ในหนึ่งวันเราสามารถไปที่ไหนได้บ้าง?
เราลองถามตัวเองว่า ในหนึ่งวันถ้าเราอยากออกไปเที่ยว เราจะลองไปที่ไหนดี
เราเองไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกไปที่นี้ แต่ตอนนั้นแค่คิดว่าต้องไปไหนสักที
เราแค่อยากออกไปเที่ยว ถ่ายรูป พักผ่อนกับวันหยุด เราเลยเลือกไปลพบุรีโดยการนั่งรถไฟไป
ก่อนไป เราไปเช็คเวลาตารางรถไฟ เราเลือกเวลาเช้าที่เราสามารถตื่นไปได้ทัน
เราเริ่มเดินทางในตอนเช้า ตื่นมาตอน ตี 5 เราตั้งปลุกหลายรอบมาก เพราะกลัวไม่ตื่น
เราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็มารอขึ้นรถเมล์ไปสถานีรถไฟ
เราเองไม่เคยนั่งรถเมล์ในตอนเช้ามืด ครั้งนี้อาจจะเช้าที่สุดตั้งแต่มาฝึกงานที่กรุงเทพเลย
เราไปถึงหัวลำโพงตอน 6 โมง40นาที ได้ไปซื้อตั๋วรถไฟรอบ 7 โมงเช้า ราคา 50 บาท จากหัวลำโพง ไป ลพบุรี
พอซื้อเสร็จเราก็ดูที่นั่งตั๋ว ปรากฎว่าเป็นตัวยืน ไม่มีเลขที่นั่ง 555 ในใจแบบเอาอีกแล้วหรอ ได้ยืนอีกแล้วหรอ อะไรงี้
แต่ก็ไม่ได้อยากคิดไรมากในตอนนั้น เราเลยเดินไปขึ้นรถไฟก่อน เราเลือกไปนั่งขบวนที่ 2 และนั่งถ่ายรูป รอรถไฟออก
รถไฟออกจากหัวลำโพงตอน 7 โมงนิดๆ
ระหว่างนั่งรถไฟ เมื่อออกจากหัวลำโพง
พอนั่งไปได้สัก 3 สถานีก็มีลุงกับป้า คู่หนึ่ง มานั่ง เราเลยลุกมานั่งอีกฝั่งเพราะนั้นที่ของเขา
ลุงและป้าเขาก็ถามว่าเราไปไหน เเล้วก็ชวนเราคุย เรานั่งคุยกับลุงและป้า คุยเพลินมาก
ลุงกับป้าเป็นครูอยู่ที่พิจิตร เขาบอกว่าถ้ามีโอกาสไปพิจิตรเขาจะพาเราไปเที่ยว
ตอนนั้นความรู้สึกเรา คืออยากจะนั่งเลยไปเลย 5555 อันนี้คือลุงและป้าที่เราเจอ นิสัยน่ารักมาก
เราก็นั่งคุยกับลุงและป้าไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีอะไรไม่รู้
ก็มีเด็กกับยายเขาขึ้นมา ปรากฎที่เรานั่งก็เป็นของเขา เราเลยลุกไปยืน แต่มีป้าที่นั่งตรงข้าม เขาชวนเราไปนั่งด้วย
ตอนนั้นรู้สึกโชคดีจัง 555 ที่ไม่ได้ยืน เราเลยได้นั่งยาวไปจนถึงลพบุรีเลย
ก่อนเราลงรถไฟ ลุงกับป้าที่คุยกับเราตอนแรก เขาก็ให้พวงกุญแจเรามา
เราถึงลพบุรีตอน 9 โมงกว่า พอเราลงรถไฟ สิ่งที่เราคิดคือ จะไปไหนดี 555555555
เราเลยเดินไปศาลพระกาฬ ตอนเราไปถึงแดดร้อนละ แต่มันอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
อันนี้คือศาลพระกาฬและบริเวณข้างๆ
เราเดินต่อไปตรง พระปรางค์สามยอด อันนี้ก็คือสถานที่หนึ่งที่คนมาลพบุรี ต้องเคยมา
เราซื้อบัตร บัตรค่าเข้าชมราคา 10 บาท
เราเดินและถ่ายรูปเล่นรอบๆ แต่ที่นี้ ลิงเต็มไปหมด อันนี้ถ่ายติดมาได้ ไม่กี่ตัวแต่ของจริงเยอะกว่านี้มาก
ตอนแรกเราไม่รู้ว่า สามารถเข้าไปข้างใน พระปรางค์ได้ พอดีเห็นฝรั่งเข้าไป เลยเข้าตาม 555
ข้างในเย็นนะ มีที่กั้นไม่ให้ลิงเข้ามาด้วย
อันนี้คือบริเวณด้านในพระปรางค์
อันนี้คือบริเวณด้านนอก
หลังจากนั้นเราคิดว่าจะเดินไป พระนารายณ์ราชนิเวศน์
แต่เราวน หาไม่เจอเลยแวะที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุก่อน
เราจ่ายค่าเข้า ราคา 10 บาท จะได้ใบคล้ายเดิมเหมือนตรงพระปรางค์สามยอด
