เข้าโรงหนังครั้งสุดท้ายก็ ไปดู ประมาณ เบิร์ดแมน โน่น เพิ่งได้มีโอกาสไปโรงหนังอีกครั้งเลือกดูทั้งหมดจากที่ฉาย คือ The Intern
คำเตือน บางส่วนมีสปอยล์นะครับ แต่ผมจะปิดไว้ ถ้าอยากดูก็คลิกเอา ไม่อยากดูก็ข้ามไป
ไม่เกี่ยวกับหนัง ขอบอกว่า แอน ฮาร์ท หุ่นดีมากครับ สูงยาวเข่าดีหน้าหวาน โอเค พอแค่นี้สำหรับภายนอก
นางเอก แอน อยู่คือผมดูแล้ว ผมรู้สึกว่า เธอเล่นหนังเก่งเข้าขั้นแล้วนะ ( หลายคนอาจบอก เก่งมานานแล้ว ขออภัย ) คือด้วยเนื้อเรื่องของหนังที่ไปเรื่อยๆ เธอโดดเด่นและดึงดูดคนดู ด้วยการแสดงสีหน้า ท่าทางที่ดูแล้ว เชื่อว่าตัวละครเป็นแบบนี้จริงๆ เรียกว่า สมกับเคยเล่นหนังมาแต่เด็กและเคยเล่นกับ เมอริล สตรีฟ ในหนังดังแนวแฟชั่นมาก่อน เรียกว่าหนังธรรมดาเนื้อหาเรื่อยๆ ให้เธอเล่น ก็มีสิทธิ์เรียกเงินคนดูได้ อาจจะไม่กล้าเรียกเธอว่าเทียบขั้น เมอริล แต่อนาคตเธอเป็นยอดฝีมือแน่
พระเอกเก๋าของเรา เดอ นีโร พระเอกยุค 70 จนถึง 90 ของเราคนนี้ปรับตัวเองมาเล่นหนังสบายๆเยอะขึ้น แต่ผมก็ยังติดภาพ เหมือนว่า แกซ่อนปืนเหน็บไว้ที่หลังเอวตลอดอยู่นิดๆ ยิ่ง ตอน สปอยล์นะครับ เตือนก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่แกโดนย้ายหน้าที่ยกกาแฟ ผมเห็นแววตาที่เหมือนจะรู้สึกน่าสงสาร แต่ก็อย่างที่บอก หน้าตาแกเอาเรื่องอยู่นิดเหมือนกัน ก็คงไม่มีอะไรไปติปู่ได้ เพราะแกก็ยอดฝีมมือคนนึงเหมือนกัน เล่นได้ดูเนียนกับบทที่ได้รับ สำหรับผู้ใหญ่ไฟยังไม่มอด
ดูแกเล่นหนังแอ็คชั่นมาเยอะ ทำให้นึกถึงตอนดู Ronin ว่าแกเคยบู๊ระห่ำขนาดไหน ตอนที่แกอายุ 55 โน่น ยังหล่ออีกตะหาก นี่ละครับ สิ่งที่แน่นอน เก่ง ห้าว หล่อ ก็ต้องมาแก่แบบหนีกันไม่ได้
ตัวหนัง เป็นหนังที่เด็กคงไม่ต้องดู แต่วัยเริ่มทำงาน กับ ผู้ใหญ่น่าจะได้ดู หนังให้เห็นว่าโลกเราตอนนี้ ที่หลายคนคงนึกไม่ถึง หรือไม่เคยเห็น ปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ทั้งสถานที่ทำงาน ในเมืองไทยก็เริ่มเป็นแบบนี้กันเยอะ มาซักระยะแล้ว ในเรื่องสร้างให้คนหนุ่มสาว ส่วนใหญ่ ยังมีความเคารพในผู้ใหญ่ และเห็นความสำคัญอยุ่พอสมควร แต่ก็มีความคิดที่ยังไม่ยอมรับกันในบางจุด ที่ตัวนางเอกมองปู่บ๊อบของเรา ในตอนแรก
หนังสร้างให้ดูเป็นแบบ positive ค่อนข้างมาก หากเทียบกับชีวิตจริงระหว่างตัวละครสองคนที่ มารู้จักกันในสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ยังคงสิ่งนึงที่เป็นจริงคือ คนที่พยายามทำงาน จะได้รับการมองเห็น หากมันเด่นชัด อย่างที่โรเบิร์ต บ๊อบ เดอ นีโร ทำในหนัง แต่ด้วยคุณสมบัติบางอย่าง ที่ทำให้ เลขาหน้าห้องต้องเผชิญชะตาที่ต่างกัน คือทำแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่มีคนเห็นว่าทำ
เอาเป็นว่า สองชั่วโมง ที่ผ่านไป มีสิ่งที่เป็นจริงในชีวิต จนทำให้ผมคิดว่า หนังแบบนี้ น่าจะสร้างเป็น ซีรีส์ดีกว่านะ เพราะมันเยอะมาก และไม่มีไฮไลท์ ( สำหรับผมนะ ) คือมันมีวัตถุประสงค์ในการสื่อถึงคนดูอยู่ แต่ดูแล้วมันเรื่อยๆ จนผมเองก็รู้สึกว่า เป็นหนังดีที่คุ้มค่า แต่ว่าคงไม่ซื้อแผ่นอ่ะนะ
