วันนี้ itsPinkwanderlust จะพาไปเที่ยวเมืองผลิตไวน์ระดับต้นๆ เมืองBordeaux จาก ฝรั่งเศสกันค่ะ พูดถึงชื่อเมือง ทุกคนต้องนึกถึงไวน์เเน่นอน ตอนที่อยากไปนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าบ้านเมืองเค้าจะเป็นยังไงบ้าง พอไปถึงที่ ถึงกับว้าวว ไม่คิดว่าบ้านเมืองจะสวยเเละน่ารักขนาดนี้ คิดว่าจะเป็นเมืองเต็มไปด้วยไวน์เเละไร่องุ่น เเต่มีสถานที่สวยงามอลังการอย่างไม่น่าเชื่อ งั้นรออะไรละ ไปอ่านกันเลยค่าาา
จากสนามบินBordeaux จะมี Shuttle bus เข้าเมืองไปจอดที่สถานีรถไฟ Gare de Bordeaux Saint Jean หรือ สถานีรถไฟหลักของเมืองนั้นเอง ราคาคนละ 7.2 euros เเละนี้คือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่จะบังเกิดในทริปสุดหรรษานี้
From Bordeaux airport we take the shuttle bus heading to the city center to Gare de Bordeaux Saint Jean or simply put the city’s main train station (that costs 7.2 euro each). This is where the adventure starts.
เมื่อเข้าเมืองมาถึงสถานีรถไฟ ตอนนี้อเดรนาลินพุ่งกระชูด พร้อมเดินเที่ยวเล่นรอบเมือง เเต่ด้วยความที่เเบกกระเป๋าใหญ่โตมาด้วยจึงเป็นไอเดียที่ดีหากเราไปเก็บกระเป๋ากันก่อนค่ะ รอบนี้ itspinkwanderlust ได้จองใช้บริการของ Airbnb ด้วยความที่อยากรู้ลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมบ้านเค้า เดี๋ยวรีบไปเก็บกระเป๋าล้างหน้าล้างตาเเต่งตัวจะได้ออกไปหากิน เห้ยไม่ใช่ ออกไปลันล้าชมบ้านเมืองเค้าค่ะ เเต่เดี๋ยวนะ จะไปไงอะ โชคดีค่ะ พี่เจ้าของบ้าน Airbnb เค้าได้บอกวิธีเดินทางอย่างละเอียดว่าต้องขึ้นรถไฟรถบัส tram สายไหน เเต่เอิ่มส์ พอมาถึงสถานที่จริงมันไม่ง่ายเลยค่ะ
Arriving at the train station, our adrenaline is pumping hard, eager to walk around the city. But first things first; let’s put our stuff at the airbnb place and get freshen up. So…. How do we get there? Well, our host is very kind to give us the directions on how to get there but being a newbie in this wine city, with a foreign language everywhere, it’s not as easy as instructed.
อย่างเเรกให้ขึ้น Tram หลังจากนั้นต่อด้วยบัส เเล้วก็เดินเข้าซอยนิดๆหน่อยๆ ดูง่ายเนอะ ขั้นตอนเเรกก็เดินไปตรงที่ Tram เค้าหยุดกัน ปัญหาเรื่มมาอย่างถล่มถลาย ขึ้นอันไหนอะ เเล้วขึ้นฝั่งไหนอีก ขึ้นเเล้วลงไหน มันจะจอดตรงไหนบ้าง เค้าพูดอังกฤษได้ปะ เราถามพี่ผู้ชายคนนั้นดีปะ เห้ยคนนั้นน่ารักกว่า เเกๆ คนนั้นสิหล่อเลิศ ไม่อะเค้าดูหยิ่ง เห้ยหยุด โฟกัสหน่อยค่ะ เราต้อง #strong สตรอง สตรอง สตรอง (พอดีคลิปพี่ลูกเกดติดหัว) อย่าหลงไปกับความหล่อกับหนุ่มฝรั่งเศสค่ะ สุดท้ายเราเลือกที่จะถามกลุ่มเด็กสาววัยกะโปโล ทำไมนะหรอ เเทนที่จะหาเรื่องคุยกับหนุ่มหล่อเเต่ดันเลือกสาวๆ เพราะพูดกันเเบบมีสาระความรู้ก็คือ ชาวฝรั่งเศสก็เหมือนคนญี่ปุ่นค่ะ ที่รักชาติบ้านเกิดตัวเองมากจนไม่จำเป็นที่จะเรียนภาษาที่สองเช่นอังกฤษเพื่อเอาตัวรอด ฉะนั้นสาวๆวัยกะโปโลเด็กรุ่นใหม่น่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะพอพูดอังกฤษเเละใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ itspinkwanderlust หาบ้านเจอค่ะ
First the tram, and change to the bus and do a bit walking. Ok that seems doable. As we walk towards where all the tram stops are, the first problem occurs with numerous questions; which tram to take, which direction, where is the tram stop, which one to get down, who do we ask, do they speak English, should we ask that guy, no that guy’s cuter, oh that guy looks really hawt, nah he seems arrogant, wait stop. Focus! At the end we decide to ask a group of high school girls for help, why (of all the cute guyz walkin around why girls?!?!)? Well, well hot guys are for the eyes, but to go to our Bordeaux ‘home’ we need practicality. These school girls can probably speak English and more tech savvy to help us.