เราเดินเข้าไปข้างใน มีลมพัดตลอด ตอนแรกเราคิดว่าจะร้อน แต่ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่
หลังจากเราถ่ายรูปจนสะใจ ในนี้เเล้ว เราก็ไปที่วังพระนารายณ์ต่อ เสียค่าเข้า 30 บาท
เราไปนั่งเล่นในนั้นก็นานอยู่นะ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
อันนี้เป็นประตู มันใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อันนี้ก็เป็นบริเวณด้านใน เราเองก็เดินไม่ทั่วเท่าไหร่ แต่เราว่าข้างในเราว่าไม่ร้อนนะ ถ้าไม่ไปตากแดด
บรรยากาศเงียบๆ เพราะวันที่เราไปไม่ค่อยมีคน
พอเวลาเกือบบ่ายเราก็ออกมาหาไรกิน ตอนแรกจะไปกินผัดไทย แต่เดินไปแล้วร้านไม่เปิด เลยได้กิน ราดหน้า
และก็ไปต่อของหวานที่ร้านนี้ เพื่อนเราบอกเด็ด คนกินเยอะ
วันเราไปเป็นวันฮาโลวีน เลยมีของประดับเข้ากับเทศกาล
พอกินเสร็จเราก็กลับ แต่ตอนเรากลับ เรากลับรถตู้ เราเดินไปขึ้นตรงเกือบถึงสถานีรถไฟ ก็หมดไปหนึ่งวันของเราที่ลพบุรี
วันนี้เราไม่ได้ไปไหนมากในลพบุรี เพราะเราไม่มีแผนว่าอยากไปไหนบ้าง
แต่เราก็เลือกสถานที่ที่ใกล้สถานีรถไฟ สามารถเดินเที่ยวได้
และออกจากกรุงเทพสามารถไปกลับได้ ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการออกมาพักในช่วงเวลาสั้นๆ
ถึงจะไม่ได้ไปไหนมาก แต่มันก็ทำให้มีความทรงจำที่ดีอีกวันหนึ่ง
[CR] ตามแต่ใจ >>> ไปเมืองลพบุรีกับสถานที่ใกล้สถานีรถไฟ
เราลองถามตัวเองว่า ในหนึ่งวันถ้าเราอยากออกไปเที่ยว เราจะลองไปที่ไหนดี
เราเองไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกไปที่นี้ แต่ตอนนั้นแค่คิดว่าต้องไปไหนสักที
เราแค่อยากออกไปเที่ยว ถ่ายรูป พักผ่อนกับวันหยุด เราเลยเลือกไปลพบุรีโดยการนั่งรถไฟไป
ก่อนไป เราไปเช็คเวลาตารางรถไฟ เราเลือกเวลาเช้าที่เราสามารถตื่นไปได้ทัน
เราเริ่มเดินทางในตอนเช้า ตื่นมาตอน ตี 5 เราตั้งปลุกหลายรอบมาก เพราะกลัวไม่ตื่น
เราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็มารอขึ้นรถเมล์ไปสถานีรถไฟ
เราเองไม่เคยนั่งรถเมล์ในตอนเช้ามืด ครั้งนี้อาจจะเช้าที่สุดตั้งแต่มาฝึกงานที่กรุงเทพเลย
เราไปถึงหัวลำโพงตอน 6 โมง40นาที ได้ไปซื้อตั๋วรถไฟรอบ 7 โมงเช้า ราคา 50 บาท จากหัวลำโพง ไป ลพบุรี
พอซื้อเสร็จเราก็ดูที่นั่งตั๋ว ปรากฎว่าเป็นตัวยืน ไม่มีเลขที่นั่ง 555 ในใจแบบเอาอีกแล้วหรอ ได้ยืนอีกแล้วหรอ อะไรงี้
แต่ก็ไม่ได้อยากคิดไรมากในตอนนั้น เราเลยเดินไปขึ้นรถไฟก่อน เราเลือกไปนั่งขบวนที่ 2 และนั่งถ่ายรูป รอรถไฟออก
รถไฟออกจากหัวลำโพงตอน 7 โมงนิดๆ
ระหว่างนั่งรถไฟ เมื่อออกจากหัวลำโพง
พอนั่งไปได้สัก 3 สถานีก็มีลุงกับป้า คู่หนึ่ง มานั่ง เราเลยลุกมานั่งอีกฝั่งเพราะนั้นที่ของเขา
ลุงและป้าเขาก็ถามว่าเราไปไหน เเล้วก็ชวนเราคุย เรานั่งคุยกับลุงและป้า คุยเพลินมาก
ลุงกับป้าเป็นครูอยู่ที่พิจิตร เขาบอกว่าถ้ามีโอกาสไปพิจิตรเขาจะพาเราไปเที่ยว
ตอนนั้นความรู้สึกเรา คืออยากจะนั่งเลยไปเลย 5555 อันนี้คือลุงและป้าที่เราเจอ นิสัยน่ารักมาก
