สวัสดีค่า ตอนนี้เป็นแม่แมวมือใหม่ค่ะ

เกริ่นก่อนว่า ขอใช้ว่าเป็น "แม่แมว" แทน "ทาสแมว" เพราะไม่ค่อยชอบคำว่า ทาสแมวเท่าไหร่
จากที่เคยเลี้ยงสัตว์มาหลายชนิด และได้สัมผัสแมวข้างบ้านที่ชอบหลงมาบ้านเราแค่เพียงผิวเผิน ก่อนจะรับเจ้าตัวนี้มาเลี้ยงดู เคยมีความคิดว่าแมวนี่ นิสัยหยิ่งใช้ได้จนถึงขั้นเกินไปเลยนะ จึงปฏิญาณไว้กับตัวเองว่า ถ้าวันไหนได้เลี้ยงแมว เราจะไม่ยอมเป็นทาสมันเด็ดขาด) ก็เลยพยายามสะกดจิตตัวเองทุกวันว่า เราไม่ใช่ทาสมันน้าาาา แต่ยิ่งได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ พฤติกรรมก็เหมือนจะสวนทางมากยิ่งขึ้น >< ยิ่งกับลูกแมวนี่ มันดูบ้องแบ๊ว อินโนเซนต์ น่าเอ็นดูซะจนเราต้องเข้าหา ปฏิเสธหรือโกรธมันไม่ลงจริงๆเลย




เพราะอะไร และทำไมจึงได้เลี้ยงแมวตัวนี้?

ต้องย้อนกลับไปที่แมวข้างบ้าน ตั้งแต่เมื่อกลางปีก่อนที่ชอบหลงมาบ้านเราบ่อยๆ จนหายหน้าไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาค่ะ ไปสืบข่าวได้ความมาว่า เพราะเป็นช่วงฮีท และเจ้าของไม่ได้ทำหมันให้ เลยหายไปแล้วไปลับ (ไม่รู้ว่าจะถูกใครอุ้มไปหรือเปล่า แต่ทุกวันนี้ก็ภาวนาขอให้นางอยู่รอดปลอดภัยดีอยู่ T.T) ทำให้เราอยากลองเลี้ยงแมวดูบ้าง
รู้สึกว่าแมวก็น่ารักดีไปอีกแบบ จริงๆ ที่ผ่านมาเป็น dog person มากกว่า ไม่ได้เกลียด ไม่ได้กลัวแมว แต่ก็ไม่ได้รัก รู้สึกเฉยๆ แต่พอได้สัมผัสแมวจริงๆ ก็รู้สึกว่า เอออ มันก็หยิ่งจริงๆนั่นแหละ แต่เค้าก็มีมุมน่ารักของเค้าเหมือนกัน
ถึงจะอยากเลี้ยงแค่ไหน ก็หยุดตัวเองไว้ เพราะรู้ว่า ถ้าเลี้ยงเมื่อไหร่ เราจะต้องมีความรับผิดชอบดูแลเค้าไปตลอดชีวิต และการอยู่เมืองนอกก็ไม่ได้ทำให้อะไรง่ายดายเลยยย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายของสัตว์เลี้ยง อย่างหมาหรือแมว

แต่สุดท้าย เหมือนโชคชะตากำหนด มีแม่แมว ของ ย่าของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน (จัดลำดับยากมาก 555) คลอด คอกนึง 6 ตัวแน่ะ แล้วเค้าบอก เค้าป่วยและดูแลทั้งหมดไม่ไหว จะส่งไปให้ fourrière (animal pound) ที่นี่ ถ้ามีคนรับเลี้ยงไปก็ดี แต่ถ้าไม่มี แล้วแมวเยอะ ก็คงถูก euthanasia ฉีดยาตาย T_T เราก็เลยขอรับเลี้ยงมาละกัน ตอนแรกว่าจะเป็นแค่ foster parent แต่เลี้ยงไปเลี้ยงมา มันก็ทำให้รักและผูกพันโดยไม่รู้ตัว

ก่อนที่บทนำจะยาวไปมากกว่านี้ ขอแนะนำเจ้าตัวแสบก่อนเลยค่ะ ชื่อ Charlot คับ (อ่านว่า ชาร์โล นะคะ)