แต่หากใครยังไม่ดู ก็ซื้อมาได้นะครับ หนังบางเรื่องก็ต้องดุมากกว่าหนึ่งรอบ ถึงจะเข้าถึงลึกซึ้ง
The Intern หลังจากดูแล้ว มาเล่านิดนึง
คำเตือน บางส่วนมีสปอยล์นะครับ แต่ผมจะปิดไว้ ถ้าอยากดูก็คลิกเอา ไม่อยากดูก็ข้ามไป
ไม่เกี่ยวกับหนัง ขอบอกว่า แอน ฮาร์ท หุ่นดีมากครับ สูงยาวเข่าดีหน้าหวาน โอเค พอแค่นี้สำหรับภายนอก
นางเอก แอน อยู่คือผมดูแล้ว ผมรู้สึกว่า เธอเล่นหนังเก่งเข้าขั้นแล้วนะ ( หลายคนอาจบอก เก่งมานานแล้ว ขออภัย ) คือด้วยเนื้อเรื่องของหนังที่ไปเรื่อยๆ เธอโดดเด่นและดึงดูดคนดู ด้วยการแสดงสีหน้า ท่าทางที่ดูแล้ว เชื่อว่าตัวละครเป็นแบบนี้จริงๆ เรียกว่า สมกับเคยเล่นหนังมาแต่เด็กและเคยเล่นกับ เมอริล สตรีฟ ในหนังดังแนวแฟชั่นมาก่อน เรียกว่าหนังธรรมดาเนื้อหาเรื่อยๆ ให้เธอเล่น ก็มีสิทธิ์เรียกเงินคนดูได้ อาจจะไม่กล้าเรียกเธอว่าเทียบขั้น เมอริล แต่อนาคตเธอเป็นยอดฝีมือแน่
พระเอกเก๋าของเรา เดอ นีโร พระเอกยุค 70 จนถึง 90 ของเราคนนี้ปรับตัวเองมาเล่นหนังสบายๆเยอะขึ้น แต่ผมก็ยังติดภาพ เหมือนว่า แกซ่อนปืนเหน็บไว้ที่หลังเอวตลอดอยู่นิดๆ ยิ่ง ตอน สปอยล์นะครับ เตือนก่อน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ผมเห็นแววตาที่เหมือนจะรู้สึกน่าสงสาร แต่ก็อย่างที่บอก หน้าตาแกเอาเรื่องอยู่นิดเหมือนกัน ก็คงไม่มีอะไรไปติปู่ได้ เพราะแกก็ยอดฝีมมือคนนึงเหมือนกัน เล่นได้ดูเนียนกับบทที่ได้รับ สำหรับผู้ใหญ่ไฟยังไม่มอด
ดูแกเล่นหนังแอ็คชั่นมาเยอะ ทำให้นึกถึงตอนดู Ronin ว่าแกเคยบู๊ระห่ำขนาดไหน ตอนที่แกอายุ 55 โน่น ยังหล่ออีกตะหาก นี่ละครับ สิ่งที่แน่นอน เก่ง ห้าว หล่อ ก็ต้องมาแก่แบบหนีกันไม่ได้
ตัวหนัง เป็นหนังที่เด็กคงไม่ต้องดู แต่วัยเริ่มทำงาน กับ ผู้ใหญ่น่าจะได้ดู หนังให้เห็นว่าโลกเราตอนนี้ ที่หลายคนคงนึกไม่ถึง หรือไม่เคยเห็น ปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ทั้งสถานที่ทำงาน ในเมืองไทยก็เริ่มเป็นแบบนี้กันเยอะ มาซักระยะแล้ว ในเรื่องสร้างให้คนหนุ่มสาว ส่วนใหญ่ ยังมีความเคารพในผู้ใหญ่ และเห็นความสำคัญอยุ่พอสมควร แต่ก็มีความคิดที่ยังไม่ยอมรับกันในบางจุด ที่ตัวนางเอกมองปู่บ๊อบของเรา ในตอนแรก
หนังสร้างให้ดูเป็นแบบ positive ค่อนข้างมาก หากเทียบกับชีวิตจริงระหว่างตัวละครสองคนที่ มารู้จักกันในสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ยังคงสิ่งนึงที่เป็นจริงคือ คนที่พยายามทำงาน จะได้รับการมองเห็น หากมันเด่นชัด อย่างที่โรเบิร์ต บ๊อบ เดอ นีโร ทำในหนัง แต่ด้วยคุณสมบัติบางอย่าง ที่ทำให้ เลขาหน้าห้องต้องเผชิญชะตาที่ต่างกัน คือทำแล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาเป็นว่า สองชั่วโมง ที่ผ่านไป มีสิ่งที่เป็นจริงในชีวิต จนทำให้ผมคิดว่า หนังแบบนี้ น่าจะสร้างเป็น ซีรีส์ดีกว่านะ เพราะมันเยอะมาก และไม่มีไฮไลท์ ( สำหรับผมนะ ) คือมันมีวัตถุประสงค์ในการสื่อถึงคนดูอยู่ แต่ดูแล้วมันเรื่อยๆ จนผมเองก็รู้สึกว่า เป็นหนังดีที่คุ้มค่า แต่ว่าคงไม่ซื้อแผ่นอ่ะนะ
แต่หากใครยังไม่ดู ก็ซื้อมาได้นะครับ หนังบางเรื่องก็ต้องดุมากกว่าหนึ่งรอบ ถึงจะเข้าถึงลึกซึ้ง