สวัสดีคะ เราจะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับเพื่อนในรั่วมหาลัยนะคะ
ปี 1 เราสอบติดมหาลัยชื่อดังติดทะเล เรามีกลุ่มเพื่อน มีทั้งหมด 8 คนคะ แต่ละคนก็อยู่แต่ละฝ่าย ส่วนมากเพื่อนเราอยู่ฝ่ายหลีดคะ ส่วนเราเป็นดาวคณะคะ ซึ่งก้ไม่ได้ทำอะไรมาก วันๆเราก็แค่ซ้อมการแสดงและเราไม่ค่อยไดคุยกับเพื่อนที่เป็นหลีด เพราะมันซ้อมหนักมาก เราก็เลยสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มชื่อ เอ ตอนแรกเราสนิทกันมากๆเลย แบบไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด จนพอหมดกิจกรรมเราก็เร่ิมได้เจอเพื่อนคนอื่นๆและเราก็สนิทกับเพื่อนในกลุ่มมากๆ 3 คนได้แก่เอ บี ซี เราสนิทกันมากจนย้ายไปอยู่หอเดียวกัน เรา บี ซี ต่างมีรถคนละคัน ส่วนเอไม่มี ตอนแรกเราก็ซื้อของมาเยอะมากๆ เราไม่หวงอะไรเลย แบบใช้ของเราได้หมด และเราเป็นคนไม่เรียบร้อย ไม่ค่อยเก็บของ ของเราเริ่มหาย หายแบบอยู่ๆก็หายไป เราก็ไม่คิดอะไรคะ เราก็คิดว่าเพื่อนเราคงเอาไปใช้ แต่วันหนึ่งแหวนทอง2สลิงก็ประมาณ8000-9000ที่แม่เราให้มาหาย ปกติเราจะใส่บ้างไม่ใส่บ้างเพราะมันหนัก เอาจริงๆก็ความผิดเราเพราะเราไม่ค่อยเก็บของตอนแรกไม่สงสัยใครเลยคะ เชื่อใจเพื่อนมากๆ คิดว่าคงทำหายเอง แต่ถามเพื่อนในห้องแล้ว เพื่อนที่เห็นมี2คนคือ เอกับซี ซึ่งซีเป็นคนโยนเข้าไปในแก้วที่ใส่ยางมัดผมคะ คือหายในห้องคะ เราไม่ติดใจอะไรเลย จนมันเริ่มผิดสังเกต เพราะเอใช้เงินเก่งมากซึ่งปกตินางประหยัดมาก และเอก็ใช้เงินต่อไปนี้ เอเป็นคนผมสั้นนางอยากผมยาวนางเลยไปต่อผมประมาณ3000บาทคะ เรานี่พาไปต่อกับบีคะ แล้วมันไม่สวยมันหลุดบ่อยนางก็เอาออกอีก700 บาทราคาประมาณเอานะคะจำไม่ค่อยได้แล้ว) แล้วหลังจากนั้นนางก็ใช้ซื้อเสื้อผ้ามากมาย ซึ่งปกติไม่ ตอนนั้นเราก็คิดนะว่าทำไมใช้เงินเยอะจังแต่เราแค่สงสัยเราไม่พูดคะเพราะเราคิดว่าเพื่อนกันคงไม่ทำหรอกและเราก็รักมันมากเลย เราก็ไม่อยากคิดมาก แม่เราก็โทรมาด่าคะแบบทำไมไม่เก็บของดีดี เพื่อนเอาไปหรือเปล่าไว้ใจได้หรอ เรานี่กลัวแม่ไม่ชอบเพื่อนคะเราบอกทำหายเองแต่แม่ก็รู้ว่ามันหายในห้อง เรื่องนี้ก็ผ่านไปคะ หลังๆเริ่มใช้ของกันมั่วคะ ของเราเริ่มหายเยอะมาก ขนาดเสื้อนิสิตเรายังหายเรามีเสื้อนิสิต 