เป็นแมวตัวผู้ อายุ 2 เดือนครึ่ง - 3 เดือน เกิดที่ฝรั่งเศส ตัวลาย ขนสีส้ม/ขาว แม่สีเหมือนวิเชียรมาศ แมวสยามบ้านเรา ส่วนพ่อน่าจะเป็นแมวธรรมดาสไตล์ european shorthair แต่ด้วยความที่ไม่ได้มี pedigree อะไร Charlot ก็เลยถือว่าเป็นแมว domestic ทั่วไป



ก่อนอื่นเลย นี่คือสิ่งที่ไปซื้อเตรียมมา เพื่อต้อนรับน้องแมวเข้าบ้านค่ะ



สิ่งหลักๆ ที่เราคิดว่า ควรต้องมี ก่อนนำแมวเข้าบ้าน คือ

1. กระบะทราย หรือห้องน้ำแมว และทรายแมว เอาไว้ให้น้องทำธุระหนัก-เบา ของเราเลือกแบบคริสตัล ไม่ได้ใช้ทราย เพราะเลี้ยงอยู่ใน apartment ไม่อยากมีปัญหาเรื่องฝุ่นค่ะ
2. อาหารแมว ไม่ว่าจะเป็นอาหารเปียก หรืออาหารเม็ด ได้หมดเลย แต่ของเราขอเพิ่มนมแมวไปด้วย เพราะน้องยังไม่โตเต็มที่มากเท่าไหร่ แนะนำให้ใช้อาหารยี่ห้อเดียวกับที่น้องแมวเคยกินมาก่อน จะได้ลดปัญหาเรื่องการแพ้อาหาร, ท้องเสียออกไปค่ะ
3. ควรเตรียมของเล่นแมวต่างๆ หรือคอนโดแมวที่มีที่ลับเล็บ เอาไว้บ้าง เพราะหลังจากที่น้องแมวหายกลัวบ้านใหม่แล้ว พลังงานจะมาเยอะมากก มีของเล่นให้เค้าบ้าง จะได้ไม่เบื่อ หรือทำลายข้าวของเราไปซะก่อน ของเราเนื่องจากพื้นที่ในบ้านมีจำกัด เลยหาเป็นคอนโดแมวเตี้ยๆ มีที่ฝนเล็บนิดหน่อย
4. ปลอกคอแมว ใส่ไว้เพื่อความสบายใจ เผื่อหลุดไป อย่างน้อยจะได้ไม่ถูกทึกทักว่าเป็นแมวข้างถนน แต่แนะนำให้เลือกแบบนิรภัย ที่ปลดได้ง่ายๆ เผื่อแมวเราซน ไปปีนป่ายอะไรแล้วติด จะได้ไม่รัดคอเค้า
และ 5. กระเป๋าใส่แมว เอาไว้เวลาไปพาน้องกลับมาบ้าน หรือเดินทางไปไหน จะได้สะดวกค่ะ

ที่เหลือก็เบ็ดเตล็ด สำคัญไม่แพ้กัน แต่ทยอยๆซื้อก็ได้ค่ะ เช่น จานข้าว ใส่น้ำดีๆ โรลกระดาษกาวเอาไว้กำจัดขนแมว ตัวดับกลิ่นบนทรายแมว แปรงหวีขน ขนมเอาไว้เป็นอาหารว่างหรือรางวัลตอนฝึกแมว หญ้าแมว น้ำยาทำความสะอาดหูแมว ฯลฯ

ภาพข้างล่างนี้ เป็นภาพวันแรกที่เราไปรับ Charlot มาค่ะ


2 ภาพบนสุด คือ ตอนไปรับ Charlot ที่บ้านเพื่อนค่ะ
ภาพขวาบนสุด คือ พี่น้องของ Charlot ที่เกิดมาจากคอกเดียวกัน แต่คนละสีเลยยย ไม่รู้ว่าคนละพ่อด้วยหรือเปล่า >//<
โชคดีที่ Charlot ไม่มีปัญหากับการใส่ปลอกคอเลย ช่วงแรกๆ ยังงงๆ พยายามจะเอาออกอยู่บ้าง แต่หลังจากใส่ไป 2 ชม. นางก็ชินค่ะ
และ 2 ภาพล่าง ตอนแรกภูมิใจมาก มาถึงก็เล่นคอนโดแมวเลย รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป แต่ดีใจได้ไม่นาน เพราะหลังจากนั้น น้องก็แทบจะไม่แตะเลย -_-