พาเล วู อองเกล ฉันถามพวกสาวกะโปโลว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย
‘Parlez vous anglais?’ I ask the girls if they speak English.
นิดหน่อย หนึ่งในวงตอบ
‘A little.’ one of the girls answers.
หลังจากนั้นคือการเเสดง 5 นาทีกับละครใบ้นำเเสดงโดย itspinkwanderlust เเละเพื่อนพ้องใหม่ชาวBordeaux ชี้นู้น ชี้นี้ ไม่ๆ ใช่ๆ โชว์รูปในมือถือ พิมพ์ชื่อถนนด้วยเพราะ ฮัลโหล สงสังสำเนียงจะ parisien เลิศไปหน่อยชาวบ้านนอกเเบบBordeauxเค้าฟังไม่รู้เรื่องหรอก (ประชดนะคะ)
And there goes the 5 minute long of hand gestures, pointing, yes, no, oui, oui, showing off photos from the phones, typing the location name as we totally embarrass ourselves by pronunciating the French word completely wrong.
‘D’accord, d’accord. Merci beaucoup.’ โอเคๆ ขอบคุณค่ะ ชั้นบอกกับเพื่อนสาวกะโปโลในขณะที่เดินไปยังเครื่องซื้อตั๋ว โอเคครร เดี๋ยวนะ ชั้นว่าไม่โอเค เห้ยนี้มันอารายย มองน่าจอเเล้วเเบบเอิ่มมี option เยอะจังค่ะ ต้องซื้อเเบบไหนอะ เเละด้วยความโชคดีมีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาช่วยคงเห็นเรามองงงอยู่นาน คุณป้าน่ารักมาก มากกดๆหน้าจอ ถามว่าเอาตั๋วสองคนใช่มั้ย จึงตอบกลับไปว่า oui พูดไปอย่างมั่นใจเพราะเป็นคำที่เเน่ใจว่าพูดสำเนียงเป๊ะเเน่นอน เเละ voilà เราได้ตั๋วมาเเล้ว Merci Beaucoup พวกเรากล่าวขอบคุณคู่รักวัย(ไม่)เยาว์
‘D’accord, d’accord. Merci beaucoup.’ (ok,ok, thank you very much) I tell the girls as we walk towards the ticket machine. D’accord…..no, not ok… what? As we look on the monitor. There are types of tickets and which one? As luck would have it, there’s a middle age couple who can clearly see our struggle come to help us. Click, click, click.. ‘deux personnes (2 people)?’ he asks, ‘oui’ I answer confidently as it’s the only word I’m sure how to say it correctly. Voilà! We have our tickets! ‘Merci Beaucoup!’
