หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR][SR] ตะลุยเมืองหมอก ทับเบิก - เขาค้อ (ผู้หญิงแบกเป้)
กระทู้รีวิว
ภาพถ่าย
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
ภูทับเบิก
เขาค้อ
ก่อนอื่นเลยการเดินทางสำหรับ สาว สาว ของพวกเราไม่ได้ง่ายกว่าที่คิด เพราะเราไปแบบไม่มีรถส่วนตัว แหละที่สำคัญทริปนี้ มีแต่ผู้หญิง
เราเริ่มด้วยการเดินทางจาก กรุงเทพ - หล่มสัก เพื่อไปลงสถานีหล่มสัก ในราคา315 บาทกับการเดินทาง ปลายทาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
ใช้เวลาในการเดินทางอยู่ประมาณ 5 ชม. หากเป็นรถรอบสุดท้าย จะไปถึงพอดิบ พอดีเลย
เราขึ้นรถรอบ23:30 น เป็นรอบสุดท้ายที่สถานีหมอชิตกำลังเงียบ แหละผู้คนในสถานีกับนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยออกจากตัวสถานี ทำให้บรรยากาศช่วงนี้ ดูเงียบเหงา แหละภาพที่ปรากฎ ผู้คนจำนวนไม่น้อย เริ่มจับจองที่นอนเพื่อรอเวลา อย่างสบายใจกันเลยทีเดียว
เมื่อการเดินทางมาถึง จุดหมายทางคือ สถานีสี่แยกพ่อขุน เพื่อหารถไปหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เราก็ต้องไปตามหารถผักกาดกันเพื่อขึ้นภูทับเบิก...!!!
ด้านหน้าของโรงงาน ส่งผักจะมีร้านปาท๋องโก๋ อร่อยมาก บ่องตง..!!! แซ่บเฟอร์
ลองท้องกันก่อน ไปต่อลองราคา ขึ้นภูทับเบิก หากมีคนใจดี ก็ ฟรี...!!! แต่ส่วนมากคุณลุงร้านปาท๋องโก๋บอกว่า " เขาจะให้ช่วยค่าน้ำมัน 100 บาท " ดีกว่าไปจ้างรถขึ้นในราคา 1900 บาทแหนะ
เช้านี้ พวกเราลองท้องกันด้วยชาร้อนๆ กับ ปาท๋องโก๋ที่พึ่งทอดเสร็จ หอมๆร้อนๆ
เมื่อรถผักกาดเทียบท่า รอส่งผักจนหมด เราก็ต้องส่งหน่วยกล้าตาย เพื่อไปต่อลองราคา ให้ถูกแหละได้ในราคาที่สบายกระเป๋ากลับมา นั่นคือ ราคา 50 บาท โอ๋ว้าว...!!!
เมื่อตกลงราคาเสร็จ พวกเราก็ ออกเดินทางกันเลย....เราเริ่มอินแหละฟินกับบรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยหมู่บ้าน แหละไร่กะหล่ำ หากไกล้จะเช้าหน่อยเราจะพบชาวเขา ชาวบ้าน เต็มไปหมด
ในขณะที่รถกำลังแล่นอยู่นั้น ภาพที่ปรากฎตรงหน้าพระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงที่กำลังสาดแสงสีทองทอประกาย บวกกับหมอกกำลังปกคลุมไปทั่วบริเวณหุบเขา มันเปรียบได้ดั่งสวรรค์บนดินเลยทีเดียว
. การเดินทางถนนหมายเลข 21 อีก 40 กิโลเมตร เราจะพบทางแยกหล่มสักตรงไปทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร การเดินทางคดเคี้ยวมาก 40 กิโลเมตร เราจะพบทางออกด่านเก็บเงินภูหินร่องกล้า แหละขับไปเพียง 6 กม. เราจะถึงภูทับเบิก เราใช้เวลาในการเดินทาง ชั่วโมงกว่าในการขึ้นภูทับเบิก ทุกอย่างเต็มไปด้วยเนิน คดเคี้ยว เรียกได้ว่า " มีเท่าไร อวกหมด"
แล้วเราก็มาถึง "ภูทับเบิก"
เมื่อพวกเรามาถึงยอดภูทับเบิก สิ่งแรกที่ควรนึกถึงเลย คือที่พัก คืนนี้จะพักไหนกัน เพราะพวกเรามาแบบสไตร์ slow life กันสุดๆ ไม่ได้จอง แต่พอทราบราคาอยู่บ้างว่าที่นี่ เต้นท์ 800 - 900 บาท ส่วนที่พักจะอยู่ในราคา 1500-3500 บาทกันเลยทีเดียว แน่นอนละว่าพวกเราต้องนอนเต้นท์ เพื่อความประหยัดทรัพย์ในกระเป๋า
