สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน คือนี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย ขออนุญาตแท็กห้องกล้องกับชีวิตวัยรุ่นน้า พอดีกำลังฝึกถ่ายรูปอยู่ อิอิ



โอเคคคคมาเริ่มกันเลยยยยยยย >> พอดีว่าเราชอบไปนอนพักตามที่พักสไตล์แบบบ้านๆ เพราะเราว่าที่พักแนวนี้มันให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองมากกว่าพักแบบโรงแรมใหญ่ๆ ที่ห้องก็หน้าตาก็คล้ายๆกันหมดเลยย อีกอย่างเป็นคนติดบ้าน เลยอยากนอนที่ๆให้อารมณ์ มโนเหมือนอยู่บ้านจริงๆ 55555


DAY 1
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีวงเวียนใหญ่ แล้วลงทางออกที่1 แล้วกลับหลังหันเดินย้อนมาตามฟุตบาท จะผ่านป้ายรถเมล์ เดินตรงมาอีกจะเจอซอยก่อนสี่แยก เดินเข้าซอยมาแปบนึงก็ถึงแล้ววค้าาา จับเวลาประมาณ5นาทีเองง่ะ สะดวกดี พอเดินเข้าซอยมาจะเจอป้ายไฟสีเหลืองๆ เขียนว่า Kansiree Boutique House บ้านเลขที่9 เดินเข้ามาเลยจ้าา โอ้ยยย!!! ถึงสักทีขุ่นพระ

มาดูบรรยากาศก่อนเข้าที่พักกัน นี่คือประตูทางเข้า ตอนแรกก็ไม่กล้าเข้าเห็นติดป้ายบอกให้ติดต่อ แต่พอดีพนักงานใจดีเปิดมาต้อนรับซะก่อน โล่งอก บรรยากาศเงียบ ดูเป็นส่วนตัวดี สะอาดสะอ้าน เห็นแล้วรู้สึกไม่กล้าเข้ากลัวบ้านเขาจะสกปรก 55555555 อ่ะล้อเล่นนน

พอเข้ามาปุ๊บบ!! ขออนุญาตแช๊ะภาพล็อบบี้ก่อนเลยย คิดในใจว่า "เหยยยแก!! นี่มันบ้านชัดๆ ไม่เหมือนโรงแรมเลย" คือเข้าไปแล้วรู้สึกว่ามาบ้านญาติอะไรทำนองนั้น ถ่ายรูปพอละดีกว่า เดี๋ยวเขาจะหาว่าเป็นอะไรร 5555555 แต่คือที่นี่พนักงานเป็นกันเองสุดๆ รู้สึกว่าดีเลย ชั้นได้คนคุยด้วยละ อิอิ

มาถึงก็หิวทันที เลยถามหาของกินก่อนอันดับแรกเลยย ค่อยเช็คอินอีกทีเพราะยังไม่ถึงบ่ายสองโมงตามเวลาที่ให้เข้าพัก เลยหาอะไรรองท้องก่อน นี่คือที่นั่ง เป็นเหมือนโซนไว้ให้ลูกค้ามานั่งเม้าท์ นั่งจิบกาแฟเบาๆกัน มีสวนหย่อมเล็กๆให้นั่งมโนกันไป กิกิ...

และแล้วก็ได้เจ้าสปาเกตตี้ซอสเห็ดมาา คือกลิ่นมาก่อนเลยค้า ยังไม่ทันเห็นท้องก็ร้องออกมาว่า หิวว หิวว 5555555 คือดีงามมากค่าา หน้าตาดีเหมือนคนกิน เอ้ย!! หน้าตาน่ากินจนไม่กล้ากินเลย

สั่งอาหารแล้วไม่มีน้ำได้อย่างไรกันน เลยสั่งชาเขียวเย็นมา1แก้ว กินให้ชื่นใจกันไปเลยย แก้วเก๋ไก๋ดีเจ้าค่ะ อารมณ์เหมือนกินในร้านกาแฟชิคๆ

สรุปอาหารโดยรวมแล้ว สปาเกตตี้อร่อย ชาเขียวก็ดีงาม ชอบตรงที่กินแล้วมีกลิ่นหอมๆแบบบอกไม่ถูก ราคา2อย่างรวมกัน 120บาท ถือว่าไม่แพง เพราะเป็นอาหารโรงแรม รู้สึกสปาเกตตี้จะอยู่ที่ 80 บาท เหมือนจะไม่อิ่ม แต่ก็กินไม่หมด 555555 ชาเขียวดีงามค่ะ ขอคอนเฟิร์มมม บวกกับนั่งกินไปมองสวนขนาดจิ๋วไป คือชีวิตดี๊ดีค่ะ

พอกินเสร็จแล้วก็ง่วงเลย ก้มมองนาฬิกาแต่ก็ยังไม่ถึงบ่ายสอง เหมือนพนักงานจะเห็นใจ เลยเดินมาบอกว่าสามารถเช็คอินได้เลย วินาทีนั้นน อู้ยยย!! ขอบคุณคุณพนักงานที่น่ารักก ใจดีฝุดๆให้เราเข้าก่อนเวลาตั้งเป็นชั่วโมงงง ประทับใจอีกแล้ววว


Check-in : พอกรอกใบลงทะเบียนอะไรเสร็จแล้ว จ่ายตังเสร็จ ก็เดินทางเดินขึ้นห้องเลยค้าาา ที่พักที่นี่เหมือนบ้านเลยค่ะ (ก็มันคือบ้านไงยะ!!) โอ้เยย!! แค่ทางขึ้นก็ฟินแล้วว มโนว่าเป็นพจมานกำลังเดินขึ้นห้องแป๊บบบบ