5ตัวครบวันเรียนแต่เราเหลืออยู่ตัวเดียวละเพื่อนๆก็เลยบอกว่าให้เขียนชื่อที่กาของเสื้อนิสิต บีและซีเนี่ยเสื้อคนละยี่ห้อกับเรา แต่เอยี่ห้อเหมือนเรา แต่เมื่อเราไปสังเกตเสื้อนิสิตของเอ คือเหมือนของเรามากเพราะตอนเราซักเราซักมือคะ แล้วก็ใช้แปรงขัดที่คอเสื้อจนกามันหลุ่ยนิดๆแต่กับเขียนชื่อว่าเอ คือมันของเราเลยคะ แต่เราถามเอเอก็บอกว่าของมันคะ มันก็ขัดเช่นกัน เราก็แบบเออเพื่อนกันช่างเหอะคงเข้าใจผิด เราก็ไปซื้อใหม่คะ จากนั้นของที่เราซื้อมาก็ค่อยๆหาย เช่นแปรงปัดหน้า ครีมทาหน้า บราๆ ละเอก็มีแบบที่เราหายคะ แต่เราก็ไม่ไม่สนใจคะไม่อยากทะเลาะซื้อใหม่คะ เราซื้อของมาทุกอาทิตย์ไม่ว่าจะขนมยาสระผม สบู่ ครีมเราซื้อคะ ส่วนเอเอามาจากวัดคะ(ปู่เอเป็นเจ้าอาวาสที่วัดคะแล้วก็ชอบเอาของที่คนมาถวายมาให้เอ)ซึ่งเอไม่เคยซื้ออะไรมาเลยคะ ของฟรีตลอดคะ ใช้ฟรีตลอดคะ เราก็เออๆเพื่อนกัน แต่ของเราก็ยังหายอยู่บ่อยๆ เราสนิทกับบีมากสุดเราเลยถามบีว่ามีของหายบ้างไหม บีบอกไม่ค่อยอะ เพราะเวลาใครหยิบของบีไปใช้บีจะโวยให้เอามาคืนคะ เราก็ไม่อะไรคะ จนวันหนึ่งเราไปกินข้าว. ละเอตามมาที่หลังคะ เอใส่เสื้อเรามา ไม่ได้ขอเราเลยคะ เราก็เลยพูดว่าต่อหน้าเลยคะแต่เอก็ยังคงทำเช่นเดิมคะของเราก็หายเรื่อยๆเราก็จะมารู้อีกทีตอนที่เรามาใช้ เราเริ่มเครียดมากๆคะไม่อยากโทษว่าเพื่อนเอาไป พูดกับใครก็ไม่กล้าพูดแบบได้แค่คิด จนลามไปเรื่องเงินคะ มีวิชาหนึ่งที่เราเรียนกับเอ แต่บีและซีไม่ได้เรียนคะ เรานัดบีไปซื้อรองเท้าเพราะว่าเราจะต้องไปถือป้ายคณะ เรามีงบแค่ 1000บาท พอเราไปเรียนเสร็จก็กลับมาพร้อมเอคะ ละเราก็นอนคะ ง่วงมากก เราเอาเงินไว้ในกระเป๋า พอบีกลับมาเราก็จะไปซื้อรองเท้ากับบีเราขับรถไปครึ่งทางละคะเราบอกบีว่าหยิบเงินให้หน่อยเรามีอยู่1000 บีบอกไม่เห็นมีเลย เราเงิบเลยคะ แบบตังนั่นก็ต้องเอาไปซื้อรองเท้าคะละเหลือก็เอาไว้กินคะคือแบบไม่มีตังเลยคะ มันเป็นต้นอาทิต์ด้วย บีก้เลยให้เรายืมเงินคะ หลังจากนั้นไม่นานเราก็เริ่มเก็บเงินเก็บของมากขึ้น. เราไปซื้อแปรงแต่งหน้ามาเป็นเซทคะมี 9แท่งประมาณ2500คะถามว่าเราแต่งเป็นไหมไม่คะ เราไม่ค่อยแต่งหน้าคะพอดีมันลดราคาเราก็เลยซื้อ ไม่เคยใช้เลยคะละเราก็บอกเพื่อนว่าแม่ซื้อให้ เพื่อนก็อารมแบบแต่งหน้าก็ไม่เป็นซื้อมาเพื่อ?? 55555. เสื้อmangoสีดำ เราซื้อมาใส่1ครั้งเอากลับไปซักคะ กลับมาหอ หายคะคือแบบหายแบบงงคะ หูฟังiphoneเรามี2อันคะของแท้. หายคะ เราก็งงเหลือแต่กล่องหูฟัง. ละเอก็มีหูฟังคะ แบบเหมือนของเราคะ เราก็ไม่อะไรคะ เราถามมันเลยคะ มันบอกของมันคะ เราก็ไม่อยากพูดต่อคะ ต้องดูหน้ามันคะมั่นใจมากกก แล้วช่วงหลังๆนี่เอไม่ค่อยมีเงินคะ ช้อตทุกเดือนยืมเงินเราตลอดคะ เราก็ไม่อะไรคะเราบอกย่มได้ไม่รีบยังไม่ต้องคืนก็ได้คะ (ไม่ทวงก็ไม่คืนคะ) จึงต้องทวงคะแต่ก็ได้คืนคะ เรื่องหอที่อยู่เนี่ยลืมบอก เป็นหอของบี แต่เราอาศัยอยู่ บางครั้งก็ช่วยออกค่าหอบ้าง ช่วงปิดเทอมบีก็จะย้ายหอละหาหอใหม่เพราะหอที่อยู่มันแพงมากค่าน้ำค่าไฟอะเก็บแพง เราก็ตกลงกันว่าใกล้ๆเปิดเทอมค่อยไปหาหอ เพราะเราปิด6เดือนมันเป็นช่วงเข้าอาเซียน ทุกคนกลับบ้าน เหลือเรากับเอ จนเพื่อนอีกคนชื่อดีคะชวนเราไปเที่ยวเกาะเสม็ด เราสนิทกับดีมาตั้งแต่ม.ปลายแล้วอยู่ห้องเดียวกัน ไปนอนบ้านมันบ่อยเวลาสอบ ดีเรียนเก่งบ้านรวย เราอยู่กับเอสองคนก็เลยชวนเอไปด้วย แล้ววันนั้นเราก็เก็บของกลับบ้านด้วยเลย บ้านเราอยู่พัทยาก็ทางผ่านพอดี เราก็ไปเที่ยวกันปกติ จนวันที่กลับ เราก็อาบน้ำเสร็จก่อน แล้วเอก็เข้าไปอาบต่อ ละเราลืมเอาดินสอเขียนคิ้วมา เราก็เลยเอาในกระเป๋าเอ แต่สิ่งที่เราเจอคือแปรงแต่งหน้าของเราที่เราซื้อมา2500 ซึ่งเราอึ่งหันหน้าไปพูดกับดีว่ามันมาอยู่นี่ได้ไง ดีบอกว่าให้ถามมันก่อนว่าของมันหรือเปล่า พอเอออกมาเราก็ถามมันเลย มันบอกว่ามันเก็บได้เราทำตกบนรถ เราก็ไม่คิดไร(โง่นี่เอง) พอกลับบ้านเราก็เอาของที่เก็บมาจากหอออกมาและเราก็เจอกระเป๋าแปรงแต่งหน้าของเรา เปิดดูมันเหลือแค่ 6 แท่งหายไป 3 แท่งรวมกับที่เราได้คืนมา และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือว่าแปรงแต่ละแท่งจะมีปลอกสวมอยู่ ถ้าตกก็ต้องตกทั้งปลอก แต่คือไม่ ปลอกอยู่แต่แปรงหาย เราก็แบบเริ่มใช่ละ จากนั้นเราเริ่มเราให้แม่ฟัง แม่เราบอกว่าให้เราระวัง ก็ไม่ต้องไปอยู่หอเดียวกัน เราก็เริ่มเข้าใจที่ผ่านมาคือเราโง่มากโดน
