จขกท. ก็เป็นหนึ่งในคนที่มีนิสัยแบบนี้นะ
พอรู้ว่าไม่ใช่ ก็ไม่กล้า Say No ! ไปตรงๆ
ทุกเรื่องเลย ชีวิต ธุรกิจ การเงิน การงาน และความรัก
ตอนเด็กๆ เคยมีเพื่อนในห้องขอให้ช่วยทำโน่นทำนี่ โดยเฉพาะขอลอกการบ้านนี่ รายวันเลยจ้า
ช่วงหางานใหม่ๆ มีเพื่อนสนิทโทรมาชวนทำธุรกิจเครือข่าย (ก็คือขายตรงนั่นแหละ)
พอทำงานประจำ ลูกพี่โยนงานอะไรมาก็รับหมด
ก็เออออห่อหมกไป "ครับๆ ได้ครับ จะลองดูครับ"
ทั้งๆ ที่ใจโคตรอยากจะปฏิเสธมัน ชี้ ป ห า ย
เหตุผลง่ายๆ คือ "กลัว" กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด โดยเฉพาะกลัวเสียความสัมพันธ์ที่อุตส่าห์สร้างสมมานาน (กลัวเสียคะแนนนิยมนั่นแหละ)
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เรายึดติดกับค่านิยมที่ว่า
" ไ ม่ มี อ ะ ไ ร ที่ ค น ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส ำ เ ร็ จ ท ำ ไ ม่ ไ ด้ "
ก็เลยเป็นตรรกว่า โลกนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับคน Say No ! อยากสำเร็จก็ต้อง Say Yes ! ไว้ก่อน
เหมือนตอนดูหนังต๊อบ เถ้าแก่น้อยอะครับ พี่แก Say Yes ! อย่างเดียวเลย เสียเป็นเสีย
จขกท. เจอประโยคเด็ดของโจโฉมาประโยคหนึ่งแล้วทำให้รู้สึกว่า นิสัยปฏิเสธใครไม่เป็นมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ปะ
"มีสำเร็จต้องมีล้มเหลวเป็นธรรมดา ไยต้องกลัวความล้มเหลวด้วย กลัวความกลัวที่ตัวเองสร้างขึ้นมายังจะดีซะกว่า"
ไม่ว่าคุณจะ Say Yes หรือ Say No ! มันก็มีความเสี่ยงของผลที่จะตามมาเหมือนกัน แค่มันอาจไม่เท่ากันเท่านั้นเอง
แต่สำหรับผม นิสัยปฏิเสธใครไม่เป็น มันดีตรงที่ เราก็ยังรักษาความสัมพันธ์กับคนที่ยังสำคัญต่อชีวิตของเราไว้ได้
เพียงแต่เราจะรู้มากขึ้นว่า เรากับเขาไม่เหมาะที่จะคุยกันเรื่องอะไรบ้าง (ถอยห่างแบบละมุนละม่อมนั่นเอง)
มีดีย่อมมีไม่ดีตามมาด้วย มันก็ไม่ดีตรงที่ บางปัญหาที่ควรจะจบง่ายและเร็วกลับยืดเยื้อ และกลายเป็นเรื่องโลกแตกไปเลยก็เป็นได้
แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับนิสัยแบบนี้บ้าง ???
คิดยังไงกับนิสัย "ปฏิเสธใครไม่เป็น" ???
พอรู้ว่าไม่ใช่ ก็ไม่กล้า Say No ! ไปตรงๆ
ทุกเรื่องเลย ชีวิต ธุรกิจ การเงิน การงาน และความรัก
ตอนเด็กๆ เคยมีเพื่อนในห้องขอให้ช่วยทำโน่นทำนี่ โดยเฉพาะขอลอกการบ้านนี่ รายวันเลยจ้า
ช่วงหางานใหม่ๆ มีเพื่อนสนิทโทรมาชวนทำธุรกิจเครือข่าย (ก็คือขายตรงนั่นแหละ)
พอทำงานประจำ ลูกพี่โยนงานอะไรมาก็รับหมด
ก็เออออห่อหมกไป "ครับๆ ได้ครับ จะลองดูครับ"
ทั้งๆ ที่ใจโคตรอยากจะปฏิเสธมัน ชี้ ป ห า ย
เหตุผลง่ายๆ คือ "กลัว" กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด โดยเฉพาะกลัวเสียความสัมพันธ์ที่อุตส่าห์สร้างสมมานาน (กลัวเสียคะแนนนิยมนั่นแหละ)
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เรายึดติดกับค่านิยมที่ว่า
" ไ ม่ มี อ ะ ไ ร ที่ ค น ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส ำ เ ร็ จ ท ำ ไ ม่ ไ ด้ "
ก็เลยเป็นตรรกว่า โลกนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับคน Say No ! อยากสำเร็จก็ต้อง Say Yes ! ไว้ก่อน
เหมือนตอนดูหนังต๊อบ เถ้าแก่น้อยอะครับ พี่แก Say Yes ! อย่างเดียวเลย เสียเป็นเสีย
จขกท. เจอประโยคเด็ดของโจโฉมาประโยคหนึ่งแล้วทำให้รู้สึกว่า นิสัยปฏิเสธใครไม่เป็นมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ปะ
"มีสำเร็จต้องมีล้มเหลวเป็นธรรมดา ไยต้องกลัวความล้มเหลวด้วย กลัวความกลัวที่ตัวเองสร้างขึ้นมายังจะดีซะกว่า"
ไม่ว่าคุณจะ Say Yes หรือ Say No ! มันก็มีความเสี่ยงของผลที่จะตามมาเหมือนกัน แค่มันอาจไม่เท่ากันเท่านั้นเอง
แต่สำหรับผม นิสัยปฏิเสธใครไม่เป็น มันดีตรงที่ เราก็ยังรักษาความสัมพันธ์กับคนที่ยังสำคัญต่อชีวิตของเราไว้ได้
เพียงแต่เราจะรู้มากขึ้นว่า เรากับเขาไม่เหมาะที่จะคุยกันเรื่องอะไรบ้าง (ถอยห่างแบบละมุนละม่อมนั่นเอง)
มีดีย่อมมีไม่ดีตามมาด้วย มันก็ไม่ดีตรงที่ บางปัญหาที่ควรจะจบง่ายและเร็วกลับยืดเยื้อ และกลายเป็นเรื่องโลกแตกไปเลยก็เป็นได้
แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับนิสัยแบบนี้บ้าง ???