ความวุ่นวายไม่หยุดเพียงเเค่นั้น พอขึ้นtram เราต้องเอาตั๋วสอดเข้าเครื่องเพื่อเเสตมป์เวลาขึ้นเผื่อมีเจ้าหน้าที่ตรวจจะได้รู้ว่าเราไม่ได้โกง เเต่เเค่ตรงนี้ก็เกิดปัญหา นำความอายมาให้ชาว Bordeaux ละค่ะ ก็สอดตั๋วถูกทางเเบบคนอื่นเค้าทำกันจริงๆนะ เเต่ไม่รู้ทำบุญมาด้วยอะไร เครื่องมันถึงต้องมาเป็นปัญหาตอนชั้นสอด อยู่ดีๆตั๋วก็ติดชะงักเเบบ paper jam ในเครื่องปริ้นเตอร์ ติดธรรมดาก็พอไหวนะ นี้มันส่งเสียงดังยังกับสัญญาณกันขโมย คนกับเรื่มหันมามองสิครัช เราก็พยายามดึง เเคะ เเงะ เเกะ ยังไงก็ไม่ออก มีพี่ผู้ชายใจดีมาช่วยเเต่ก็ไม่ได้ผล ทำไรไม่ได้ เราเลยยืนเฉยๆต่อไปรอถึงสถานีที่ต้องลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นการเปิดทริปที่ดังเปรี้ยงปร้างจริงๆ
The struggle doesn’t stop there. As we get onto the tram, we have to validate the ticket by inserting the ticket into the machine, that’s when the embarrassment spikes again. You know how printers or fax machine get paper jam and it makes continuous, loud, high-pitch squeaky noises until you pull the paper out? Yup! That’s exactly what’s happening with my ticket! Like how? And why? Everyone starts to look at our way and there’s nothing we can do. The ticket is inside and we can’t pull it out! One guy nearby tries to help, but still won’t work. There’s nothing we can do but wait till we get to our station and get down. We sure know how to make an entrance!
ในที่สุดก็ถึงครึ่งทาง มาลงที่สถานี Quinconces มาดูป้ายรถบัสต่อว่ารถมาเมื่อไรเเละที่เเน่นอนมันเป็นภาษาฝรั่งเศส วันเวลากี่โมง ต้องขอบคุณ Google translate ที่ทำให้มาไกลได้ถึงขนาดนี้
Quinconces station! Halfway there! As we look at the timetable.. obviously it’s in french so we use google translate to check the days and the time the bus will come.
ระหว่างรอรถมา เราเลยเดินรอบๆเเถวนั้น ละก็เจอสวนที่มีต้นไม้สูงเรียงกันเขียวขจีร่มรื่นเป็นเช่นนัก
While waiting for the nxt bus to come, we take a little break nearby at this gorgeous serene area where trees line up nicely making it a very peaceful place to walk through.
ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางตอนกลางวันพอดี เรามาถึงที่จะเป็นบ้านของเรา2คืน บรรยากาศบ้านน่ารักอบอุ่นเเละฝรั่งเศสมาก ตกเเต่งน่ารักมีสไตล์ เจ้าของบ้าน friendly เป็นกันเอง ให้เเผนที่เเละเเนะนำที่เที่ยว ใจกลางเมือง Bordeaux เป็นเมืองที่เดินเที่ยวรอบด้วยเท้าไม่ต้องขึ้นรถได้ เเละข้อดีอีกอย่างคือ มาช่วง summer กว่าฟ้าจะมืดก็ประมาณ สามทุ่มครึ่ง มีเวลาเหลือเฟือค่ะ ไปโล้ดดดดด
Here we are by midday! We reach what will be our home for couple of nights. The place is cozy, simple yet very French about it. The airbnb host is very friendly and provides us with many information and maps. The city is walkable and since it’s the summer, it won’t get dark till around 9.30pm, plenty of time to explore the city. Woop Woop!
พร้อมกันยังง ไปกันเลยยยย
Are you ready?!? Let’s goooo
ไม่รู้ไปไหนให้เดินตามทาง tram ค่ะ
Monument aux Girondins
ปั่นจักรยานกันมะ Let's ride a bike
Pont de Pierre
Port de Calihau
Palais Gallien
Place de la victoire
เป็นอนุสาวรีย์ แรกใน บอร์โดซ์ ได้รับการออกแบบเพื่อเป็นเกียรติแก่ การปลูกองุ่น และ การผลิตไวน์ - ออกเเบบเป็นเกลียวดั่งเถาวัลย์เรื่อยขึ้นหาเเสงพระอาทิตย์
At Place de la Victoire stands the first monument in Bordeaux designed to honour viticulture and winemaking – the helical shape symbolizes the vineyard rising like a vine to the sun!
Basilique St. Michel
☘ Bordeaux เมืองนี้ไม่ได้มีดีเเค่ไวน์ ภาคไทย-อังกฤษ ☘
จากสนามบินBordeaux จะมี Shuttle bus เข้าเมืองไปจอดที่สถานีรถไฟ Gare de Bordeaux Saint Jean หรือ สถานีรถไฟหลักของเมืองนั้นเอง ราคาคนละ 7.2 euros เเละนี้คือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่จะบังเกิดในทริปสุดหรรษานี้
From Bordeaux airport we take the shuttle bus heading to the city center to Gare de Bordeaux Saint Jean or simply put the city’s main train station (that costs 7.2 euro each). This is where the adventure starts.
เมื่อเข้าเมืองมาถึงสถานีรถไฟ ตอนนี้อเดรนาลินพุ่งกระชูด พร้อมเดินเที่ยวเล่นรอบเมือง เเต่ด้วยความที่เเบกกระเป๋าใหญ่โตมาด้วยจึงเป็นไอเดียที่ดีหากเราไปเก็บกระเป๋ากันก่อนค่ะ รอบนี้ itspinkwanderlust ได้จองใช้บริการของ Airbnb ด้วยความที่อยากรู้ลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมบ้านเค้า เดี๋ยวรีบไปเก็บกระเป๋าล้างหน้าล้างตาเเต่งตัวจะได้ออกไปหากิน เห้ยไม่ใช่ ออกไปลันล้าชมบ้านเมืองเค้าค่ะ เเต่เดี๋ยวนะ จะไปไงอะ โชคดีค่ะ พี่เจ้าของบ้าน Airbnb เค้าได้บอกวิธีเดินทางอย่างละเอียดว่าต้องขึ้นรถไฟรถบัส tram สายไหน เเต่เอิ่มส์ พอมาถึงสถานที่จริงมันไม่ง่ายเลยค่ะ
Arriving at the train station, our adrenaline is pumping hard, eager to walk around the city. But first things first; let’s put our stuff at the airbnb place and get freshen up. So…. How do we get there? Well, our host is very kind to give us the directions on how to get there but being a newbie in this wine city, with a foreign language everywhere, it’s not as easy as instructed.
อย่างเเรกให้ขึ้น Tram หลังจากนั้นต่อด้วยบัส เเล้วก็เดินเข้าซอยนิดๆหน่อยๆ ดูง่ายเนอะ ขั้นตอนเเรกก็เดินไปตรงที่ Tram เค้าหยุดกัน ปัญหาเรื่มมาอย่างถล่มถลาย ขึ้นอันไหนอะ เเล้วขึ้นฝั่งไหนอีก ขึ้นเเล้วลงไหน มันจะจอดตรงไหนบ้าง เค้าพูดอังกฤษได้ปะ เราถามพี่ผู้ชายคนนั้นดีปะ เห้ยคนนั้นน่ารักกว่า เเกๆ คนนั้นสิหล่อเลิศ ไม่อะเค้าดูหยิ่ง เห้ยหยุด โฟกัสหน่อยค่ะ เราต้อง #strong สตรอง สตรอง สตรอง (พอดีคลิปพี่ลูกเกดติดหัว) อย่าหลงไปกับความหล่อกับหนุ่มฝรั่งเศสค่ะ สุดท้ายเราเลือกที่จะถามกลุ่มเด็กสาววัยกะโปโล ทำไมนะหรอ เเทนที่จะหาเรื่องคุยกับหนุ่มหล่อเเต่ดันเลือกสาวๆ เพราะพูดกันเเบบมีสาระความรู้ก็คือ ชาวฝรั่งเศสก็เหมือนคนญี่ปุ่นค่ะ ที่รักชาติบ้านเกิดตัวเองมากจนไม่จำเป็นที่จะเรียนภาษาที่สองเช่นอังกฤษเพื่อเอาตัวรอด ฉะนั้นสาวๆวัยกะโปโลเด็กรุ่นใหม่น่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะพอพูดอังกฤษเเละใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ itspinkwanderlust หาบ้านเจอค่ะ
First the tram, and change to the bus and do a bit walking. Ok that seems doable. As we walk towards where all the tram stops are, the first problem occurs with numerous questions; which tram to take, which direction, where is the tram stop, which one to get down, who do we ask, do they speak English, should we ask that guy, no that guy’s cuter, oh that guy looks really hawt, nah he seems arrogant, wait stop. Focus! At the end we decide to ask a group of high school girls for help, why (of all the cute guyz walkin around why girls?!?!)? Well, well hot guys are for the eyes, but to go to our Bordeaux ‘home’ we need practicality. These school girls can probably speak English and more tech savvy to help us.
