ลิ้งค์:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/29/61865-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%95-%E0%B8%93-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%A1.html
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ขอเรียนว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีคนไทยร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมของสถานเอกอัครราชทูตฯ เกี่ยวกับทรัพย์สินและหนังสือเดินทางถูกขโมยและสูญหายในอิตาลีมากขึ้นอย่างผิดสังเกต ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เป็นเวลาที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในอิตาลีเช่นเดียวกับช่วงฤดูร้อนของอิตาลี (เดือนสิงหาคม)
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปอีตาลี ดังนี้
๑.ใช้ความระมัดระวังระหว่างการเดินทางหรือขณะอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ในรถไฟใต้ดิน สถานีรถไฟ ท่ารถโดยสาร สถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากการลักขโมยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่สามารถระวังตัวได้เต็มที่ สถานี Termini ซึ่งเป็นสถานีขนส่งใจกลางกรุงโรมเป็นสถานที่ที่มีเหตุการณ์ล้วงกระเป๋าและลักขโมยบ่อยที่สุด
๒.ไม่ควรสนทนาหรือมีปฏิบัติสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าหากไม่จำเป็น เนื่องจากบ่อยครั้งที่การเข้ามาทักทาย สอบถามเส้นทาง หรือขอความช่วยเหลือ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเบี่ยงเบนความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้ร่วมขบวนการมีโอกาสล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวโดยไม่ทันระวังตัว
๓.เก็บรักษาทรัพย์สมบัติที่มีค่าไว้กับตัวหรือฝากไว้ที่โรงแรมที่มีตู้เก็บรักษาเงินที่สามารถไว้ใจได้ ไม่ควรละสายตาจากกระเป๋าเดินทางหรือวางทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล ไม่ว่าระหว่างเดินทางหรือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
๔.ไม่ควรเดินทางโดยลำพังโดยเฉพาะสุภาพสตรี เพราะอาจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรืออาจถูกขู่บังคับให้ส่งมอบเงินให้มิจฉาชีพได้ง่าย
๕.มิฉาชีพมีหลากหลายสัญชาติ ทั้งกลุ่มจากคนยุโรป ยุโรปตะวันออกและเอเชีย แต่มิจฉาชีพเหล่านี้จะแต่งตัวดี ดูน่าเชื่อถือ ทำให้นักท่องเที่ยวไว้ใจและสนทนาด้วยโดยไม่ระแวงสงสัย
๖.ตัวอย่างกรณีการเบี่ยงเบนความสนใจก่อนการขโมยทรัพย์สินที่นักท่องเที่ยวไทยอาจคิดไม่ถึงหรือไม่ทันระวังตัว เช่น บอกว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบโดยแสดงบัตรตำรวจปลอมและขอค้นกระเป๋าเดินทาง หรือกระเป๋าสตางค์และแอบหยิบเงินหรือของมีค่าไปโดยไม่รู้ตัว หรือแอบยกกระเป๋าสัมภาระลงจากรถไฟตอนเหยื่อเผลอหลับขณะโดยสารรถไฟ แกล้งถูกประตูรถไฟหนีบ ให้เด็กเข้ามาขอเงินโดยบอกว่าหลงทาง ทำร้ายเด็ก หรือทะเลาะวิวาทกันต่อหน้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เป็นต้น
หากสงสัยว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ ขอให้สำรวจทรัพย์สินและแยกตัวออกมาจากกลุ่มดังกล่าว เดินหาเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะแต่งเครื่องแบบ หรือเดินเข้าร้านค้าใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือเบื้องต้นจากพนักงานในการแจ้งตำรวจหรือติดต่อหมายเลขฮอตไลน์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ (+๓๙๓๓๓๘๕๑๘๐๗๑)
2 พ.ย. 2558 14:53:32 / เรียกดู 1,096 ครั้ง
............................................................................................................................................................................................
