สวัสดีครับ ชาว Pantip ทุกๆท่าน ก่อนอื่น ผมต้องขอออกตัวเลยครับ ว่ารีวิวนี้ เป็นรีวิวแรกของเราสองคนพี่น้อง KK. Vacation Life ครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้เลยนะครับ และพวกเราพร้อมรับคำติชมของทุกๆท่านครับ
รีวิวแรกนี้ เราขอเสนอรีวิวสั้นๆ ที่เกิดขึ้นในวันว่างของเราสองคนพี่น้อง เนื่องในวันนั้น เราตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นกันแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เลยได้มีโอกาสไปนั่งเล่นจิบชาทานขนมที่โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ Mandarin Oriental, Bangkok
ภาพจาก :: twitter.com/mo_bangkok
Mandarin Oriental, Bangkok เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในกรุงเทพฯ ที่หลายๆท่านทราบกันอยู่แล้วนะครับ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นโรงแรม The Oriental ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกในไทย เปิดเมื่อ พ.ศ. 2422 ก่อนจะเข้าอยู่ในเครือ Mandarin Oriental Hotel Group ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสองกิจการเรือธงของเครือ และมีชื่อเสียงในด้านบริการระดับโลกซึ่งทำให้ได้รับการขนานนามเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือนั่ง BTS ไปลงที่สถานีสะพานตากสิน และออกทางออก 2 ซึ่งเป็นทางออกไปยังท่าเรือที่โรงแรมต่างๆริมแม่น้ำจะมีเรือมารับแขก Shuttle Boat ของโรงแรมนี้ จะบริการรับส่งแขกฟรี ทุกๆ 15 นาทีครับ เราไปดูบรรยากาศในวันนั้นกันเลยครับ
บริเวณด้านหน้าโรงแรมที่ตกแต่งด้วยต้นไม้และอาคารที่ดูเก่าแก่หรูหรา พร้อมพนักงานที่คอยให้บริการตั้งแต่เปิดประตูรถให้แขกทุกท่าน
จุดเด่นของการตกแต่งของโรงแรมนี้ คือระฆังยักษ์ ที่แขวนอยู่ แสดงถึงความเป็นไทยครับ
เข้ามาชมบรรยากาศด้านในกันบ้างครับ บริเวณโถง Lobby ก็เต็มไปด้วยโคมไฟระฆังยักษ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูหราเรียบง่าย
หลังจากได้โต๊ะ เราก็เริ่มสั่งเป็น เมนู Afternoon Tea Set ครับ ที่นี่มีข้อกำหนดอยู่ว่า 1 Set ต่อ 2 ท่าน เท่านั้น พอดีวันนั้น เรามีเพื่อนตามมาเจอด้วยอีก 1 คน ก็เลยจัดไป 2 Set ครับ คือ Traditional Set และ Thai Set ทั้ง 2 Set ราคา Set ละ 1,250 บาทครับ
มีชาให้เลือก Set ละ 1 อย่างครับ เราเลยเลือกไปเป็น Marco Polo กับ Sakura และสั่งเพิ่มเป็น Voyage Paris Tea กาละ 300 บาทครับ
ขนมใน Set ก็มีหลายอย่างมากมายสมราคาเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น สโคน มาการอง ฟรุตเค้ก ทาร์ทผลไม้ แซนวิช ครัวซองต์ บานอฟฟี่ เค้ก แคร็กเกอร์ แซลมอลรมควัน และอื่นๆอีกเยอะเลยครับ
สำหรับ Thai Set ก็มีขนมที่คล้ายกัน แต่เปลี่ยนรสชาติเป็นผลไม้ไทยมากขึ้น และเพิ่มขนมไทยๆเข้าไป เช่น หม้อแกง ทองหยอด ฝอยทอง หมี่กรอบ ขนมฟักทอง ขนมมัน ข้าวแต๋น ครับ
การบริการที่นี่เรียกได้ว่า สมกับการได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยครับ พนักงานบริการด้วยรอยยิ้ม ให้คำอธิบายเมนูต่างๆอย่างละเอียด ด้วยท่าทีที่นอบน้อมมาก ชนิดที่คุกเข่าคุยกับแขกเลยทีเดียวครับ
นอกจาก Afternoon Tea แล้ว ก็ยังมีขนมต่างๆ อย่าง Premium Chocolate และ มาการองรสชาติต่างๆ น่าทานมากๆเลยครับ
ยังมีที่นั่งด้านนอก Lobby ฝั่งติดแม่น้ำด้วยนะครับ แต่ถ้าใครจะทาน Afternoon Tea ทางโรงแรมสงวนให้บริการเฉพาะนั่งด้านในเท่านั้นครับ
สำหรับรีวิวแรกนี้ พวกเราสองพี่น้อง KK.Vacation Life ก็ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ และสำหรับรีวิวต่อๆไปนั้น พวกเราจะนำเสนออะไรที่ไหนนั้น ต้องคอยติดตามครับ ขอขอบคุณที่รับชมและคอมเม้นท์ครับ ขอบคุณครับ