พาเล วู อองเกล ฉันถามพวกสาวกะโปโลว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย
‘Parlez vous anglais?’ I ask the girls if they speak English.
นิดหน่อย หนึ่งในวงตอบ
‘A little.’ one of the girls answers.
หลังจากนั้นคือการเเสดง 5 นาทีกับละครใบ้นำเเสดงโดย itspinkwanderlust เเละเพื่อนพ้องใหม่ชาวBordeaux ชี้นู้น ชี้นี้ ไม่ๆ ใช่ๆ โชว์รูปในมือถือ พิมพ์ชื่อถนนด้วยเพราะ ฮัลโหล สงสังสำเนียงจะ parisien เลิศไปหน่อยชาวบ้านนอกเเบบBordeauxเค้าฟังไม่รู้เรื่องหรอก (ประชดนะคะ)
And there goes the 5 minute long of hand gestures, pointing, yes, no, oui, oui, showing off photos from the phones, typing the location name as we totally embarrass ourselves by pronunciating the French word completely wrong.
‘D’accord, d’accord. Merci beaucoup.’ โอเคๆ ขอบคุณค่ะ ชั้นบอกกับเพื่อนสาวกะโปโลในขณะที่เดินไปยังเครื่องซื้อตั๋ว โอเคครร เดี๋ยวนะ ชั้นว่าไม่โอเค เห้ยนี้มันอารายย มองน่าจอเเล้วเเบบเอิ่มมี option เยอะจังค่ะ ต้องซื้อเเบบไหนอะ เเละด้วยความโชคดีมีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาช่วยคงเห็นเรามองงงอยู่นาน คุณป้าน่ารักมาก มากกดๆหน้าจอ ถามว่าเอาตั๋วสองคนใช่มั้ย จึงตอบกลับไปว่า oui พูดไปอย่างมั่นใจเพราะเป็นคำที่เเน่ใจว่าพูดสำเนียงเป๊ะเเน่นอน เเละ voilà เราได้ตั๋วมาเเล้ว Merci Beaucoup พวกเรากล่าวขอบคุณคู่รักวัย(ไม่)เยาว์
‘D’accord, d’accord. Merci beaucoup.’ (ok,ok, thank you very much) I tell the girls as we walk towards the ticket machine. D’accord…..no, not ok… what? As we look on the monitor. There are types of tickets and which one? As luck would have it, there’s a middle age couple who can clearly see our struggle come to help us. Click, click, click.. ‘deux personnes (2 people)?’ he asks, ‘oui’ I answer confidently as it’s the only word I’m sure how to say it correctly. Voilà! We have our tickets! ‘Merci Beaucoup!’