อ่าวเราเริ่มเดินหากันเลย เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง จะเย็นแล้ว อากาศก็เริ่มจะเย็นลงเรื่อยๆ เดียวจะกลายเป็นว่าพวกเราไม่มีที่นอนจริงๆ สุดท้ายตามเป้าหมายเลย ถือว่าพวกเราโชคดี ได้เต้นท์ ริมผาไม้ " นอนเต้นท์" ในราคา 900 บาท ( ราคาช่วงวันหยุดโหดแท้) บริเวณที่พักเต็มไปด้วยสวนผักกาด แห่งหุบเขา หมอกพุ่งขึ้นตลอดเวลาพร้อมกับส่งความหนาวผ่านลมมาพร้อมในยามเย็น
เมื่อพวกเรา พักจนหายเหนื่อยเดินทางก็ต้องมีคำว่า โบกรถข้ามเขา ไป เขาค้อ แต่ไปทำไหมละ...???
เราก็ เริ่มดูรีวิวจากที่ต่างๆบ้าง แหละถามคนแถวนั้น ว่าที่ไหน น่าเที่ยว สรุป " วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ " เมื่อเราได้เป้าหมายแล้ว ก็ลุยเลย...!!!
โบก...!!! เราก็โบกๆๆ ขยับแขนเยอะๆ เดียวก็ถึงที่ อิอิ
การเดินทางไป เขาค้อ ไม่ได้ราบลื่นอย่างที่คิด เพราะกว่าจะไปถึงได้ พวกเราก็ต้องเจอ ปัญหาสารพัด รถทิ้งพวกเรากลางทางบ้าง แหละต้องหาทางไปให้ได้ พอโบกไปได้สักพัก ก็เจอกับรถกระบะ รีบกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว หารู้ไม่ ว่านั้น คือรถน้ำปลาแตก....555 กลิ่นกระจายรอบตัวรถ บวก กลับโค้งที่ต้องเจอกัน แหละแล้ว เพื่อนร่วมทางก็ต้องยกธงขาว ขอปิดหน้า ปิดตา สลบอยู๋ท้ายกะบะ เล่นเอา พวกเราต้องต่อสู้กับมัน " หากไม่อยากไปจริงๆ เราไม่ยอมนายแน่ น้ำปลา ฮ่าๆๆ " ในขณะที่รถวิ่งแล่นไปตามเส้นทางหลวง ลัดเลาะผ่านหุบเขา ไปทางพิษณุโลก บรรยากาศเต็มไปด้วยความอุดมสมบรูณ์ป่า แหละลมหนาวปะทะใบหน้า เอาะโห้..!!! ชีวิต happy สุดๆ
พี่ที่ให้พวกเราติดรถกะบะมา จอดให้พวกเราที่ปลั้ม ปตท. พร้อมกลับโบกมือลา กับพูดเบาๆ" เที่ยวให้สนุกนะน้อง" พวกเรากล่าวคำขอบคุณก่อนทำภาระกิจ แหละหารถเพื่อต่อเข้าไป " วัดผาซ่อนแก้ว" แหละนั่น ก็ต้องเรียกบิ๊กไบท์ ผจญภัยสุดมันส์ เพื่อรถเข้าไป
ไม่นานหนัก พวกเราสามสาวก็มาถึง " วัดผาซ่อนแก้ว" เป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว”
ต้องแต่งกายสุภาพ ใส่กางเกงขายาวมานะคะ แต่ถ้าไม่ได้ใส่มา ก็มีผ้าถุงให้เปลี่ยนค่ะ
เราใช้เวลา อยู่ ที่นี่ไม่นานหนักเพราะเวลาเริ่ม กระชับเข้ามาทุกที หากสายกว่านี้ เราอาจกลับทับเบิกไม่ทันแน่ๆ รีบๆ โบกๆ แล้วก็ต้องหารถกลับ " โจทย์ข้อนี้ถือ ว่ายากมากๆ สำหรับสาวๆ เพราะไม่ใช่เส้นทางหลัก ที่คนจะไปภูทับเบิก แต่ถ้าทับเบิกมาเขาค้อ พอมีบ้าง " แหละนั่นก็คือบททดสอบ ของพวกเรา"
โบกๆ เราก็ โบกๆ อิอิ ...!!! เราโบกเกือบเป็น ชม.ยังไม่มีวี่แวว ว่าจะมีคนจอดให้พวกเราติดรถไปเลย แหละแล้ว พระเอกก็ขี่ม้าขาว มาจาก พิษณุโลก ก็คือ รถทัวร์ พิษณ์โลก ไปหล่มสัก
เมื่อรถจอด พวกเราก็ต้องรีบกระโดด ขึ้นไปอยู่บนรถ ไม่งั้น พวกเราต้องนอนเขาค้อแน่ๆ คืนนี้....