ผมเพิ่งกลับมาจากอิตาลี ก็โดนคำผิวสียัดเยียดให้ซื้อกำไรข้อมือที่ duomo ที่มิลานมา
โชคดีที่มีสติทันและตะโกน No! No! No! ดังๆ ให้คนอื่นมอง จนไอ้มืดนั่นเดินหนีจากไป
แต่รุ่นน้องผมซวย เผลอแปปเดียวที่สถานีรถไฟ Termini ทีโรม โดนล้วงเงินหมดไปเกือบ 5 หมื่นบาท
ใครจะไประวังตัวกันดีดีนะครับ
ประกาศจากสถานเอกอัครราชทูตถึงคนไทยที่จะไปเที่ยวอิตาลีครับ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ขอเรียนว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีคนไทยร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมของสถานเอกอัครราชทูตฯ เกี่ยวกับทรัพย์สินและหนังสือเดินทางถูกขโมยและสูญหายในอิตาลีมากขึ้นอย่างผิดสังเกต ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เป็นเวลาที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในอิตาลีเช่นเดียวกับช่วงฤดูร้อนของอิตาลี (เดือนสิงหาคม)
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปอีตาลี ดังนี้
๑.ใช้ความระมัดระวังระหว่างการเดินทางหรือขณะอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ในรถไฟใต้ดิน สถานีรถไฟ ท่ารถโดยสาร สถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากการลักขโมยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่สามารถระวังตัวได้เต็มที่ สถานี Termini ซึ่งเป็นสถานีขนส่งใจกลางกรุงโรมเป็นสถานที่ที่มีเหตุการณ์ล้วงกระเป๋าและลักขโมยบ่อยที่สุด
๒.ไม่ควรสนทนาหรือมีปฏิบัติสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าหากไม่จำเป็น เนื่องจากบ่อยครั้งที่การเข้ามาทักทาย สอบถามเส้นทาง หรือขอความช่วยเหลือ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเบี่ยงเบนความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้ร่วมขบวนการมีโอกาสล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวโดยไม่ทันระวังตัว
๓.เก็บรักษาทรัพย์สมบัติที่มีค่าไว้กับตัวหรือฝากไว้ที่โรงแรมที่มีตู้เก็บรักษาเงินที่สามารถไว้ใจได้ ไม่ควรละสายตาจากกระเป๋าเดินทางหรือวางทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล ไม่ว่าระหว่างเดินทางหรือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
๔.ไม่ควรเดินทางโดยลำพังโดยเฉพาะสุภาพสตรี เพราะอาจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรืออาจถูกขู่บังคับให้ส่งมอบเงินให้มิจฉาชีพได้ง่าย
๕.มิฉาชีพมีหลากหลายสัญชาติ ทั้งกลุ่มจากคนยุโรป ยุโรปตะวันออกและเอเชีย แต่มิจฉาชีพเหล่านี้จะแต่งตัวดี ดูน่าเชื่อถือ ทำให้นักท่องเที่ยวไว้ใจและสนทนาด้วยโดยไม่ระแวงสงสัย
๖.ตัวอย่างกรณีการเบี่ยงเบนความสนใจก่อนการขโมยทรัพย์สินที่นักท่องเที่ยวไทยอาจคิดไม่ถึงหรือไม่ทันระวังตัว เช่น บอกว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบโดยแสดงบัตรตำรวจปลอมและขอค้นกระเป๋าเดินทาง หรือกระเป๋าสตางค์และแอบหยิบเงินหรือของมีค่าไปโดยไม่รู้ตัว หรือแอบยกกระเป๋าสัมภาระลงจากรถไฟตอนเหยื่อเผลอหลับขณะโดยสารรถไฟ แกล้งถูกประตูรถไฟหนีบ ให้เด็กเข้ามาขอเงินโดยบอกว่าหลงทาง ทำร้ายเด็ก หรือทะเลาะวิวาทกันต่อหน้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เป็นต้น
หากสงสัยว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ ขอให้สำรวจทรัพย์สินและแยกตัวออกมาจากกลุ่มดังกล่าว เดินหาเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะแต่งเครื่องแบบ หรือเดินเข้าร้านค้าใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือเบื้องต้นจากพนักงานในการแจ้งตำรวจหรือติดต่อหมายเลขฮอตไลน์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ (+๓๙๓๓๓๘๕๑๘๐๗๑)
2 พ.ย. 2558 14:53:32 / เรียกดู 1,096 ครั้ง
............................................................................................................................................................................................
ผมเพิ่งกลับมาจากอิตาลี ก็โดนคำผิวสียัดเยียดให้ซื้อกำไรข้อมือที่ duomo ที่มิลานมา
โชคดีที่มีสติทันและตะโกน No! No! No! ดังๆ ให้คนอื่นมอง จนไอ้มืดนั่นเดินหนีจากไป
แต่รุ่นน้องผมซวย เผลอแปปเดียวที่สถานีรถไฟ Termini ทีโรม โดนล้วงเงินหมดไปเกือบ 5 หมื่นบาท
ใครจะไประวังตัวกันดีดีนะครับ