Makeup Artist Diary เรื่องเล่าของอาชีพช่างแต่งหน้า อาชีพที่พี่เลือก อาชีพที่พี่ทำ อาชีพที่พี่รัก

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้มีเวลาว่างนิดหน่อยมานั่งเขียนเรื่องราวในเส้นทางการทำอาชีพ Makeup Artist ของพี่เองให้ทุก  ๆ ได้อ่าน เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่พี่เลือกเดินเองในเส้นทางอาชีพนี้ พี่เคยทำงานมาแล้วหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคุณครูสอนศิลปะเด็ก AE นักทำภาพประกอบ และสุดท้ายก่อนหันเหชีวิตอย่างถาวรคือ Graphic Designer ทุกอาชีพที่พี่ทำล้วนเป็นสิ่งที่พี่รักและสนุกกับงานมาก ๆ แต่มันไม่มีความอิสระและคล่องตัวพอที่พี่จะทำแล้วเลี้ยงลูกน้อยจอมซนทั้ง 2 คนได้ พี่อยู่ในองค์กรที่ดีและมั่นคงทีเดียวก่อนลาออกทำตามใจรักและความฝันน้อย ๆ ของพี่ แต่มันมีอุปสรรคเกิดขึ้นนิดหน่อย นั่นคือความเบื่อหน่ายในหน้าที่การงานและความเจ็บป่วยเรื้อรังที่สะสมมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบจัดการ

พี่เป็นโรคพังพืดรัดเส้นประสาทและหมอนรองกระดูกเสื่อม เนื่องจากการนั่งหน้าคอมเป็นเวลานาน และการจับเมาส์คลิ๊กตลอดเวลา ทรมานมาก ๆ เลยนะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เอามือวางบนเมาส์แล้วทำงานเนี่ย อย่างกะมีใครเอาไฟฟ้ามาชอตและเทน้ำแข็งราด มันปวด มันชา มันจี๊ดไปหมดทั้งตัว ปรึกษาหมอเรียบร้อย คุณหมอใจดีจังแนะนำว่า เปลี่ยนงานได้เปลี่ยนนะคะ จะได้ไม่ทุกข์ทรมานแบบนี้อีก อายุก็มากขึ้นทุกวัน ตอนเริ่มรับการรักษาก็ 32 แล้วด้วย เปลี่ยนงานก็ใช่จะหาง่ายและคนวัย 30 กว่าจะมีทางเลือกในสายงานอะไรมากมายเหมือนเก่า ไปเริ่มต้นกับงานสายอื่นในบริษัทใหม่ ก็ไม่มีประสบการณ์งานด้านอื่น ๆ เลย ทำงานกราฟฟิกมา 10 กว่าปี จะไปเริ่มอาชีพอะไรในองค์กรไหน หางานใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานเดิมนานมาก ไม่มีที่ไหนเรียกเข้าทำงาน 55 เศร้า เลยตัดสินใจลาออก เอาเงินก้อนที่เก็บไว้ไปทำตามใจฝันและเริ่มจริงจังที่จะทำให้เป็นอาชีพ

ก่อนลาออกจากองค์กรเก่า ก็ได้เริ่มกรุยทางไว้แล้ว ถามว่าทำไมอยากทำอาชีพนี้ คำเดียวเลย “รัก” อยากแต่งหน้าตัวเองให้สวย ๆ เป็น อยากทำให้คนรอบข้างและคนทั่วไปสวยขึ้นด้วยมือเรา อยากทำงานสร้างสรรค์โดยไม่พึ่งคอมพิวเตอร์ และได้ระบายสีตามใจนึกในงานที่ไม่ต้องพึ่งการตีกรอบ สุดท้ายคือเลี้ยงตัวเองได้อย่างไม่ลำบาก มีอิสระมากพอที่จะเลือกวันและเวลาทำงาน ได้อยู่กับลูกมากขึ้น

จากวันนั้นถึงวันนี้ 3 ปีเต็มละค่ะ กับอาชีพที่รัก

Freelance Makeup Artisit



PART 1
เรียนแต่งหน้า

เริ่มมองหาไปหลายที่ แต่ดูจากเงินและความพร้อมของตัวเองแล้วไปได้ไม่ไกลมาก เลยเลือกที่เราไหวก่อนลำดับแรก

MTI
สถาบันสอนแต่งหน้าเก่าแก่ของไทย
ค่าเรียน 6,500 บาท (สมัยพี่เรียน) ระยะเวลา 3 วัน
เหมาะสำหรับผู้มีพื้นฐานการแต่งหน้าอยู่แล้ว และอยากเรียนแต่งตาให้สวยขึ้น เก่งขึ้น

พี่มาเรียนเฉพาะคอร์สตา Eyes Expert กับที่นี่ เนื่องจากไม่มีเงินไปลงเรียนคอร์สเต็ม มันแพง 555 งบหมด มีครูสอนทั้งสิ้น 3 ท่าน เปลี่ยนกันสอนคนละวิชา วันละ 1 คน ภาคเช้าเรียนทฤษฎี ภาคบ่ายเรียนปฏิบัติ ผลัดกันแต่งหน้ากับเพื่อน ๆ ในคลาส ในชั้นเรียนนี้พี่ไม่สนิทกับใครเท่าไหร่ เพราะเพื่อน ๆ คนอื่นจบจาก MTI ล้วน ๆ รู้จักสนิทสนมกับครูและกับเพื่อนในคลาสกันมาก่อน

ที่นี่จะสอนเป๊ะจริง ๆ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยภาคเช้าครูท่านจะสอนภาคทฤษฎีพร้อมทั้งแต่งหน้าสาธิตให้ดู คุณครูเก่งมาก ๆ ภาคบ่ายจะเป็นการเรียนปฏิบัติ ผลัดกันแต่งตากับเพื่อน แต่ตอนเรียนปฏิบัติครูไม่ค่อยใส่ใจเด็กเท่าที่ควร ครูจะเดินดูแล้วก็ไป ถ้าสงสัยก็มาทำให้ดูแบบไว ๆ แล้วก็ไม่ยืนดูตอนเราทำเลย ก็ทำแบบมั่ว ๆ ไป ตามความเข้าใจของตัวเองไม่รู้ว่าถูกหรือผิด 55 แต่เทคนิคครูนั้นแพรวพราวมากมาย มันทำให้พี่รู้เลยว่า ความรู้ที่เรารู้ตอนนนี้เหมือนเราไม่รู้อะไรเลย การแต่งตานั้นทำให้คนคนนึงเปลี่ยนไปได้เป็นคนละคน แค่ 3 วัน กลับไปทำงานพี่นี่แต่งตาสวยขึ้นอย่างอัศจรรย์ จนมีลูกเพจและเพื่อนบอกเลยว่า แกไปทำอะไรมา ทำไมแต่งตาสวยจนจำไม่ได้ (ภูมิใจ ยืดจนพุงหาย) แต่คอร์สนี้สอนเฉพาะการแต่งตานะคะ อย่างอื่นไม่สอนเลยจ้า

หลังจากนี้ก็ทำงานรับงานมาเรื่อย ๆ เก็บเงินที่ได้มาจากการทำงานตั้งใจจะไปเรียนคอร์สเต็มกับ MTI ให้ได้ เพราะประทับใจผลที่ตามมาจากการทำงานจริง แต่งตาสวยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ห่วยตลอดกาลคือคิ้ว พี่เขียนคิ้วได้ง่อยมาก กลับไปเรียนซ้ำเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ เพราะพี่ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นยังไง ตอนพี่เรียนพี่ก็ไม่เข้าใจหลักการเขียนคิ้วเลย ให้เพื่อนสอนก็ไม่เข้าใจ มันโมโหเราอีก และก็ไม่รู้วิธีฝึกด้วย (ไม่ขยันไง ขี้เกียจ) และพี่ก็เลยดิ้นรนหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ จนมาเจอบลอคบลอคนึง จากจุดเริ่มต้นที่พี่ได้อ่านบลอคบลอคนี้ มันทำให้พี่เป็นบ้า อยากทำให้ได้อย่างที่น้องเจ้าของบลอคทำ อ่านทุกคำที่น้องเขียนแล้วมันเกิดแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่มีวันนี้ ขอบคุณน้องจูน Jelly fish fat eyes มาก ๆ ที่หนูเขียนเรื่องราวดี ๆ และการไปเรียนแต่งหน้าของหนู มันเปิดโลกใหม่พี่เลย

ดังนั้นเมื่อความบ้าของคนเราไม่สิ้นสุด พี่เลยตามน้องจูนมาที่นี่ ที่เรียนแต่งหน้าที่ดีที่สุดของพี่ และที่นี่เองที่ทำให้พี่ก้าวขึ้นสู่ความเป็นมืออาชีพของจริง

IMC International Makeup Center

ราคา 75,000 บาท (สมัยพี่เรียน) Intensive Course ระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง เรียนเต็มวัน จ-ศ
เหมาะสำหรับบบุคคลทั่วไปที่อยากทำอาชีพนี้อย่างจริงจัง ต้องการความเป็นมืออาชีพ มีเวลามากพอและทุ่มเท และต่อยอดในการทำงานทั่วโลก

เนื่องจากราคาสูงมากกกกกก (ขอบคุณสามีพี่มาก ๆ ที่ช่วยพี่จ่ายค่าเรียนครึ่งนึง) พี่เลยตั้งใจเรียนที่สุด เอาให้คุ้ม 555 ที่นี่มีครู 2 ท่าน (ซึ่งพี่รักและเคารพท่านมาก ๆ รวมถึงสนิทที่สุดในบรรดาครูทุกคนที่เคยเรียนมา) ที่นี่สอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยภาคเช้าครูท่านจะสอนภาคทฤษฎีพร้อมทั้งแต่งหน้าสาธิตให้ดู สอนได้ละเอียดมาก ๆ พอตอนบ่ายก็จับคู่กันปฏิบิติได้ เราเรียนกันตั้งแต่พื้นฐาน เรียนเรื่องโครงสร้างผิว แนะนำผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้แต่งหน้าทุกตัว ด้วยตัวหลักสูตรเองเป็นหลักสูตรสากล พวกเราเลยได้เรียนการแต่งหน้าที่หลากหลายมาก ๆ เรียนตั้งแต่การแต่งหน้าพื้นฐาน การแต่งหน้าตามยุคต่าง ๆ การแต่งหน้าถ่ายภาพในสตูดิโอ การแต่งหน้าละครเวที การแต่งหน้านางโชว์ การแต่งหน้าผู้ชาย การแต่งหน้างานในห้องส่ง การแต่งหน้าประกวด การแต่งหน้าเพื่องานละครและภาพยนตร์ การแต่งหน้าเพื่อภาพขาวดำ การแต่งหน้าเพื่อสื่องานพิมพ์ การแต่งหน้ารันเวย์ เยอะมากกกกกก

ด้วยระยะเวลาการเรียนถึงเดือนครึ่ง เลยทำให้พี่ได้ฝึกทุกวันติดต่อกัน จากที่เขียนคิ้วไม่ได้เลย ก็มาเขียนคิ้วได้ที่นี่ ทุกวันครูจะให้พวกเราฝึกอย่างหนัก ผิดก็ให้แก้ไขเดี๋ยวนั้นทันที และทำใหม่ไปเรื่อย ๆ ซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะถูก มีการออกแบบ face chart      ออกแบบงานแต่งหน้า เสื้อผ้า ทรงผมให้เข้ากับการแต่งหน้าของเรา ทำการบ้านหนักมาก แต่ก็สนุกมาก ๆ เช่นกัน มันทำให้พวกเราที่เรียนหลุดออกจากกรอบการเรียนแต่งหน้าแบบเดิม ๆ โดยสิ้นเชิง พวกพี่เรียนกันโดยไม่มีแพทเทิร์นใด ๆ ตายตัว ทุกอย่างดิ้นได้ ด้นสดได้ ตามแต่ที่เราเห็นสมควร ที่นี่สอนให้พวกเราคิดและทำ ไม่ใช่ทำๆๆๆๆๆ ทำตามกันโดยไม่ใช่สมอง ดังนั้นเรียนจบมา นร.ที่นี่จึงมีลายเซ็นเป็นของตัวเอง แต่งหน้าตามที่ตัวเองถนัด ดูปุ๊บรู้ปั๊บงานใคร สิ่งที่พี่ไม่มีวันลืมเลย คือคำสอนของครูทั้งคู่จากที่นี่ ทุกคำที่ครูพูดมันทั้งฮาทั้งจิกกัดและฝังรากลงในใจแบบชนิดจำจนตาย ครูให้ทั้งกำลังใจและดุเด็ดเผ็ดมันเวลาที่นักเรียนทำผิดพลาด ระหว่างเรียนครูจะพาพวกพี่ออกไปฝึกงานจริง ทำงานจริงในงานแฟชั่นต่าง ๆ ในกองถ่าย ในกองสตูดิโอ ได้เรียนรู้เรื่องวิชาการถ่ายภาพและการเกล้าผมเสริมมาด้วย อยู่ในหลักสูตร คลอบคลุมทีเดียวล่ะ ทุกวันนี้พวกพี่จบมานานมากแล้ว ครูก็ยังพาไปทำงานด้วยสม่ำเสมอ บอกเลยว่าครูที่นี่ไม่เคยทอดทิ้ง นร.แม้แต่คนเดียว ทุกคนได้ทำงานที่ครูพาไปอย่างทั่วถึง ไม่มีแบ่งว่าลูกรักลูกชัง หากคุณไม่ทิ้งการแต่งหน้า IMC ก็ไม่ทิ้งคุณ ครูบอกไว้ก่อนจบ ซึ้งงงงงง และที่ IMC มีใบรับรองเป็นแบบใบรับรองนานาชาติ คือเราสามารถท่องโลกท่องจักรวาลไปสมัครงานแต่งหน้าได้ทั่วโลก

ด้วยระยะเวลาที่เรียนนานพอควร ทำให้สนิทกับเพื่อนในคลาสมาก ๆ ทุกวันนี้เราจับกลุ่มกันเป็นทีมแต่งหน้า รวมรุ่นพี่รุ่นน้องจากหลาย ๆ รุ่นของ IMC ไว้ด้วยกัน มีงานก็พากันไป สนุกสนานกลมเกลียว ไม่มีคู่แข่ง ไม่มีศัตรู มีแต่มิตรที่ดีที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูล สิ่งสำคัญคือมิตรภาพนี่ล่ะค่ะ คอนเนคชั่นของอาชีพนี้ สำคัญมาก ๆ ถ้าเรายิ่งมีเครือข่ายกว้างมากเท่าไหร่ งานเราก็จะเยอะตามมากขึ้นเท่านั้น เพราะเพื่อนดึงเพื่อน ก็พากันเจริญรุ่งเรือง

พี่ได้ความรู้จากที่นี่มากมาย มันทำให้การทำงานของพี่ไปได้ดีมาก ๆ เป็นหนี้บุณคุญครูทั้งสองรวมถึงเพื่อน ๆ อย่างชนิดที่ตายไปก็ใช้ไม่หมด การแต่งหน้าพี่แต่งได้สวยแบบก้าวกระโดด จากแค่แต่งพอได้กลายเป็นแต่งสวยระดับมืออาชีพทำกันจริง ๆ เพราะอะไร เพราะเรามีโอกาสได้เรียนรู้เยอะ ได้ฝึกเยอะ ได้แต่งหน้าทุกแนวเท่าที่การแต่งหน้าบนโลกนี้จะมี (ยกเว้นการแต่งเอฟเฟกซ์ ไม่มีสอนค่ะ) ทุกวันนี้พี่ไม่กลัวเลยนะ มาเลย รูปหน้าแบบไหน แต่งหน้าแบบอะไร ให้คิดให้ออกแบบเองใช่ไหม พี่ทำได้ครบทุกอย่าง ตลอดระยะเวลาที่เรียนมา ครบถ้วนคุ้มค่าทุกนาทีจริง ๆ เงินที่เสียไปเกินคุ้มกับสิ่งที่ได้รับกลับมาเสียอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่