วันแรกที่มาถึงบ้าน น้องมุดไปอยู่ใต้เตียงก่อนเลยค่ะ กว่าจะออกมา ใช้เวลา ประมาณ 1 ชม. จากที่วิเคราะห์นิสัย เป็นแมวขี้เล่น ช่างสงสัย แต่ก็ขี้กลัวในเวลาเดียวกัน  ช่วงแรกๆ เลยกลัว และหนีตลอดเวลาที่เราจะเข้าไปใกล้

แต่หลังจากผ่านไปวันนึง ก็เริ่มออกสำรวจบ้าน ไว้ใจเรา และขี้เล่นมากขึ้น





การเลี้ยงแมวเด็กครั้งแรกนี้ ทำให้รู้ว่าแมวเด็ก พลังเยอะมากกกกก ยิ่งดึก ยิ่งคึก แล้วเวลานางคึกที มีครั้งนึง เล่นประมาณ 4 ชม. แทบจะไม่หยุดเลย กระโดดไปมา ทั่วบ้าน ถ้าทนได้ หมดจากช่วงเวลานี้ไป จะหมดพลังงาน เหมือนแบตสีแดง ไฟอ่อน นอนยาว ซึ่งนางจะน่ารักมากกก็ช่วงนอนนี่แหละ จับแกล้งอะไรนิดๆหน่อย ก็จะไม่หือ ไม่อือเลย เกาพุงได้ จูบหอมได้ กางเล็บนางเล่นๆ เป็นเด็กดีไปเลย 5555

อีกประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ คือ ถึงเราจะซื้อของเล่นแมวมาให้ ถูกใจเราแค่ไหน  ก็ไม่ได้แปลว่าจะถูกใจแมวเรา -"-


อย่างในรูปข้างบนนี้ ซื้อมาให้หลายอย่าง แต่ที่นางชอบและใช้จริงๆ มีแค่ตุ๊กตาไว้ลับฟันแมว กับที่ลับเล็บแบบกระดาษเท่านั้น

นอกจากความเรื่องมากและนิสัยหยิ่งๆ ของแมวแล้ว การเลี้ยงแมวเด็ก รู้สึกทำให้เหมือนได้รับการฝึกแบบมีลูกน้อยอีกคนเลยทีเดียว
ช่วงแรกๆ ก็ให้อาหาร ให้ความรัก แล้วก็ต้องสอน ให้รู้ว่าอะไรทำได้ ไม่ได้ ที่ไหนปีนได้ ที่ไหนเป็นสถานที่ต้องห้าม
ซึ่งก็โชคดี ที่ถึง Charlot จะซนมากๆๆในบางคราว ก็ยังพอเชื่อฟังอยู่บ้าง เวลาเราห้ามไม่ให้ทำอะไร

ส่วนตัวใช้วิธี พูดสั้นๆ ว่า Non หรือ ไม่ แบบห้วนๆ และเสียงดังหน่อย ให้รู้ว่าเป็นการดุ แต่บางครั้งนางก็ยังไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ ตอนนี้เลยเริ่มมีการใช้ที่ฉีดน้ำฉีดบนตัว บวกเพิ่มเข้าไปด้วย ซึ่งสองวิธีนี้รวมกันตอนนี้ ถือว่าเวิคเลย สำหรับเราค่ะ

มาพูดถึงช่วงเวลาแฮปปี้ๆ บ้าง ช่วงเวลาที่ชอบมากที่สุดในการเลี้ยงแมว ก็คือช่วง snuggle time นี่แหละ ซึ่งจริงๆควรจะเป็นช่วงแมวอ้อนเรา แต่ตอนนี้ยังเป็นเราที่ต้องอ้อนแมวอยู่ !!


ชอบดูตอนนางหลับด้วย ดูอินโนเซนต์ ปราศจากกรงเล็บอันแสนจะทำให้เราเจ็บปวด ไร้พิษสงดี

อีกวิธีที่แบ่งเบาพลังงานการเล่นของเรา คือ ให้เล่นกับ ipad หรือหน้าจอคอมใหญ่ๆค่ะ
บังเอิญที่บ้านมีหน้าจอใหญ่ๆ อยู่อันนึง ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ เลยให้นางเล่นจับหนูเป็นพักๆ ช่วงเวลาเราหมดแรงจะเล่นแล้ว
แต่แนะนำให้หาของเล่นจริงๆ ให้นางจับต้องได้ หลังจากเล่นบนหน้าจอด้วย เพราะส่วนใหญ่ แมวอาจเสียเซลฟ์ เครียดได้ ที่ทำไมลงทุนลงแรงตะครุบจับเท่าไหร่ ก็ไม่ได้เหยื่อซักที