บรรยากาศบนรถ สายตาทุกคนจับจ้องมาที่พวกเรา ที่ถือของเต็มไม้ เต็มมือ ทันใดนั้นเอง คุณป้า คุณลุง ก็รีบขยับที่ให้นั่ง พร้อมกับพูดใคร ถามสารพัด สุกดิบ ตามประสา ก่อนพวกเราจะลงพร้อมกล่าวคำลาด้วยรอยยิ้ม แหละขอบคุณ
อ่อ...ลืมบอกไปว่า รถทัวร์ตกคนละ30 บาท ระหว่างเขาค้อ - แยกทาเข้าภูทับเบิก
แหละความเหน๊บเหนื่อยก็ต้องปรากฏ เพราะพวกเราเล่นโบกรถกันไม่หยุด แหละต้องโบกต่อขึ้นภูอีกครั้ง คราวนี้พวกเรา โบกสิบล้อขนทรายเลย เล่นได้ว่า " slow "จริงๆเพราะคุณลุงวิ่งช้ามาก แต่โอเคละว่า พวกเราไปถึงเป้าหมายได้ ก็ ดีใจแล้ว"อ่าวลุยย...!!!
เราใช้เวลาขึ้นมาจากแยกทางขึ้นภูทับเบิก สองช่วโมงกว่า เวลาพอดิบพอดีกับการรอคอยพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆในเวลานี้อากาศอยู่ที่ 19 องศา ช่วงเวลา6โมงเย็น หมอกปกคลุมพื้นที่แทบจะไม่เห็นบ้านพัก แหละหมูกะทะ จิ้มจุ่มก็ช่วยพวกเราบรรเทาหนาวได้ ในคืนนี้ " ชุดละ500 บาท"
ยิ่งดึก อากาศยิ่งหนาวจับใจ....หากมีใครสักคนนอนกอด คงจะดี ฟิวส์กำลังได้ที่เลย...!!!
วันถัดไปความสุขของการดูพระอาทิตย์ยามเช้า พวกเราตื่นกันช่วงตี4.30 เพื่อไปตั้งหน้า ตั้งตารอพระอาทิตย์ขึ้น ความหนาวสุดๆไปเลยช่วงเวลานี้ แต่คุ้มค่ามากกับการตื่นขึ้นมารอชม แหละเก็บภาพทะเลหมอก
แหละเวลาโบกก็มาถึง แต่คราวนี้เราได้ สมาชิกเพิ่ม 2 คน เพื่อนกลับลงไปขึ้นรถ บขส.ตัวเมือง
เราได้รถเที่ยว 12.30 น ทุกชั่วโมงจะมีรถออกประ จำ
ทริปนี้มีเรื่องราวมากมายมิตรภาพ ความทรงจำ ความสนุก สุข มันส์ ฮ่า มา
ชื่อสินค้า:
ผู้หญิงแบกเป้
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
สอบถามเส้นทางจากภูหินร่องกล้า ไป ภูทับเบิก
ผมจะไปเที่ยว ภูหินร่องกล้า พักที่ภูหินร่องกล้า1คืน ตื่นเช้าว่าจะไปเที่ยวภูทับเบิก เส้นทางจากภูหินร่องกล้าไปทางบ้านร่องกล้า แล้วเลี้ยวขวา ไปภูทับเบิกเส้นทางอันตรายไหมครับ ถนนดีห
สมาชิกหมายเลข 4238458
“10 ที่เที่ยวปีใหม่ 2025 ห้ามพลาด! เที่ยวสนุก ครบทุกสไตล์ รับปีใหม่แบบปังๆ”
ปีใหม่ 2025 นี้ เพื่อนๆมีแพลนไปเที่ยวที่ไหนกันหรือยัง? วันนี้เรารวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวปีใหม่ยอดฮิต ที่คนไทยกำลังค้นหามากที่สุดในตอนนี้มามาฝากค่ะ 1. เชียงใหม่ • จุดชมวิวดอยสุเทพ, ถนนคนเ
