[SR] บันทึกความทรงจำ ตอน วันเดียวก็เที่ยวได้ คลองมหาสวัสดิ์ อ.ศาลายา จ.นครปฐม

บันทึกความทรงจำ 1-11-58
หลายๆคน เป็นเหมือนกันมั้ย ที่วันหยุดของเรามีน้อย กันซะเหลือเกิน ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ยิ่งเป็นสาวสำนักงาน แถวๆภูธร ด้วย แล้ว อยากออกไปผจญภัย ออกไปดูท้องฟ้า สายลม แสงแดด จิงๆุถ้าพวกเรามองหาสถานที่รอบๆตัวใกล้บ้านดีๆแล้ว  เราก็สามารถไปได้ค่ะ ใกล้บ้านเดินทางสะดวก ใช้เวลาเที่ยว ไม่มาก ยังมีเวลา เหลือกลับไปซักผ้าตอนเย็นอีกด้วยนะ วันนี้จะมาขอนำเสนอ  ที่นั้นคือ ค ล อ ง ม ห า ส วั ส ดิ์  ศา ลา ยา จังหวัด นครปฐม (ถม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ )   ( ตามรอยพี่คนนี้ http://m.ppantip.com/topic/34372790 )



ขอเปิดทริปด้วยรูปไสตล์ยอดนิยม คือรูปสีซี้ดซีด
สำหรับการเดินทาง ท่านสามารถเดินทางได้หลายรูปแบบ ทั้งรถไฟ และ รถเมล์ หรือ รถส่วนตัว ในวันนี้นำเสนอการเดินทางแบบรถเมล์ค่ะ
สำหรับการเดินทางจากอนุเสารีย์
นั่นสาย 515 ลงแมคโครศาลายา นั่งวิน ไปวัดสุวรรณ
สำหรับการเดินทางจากบางแค
นั่งสาย 84 ก. และ 547 ไปลงแยกวัดสุวรรณ นั่งวินเข้าไปที่วัดสุวรรณ ค่ะ
สำหรับจขกท. เนื่องจากเป็นการเดินทางไปเที่ยวครั้งแรก เรานั่ง 547 ลงที่ตลาดศาลายาค่ะ แล้วนั่งแทกซี่ไป ราคา อยู่ที่ 60 บาท ก็สะดวกดี


วัดสุวรรณ มีความเก๋ คือมีสถานีรถไฟส่วนตัว สามารถนั่งรถๆไฟมาลงที่วัดได้ โดยพี่ๆ ที่เคยรีวิว มักจะนั่งรถไฟมา กันค่ะ




เราจะเห็นป้ายเชิญชวนให้เข้าไป เดินตามทางได้เลยค่ะ

วัดสุวรรณ อยู่ติดกับคลองมหาสวัสดิ์ ค่ะ มาถึงก็ กิน กันก่อนเลย วันนี้ร้านขายของน้อย เราเลือกกินก๋วยเตี๋ยวกัน รสชาติใช้ได้ ราคาชามละ 20 บาท



เมื่อกินเสร็จก็เดินตามป้ายเลยค่ะ จะมีคุณลุง ช่วยประสานงาน ตามเรือให้เรา

สำหรับราคาทริป
ค่าเรือ ลำละ 350 บาท นั่งได้ 6 คน
ค่าคุณลุงคุณป้า พายเรือ นำเที่ยว คนละ 70 บาท
ค่ารถอีแต๋นชมสวย 80 บาท ต่อเที่ยว นั่งได้ 10 คน

จขกท. ได้คุณป้าเล็ก เป็น ไกด์ในครั้งนี้ค่ะ

ลงเรือแล้วมุ่งหน้ากันเถอะ อ่อลืมบอก คุณลุงแจกโบชัวร์ให้เราด้วยนะคะ จะได้รู้ว่าจะไปไหน บ้าง