เราก็นั่งคุยกับลุงและป้าไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีอะไรไม่รู้
ก็มีเด็กกับยายเขาขึ้นมา ปรากฎที่เรานั่งก็เป็นของเขา เราเลยลุกไปยืน แต่มีป้าที่นั่งตรงข้าม เขาชวนเราไปนั่งด้วย
ตอนนั้นรู้สึกโชคดีจัง 555 ที่ไม่ได้ยืน เราเลยได้นั่งยาวไปจนถึงลพบุรีเลย
ก่อนเราลงรถไฟ ลุงกับป้าที่คุยกับเราตอนแรก เขาก็ให้พวงกุญแจเรามา
เราถึงลพบุรีตอน 9 โมงกว่า พอเราลงรถไฟ สิ่งที่เราคิดคือ จะไปไหนดี 555555555
เราเลยเดินไปศาลพระกาฬ ตอนเราไปถึงแดดร้อนละ แต่มันอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
อันนี้คือศาลพระกาฬและบริเวณข้างๆ
เราเดินต่อไปตรง พระปรางค์สามยอด อันนี้ก็คือสถานที่หนึ่งที่คนมาลพบุรี ต้องเคยมา
เราซื้อบัตร บัตรค่าเข้าชมราคา 10 บาท
เราเดินและถ่ายรูปเล่นรอบๆ แต่ที่นี้ ลิงเต็มไปหมด อันนี้ถ่ายติดมาได้ ไม่กี่ตัวแต่ของจริงเยอะกว่านี้มาก
ตอนแรกเราไม่รู้ว่า สามารถเข้าไปข้างใน พระปรางค์ได้ พอดีเห็นฝรั่งเข้าไป เลยเข้าตาม 555
ข้างในเย็นนะ มีที่กั้นไม่ให้ลิงเข้ามาด้วย
อันนี้คือบริเวณด้านในพระปรางค์
อันนี้คือบริเวณด้านนอก
หลังจากนั้นเราคิดว่าจะเดินไป พระนารายณ์ราชนิเวศน์
แต่เราวน หาไม่เจอเลยแวะที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุก่อน
เราจ่ายค่าเข้า ราคา 10 บาท จะได้ใบคล้ายเดิมเหมือนตรงพระปรางค์สามยอด
เราเดินเข้าไปข้างใน มีลมพัดตลอด ตอนแรกเราคิดว่าจะร้อน แต่ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่
หลังจากเราถ่ายรูปจนสะใจ ในนี้เเล้ว เราก็ไปที่วังพระนารายณ์ต่อ เสียค่าเข้า 30 บาท
เราไปนั่งเล่นในนั้นก็นานอยู่นะ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
อันนี้เป็นประตู มันใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อันนี้ก็เป็นบริเวณด้านใน เราเองก็เดินไม่ทั่วเท่าไหร่ แต่เราว่าข้างในเราว่าไม่ร้อนนะ ถ้าไม่ไปตากแดด
บรรยากาศเงียบๆ เพราะวันที่เราไปไม่ค่อยมีคน
พอเวลาเกือบบ่ายเราก็ออกมาหาไรกิน ตอนแรกจะไปกินผัดไทย แต่เดินไปแล้วร้านไม่เปิด เลยได้กิน ราดหน้า
และก็ไปต่อของหวานที่ร้านนี้ เพื่อนเราบอกเด็ด คนกินเยอะ
วันเราไปเป็นวันฮาโลวีน เลยมีของประดับเข้ากับเทศกาล
พอกินเสร็จเราก็กลับ แต่ตอนเรากลับ เรากลับรถตู้ เราเดินไปขึ้นตรงเกือบถึงสถานีรถไฟ ก็หมดไปหนึ่งวันของเราที่ลพบุรี
วันนี้เราไม่ได้ไปไหนมากในลพบุรี เพราะเราไม่มีแผนว่าอยากไปไหนบ้าง
แต่เราก็เลือกสถานที่ที่ใกล้สถานีรถไฟ สามารถเดินเที่ยวได้
และออกจากกรุงเทพสามารถไปกลับได้ ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการออกมาพักในช่วงเวลาสั้นๆ
ถึงจะไม่ได้ไปไหนมาก แต่มันก็ทำให้มีความทรงจำที่ดีอีกวันหนึ่ง
กระทู้ตามแต่ใจอื่น ๆ
ตามแต่ใจ >>> ไปอาดัง+หาดใหญ่ 6วัน5คืน ด้วยงบ 3500 ( รวมเดินทาง) | http://ppantip.com/topic/33418250
ตามแต่ใจ >>> ไปพะงัน New Year Countdown Fullmoon Party | http://ppantip.com/topic/34630832