SunsetSunday
รบกวนแนะสถานที่ท่องเที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิก(ก่อน-หลัง)
จะไปเขาค้อ-ภูทับเบิก วันที่ 10-12 ก.ย.59 มีที่เที่ยวที่อยากไปแล้วค่ะ แต่อยากรู้จุดไหนถึงก่อน-หลังอ่ะค่ะ 1.Pino Latte 2.พระตำหนักเขาค้อ 3.ไปรษณีย์ 4.จุดกังหันลม 5.วัดผาซ่อนแก้ว 6.ภูทับเบิก คืนแรกอยากนอ
Pookky Park
ทริปล่าหมอก ตามหาถนนลอยฟ้า บ้านนาสะอุ้ง และ ท่าลี่-ภูเรือ นอนกันที่ไฮตาก และภูทับเบิก
สวัสดีจ้ากลับมาพับกบ เอ้ยพบกับพวกเราครอบครัวตะลอนเที่ยวอีกแล้ว ทริปหน้าฝน ทริปเบาๆ 3 วัน 2 คืน ไปเที่ยว เลย เพชรบูรณ์ จุดหมายหลักๆทริปนี้&n
Boy vios
ลานกางเต็นท์ภูทับเบิกช่วงปีใหม่
ผมอยากทราบว่าลานกางเต็นท์ช่วงปีใหม่คนเต็มไหมครับถ้าที่พักนี่เต็มแน่นอนราคาดีดขึ้นด้วยแต่อยากทราบว่าลานกางเต็นแถวหอวัดอุณหภูมิส่วนมากเต็มไหมครับ เช่น ลานกางเต็นวิสาหกิจชุมชน ไร่ริมผา ริมผา ไร่ดาวแดง(อั
สมาชิกหมายเลข 7139788
“ทริปน้ำไม่อาบ”บุกเพชรบูรณ์ขึ้นเขาค้อ-ภูทับเบิก ชาวบ้านถาม มุ่งกระตุ้นเศรษฐกืจ หรือมุ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
วิจารณ์สนั่น! “ทริปน้ำไม่อาบ”บุกเพชรบูรณ์ขึ้นเขาค้อ-ภูทับเบิก มีทั้ง จยย.เสียงดัง-ไม่ติดป้ายทะเบียน เพชรบูรณ์ – ชาวบ้านตามเส้นทาง ทล.21 สระบุรี-หล
ต้นโพธิ์ต้นไทร
เขาค้อ กับภูทับเบิก พื้นที่กว้างแค่ไหนครับ
ผมยังไม่เคยไปเห็นของจริงนะครับ แต่รู้แค่ว่าข้างบนจะมีที่พักรีสอร์ท ร้านอาหารเยอะ น่าจะพื้นที่กว้าง ใหญ่อยู่ใช่ไหมครับ ปล.เผื่อมีโอกาสไปจริงๆ ส่วนตัวก็อยากไปนะ
สมาชิกหมายเลข 6582822
รบกวนช่วยตรวจแผนและแนะนำ สำหรับทริป เขาค้อ และ ภูทับเบิก หน่อยค่า
จขกท วางแผนไปเที่ยว เขาค้อ และ ภูทับเบิกค่ะ 24-26 ตุลาคมนี้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่ออ่านกระทู้ รีวิวแล้วส่วนใหญ่จะใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง แต่ จขกท ไม่มีรถส่วนตัวต้องเดินทางโดยรถโดยสารค่ะ ก็เลยหาข้อ
สมาชิกหมายเลข 1044592
ยอดภูคาเฟ่ คาเฟ่น่ารักแห่งภูทับเบิก(ขนมเครื่องดื่มราคาไม่แพง)
#คาเฟ่ภูทับเบิก ยอดภูคาเฟ่ คาเฟ่ที่คู่ควรแก่การแวะ ร้านอยู่ใกล้ผาหัวสิงห์ เป็นร้านที่เราแวะเล่นๆ แบบไม่คาดหวัง แต่ดันประทับใจสุดๆ เพราะ 👍เครื่องดื่มดี 👍ขนมดี 👍วิวดี
