในมือ ที่ใช้ยิงไปเมื่อคืน
คาซุกิมาหาพร้อมกับอาหารและพูดคุยกับมายะ
คาซุกิ: ฉันทำให้โทมิต้องเจ็บปวดอีกแล้ว เธอไม่ต้องสู้อีกแล้ว ฉันจะทำทั้งหมดให้เอง
มายะ: ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไรหรอก คาซุกิคุง
คาซุกิ: ที่ที่โทมิควรอยู่ไม่ใช่ที่นี่ กลับกันเถอะ กลับเกาะด้วยกัน
มายะกลับมายิ้มแล้ว และเพิ่งสังเกตุเห็นว่าคาซุกิตัดผม แล้วพูดแซวกันนิดหน่อย

บิลลี่นั่งมองดูเหรียญ
มิตสึฮิโระเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
บิลลี่ก็เลยบอกไปว่าหน่วยที่โจมตีพวกเรามีพี่ของเขาอยู่ เขาพยายามมาปกป้องบิลลี่ แค่คนเดียว
และก็พูดต่อพร้อมร้องไห้ออกไปว่าถ้าเกิดทุกคนรู้เข้า จะขว้างหินมาใส่เขาด้วยไหม
มิตสึฮิโระเลยเข้ามาปลอบ

อากิระขับฟาฟเนอร์กำลังเฝ้ายาม
อากิระบ่นไปแถมคุยกับฮิโรโตะอีก
ซึ่งทหารนายนึง(ที่เคยโดนจับกดบนเครื่องบินทิ้งระเบิดในตอนแรก) ถามขึ้นว่าอากิระคุยกับใคร
อากิระก็เลยบอกว่าฮิโรโตะด้วยระบบครอสซิ่ง
ทหารก็เลยบอกว่าบันทึกของเขาถูกลบทิ้งไปแล้วนี่
อากิระก็เลยเริ่มขึ้น
ทหารบอกให้อากิระไปพักผ่อนได้แล้ว
อากิระบอกว่าจะรอยิงเครื่องบินทิ้งระเบิด
ทหารเลยบอกว่าตอนนี้มันไม่มาหรอก เพราะต้องรอข้อมูลจากพวกสปาย
อากิระ: รู้เยอะจังเลยนะครับ
ทหาร: ก็เคยมีประสบการณ์มาก่อนน่ะ ฉันอยากจะขอโทษพวกเธอมาโดยตลอด 3 ปีก่อน พวกเราทิ้งระเบิดใส่เกาะของพวกเธอ
ทำให้อากิระปรี๊ดแตก จ่อปืนไปทางทหาร ซึ่งมายะมาล็อคเครื่องอากิระไว้
มายะคุยกับอากิระนิดหน่อย จบด้วยทำไมถึงยังยิ้มได้ล่ะครับ ทั้งๆที่ยิงคนไปแล้วแท้ๆ
มายะเองก็ยังอยากรู้เลย

เกาะเปิดรูบาเรียนิดหน่อย เพื่อให้ฟาฟเนอร์ออกไปสู้ สรุปสู้ไม่ได้ประสิทธิภาพของเครื่องไม่ไหว จบด้วยกับเข้าบาเรีย แล้วมาประชุมกันใหม่
แม่ของซากุระได้ล้มป่วย แถมพ่อของคาซุกิก็ไอเป็นเลือดอีกแล้ว
โอริฮิเมะจังเลยบอกว่าต้องเป็นฟาฟเนอร์แบบใหม่เท่านั้นถึงจะเอาชนะได้
ในการประชุมคุยเรื่องการพัฒนาฟาฟเนอร์ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือน แต่บาเรียอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน
เลยมีเสนอให้พิจารณาแผนเดลต้า ซึ่งคล้ายแผนแอลแต่ต่างตรงที่อพยพคนออกไปด้วย คือทิ้งเกาะไว้ก่อนค่อยมาทวงคืน

ซากุระกับเคนจิมานั่งฟังอาการของแม่ซากุระ ซึ่งอย่างดีที่สุดก็อยู่ได้ถึงหนึ่งเดือน ถึงจะรอดมาได้ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้
ซึ่งทำให้เคนจิขอซากุระแต่งงานเพื่อที่แม่ของซากุระจะได้หมดห่วง
รีนะตกใจอยู่พอสมควร แต่ก็ต้องออกอาการดีใจ ยินดีไปกับเขาด้วย ซึ่งคาบูรากิสังเกตุเห็นแล้ว(รักหลายเศร้าจริงๆ)

โอริฮิเมะนั่งป้อนข้าวเซริ พร้อมคุยเรื่องข่าวการแต่งงาน
แถมบอกถ้าช่วยงาน เดี๋ยวจะทำให้การดูดกลืนมันลดลง และพูดเปรยๆว่าอากการของเซริจะดีขึ้นเมื่อออกห่างจากเกาะ

ข้ามมางานแต่งของเคนจิกับซากุระ
เคนจิบอกซากุระว่าจะขับฟาฟเนอร์ด้วย เครื่งวอของเคนจิมีระบบซิกฟรีดอยู่ด้วย

ด้วยการโหมงานหนักของฮาซามะซังเพื่อคาน่อน ทำให้หุ่นเสร็จทันเวลา
ออกไปสู้กับเฟสตูม
คราวนี้คาบูรากิสามารถดึงเอาคอร์มีลออกมาได้แล้ว ให้รีนะยิงเพื่อทำลาย แต่ครั้งเดียวไม่อาจทำลายทั้งหมดได้
ทำให้อาซาเซลไทป์ที่เคยยืนยิ้มพุ่งมาจากน้ำจับคาบูรากิไป
ซึ่งคาบูรากิโดนอาซาเซลไทป์บีบอัดและลากลงไปในน้ำ ทำให้รีนะที่กว่าจะชาร์จยิงเสร็จพลาดเป้า เพราะคอร์หายไปแล้ว
คาบูรากิโดนดูดกลืนเรื่อยๆ เริ่มคงสภาพจิตใจไว้ไม่อยู่ เลโอกับรีนะเข้ามาช่วยแต่ก็ทำอะไรอาซาเซลไทป์ไม่ได้
เคนจิตะโกนบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครตายอีกแล้ว ทันใดนั้นก็มีมือมาจับเคนจิ พร้อมพูดว่าไม่เป็นไรหรอกเคนจิ เสียงคาน่อนนั่นเอง
และคนที่โผล่มาช่วยก็คือโคโยนั่นเอง
แถมโผล่มาแบบ


ฉันช่วยพวกเขาแล้วนะ คาสึกิ

ใน ED ก็เพิ่มเข้ามา



ไม่คิดว่าจะมาไม้นี้จริงๆ
ต้องขออภัยที่ไม่ค่อยใส่ภาพ ง่วงนอน+ขี้เกียจแล้ว นั่งพิมกระทู้ไปจะหลับไป