สายหมอก | ขุนเขา | ลมหนาว
จะอย่างไร สามสิ่งนี้ก็โรแมนติคเสมอ
ป.ล. กระทู้นี้เพียงแต่อยากแบ่งปันบันทึกการเดินทาง ประสบการณ์ ดี-ร้าย อาจะเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนบุคคล
ป.ล.ต่อ รูปไม่ค่อยสวย เพราะถ่ายจากมือถือ แต่ภาพจริง ๆ สวยมาก ต้องไปสัมผัสด้วยตาให้ได้นะ :3
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ จะมีที่ใดเหมาะกับการพาใจไปพักนอกจากภูเขาแล้วไม่มี
2 วัน 1 คืนต่อจากนี้ไปพิสูจน์เสียงลือเสียงเล่าอ้างกับวิวหลักล้าน ราคาหลักร้อยกันที่ " ภูลังกา รีสอร์ท " จ. พะเยากันดีกว่า^^
30 ตุลาคม วันศุกร์แห่งชาติ รถติดบนทางด่วนชวนลุ้นว่าจะมาทันรถทัวร์รอบ 19.55 น. ที่หมอชิตหรือไม่ ครั้งนี้เราออกเดินทางด้วยรถกรุงเทพฯ-น่าน ของนครชัยแอร์ ราคาสมาชิกเหลือเที่ยวละ 531 บาท เพราะอยากไปแวะเดินเล่นชิลล์ ๆ ในตัวเมืองน่าน ก่อนต่อรถไปยังรีสอร์ท
ใช้เวลานั่งรถประมาณ 11 ชั่วโมง ก็มาถึงบขส.น่าน รถคันนี้จะแวะจอดที่บขส.เวียงสา ก่อนที่จะเข้ามายังตัวเมืองน่าน ระหว่างคืนมีฝนตกหนักชวนให้ใจแป้ว โชคดีที่พอมาถึงน่าน ไม่มีฝนชวนให้รำคาญใจ โยนเป้ไว้ที่บขส. ออกเดินเล่น เช้า ๆ แบบนี้ไม่ต้องรีบ เพราะรถที่เราต้องต่อไปยังภูลังกาจะมาประมาณ 9 โมง มีเวลานิดหน่อยให้เดินชมเมืองน่านยามเช้า
ฉันเคยมาน่านครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นน่านเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ยังเป็นเมืองผ่าน เป็นเมืองที่ต้องตั้งใจมา ผิดกับตอนนี้ น่านกลายเป็นเมืองยอดฮิตที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมา โดยมีแรงดึงดูดมากมาย หลัก ๆ ที่ทุกคนพูดถึงก็คือ " ภาพกระซิบรักบรรลือโลก ปู่ม่าน-ย่าม่าน "
เช้า ๆ แบบนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เดินเพียงไม่น่านจากบขส. ก็มาถึง " วัดมิ่งเมือง " หรือศาลพระหลักเมืองน่าน
วัดมิ่งเมืองเป็นศิลปะปูนปั้นสีขาว ลวดลายวิจิตรงดงาม ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อนขึ้นดอยกันเสียหน่อย ได้คุยกับลุงที่เฝ้าศาล แกบอกว่าตอนบ่ายจะมีคณะทัวร์มาลงอีกเกือบห้าสิบ ดีที่มาแต่เช้า บรรยากาศเงียบๆ จึงเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งศรัทธา
อาหารเช้าของเราเดินตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ถัดจากศาลหลักเมืองไม่ไกล ติดกับเซเว่นแรก ข้าวซอยรสอร่อยที่ร้าน " ข้าวซอยต้นน้ำ" รอเราอยู่ อิ่มท้องเสร็จสรรพ เราก็เดินกลับมายังบขส. รอรถ น่าน-เชียงราย ค่ารถไปภูลังกา 100 บาท รถสายนี้เป็นรถสายเดียวที่ผ่านหน้ารีสอร์ท และมีแค่วันละ 1 เที่ยวเท่านั้นพลาดไม่ได้เด็ดขาด!
ขึ้นรถมา ขอจองที่นั่งหลังคนขับละกัน ลุง อย่าลืมบอกให้หนูลงนะ

เส้นทางไปงดงาม เป็นถนนลาดยางอย่างดี การนั่งรถประจำทางแบบนี้ สิ่งที่ต้องมีคือความใจเย็น นั่งมองธรรมชาติไปเพลิน ๆ สลับกับนั่งหลับ ผ่านมาหลายอำเภอแล้วก็ยังไม่ถึง ได้ข่าวจากพี่ข้าง ๆ ที่นั่งไปจนสุดสายที่เชียงราย กว่าจะถึงตั้งสามโมง
อีกไกลแค่ไหน...จนกว่าฉันจะใกล้ บอกที... หลังจากนั่งมา 3 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีวี่แววจะถึงแต่อย่างใด YY ลุงจอดแวะเข้าห้องน้ำ ก่อนบอกว่าต่อไปขึ้นเขาอีก 5 กิโลเมตร เตรียมใจไว้ดี ๆ -o-!
