อันนี้ถามจริงๆ ไม่ได้คิดจะกวนอะไรเลย
คือถ้าพ่อหนุ่มนั่นไปขึ้นศาลแล้วบอกว่า ก็ผมขึ้นเรื่องบินครั้งแรกในชีวิต (ซึ่งพิสูจน์ได้) แล้วก็ไม่มีใครบอกผมว่าห้ามพูดว่าผมมีระเบิด แล้วผมพูดออกไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้ว่าถ้าพูดแล้วจะเกิดผลกระทบอะไร ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเรื่องของจารีตหรือเรื่องที่สังคมต้องปฏิบัติตาม แล้วทำไมถ้าเครื่องบินจะตกแล้วต้องปฏิบัติดังนี้ (มีท่าทางโชว์เสร็จสรรพ) แล้วทำไมเรื่องนี้ไม่บอกตั้งแต่ตอนจองตั๋วสำเร็จ ว่าสิ่งใดห้าม สิ่งใดทำได้ ในเว้ปไซด์มีการแจ้งว่าห้ามนำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องก็จริง แต่ด้วยกระบวนการตรวจสอบซึ่งพิสูจน์ได้ว่าจากกระเป๋าทีเค้าสะพาย จนถึงที่เก็บสัมภาระเหรือหัว ไม่มีตอนไหนเลยที่ตัวพ่อหนุ่มคนนั้นจะสามารถเอาระเบิดใส่กระเป๋าตัวเองได้ และพิสูจน์ได้ว่าไม่มีท่าทางในการขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงว่าไม่ให้ตรวจ แม้กระมั่งการไปในที่ลับตาคนก็วางกระเป๋าไว้บริเวณที่มีกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดเจน แล้วจะมำยังไง อย่างงี้จำเลยต้องแตกออกเป็นสองคนพรือเปล่าคือฝ่ายคนพูดกับฝ่ายเจ้าของสถานที่ จะสามารถแก้ต่างแบบนี้ได้หรือไม่ครับ รบกวนฝั่งจำเลยและฝั่งโจทก์ช่วยมาบอกว่าจะทำยังไง ถ้าบอกว่ามันเป็น commond sense อยู่แล้วว่าคุณไม่ควรพูด ถ้าจำเลยแย้งว่า ถ้าผมพูดว่าการที่คนไม่เชื่อในระบบการรักษาความปลอดภัยมันเป็นความผิดของผมคนเดียวหรือทำไมต้องมารับผิดชอบคนเดียว ( ย้ำนะครับว่าเฉพาะแพ่ง อาญายังก็ผิดอยู่แล้ว)
อีกคำถามนึงคือ ถ้าคดีนี้ฟ้องแล้วจำเลยผิดจริง จะมีผลต่อเรื่องนโยบายของสายการบินหรือเจ้าของสถานที่
- การแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่าประโยคไหนห้ามห้ามพูด
- การฟ้องกลับเรื่องการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
ผมชอบกฏหมายมากแต่ไม่ได้เรียนทางนี้คงจะเป็นคำถามที่ไม่ฉลาดในสายตาของบางท่านบ้าง แต่ผมสงสัยจริงๆ
สึดท้ายขอบอกว่าผมอาจจะมีเรื่องกวนทีนหล่ยๆ เรื่องที่ pantip แต่คือ ผมขอย้ำนะครับว่าเรื่องนี้แอร์ดำเนินการถูต้องแล้ว แต่ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทางกฏหมายแพ่งจะแก้ตัวหรือแก้ต่างอย่างไร
เฉพาะการฟ้องทางแพ่ง - ถ้าเกิดพ่อหนุ่มคนนั้นดันบอกว่าผมไม่รู้ผมขึ้นเครื่องครั้งแรก ไม่มีใครบอกว่าห้ามพูดว่ามีระเบิด
คือถ้าพ่อหนุ่มนั่นไปขึ้นศาลแล้วบอกว่า ก็ผมขึ้นเรื่องบินครั้งแรกในชีวิต (ซึ่งพิสูจน์ได้) แล้วก็ไม่มีใครบอกผมว่าห้ามพูดว่าผมมีระเบิด แล้วผมพูดออกไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้ว่าถ้าพูดแล้วจะเกิดผลกระทบอะไร ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเรื่องของจารีตหรือเรื่องที่สังคมต้องปฏิบัติตาม แล้วทำไมถ้าเครื่องบินจะตกแล้วต้องปฏิบัติดังนี้ (มีท่าทางโชว์เสร็จสรรพ) แล้วทำไมเรื่องนี้ไม่บอกตั้งแต่ตอนจองตั๋วสำเร็จ ว่าสิ่งใดห้าม สิ่งใดทำได้ ในเว้ปไซด์มีการแจ้งว่าห้ามนำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องก็จริง แต่ด้วยกระบวนการตรวจสอบซึ่งพิสูจน์ได้ว่าจากกระเป๋าทีเค้าสะพาย จนถึงที่เก็บสัมภาระเหรือหัว ไม่มีตอนไหนเลยที่ตัวพ่อหนุ่มคนนั้นจะสามารถเอาระเบิดใส่กระเป๋าตัวเองได้ และพิสูจน์ได้ว่าไม่มีท่าทางในการขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงว่าไม่ให้ตรวจ แม้กระมั่งการไปในที่ลับตาคนก็วางกระเป๋าไว้บริเวณที่มีกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดเจน แล้วจะมำยังไง อย่างงี้จำเลยต้องแตกออกเป็นสองคนพรือเปล่าคือฝ่ายคนพูดกับฝ่ายเจ้าของสถานที่ จะสามารถแก้ต่างแบบนี้ได้หรือไม่ครับ รบกวนฝั่งจำเลยและฝั่งโจทก์ช่วยมาบอกว่าจะทำยังไง ถ้าบอกว่ามันเป็น commond sense อยู่แล้วว่าคุณไม่ควรพูด ถ้าจำเลยแย้งว่า ถ้าผมพูดว่าการที่คนไม่เชื่อในระบบการรักษาความปลอดภัยมันเป็นความผิดของผมคนเดียวหรือทำไมต้องมารับผิดชอบคนเดียว ( ย้ำนะครับว่าเฉพาะแพ่ง อาญายังก็ผิดอยู่แล้ว)
อีกคำถามนึงคือ ถ้าคดีนี้ฟ้องแล้วจำเลยผิดจริง จะมีผลต่อเรื่องนโยบายของสายการบินหรือเจ้าของสถานที่
- การแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่าประโยคไหนห้ามห้ามพูด
- การฟ้องกลับเรื่องการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
ผมชอบกฏหมายมากแต่ไม่ได้เรียนทางนี้คงจะเป็นคำถามที่ไม่ฉลาดในสายตาของบางท่านบ้าง แต่ผมสงสัยจริงๆ
สึดท้ายขอบอกว่าผมอาจจะมีเรื่องกวนทีนหล่ยๆ เรื่องที่ pantip แต่คือ ผมขอย้ำนะครับว่าเรื่องนี้แอร์ดำเนินการถูต้องแล้ว แต่ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทางกฏหมายแพ่งจะแก้ตัวหรือแก้ต่างอย่างไร