ปะค่ะ ลงเรือแล้วไปด้วยกันนะคะ สำหรับทริปนี้ สถานที่แรก คือ นาบัว ค่ะ
นั่งเรือลมเย็นๆ มองเห็นสีเขียวๆ แบบนี้ สบายใจจังค่ะ


นั่งมาซักพัก ป้าเล็กก้อเลี้ยวขวา เข้าสู่คลองย่อย เพื่อพาเราๆไปนาบัวกัน มีลุ้นนิดหน่อย เพราะมันแคบมาก


เข้ามาเรื่อยๆ  ก็เจอเจ้าถิ่นเรียกเก็บค่าผ่านทางค่ะ 555+

สักพักก็เห็นหนุ่มๆ กลุ่มนี้ แล้วเรือเราก็จอดลง


ถึงแล้วค่ะนาบัว ปะเราไปดูนาบัวกัน


วันนี้ตอนเราไป เป็นวันที่เค้าจับปลาในนาบัวกันพอดิบ พอดี เพราะฉะนั้น เราจะไม่เห็นนาบัวที่มีน้ำปริ่มนา แต่จะเห็นนาบัวแบบพิเศษ
คุณป้าเล็ก เล่าให้ฟังว่า การปลูกบัว ก้อคล้ายการทำนา คือต้องมีการไถ และปลูก บัว แบ่งระยะ ออกจากกันประมาณ 2 เมตร เพื่อให้ไหลบัวแตกกอ และ ออกดอก ให้เราเก็บไปขาย ดังนั้น การไปในคร้ังนี้ ถือได้ว่า พิเศษมากๆค่ะ เพราะเราได้เห็น นาบัว ที่แตกต่างจิงๆ

รูปพาโนรามานี้ จะเห็นได้ชัดว่า ฝั่งซ้าย เป็นนาบัวเก่า ฝั่งขวาเป็นนาบัวใหม่
นาบัวจะมีอายุประมาณ 4 เดือน หลังจากนั้น ชาวนาบัว ก้อจะลงพันธุ์ใหม่ แบบฝั่งขวา


ที่นาบัวนี้ มีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ศาลาไม้กว้างมาก มีน้ำดื่มไว้บริการตลอด ลมเย็นๆ นั่งเล่นกันพักใหญ่ ป้าเล็กก้อเล่าเรื่องต่างๆมากมายให้ฟัง
แนะนำนะคะ ถ้าใครชอบถ่ายนก ละก้อ แนะนำให้ไปตอนบ่ายๆ นะ เพราะนกจะมาอยุ่รวมกันเยอะที่สุด


ถึงจะไม่ได้ลงเรือ ล่องลอยอยู่ในนาบัว แต่ก็ชอบนะคะ ได้เห็นมุมที่แตกต่าง
ก่อนจะไปจุดต่อไป ถ่ายรูปเก็บความประทับใจกันดีกว่า


สถานีต่อไป เราจะไปดูการทำข้าวตังสด กันค่ะ
ข้าวตังสด ทำมาจากข้าวเจ้าที่หุงจนสุกและนำมานวด จนเข้ากัน แล้วคลึงเป็นแผ่นจากนั้น ใช้แม่พิมพ์กด เป็นรูปต่างๆ สถานีนี้ เราได้เห็นการทำข้าวตังสด และได้ชิมกันจนอิ่มเลยค่ะ



อร่อยจิงๆค่ะ ข้าวตังสด เครื่องเคียงให้กินกันจนอิ่ม มีน้ำดื่มเย็นๆ ดับกระหาย มีความสุขกับสถานี นี้มาก 555+


ไปกันต่อค่ะ ต่อไปเราจะไปชมสถานี เกษตรชุมชน ไปนั่งรถอีแต๋นกันนะ
ไปถึงสิ่งแรกที่ คุณป้าต้อนรับคือ ผลไม้ และ ผลไม้แปรรูป ซีลพลาสติกเป็นอย่างดี ผลไม้ถูกปอกกันสดๆตรงนั้น  อร่อยอีกละ ^^