พี่ผัก
ธารหมอก ภูทับเบิก พักผ่อนฟินๆปะทะวิวหมอก
สวัสดีค่ะ ทริปพามาเที่ยวกันที่ภูทับเบิกกันค่ะ เราไปในช่วงเดือนสิงหาคม ยอมรับเลยว่า ใช้เวลาหานานกว่าจะหาที่พักที่ตรงใจได้ เพราะโจทย์ที่ตั้งไว้ในใจคือ อยากได้ที่พัก ที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ ราคาไม่แพง แ
พี่ผัก
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่าย
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
ภูทับเบิก
เขาค้อ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 25
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR][SR] ตะลุยเมืองหมอก ทับเบิก - เขาค้อ (ผู้หญิงแบกเป้)
ก่อนอื่นเลยการเดินทางสำหรับ สาว สาว ของพวกเราไม่ได้ง่ายกว่าที่คิด เพราะเราไปแบบไม่มีรถส่วนตัว แหละที่สำคัญทริปนี้ มีแต่ผู้หญิง
เราเริ่มด้วยการเดินทางจาก กรุงเทพ - หล่มสัก เพื่อไปลงสถานีหล่มสัก ในราคา315 บาทกับการเดินทาง ปลายทาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
ใช้เวลาในการเดินทางอยู่ประมาณ 5 ชม. หากเป็นรถรอบสุดท้าย จะไปถึงพอดิบ พอดีเลย
เราขึ้นรถรอบ23:30 น เป็นรอบสุดท้ายที่สถานีหมอชิตกำลังเงียบ แหละผู้คนในสถานีกับนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยออกจากตัวสถานี ทำให้บรรยากาศช่วงนี้ ดูเงียบเหงา แหละภาพที่ปรากฎ ผู้คนจำนวนไม่น้อย เริ่มจับจองที่นอนเพื่อรอเวลา อย่างสบายใจกันเลยทีเดียว
เมื่อการเดินทางมาถึง จุดหมายทางคือ สถานีสี่แยกพ่อขุน เพื่อหารถไปหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เราก็ต้องไปตามหารถผักกาดกันเพื่อขึ้นภูทับเบิก...!!!
ด้านหน้าของโรงงาน ส่งผักจะมีร้านปาท๋องโก๋ อร่อยมาก บ่องตง..!!! แซ่บเฟอร์
ลองท้องกันก่อน ไปต่อลองราคา ขึ้นภูทับเบิก หากมีคนใจดี ก็ ฟรี...!!! แต่ส่วนมากคุณลุงร้านปาท๋องโก๋บอกว่า " เขาจะให้ช่วยค่าน้ำมัน 100 บาท " ดีกว่าไปจ้างรถขึ้นในราคา 1900 บาทแหนะ
เช้านี้ พวกเราลองท้องกันด้วยชาร้อนๆ กับ ปาท๋องโก๋ที่พึ่งทอดเสร็จ หอมๆร้อนๆ
เมื่อรถผักกาดเทียบท่า รอส่งผักจนหมด เราก็ต้องส่งหน่วยกล้าตาย เพื่อไปต่อลองราคา ให้ถูกแหละได้ในราคาที่สบายกระเป๋ากลับมา นั่นคือ ราคา 50 บาท โอ๋ว้าว...!!!
