เรื่องมีอยู่ว่า...ได้ทำเรื่องขอกู้เงินซื้อบ้านกับธนาคารแห่งหนึ่งโดยทำการกู้ร่วมกัน3คน มีนางสาวแดงเป็นผู้กูหลัก (โดยมิได้จดทะเบียนสมรสที่เมืองไทยแต่ถือใบแสดงฐานะแห่งครอบครัว(สมรส) โดยเข้าใจว่ามิใช่ใบสมรส และยังคงใช้นางสาวและนามสกุลเดิม) นางสาวส้ม ผู้กู้ร่วม(น้องสาว) และบิดาผู้กู้ร่วม..โดยส่งเอกสารตามที่ธนาคารขอ มีเพียงแต่นางสาวแดงที่มิได้ให้ใบทะเบียนสมรส(เพราะเข้าใจว่าตนเองไม่มีใบทะเบียนสมรส) และมิได้พูดว่าตนแต่งงานกับคนต่างชาติเพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของครอบครัวที่ทำเรื่องผ่อนกันเองมีเพียงตอนที่ทำการผ่อนเรียบร้อยแล้วที่จะต้องให้สามีมาเซ็นต์รับรู้การโอนและระบุว่าเป็นการซื้อด้วยเงินของภรรยาไม่เกี่ยวกับผู้เป็นสามี(ซึ่งสามีก็รับรู้เรื่องการซื้อบ้านโดยตลอดมิเคยปิดบังและพร้อมที่จะเซ็นต์ยินยอมว่าเป็นสินทรัพย์ของภริยาฝ่ายเดียว)...ซึ่งหลังจากยื่นเอกสารไปแล้วทางธนาคารก็ได้พิจารณาอนุมัติการกู้ยืมและได้ไปทำการต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่กรมที่ดินเป็นที่เรียบร้อยซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี...แล้วทีนี้สามีจะเดินทางไปเที่ยวที่เมืองไทยแล้วคิดว่าจะไปทำเอกสารยินยอมเรื่องทรัพย์สินตามที่กล่าวข้างต้น...จึงทำการสอบถามไปที่กรมที่ดินว่าต้องนำเอกสารหรือว่าควรจะทำอย่างไรบ้าง..ทางเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าตอนที่ทำเรื่องกับธนาคารทำไมไม่ทำตอนนั้น..ก็บอกเล่าให้เขาฟังตามเรื่องราวข้างบน..เขาก็ว่าเราอาจจะมีความผิดได้..ทำให้ร้อนใจมากค่ะ ...ขอถามผู้รู้ช่วยทีนะคะ
1.นางสาวแดงจะมีความผิดไหมคะ..แล้วผิดอย่างไรมีโทษอย่างไรคะ
2.แล้วบ้านจะโดนยึดคืนไหมคะหรือจะมีปัญหาอะไรกับทางธนาคารและกรมที่ดินไหมคะ..กลัวมากค่ะเพราะผ่อนมาหลายปีแล้ว
3.จะแก้ไขหรือควรจะทำยังไงบ้างคะเพราะไม่ได้คิดจะปิดบังแต่พลาดความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่ะ...
4.หรือว่าตอนโอนก็ไม่ต้องให้สามีมาเซ็นต์คะ..จะทำไงดีคะเพราะอ่านในกระทู้ต่างๆ เขาบอกว่าเราสามารถโอนได้โดยตัวเองไม่ต้องมีสามีมาเซ็นต์รับรู้ในการโอนอ่ะค่ะ..ก็จะกลายเป็นสินสมรสและให้สามีมาทำเอกสารอะไรทีหลังได้บ้างคะหลังจากโอนไปแล้วหนะค่ะว่าเป็นทรัพย์สินของทางฝ่ายภรรยาซึ่งสามียินยอมค่ะเพราะคุยกันมาตลอดเขารับรู้มาตลอด...
ขอบคุณมาล่วงหน้าด้วยค่ะที่เข้ามาช่วยตอบคำถาม