อิ่มอร่อย นั่งคุยและฟังประสบการณ์ต่างๆ พักใหญ่ เราไปนั่งรถอีแต๋นชมสวนกันดีกว่าค่ะ ตอนแรก จขกท. ก็ไม่ทราบว่ามันมีเสนห์ยังไงน๊า ถึงต้องนั่งรถอีกแต๋นชมสวย เสนห์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ


เสียวและลุ้นมาก เพราะรถอีแต๋นเวลาเลี้ยว คนขับต้องเลี้ยวสุดตัว แบบสุดขอบเบาะกันเลย ตอนแรกเห็น หน้าหวอ กันเลยค่ะ ผ่านไปสนุก ชอบๆ 55 ชมสวนของคุณลุง คุณลุงเล่าให้ฟังว่า ก่อนปี 54 ต้นไม้ต้นใหญ่ ส้มโอ มะม่วงมีเยอะมาก พอน้ำท่วมครั้งนั้น น้ำสูง 2 เมตร จม กลืนทุกอย่างหายไปหมด ต้องฟื้นฟู กันใหม่ กว่าจะได้เท่านี้ ผ่านมา 3 -4 ปีแล้ว  ระหว่างทางเราชมสวน ดูนา ค่ะ ใช้เวลาไม่นาน เพราะอากาศร้อนพอสมควร




ก่อนกลับ ขอคุณลุงถ่ายภาพที่ระทึก กันหน่อย กับอีแต๋นคันเก่ง


จากนั้นก็กลับมากินขนมและนั่งคุยกันอีกรอบค่ะ หายเหนื่อย ขอตัวไปเที่ยว สถานีสุดท้ายละ สถานีสวนกล้วยไม้ นั่งเรือไปกัน ตามมาๆ

ความเป็นธรรมชาติยังมีอยู่มากค่ะ ลมเย็นๆเวลานั่งเรือเป็นเสนห์ อย่างนึง ทำให้เรา ได้พัก และ ผ่อนคลาย


เจอเพื่อร่วมเส้นทาง


แล้วเราก็มาถึงสวนกล้วยไม้กัน คุณป้าเล็กส่งเราที่ท่าเรือเล็กๆ อันนี้


ขึ้นไปถึงจะเจอ สามแยกสวนกล้วยไม้อยู่ทางขวา 2 ฝั่ง เลยค่ะ เลือกชมตามความชอบ

จขกท. ชอบดอกนี้ เป็นพิเศษ สีสด จัง


เสร็จแล้ว เราขอให้ป้าเล็กพามาส่ง แถวๆศาลายา เพื่อต่อรถเมล์กลับบ้าน  ป้าเล็กพามาส่งที่ รพ.ศาลายา ซึ่งอยู่ห่างจากแมคโคร ศาลายา ประมาณ 500 เมตร

สรุปทริปนี้
ค่ารถเมล์ 547  คนละ 19 บาท 2 คน 38 บาท ไปกลับ 38*2 = 76 บาท
ค่าแทกซี่ จากตลาดศาลายา ไปวัดสุวรรณ 60 บาท
ค่าเรือท่องเที่ยว ลำละ 350 บาท
ค่าเกษตรนำเที่ยว คนละ 70 บาท รวม 140
ค่ารถอีแต๋น คันละ 80 บาท
ค่าขนมข้าวตังสด 1 ถุง 50 บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยว ชามละ 20 บาท 2 คน 40 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทริปนี้ 796 บาท ก็คิดว่าคนละ 400 บาทละกัน

ยิ่งถ้าไปกันเยอะ ก็จะหารค่าเรือลง ให้ถูกลงได้อีกนะคะ อยากชวนทุกคนให้ไปเที่ยวกัน สถานที่ใกล้บ้าน ที่ยังมีความเป็นธรรมชาติ และสวยงามแบบท้องถิ่น รอให้เราไปสัมผัสอีกหลายที่  สุขใจใกล้บ้านค่ะ

ขอบคุณนะคะ
ชื่อสินค้า:   คลองมหาสวัสดิ์
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่