เมื่อตกลงราคาเสร็จ พวกเราก็ ออกเดินทางกันเลย....เราเริ่มอินแหละฟินกับบรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยหมู่บ้าน แหละไร่กะหล่ำ หากไกล้จะเช้าหน่อยเราจะพบชาวเขา ชาวบ้าน เต็มไปหมด
ในขณะที่รถกำลังแล่นอยู่นั้น ภาพที่ปรากฎตรงหน้าพระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงที่กำลังสาดแสงสีทองทอประกาย บวกกับหมอกกำลังปกคลุมไปทั่วบริเวณหุบเขา มันเปรียบได้ดั่งสวรรค์บนดินเลยทีเดียว
. การเดินทางถนนหมายเลข 21 อีก 40 กิโลเมตร เราจะพบทางแยกหล่มสักตรงไปทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร การเดินทางคดเคี้ยวมาก 40 กิโลเมตร เราจะพบทางออกด่านเก็บเงินภูหินร่องกล้า แหละขับไปเพียง 6 กม. เราจะถึงภูทับเบิก เราใช้เวลาในการเดินทาง ชั่วโมงกว่าในการขึ้นภูทับเบิก ทุกอย่างเต็มไปด้วยเนิน คดเคี้ยว เรียกได้ว่า " มีเท่าไร อวกหมด"
แล้วเราก็มาถึง "ภูทับเบิก"
เมื่อพวกเรามาถึงยอดภูทับเบิก สิ่งแรกที่ควรนึกถึงเลย คือที่พัก คืนนี้จะพักไหนกัน เพราะพวกเรามาแบบสไตร์ slow life กันสุดๆ ไม่ได้จอง แต่พอทราบราคาอยู่บ้างว่าที่นี่ เต้นท์ 800 - 900 บาท ส่วนที่พักจะอยู่ในราคา 1500-3500 บาทกันเลยทีเดียว แน่นอนละว่าพวกเราต้องนอนเต้นท์ เพื่อความประหยัดทรัพย์ในกระเป๋า
อ่าวเราเริ่มเดินหากันเลย เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง จะเย็นแล้ว อากาศก็เริ่มจะเย็นลงเรื่อยๆ เดียวจะกลายเป็นว่าพวกเราไม่มีที่นอนจริงๆ สุดท้ายตามเป้าหมายเลย ถือว่าพวกเราโชคดี ได้เต้นท์ ริมผาไม้ " นอนเต้นท์" ในราคา 900 บาท ( ราคาช่วงวันหยุดโหดแท้) บริเวณที่พักเต็มไปด้วยสวนผักกาด แห่งหุบเขา หมอกพุ่งขึ้นตลอดเวลาพร้อมกับส่งความหนาวผ่านลมมาพร้อมในยามเย็น
เมื่อพวกเรา พักจนหายเหนื่อยเดินทางก็ต้องมีคำว่า โบกรถข้ามเขา ไป เขาค้อ แต่ไปทำไหมละ...???
เราก็ เริ่มดูรีวิวจากที่ต่างๆบ้าง แหละถามคนแถวนั้น ว่าที่ไหน น่าเที่ยว สรุป " วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ " เมื่อเราได้เป้าหมายแล้ว ก็ลุยเลย...!!!
โบก...!!! เราก็โบกๆๆ ขยับแขนเยอะๆ เดียวก็ถึงที่ อิอิ
การเดินทางไป เขาค้อ ไม่ได้ราบลื่นอย่างที่คิด เพราะกว่าจะไปถึงได้ พวกเราก็ต้องเจอ ปัญหาสารพัด รถทิ้งพวกเรากลางทางบ้าง แหละต้องหาทางไปให้ได้ พอโบกไปได้สักพัก ก็เจอกับรถกระบะ รีบกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว หารู้ไม่ ว่านั้น คือรถน้ำปลาแตก....555 กลิ่นกระจายรอบตัวรถ บวก กลับโค้งที่ต้องเจอกัน แหละแล้ว เพื่อนร่วมทางก็ต้องยกธงขาว ขอปิดหน้า ปิดตา สลบอยู๋ท้ายกะบะ เล่นเอา พวกเราต้องต่อสู้กับมัน " หากไม่อยากไปจริงๆ เราไม่ยอมนายแน่ น้ำปลา ฮ่าๆๆ " ในขณะที่รถวิ่งแล่นไปตามเส้นทางหลวง ลัดเลาะผ่านหุบเขา ไปทางพิษณุโลก บรรยากาศเต็มไปด้วยความอุดมสมบรูณ์ป่า แหละลมหนาวปะทะใบหน้า เอาะโห้..!!! ชีวิต happy สุดๆ