ความวุ่นวายไม่หยุดเพียงเเค่นั้น พอขึ้นtram เราต้องเอาตั๋วสอดเข้าเครื่องเพื่อเเสตมป์เวลาขึ้นเผื่อมีเจ้าหน้าที่ตรวจจะได้รู้ว่าเราไม่ได้โกง เเต่เเค่ตรงนี้ก็เกิดปัญหา นำความอายมาให้ชาว Bordeaux ละค่ะ ก็สอดตั๋วถูกทางเเบบคนอื่นเค้าทำกันจริงๆนะ เเต่ไม่รู้ทำบุญมาด้วยอะไร เครื่องมันถึงต้องมาเป็นปัญหาตอนชั้นสอด อยู่ดีๆตั๋วก็ติดชะงักเเบบ paper jam ในเครื่องปริ้นเตอร์ ติดธรรมดาก็พอไหวนะ นี้มันส่งเสียงดังยังกับสัญญาณกันขโมย คนกับเรื่มหันมามองสิครัช เราก็พยายามดึง เเคะ เเงะ เเกะ ยังไงก็ไม่ออก มีพี่ผู้ชายใจดีมาช่วยเเต่ก็ไม่ได้ผล ทำไรไม่ได้ เราเลยยืนเฉยๆต่อไปรอถึงสถานีที่ต้องลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นการเปิดทริปที่ดังเปรี้ยงปร้างจริงๆ
The struggle doesn’t stop there. As we get onto the tram, we have to validate the ticket by inserting the ticket into the machine, that’s when the embarrassment spikes again. You know how printers or fax machine get paper jam and it makes continuous, loud, high-pitch squeaky noises until you pull the paper out? Yup! That’s exactly what’s happening with my ticket! Like how? And why? Everyone starts to look at our way and there’s nothing we can do. The ticket is inside and we can’t pull it out! One guy nearby tries to help, but still won’t work. There’s nothing we can do but wait till we get to our station and get down. We sure know how to make an entrance!
ในที่สุดก็ถึงครึ่งทาง มาลงที่สถานี Quinconces มาดูป้ายรถบัสต่อว่ารถมาเมื่อไรเเละที่เเน่นอนมันเป็นภาษาฝรั่งเศส วันเวลากี่โมง ต้องขอบคุณ Google translate ที่ทำให้มาไกลได้ถึงขนาดนี้
Quinconces station! Halfway there! As we look at the timetable.. obviously it’s in french so we use google translate to check the days and the time the bus will come.
ระหว่างรอรถมา เราเลยเดินรอบๆเเถวนั้น ละก็เจอสวนที่มีต้นไม้สูงเรียงกันเขียวขจีร่มรื่นเป็นเช่นนัก
While waiting for the nxt bus to come, we take a little break nearby at this gorgeous serene area where trees line up nicely making it a very peaceful place to walk through.
ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางตอนกลางวันพอดี เรามาถึงที่จะเป็นบ้านของเรา2คืน บรรยากาศบ้านน่ารักอบอุ่นเเละฝรั่งเศสมาก ตกเเต่งน่ารักมีสไตล์ เจ้าของบ้าน friendly เป็นกันเอง ให้เเผนที่เเละเเนะนำที่เที่ยว ใจกลางเมือง Bordeaux เป็นเมืองที่เดินเที่ยวรอบด้วยเท้าไม่ต้องขึ้นรถได้ เเละข้อดีอีกอย่างคือ มาช่วง summer กว่าฟ้าจะมืดก็ประมาณ สามทุ่มครึ่ง มีเวลาเหลือเฟือค่ะ ไปโล้ดดดดด
Here we are by midday! We reach what will be our home for couple of nights. The place is cozy, simple yet very French about it. The airbnb host is very friendly and provides us with many information and maps. The city is walkable and since it’s the summer, it won’t get dark till around 9.30pm, plenty of time to explore the city. Woop Woop!
พร้อมกันยังง ไปกันเลยยยย
Are you ready?!? Let’s goooo
ไม่รู้ไปไหนให้เดินตามทาง tram ค่ะ
Monument aux Girondins
ปั่นจักรยานกันมะ Let's ride a bike
Pont de Pierre
Port de Calihau
Palais Gallien
Place de la victoire
เป็นอนุสาวรีย์ แรกใน บอร์โดซ์ ได้รับการออกแบบเพื่อเป็นเกียรติแก่ การปลูกองุ่น และ การผลิตไวน์ - ออกเเบบเป็นเกลียวดั่งเถาวัลย์เรื่อยขึ้นหาเเสงพระอาทิตย์
At Place de la Victoire stands the first monument in Bordeaux designed to honour viticulture and winemaking – the helical shape symbolizes the vineyard rising like a vine to the sun!
Basilique St. Michel