หลอกทั้งๆที่เราคิดว่ามันเป็นคนดีเป็นเพื่อนที่ดี จากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกัน 6 เดือน เราก็ไปเที่ยวไปนอนบ้านดีคะ เพราะตอนนั้นเพื่อนๆกลับบ้านหมด ดีบ้านมันอยู่แถวมอ เราเลยไปหามันได้ แม่มันสอนให้เราเก็บของ เราไปอยู่บ้านันเราเป็นคนเรียบร้อยขึ้นเยอะเลย พอเปิดเทอมเราก็ย้ายกลับไปอยู่หอเรา(จริงๆมีหอเป็นของตัวเองแต่ให้พี่อยู่อารมณ์อยากอยู่กับเพื่อน) แต่เอกับบีย้ายไปอยู่หอเดียว แล้วเราสนิทกับบีเราก็เลยไปเล่นหอมัน เราก็ไปเจอเสื้อmangoสีดำของเราเรามั่นใจว่าเป็นของเรา เราก็เลยหยิบคืนมาเลยละเราก็บอกมันว่าเราหยิบมา พอเราเจอเอมันบอกว่าของมันซื้อมาที่สยามตอนปิดเทอม แต่ไม่มองหน้าเราพูดแบบมั่นใจมาก เราก็เลยโกหกมันว่าเราจำสัญญาลักษณ์ตรงกาได้ มันก็พูดกับมาว่าสงสัยอันนี้ของเราละของมันอยู่กับพี่ คือสรุปมันเอาของเราไปแต่
คือเราจับได้ละป้ะ อารมณ์แบบ
ได้
ไป เราก็เอือมมากคะ จนไปเจอแปรงที่เหลือคะ เราก็เห้อมากเอาคืนคะไม่บอกด้วยคะเพราะของเราแน่ๆ หลังจากนั้นคะรายต่อไปก็บีคะ ของบีเริ่มหายคะ ทั้งเงินทั้งของและบีก็มีถามเราคะ เราก็พูดหมดคะเรื่องที่เราเจอมา บีก็เจอทำนองเดียวกับเราคะ ทั้งๆที่บีเนี่ยเป็นคนเรียบร้อยคะ เก็บของ เอมักจะชอบเอาของไม่ใช้ไม่บอกไม่เคยขอก่อนเลยประหนึ่งว่าของตนเอง (สันดานเดิม) แบบเดินๆไปเจอเอใส่เสื้อเรามาแบบจะให้พูดว่าถอดของกู คืนมาแบบเนี่ยก็ไม่ใช่คะ เราปล่อยคะเอาไหนได้เอาไปเถอะถือว่าทำบุญ
แบบนี้ให้เรียกว่า"เพื่อน" หรือว่าขโมยดี
ปี 1 เราสอบติดมหาลัยชื่อดังติดทะเล เรามีกลุ่มเพื่อน มีทั้งหมด 8 คนคะ แต่ละคนก็อยู่แต่ละฝ่าย ส่วนมากเพื่อนเราอยู่ฝ่ายหลีดคะ ส่วนเราเป็นดาวคณะคะ ซึ่งก้ไม่ได้ทำอะไรมาก วันๆเราก็แค่ซ้อมการแสดงและเราไม่ค่อยไดคุยกับเพื่อนที่เป็นหลีด เพราะมันซ้อมหนักมาก เราก็เลยสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มชื่อ เอ ตอนแรกเราสนิทกันมากๆเลย แบบไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด จนพอหมดกิจกรรมเราก็เร่ิมได้เจอเพื่อนคนอื่นๆและเราก็สนิทกับเพื่อนในกลุ่มมากๆ 3 คนได้แก่เอ บี ซี เราสนิทกันมากจนย้ายไปอยู่หอเดียวกัน เรา บี ซี ต่างมีรถคนละคัน ส่วนเอไม่มี ตอนแรกเราก็ซื้อของมาเยอะมากๆ เราไม่หวงอะไรเลย แบบใช้ของเราได้หมด และเราเป็นคนไม่เรียบร้อย ไม่ค่อยเก็บของ ของเราเริ่มหาย หายแบบอยู่ๆก็หายไป เราก็ไม่คิดอะไรคะ เราก็คิดว่าเพื่อนเราคงเอาไปใช้ แต่วันหนึ่งแหวนทอง2สลิงก็ประมาณ8000-9000ที่แม่เราให้มาหาย ปกติเราจะใส่บ้างไม่ใส่บ้างเพราะมันหนัก