พี่ที่ให้พวกเราติดรถกะบะมา จอดให้พวกเราที่ปลั้ม ปตท. พร้อมกลับโบกมือลา กับพูดเบาๆ" เที่ยวให้สนุกนะน้อง" พวกเรากล่าวคำขอบคุณก่อนทำภาระกิจ แหละหารถเพื่อต่อเข้าไป " วัดผาซ่อนแก้ว" แหละนั่น ก็ต้องเรียกบิ๊กไบท์ ผจญภัยสุดมันส์ เพื่อรถเข้าไป
ไม่นานหนัก พวกเราสามสาวก็มาถึง " วัดผาซ่อนแก้ว" เป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว”
ต้องแต่งกายสุภาพ ใส่กางเกงขายาวมานะคะ แต่ถ้าไม่ได้ใส่มา ก็มีผ้าถุงให้เปลี่ยนค่ะ
เราใช้เวลา อยู่ ที่นี่ไม่นานหนักเพราะเวลาเริ่ม กระชับเข้ามาทุกที หากสายกว่านี้ เราอาจกลับทับเบิกไม่ทันแน่ๆ รีบๆ โบกๆ แล้วก็ต้องหารถกลับ " โจทย์ข้อนี้ถือ ว่ายากมากๆ สำหรับสาวๆ เพราะไม่ใช่เส้นทางหลัก ที่คนจะไปภูทับเบิก แต่ถ้าทับเบิกมาเขาค้อ พอมีบ้าง " แหละนั่นก็คือบททดสอบ ของพวกเรา"
โบกๆ เราก็ โบกๆ อิอิ ...!!! เราโบกเกือบเป็น ชม.ยังไม่มีวี่แวว ว่าจะมีคนจอดให้พวกเราติดรถไปเลย แหละแล้ว พระเอกก็ขี่ม้าขาว มาจาก พิษณุโลก ก็คือ รถทัวร์ พิษณ์โลก ไปหล่มสัก
เมื่อรถจอด พวกเราก็ต้องรีบกระโดด ขึ้นไปอยู่บนรถ ไม่งั้น พวกเราต้องนอนเขาค้อแน่ๆ คืนนี้....
บรรยากาศบนรถ สายตาทุกคนจับจ้องมาที่พวกเรา ที่ถือของเต็มไม้ เต็มมือ ทันใดนั้นเอง คุณป้า คุณลุง ก็รีบขยับที่ให้นั่ง พร้อมกับพูดใคร ถามสารพัด สุกดิบ ตามประสา ก่อนพวกเราจะลงพร้อมกล่าวคำลาด้วยรอยยิ้ม แหละขอบคุณ
อ่อ...ลืมบอกไปว่า รถทัวร์ตกคนละ30 บาท ระหว่างเขาค้อ - แยกทาเข้าภูทับเบิก
แหละความเหน๊บเหนื่อยก็ต้องปรากฏ เพราะพวกเราเล่นโบกรถกันไม่หยุด แหละต้องโบกต่อขึ้นภูอีกครั้ง คราวนี้พวกเรา โบกสิบล้อขนทรายเลย เล่นได้ว่า " slow "จริงๆเพราะคุณลุงวิ่งช้ามาก แต่โอเคละว่า พวกเราไปถึงเป้าหมายได้ ก็ ดีใจแล้ว"อ่าวลุยย...!!!
เราใช้เวลาขึ้นมาจากแยกทางขึ้นภูทับเบิก สองช่วโมงกว่า เวลาพอดิบพอดีกับการรอคอยพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆในเวลานี้อากาศอยู่ที่ 19 องศา ช่วงเวลา6โมงเย็น หมอกปกคลุมพื้นที่แทบจะไม่เห็นบ้านพัก แหละหมูกะทะ จิ้มจุ่มก็ช่วยพวกเราบรรเทาหนาวได้ ในคืนนี้ " ชุดละ500 บาท"
ยิ่งดึก อากาศยิ่งหนาวจับใจ....หากมีใครสักคนนอนกอด คงจะดี ฟิวส์กำลังได้ที่เลย...!!!
วันถัดไปความสุขของการดูพระอาทิตย์ยามเช้า พวกเราตื่นกันช่วงตี4.30 เพื่อไปตั้งหน้า ตั้งตารอพระอาทิตย์ขึ้น ความหนาวสุดๆไปเลยช่วงเวลานี้ แต่คุ้มค่ามากกับการตื่นขึ้นมารอชม แหละเก็บภาพทะเลหมอก
แหละเวลาโบกก็มาถึง แต่คราวนี้เราได้ สมาชิกเพิ่ม 2 คน เพื่อนกลับลงไปขึ้นรถ บขส.ตัวเมือง
เราได้รถเที่ยว 12.30 น ทุกชั่วโมงจะมีรถออกประ จำ
ทริปนี้มีเรื่องราวมากมายมิตรภาพ ความทรงจำ ความสนุก สุข มันส์ ฮ่า มา
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว