(2 พ.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น. พร้อมด้วย ตำรวจสืบสวน สน.ดอนเมือง นำตัวนายพิชิต อายุ 23 ปี ผู้ที่กระทำความผิดฐานแจ้งข้อความ หรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการแจ้งนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นที่อยู่ในท่าอากาศยานหรืออยู่ในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการ ต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ซึ่งถือว่าเป็นผู้ต้องหาคนแรก ที่ถูกจับหลังมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว มาแถลงข่าว
หลังจากที่ นายพิชิต ซึ่งได้โดยสารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL8536 จากท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวานที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ซึ่งนายพิชิตได้กล่าวแซวกับสาวพนักงานต้อนรับ (แอร์โฮสเตส) บนเครื่องบิน ว่า มีระเบิดอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง ทำให้เที่ยวบินต้องถูกยกเลิก เพื่อทำการตรวจสอบกระเป๋าผู้โดยสารทุกใบหมด
ทั้งนี้ นายพิชิต กล่าวถึงสาเหตุที่พูดออกไปว่า ไม่รู้กฎหมายและได้พูดแซวแอร์โฮสเตสเพราะความคึกคะนองเท่านั้น...
"ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผม ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและเสียหาย การที่ผมพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดในบางพื้นที่นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ทำให้เครื่องบินล่าช้า ผมจะไปหาดใหญ่ ผมจะไปงานแต่งเพื่อน ผมขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และไม่เคยรู้ว่าพ.ร.บ.ฉบับนี้มีกฎหมายอย่างนี้ พูดไปโดยที่ตัวเองไม่ได้คิด เป็นความคึกคะนองจะแซวสาวแอร์ เห็นเค้าสวยก็เลยแซว ให้คดีของผมเป็นอุทาหรณ์ หวังว่าจะไม่มีคดีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ผมต้องขอประทานโทษพี่ๆน้องๆทุกคน ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ผมสำนึกผิดและยอมรับผิดในการกระทำของผม จะไม่ทำอีกแล้วครับ"
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการ ต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 เป็นกฎหมายใหม่ ที่พึ่งประกาศใช้ และหากมีการกระทำผิดขณะเครื่องบินกำลังบินอยู่อัตราโทษจะสูงขึ้น โดยจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท
(ที่มาจาก มติชนออนไลน์)
ข่าวจาก : สนุกดอทคอม
http://news.sanook.com/1892574/
เปิดใจหนุ่มแซวแอร์ฯ กระเป๋ามีระเบิด บอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์-เพิ่งเคยบิน
(2 พ.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น. พร้อมด้วย ตำรวจสืบสวน สน.ดอนเมือง นำตัวนายพิชิต อายุ 23 ปี ผู้ที่กระทำความผิดฐานแจ้งข้อความ หรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการแจ้งนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นที่อยู่ในท่าอากาศยานหรืออยู่ในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการ ต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ซึ่งถือว่าเป็นผู้ต้องหาคนแรก ที่ถูกจับหลังมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว มาแถลงข่าว
หลังจากที่ นายพิชิต ซึ่งได้โดยสารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL8536 จากท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวานที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ซึ่งนายพิชิตได้กล่าวแซวกับสาวพนักงานต้อนรับ (แอร์โฮสเตส) บนเครื่องบิน ว่า มีระเบิดอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง ทำให้เที่ยวบินต้องถูกยกเลิก เพื่อทำการตรวจสอบกระเป๋าผู้โดยสารทุกใบหมด
ทั้งนี้ นายพิชิต กล่าวถึงสาเหตุที่พูดออกไปว่า ไม่รู้กฎหมายและได้พูดแซวแอร์โฮสเตสเพราะความคึกคะนองเท่านั้น...
"ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผม ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและเสียหาย การที่ผมพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดในบางพื้นที่นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ทำให้เครื่องบินล่าช้า ผมจะไปหาดใหญ่ ผมจะไปงานแต่งเพื่อน ผมขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และไม่เคยรู้ว่าพ.ร.บ.ฉบับนี้มีกฎหมายอย่างนี้ พูดไปโดยที่ตัวเองไม่ได้คิด เป็นความคึกคะนองจะแซวสาวแอร์ เห็นเค้าสวยก็เลยแซว ให้คดีของผมเป็นอุทาหรณ์ หวังว่าจะไม่มีคดีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ผมต้องขอประทานโทษพี่ๆน้องๆทุกคน ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ผมสำนึกผิดและยอมรับผิดในการกระทำของผม จะไม่ทำอีกแล้วครับ"
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการ ต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 เป็นกฎหมายใหม่ ที่พึ่งประกาศใช้ และหากมีการกระทำผิดขณะเครื่องบินกำลังบินอยู่อัตราโทษจะสูงขึ้น โดยจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท
(ที่มาจาก มติชนออนไลน์)
ข่าวจาก : สนุกดอทคอม
http://news.sanook.com/1892574/