ห้องของเราอยู่ห้องแรกเลย ชื่อห้องว่าดอกบัว เอ้ย!! Lotus 555555 พนักงานที่นี่บอกว่า ทุกห้องจะตั้งชื่อเป็นดอก ไม้หมด (จะวรรคทำไม5555) เช่นห้อง Rose, Lavender, Magnolia บลาๆๆ
พอเปิดเข้ามาดู ตู้วหูววว!!! นี่ห้องราคา1,000 จริงๆหรออ คือมันน่ารักมากอ่ะเธอออ





คือเอิ่มม... ไม่กล้านอนเลยกลัวเตียงยับ 555555
แต่ไม่ไหวละ ขอนอนสักแปบนึงน้าาา Zzzz


พอตื่นมาก็ไม่วายหิวอีกละ เบื่อจริงๆ 55555 ต้องลงมาหาไรกินสักหน่อยละสิ พอดึกๆบรรยากาศเงียบเชียว รู้สึกเหงา พอ!!เลิกมโนได้ละ



กลับมาที่เรื่องของกิน สรุปว่าได้เมนูสปาเกตตี้เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือเป็นผัดขี้เมา โอ้ยย!!รอบที่10 คืออร่อยอีกแล้วอ่ะ ถึงเส้นสปาเกตตี้จะเล็กไปหน่อย ก็รสชาติคือให้10เลยค่าา เอ้ะ!! หรือจะเพราะว่าหิวเลยกินอะไรก็อร่อยนะ

พอกินเสร็จปุ๊บ!! มีพี่ผู้หญิงคนนึงเดินมาถามว่า เป็นไงบ้างรสชาติอาหาร พอเม้าท์ไปเม้าท์มา เอ้าา!! พี่เขาเป็นเจ้าของโรงแรม แถมยังเป็นแม่ครัวใจดีทำอาหารให้เรากินอีกตะหาก รู้สึกดีมากเลยค่าานาทีนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าของโรงแรมจะเอาใจใส่ดูแลเทคแคร์ลูกค้าตัวน้อยๆได้ดีมากๆขนาดนี้ ใจดีแถมยังสวยอีกนะ (พี่เขาคงไม่มาเห็นกระทู้ละมั้งง5555)



พอคุยกับพี่เจ้าของโรงแรมกับพี่ๆที่ทำงานคนอื่นๆได้สักพัก ก็เกิดอาการโรคง่วงกำเริบ กินทีไรเป็นงี้ทุกทีเลยเราา ขอตัวไปนอนแปบนะค้าา คร่อกกกกZzzz


DAY 2
มอนิ่งค้าา ตื่นมาพร้อมกับความหิวอีกครั้ง วันนี้ตื่นมาพร้อมมีแผนจะไปเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยม เลยต้องตื่นเช้ามาหาไรกินก่อนออกเดินทาง
ขอจัดเป็นอะไรเบาๆดีกว่า เลยได้เจ้าโยเกิร์ตสไตล์กานต์สิรี คือเห็นแว้บแรก ทำไมน่ารักแบบนี้ แล้วชั้นจะกินลงมั้ยเนี่ยย!!!! อ้ากกกก!!! แต่ด้วยความหิวครอบงำ เลยกินไม่เหลือซาก 555555555555



และแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง รู้สึกอยากอยู่ต่อจัง แต่คงต้องไป ดราม่าแป๊บบ!!


สรุปรีวิว : คือส่วนตัวเราชอบโรงแรมสไตล์นี้อยู่แล้ว เพราะหนึ่งคือเรารู้สึกไม่อึดอัดเวลาจะถามอะไร คือพนักงานที่นี่ใจดีและก็น่ารักมากๆ โดยเฉพาะพี่ต๋อม(ขออนุญาตเอ่ยชื่อนะคะ)ที่เป็นเจ้าของโรงแรม เรามาอยู่ที่นี่รู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ทุกคนเอาใจใส่คอยถามตลอดเวลา สถานที่ก็เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีวงเวียนใหญ่ เดินไปหน่อยก็เป็นตลาดแล้ว แถมราคาห้องพักก็ไม่แพงอย่างที่คิด อีกอย่างเขาจะมีโปรโมชั่นมาเรื่อยๆ ถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปดูที่เฟส Kansiree Boutique House ไม่ก็โทรไปถามรายละเอียดแบบเราก็ได้ ที่เบอร์นี้นะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้02-862-2665 , 084-004-5050
สำหรับใครที่ชอบใช้ชีวิตSlow life แบบเราก็ลองมาพักแบบนี้ดู แล้วจะรู้เลยว่าคุ้มจริงๆ 55555 ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีกแน่นอน เพราะมันเริ่ดด!!มากค่ะขุ่นน้อง

ป.ล. กระทู้ที่ตั้งนี้อาจจะใช้คำพูดไม่ค่อยรู้เรื่องนัก 5555 เพราะเน้นภาษาพูดไปหน่อย หากอ่านแล้วเกิดความรำคาญก็ขออภัยนะค้าา แล้วก็ตั้งมาเพื่อรีวิวเพื่อเป็นประโยชน์แก่นักเดินทางที่สนใจที่พักแนวบ้านๆ เงียบสงบไม่วุ่นวาย แถมเป็นกันเอง
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคนด้วยนะค้าาา ตอนนี้ขอตัวไปนอนจริงๆละ ง่วงงงง