[CR] จัด Afternoon tea ที่ Mandarin Oriental Bangkok กันดีกว่า
รีวิวแรกนี้ เราขอเสนอรีวิวสั้นๆ ที่เกิดขึ้นในวันว่างของเราสองคนพี่น้อง เนื่องในวันนั้น เราตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นกันแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เลยได้มีโอกาสไปนั่งเล่นจิบชาทานขนมที่โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ Mandarin Oriental, Bangkok
Mandarin Oriental, Bangkok เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในกรุงเทพฯ ที่หลายๆท่านทราบกันอยู่แล้วนะครับ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นโรงแรม The Oriental ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกในไทย เปิดเมื่อ พ.ศ. 2422 ก่อนจะเข้าอยู่ในเครือ Mandarin Oriental Hotel Group ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสองกิจการเรือธงของเครือ และมีชื่อเสียงในด้านบริการระดับโลกซึ่งทำให้ได้รับการขนานนามเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือนั่ง BTS ไปลงที่สถานีสะพานตากสิน และออกทางออก 2 ซึ่งเป็นทางออกไปยังท่าเรือที่โรงแรมต่างๆริมแม่น้ำจะมีเรือมารับแขก Shuttle Boat ของโรงแรมนี้ จะบริการรับส่งแขกฟรี ทุกๆ 15 นาทีครับ เราไปดูบรรยากาศในวันนั้นกันเลยครับ
บริเวณด้านหน้าโรงแรมที่ตกแต่งด้วยต้นไม้และอาคารที่ดูเก่าแก่หรูหรา พร้อมพนักงานที่คอยให้บริการตั้งแต่เปิดประตูรถให้แขกทุกท่าน
จุดเด่นของการตกแต่งของโรงแรมนี้ คือระฆังยักษ์ ที่แขวนอยู่ แสดงถึงความเป็นไทยครับ
เข้ามาชมบรรยากาศด้านในกันบ้างครับ บริเวณโถง Lobby ก็เต็มไปด้วยโคมไฟระฆังยักษ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูหราเรียบง่าย
หลังจากได้โต๊ะ เราก็เริ่มสั่งเป็น เมนู Afternoon Tea Set ครับ ที่นี่มีข้อกำหนดอยู่ว่า 1 Set ต่อ 2 ท่าน เท่านั้น พอดีวันนั้น เรามีเพื่อนตามมาเจอด้วยอีก 1 คน ก็เลยจัดไป 2 Set ครับ คือ Traditional Set และ Thai Set ทั้ง 2 Set ราคา Set ละ 1,250 บาทครับ
มีชาให้เลือก Set ละ 1 อย่างครับ เราเลยเลือกไปเป็น Marco Polo กับ Sakura และสั่งเพิ่มเป็น Voyage Paris Tea กาละ 300 บาทครับ
ขนมใน Set ก็มีหลายอย่างมากมายสมราคาเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น สโคน มาการอง ฟรุตเค้ก ทาร์ทผลไม้ แซนวิช ครัวซองต์ บานอฟฟี่ เค้ก แคร็กเกอร์ แซลมอลรมควัน และอื่นๆอีกเยอะเลยครับ
สำหรับ Thai Set ก็มีขนมที่คล้ายกัน แต่เปลี่ยนรสชาติเป็นผลไม้ไทยมากขึ้น และเพิ่มขนมไทยๆเข้าไป เช่น หม้อแกง ทองหยอด ฝอยทอง หมี่กรอบ ขนมฟักทอง ขนมมัน ข้าวแต๋น ครับ
การบริการที่นี่เรียกได้ว่า สมกับการได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยครับ พนักงานบริการด้วยรอยยิ้ม ให้คำอธิบายเมนูต่างๆอย่างละเอียด ด้วยท่าทีที่นอบน้อมมาก ชนิดที่คุกเข่าคุยกับแขกเลยทีเดียวครับ
นอกจาก Afternoon Tea แล้ว ก็ยังมีขนมต่างๆ อย่าง Premium Chocolate และ มาการองรสชาติต่างๆ น่าทานมากๆเลยครับ
ยังมีที่นั่งด้านนอก Lobby ฝั่งติดแม่น้ำด้วยนะครับ แต่ถ้าใครจะทาน Afternoon Tea ทางโรงแรมสงวนให้บริการเฉพาะนั่งด้านในเท่านั้นครับ
สำหรับรีวิวแรกนี้ พวกเราสองพี่น้อง KK.Vacation Life ก็ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ และสำหรับรีวิวต่อๆไปนั้น พวกเราจะนำเสนออะไรที่ไหนนั้น ต้องคอยติดตามครับ ขอขอบคุณที่รับชมและคอมเม้นท์ครับ ขอบคุณครับ