เอาจริงๆก็ความผิดเราเพราะเราไม่ค่อยเก็บของตอนแรกไม่สงสัยใครเลยคะ เชื่อใจเพื่อนมากๆ คิดว่าคงทำหายเอง แต่ถามเพื่อนในห้องแล้ว เพื่อนที่เห็นมี2คนคือ เอกับซี ซึ่งซีเป็นคนโยนเข้าไปในแก้วที่ใส่ยางมัดผมคะ คือหายในห้องคะ เราไม่ติดใจอะไรเลย จนมันเริ่มผิดสังเกต เพราะเอใช้เงินเก่งมากซึ่งปกตินางประหยัดมาก และเอก็ใช้เงินต่อไปนี้ เอเป็นคนผมสั้นนางอยากผมยาวนางเลยไปต่อผมประมาณ3000บาทคะ เรานี่พาไปต่อกับบีคะ แล้วมันไม่สวยมันหลุดบ่อยนางก็เอาออกอีก700 บาทราคาประมาณเอานะคะจำไม่ค่อยได้แล้ว) แล้วหลังจากนั้นนางก็ใช้ซื้อเสื้อผ้ามากมาย ซึ่งปกติไม่ ตอนนั้นเราก็คิดนะว่าทำไมใช้เงินเยอะจังแต่เราแค่สงสัยเราไม่พูดคะเพราะเราคิดว่าเพื่อนกันคงไม่ทำหรอกและเราก็รักมันมากเลย เราก็ไม่อยากคิดมาก แม่เราก็โทรมาด่าคะแบบทำไมไม่เก็บของดีดี เพื่อนเอาไปหรือเปล่าไว้ใจได้หรอ เรานี่กลัวแม่ไม่ชอบเพื่อนคะเราบอกทำหายเองแต่แม่ก็รู้ว่ามันหายในห้อง เรื่องนี้ก็ผ่านไปคะ หลังๆเริ่มใช้ของกันมั่วคะ ของเราเริ่มหายเยอะมาก ขนาดเสื้อนิสิตเรายังหายเรามีเสื้อนิสิต 5ตัวครบวันเรียนแต่เราเหลืออยู่ตัวเดียวละเพื่อนๆก็เลยบอกว่าให้เขียนชื่อที่กาของเสื้อนิสิต บีและซีเนี่ยเสื้อคนละยี่ห้อกับเรา แต่เอยี่ห้อเหมือนเรา แต่เมื่อเราไปสังเกตเสื้อนิสิตของเอ คือเหมือนของเรามากเพราะตอนเราซักเราซักมือคะ แล้วก็ใช้แปรงขัดที่คอเสื้อจนกามันหลุ่ยนิดๆแต่กับเขียนชื่อว่าเอ คือมันของเราเลยคะ แต่เราถามเอเอก็บอกว่าของมันคะ มันก็ขัดเช่นกัน เราก็แบบเออเพื่อนกันช่างเหอะคงเข้าใจผิด เราก็ไปซื้อใหม่คะ จากนั้นของที่เราซื้อมาก็ค่อยๆหาย เช่นแปรงปัดหน้า ครีมทาหน้า บราๆ ละเอก็มีแบบที่เราหายคะ แต่เราก็ไม่ไม่สนใจคะไม่อยากทะเลาะซื้อใหม่คะ เราซื้อของมาทุกอาทิตย์ไม่ว่าจะขนมยาสระผม สบู่ ครีมเราซื้อคะ ส่วนเอเอามาจากวัดคะ(ปู่เอเป็นเจ้าอาวาสที่วัดคะแล้วก็ชอบเอาของที่คนมาถวายมาให้เอ)ซึ่งเอไม่เคยซื้ออะไรมาเลยคะ ของฟรีตลอดคะ ใช้ฟรีตลอดคะ เราก็เออๆเพื่อนกัน แต่ของเราก็ยังหายอยู่บ่อยๆ เราสนิทกับบีมากสุดเราเลยถามบีว่ามีของหายบ้างไหม บีบอกไม่ค่อยอะ เพราะเวลาใครหยิบของบีไปใช้บีจะโวยให้เอามาคืนคะ เราก็ไม่อะไรคะ จนวันหนึ่งเราไปกินข้าว. ละเอตามมาที่หลังคะ เอใส่เสื้อเรามา ไม่ได้ขอเราเลยคะ เราก็เลยพูดว่าต่อหน้าเลยคะแต่เอก็ยังคงทำเช่นเดิมคะของเราก็หายเรื่อยๆเราก็จะมารู้อีกทีตอนที่เรามาใช้ เราเริ่มเครียดมากๆคะไม่อยากโทษว่าเพื่อนเอาไป พูดกับใครก็ไม่กล้าพูดแบบได้แค่คิด จนลามไปเรื่องเงินคะ มีวิชาหนึ่งที่เราเรียนกับเอ แต่บีและซีไม่ได้เรียนคะ เรานัดบีไปซื้อรองเท้าเพราะว่าเราจะต้องไปถือป้ายคณะ เรามีงบแค่ 1000บาท พอเราไปเรียนเสร็จก็กลับมาพร้อมเอคะ ละเราก็นอนคะ ง่วงมากก เราเอาเงินไว้ในกระเป๋า พอบีกลับมาเราก็จะไปซื้อรองเท้ากับบีเราขับรถไปครึ่งทางละคะเราบอกบีว่าหยิบเงินให้หน่อยเรามีอยู่1000 บีบอกไม่เห็นมีเลย เราเงิบเลยคะ แบบตังนั่นก็ต้องเอาไปซื้อรองเท้าคะละเหลือก็เอาไว้กินคะคือแบบไม่มีตังเลยคะ มันเป็นต้นอาทิต์ด้วย บีก้เลยให้เรายืมเงินคะ หลังจากนั้นไม่นานเราก็เริ่มเก็บเงินเก็บของมากขึ้น. เราไปซื้อแปรงแต่งหน้ามาเป็นเซทคะมี 9แท่งประมาณ2500คะถามว่าเราแต่งเป็นไหมไม่คะ เราไม่ค่อยแต่งหน้าคะพอดีมันลดราคาเราก็เลยซื้อ ไม่เคยใช้เลยคะละเราก็บอกเพื่อนว่าแม่ซื้อให้ เพื่อนก็อารมแบบแต่งหน้าก็ไม่เป็นซื้อมาเพื่อ?? 55555. เสื้อmangoสีดำ เราซื้อมาใส่1ครั้งเอากลับไปซักคะ กลับมาหอ หายคะคือแบบหายแบบงงคะ หูฟังiphoneเรามี2อันคะของแท้. หายคะ เราก็งงเหลือแต่กล่องหูฟัง. ละเอก็มีหูฟังคะ แบบเหมือนของเราคะ เราก็ไม่อะไรคะ เราถามมันเลยคะ มันบอกของมันคะ เราก็ไม่อยากพูดต่อคะ ต้องดูหน้ามันคะมั่นใจมากกก แล้วช่วงหลังๆนี่เอไม่ค่อยมีเงินคะ ช้อตทุกเดือนยืมเงินเราตลอดคะ เราก็ไม่อะไรคะเราบอกย่มได้ไม่รีบยังไม่ต้องคืนก็ได้คะ (ไม่ทวงก็ไม่คืนคะ) จึงต้องทวงคะแต่ก็ได้คืนคะ เรื่องหอที่อยู่เนี่ยลืมบอก เป็นหอของบี แต่เราอาศัยอยู่ บางครั้งก็ช่วยออกค่าหอบ้าง ช่วงปิดเทอมบีก็จะย้ายหอละหาหอใหม่เพราะหอที่อยู่มันแพงมากค่าน้ำค่าไฟอะเก็บแพง เราก็ตกลงกันว่าใกล้ๆเปิดเทอมค่อยไปหาหอ เพราะเราปิด6เดือนมันเป็นช่วงเข้าอาเซียน ทุกคนกลับบ้าน เหลือเรากับเอ จนเพื่อนอีกคนชื่อดีคะชวนเราไปเที่ยวเกาะเสม็ด เราสนิทกับดีมาตั้งแต่ม.ปลายแล้วอยู่ห้องเดียวกัน ไปนอนบ้านมันบ่อยเวลาสอบ ดีเรียนเก่งบ้านรวย เราอยู่กับเอสองคนก็เลยชวนเอไปด้วย แล้ววันนั้นเราก็เก็บของกลับบ้านด้วยเลย บ้านเราอยู่พัทยาก็ทางผ่านพอดี เราก็ไปเที่ยวกันปกติ จนวันที่กลับ เราก็อาบน้ำเสร็จก่อน แล้วเอก็เข้าไปอาบต่อ ละเราลืมเอาดินสอเขียนคิ้วมา เราก็เลยเอาในกระเป๋าเอ แต่สิ่งที่เราเจอคือแปรงแต่งหน้าของเราที่เราซื้อมา2500 ซึ่งเราอึ่งหันหน้าไปพูดกับดีว่ามันมาอยู่นี่ได้ไง ดีบอกว่าให้ถามมันก่อนว่าของมันหรือเปล่า พอเอออกมาเราก็ถามมันเลย มันบอกว่ามันเก็บได้เราทำตกบนรถ เราก็ไม่คิดไร(โง่นี่เอง) พอกลับบ้านเราก็เอาของที่เก็บมาจากหอออกมาและเราก็เจอกระเป๋าแปรงแต่งหน้าของเรา เปิดดูมันเหลือแค่ 6 แท่งหายไป 3 แท่งรวมกับที่เราได้คืนมา และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือว่าแปรงแต่ละแท่งจะมีปลอกสวมอยู่ ถ้าตกก็ต้องตกทั้งปลอก แต่คือไม่ ปลอกอยู่แต่แปรงหาย เราก็แบบเริ่มใช่ละ จากนั้นเราเริ่มเราให้แม่ฟัง แม่เราบอกว่าให้เราระวัง ก็ไม่ต้องไปอยู่หอเดียวกัน เราก็เริ่มเข้าใจที่ผ่านมาคือเราโง่มากโดนหลอกทั้งๆที่เราคิดว่ามันเป็นคนดีเป็นเพื่อนที่ดี จากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกัน 6 เดือน เราก็ไปเที่ยวไปนอนบ้านดีคะ เพราะตอนนั้นเพื่อนๆกลับบ้านหมด ดีบ้านมันอยู่แถวมอ เราเลยไปหามันได้ แม่มันสอนให้เราเก็บของ เราไปอยู่บ้านันเราเป็นคนเรียบร้อยขึ้นเยอะเลย พอเปิดเทอมเราก็ย้ายกลับไปอยู่หอเรา(จริงๆมีหอเป็นของตัวเองแต่ให้พี่อยู่อารมณ์อยากอยู่กับเพื่อน) แต่เอกับบีย้ายไปอยู่หอเดียว แล้วเราสนิทกับบีเราก็เลยไปเล่นหอมัน เราก็ไปเจอเสื้อmangoสีดำของเราเรามั่นใจว่าเป็นของเรา เราก็เลยหยิบคืนมาเลยละเราก็บอกมันว่าเราหยิบมา พอเราเจอเอมันบอกว่าของมันซื้อมาที่สยามตอนปิดเทอม แต่ไม่มองหน้าเราพูดแบบมั่นใจมาก เราก็เลยโกหกมันว่าเราจำสัญญาลักษณ์ตรงกาได้ มันก็พูดกับมาว่าสงสัยอันนี้ของเราละของมันอยู่กับพี่ คือสรุปมันเอาของเราไปแต่ คือเราจับได้ละป้ะ อารมณ์แบบได้ไป เราก็เอือมมากคะ จนไปเจอแปรงที่เหลือคะ เราก็เห้อมากเอาคืนคะไม่บอกด้วยคะเพราะของเราแน่ๆ หลังจากนั้นคะรายต่อไปก็บีคะ ของบีเริ่มหายคะ ทั้งเงินทั้งของและบีก็มีถามเราคะ เราก็พูดหมดคะเรื่องที่เราเจอมา บีก็เจอทำนองเดียวกับเราคะ ทั้งๆที่บีเนี่ยเป็นคนเรียบร้อยคะ เก็บของ เอมักจะชอบเอาของไม่ใช้ไม่บอกไม่เคยขอก่อนเลยประหนึ่งว่าของตนเอง (สันดานเดิม) แบบเดินๆไปเจอเอใส่เสื้อเรามาแบบจะให้พูดว่าถอดของกู คืนมาแบบเนี่ยก็ไม่ใช่คะ เราปล่อยคะเอาไหนได้เอาไปเถอะถือว่าทำบุญ