และแล้ว หลังจากขึ้นเขาลงเขาอีกหลายลูก เราก็มาถึงจนได้
แต่การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ดูทางขึ้นจากถนนไปรีเซพชั่นสิ
แต่ยังมีดอกไม้คอยให้กำลังใจ
วิวแบบนี้ เพียงพอไหม ? ถามใจดู ^^
ที่ที่ต้องตั้งใจมา ;)
[CR] First chapter : เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ณ น่าน-ภูลังกา จ.พะเยา
ป.ล. กระทู้นี้เพียงแต่อยากแบ่งปันบันทึกการเดินทาง ประสบการณ์ ดี-ร้าย อาจะเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนบุคคล
ป.ล.ต่อ รูปไม่ค่อยสวย เพราะถ่ายจากมือถือ แต่ภาพจริง ๆ สวยมาก ต้องไปสัมผัสด้วยตาให้ได้นะ :3
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ จะมีที่ใดเหมาะกับการพาใจไปพักนอกจากภูเขาแล้วไม่มี
2 วัน 1 คืนต่อจากนี้ไปพิสูจน์เสียงลือเสียงเล่าอ้างกับวิวหลักล้าน ราคาหลักร้อยกันที่ " ภูลังกา รีสอร์ท " จ. พะเยากันดีกว่า^^
ใช้เวลานั่งรถประมาณ 11 ชั่วโมง ก็มาถึงบขส.น่าน รถคันนี้จะแวะจอดที่บขส.เวียงสา ก่อนที่จะเข้ามายังตัวเมืองน่าน ระหว่างคืนมีฝนตกหนักชวนให้ใจแป้ว โชคดีที่พอมาถึงน่าน ไม่มีฝนชวนให้รำคาญใจ โยนเป้ไว้ที่บขส. ออกเดินเล่น เช้า ๆ แบบนี้ไม่ต้องรีบ เพราะรถที่เราต้องต่อไปยังภูลังกาจะมาประมาณ 9 โมง มีเวลานิดหน่อยให้เดินชมเมืองน่านยามเช้า
เช้า ๆ แบบนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เดินเพียงไม่น่านจากบขส. ก็มาถึง " วัดมิ่งเมือง " หรือศาลพระหลักเมืองน่าน
วัดมิ่งเมืองเป็นศิลปะปูนปั้นสีขาว ลวดลายวิจิตรงดงาม ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อนขึ้นดอยกันเสียหน่อย ได้คุยกับลุงที่เฝ้าศาล แกบอกว่าตอนบ่ายจะมีคณะทัวร์มาลงอีกเกือบห้าสิบ ดีที่มาแต่เช้า บรรยากาศเงียบๆ จึงเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งศรัทธา
อาหารเช้าของเราเดินตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ถัดจากศาลหลักเมืองไม่ไกล ติดกับเซเว่นแรก ข้าวซอยรสอร่อยที่ร้าน " ข้าวซอยต้นน้ำ" รอเราอยู่ อิ่มท้องเสร็จสรรพ เราก็เดินกลับมายังบขส. รอรถ น่าน-เชียงราย ค่ารถไปภูลังกา 100 บาท รถสายนี้เป็นรถสายเดียวที่ผ่านหน้ารีสอร์ท และมีแค่วันละ 1 เที่ยวเท่านั้นพลาดไม่ได้เด็ดขาด!
ขึ้นรถมา ขอจองที่นั่งหลังคนขับละกัน ลุง อย่าลืมบอกให้หนูลงนะ
เส้นทางไปงดงาม เป็นถนนลาดยางอย่างดี การนั่งรถประจำทางแบบนี้ สิ่งที่ต้องมีคือความใจเย็น นั่งมองธรรมชาติไปเพลิน ๆ สลับกับนั่งหลับ ผ่านมาหลายอำเภอแล้วก็ยังไม่ถึง ได้ข่าวจากพี่ข้าง ๆ ที่นั่งไปจนสุดสายที่เชียงราย กว่าจะถึงตั้งสามโมง
และแล้ว หลังจากขึ้นเขาลงเขาอีกหลายลูก เราก็มาถึงจนได้
แต่การเดินทางยังไม่สิ้นสุด ดูทางขึ้นจากถนนไปรีเซพชั่นสิ
แต่ยังมีดอกไม้คอยให้กำลังใจ
วิวแบบนี้ เพียงพอไหม ? ถามใจดู ^^
ที่ที่ต้องตั้งใจมา ;)