แชร์ประสบการณ์ไปโบสถ์คริรต์มอรมอน

เริ่มต้นจากเราเจอฝรั่งพูดไทยชัดมากท่าทางเป็นมิตรเค้าชวนให้ไปโบสถ์เพื่อเรียนภาษาอังกฤษและศึกษาพระคัมภีร์ แต่เราก้อบอกเค้าไปว่าเราเป็นพุทธนะ เราไม่ได้สนใจจะเปลี่ยนศาสนาหรืออ่านพระคัมภีร์นะ เต้าก้อบอกว่าเป็นพุทธก้อไปได้มีเรียนภาษาอังกฤษทุกวันอังคาร จะไปเรียนแต่ภาษาอังกฤษก้อได้ เราก้อเหนว่าโบสถ์อยู่ใกล้บ้านพอดี แล้วฝรั่งที่ชวนเค้าอ่อนน้อมมาก เราก้อเร้ยลองไปเรียนภาษาอังกฤษดู
     
     เริ่มเรียนวันแรกจะมีหนังสือเรียนเล่มละ 40 บาท มีทั้งสอนแกรมม่า แต่งประโยค ฯลฯ ฝรั่งมีหญิงชาย ถ้าเป็นชายจะเรียกว่า เอลเดอร์ ถ้าเป็นหญิงเรียกว่า ซิสเตอร์ ประทับใจมากๆ นะ เค้าสอนออกเสียงภาษาอังกฤษดีมากอะ #แร้วเค้าจะมีใบมาให้กรอกรายละเอียดผู้เรียนชื่อเบอร์โทร มีช่องให้ติ๊กตามนี้ สนใจเรียนภาษาอังกฤษ,ศึกษาพระคัมภีร์ เราก้อติ๊กแต่ภาษาอังกฤษ นะ ก่อนเรียนและหลังเลิกเรียนทุกครั้งเค้าจะให้สวดมนต์วิธีสวดคือกอดอกหรือกุมมือและลงท้ายด้วยเอเมน เราก้อทำตามนะ เหมือนปฎิบัติตามกฎของเค้า

     จากนั้นพอไปสักเดือนสองเดือน ก้อเริ่มมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่เค้านับถือศาสนาคริตส์มอรมอน และเพื่อนฝรั่งที่เค้าเป็นมิชชั่นนารี ทุกคนน่ารักหมดเร้ย เราเริ่มคุยกันถึงทำงานอะไรกัน อยู่ที่ไหน ชีวิตเป็นไงบ้างช่วงนี้ ซึ่งเรารู้สึกโอเคมาก เจอเพื่อนๆที่แชร์ประสบการณ์ชีวิตกับเรารู้สึกผูกพันมีแลกเบอร์แลกไลน์กัน มิชชั่นนารีก้อขอเบอร์เราไป เค้าจะส่งข้อความเกี่ยวกับบทพระคัมภีร์มาให้ตลอด เราก้อโอเคนะ เป็นคำสอนให้เราทำความดีเหมือนศาสนาพุทธ

     และหลังจากนั้น...มีอยู่วันหนึ่งหลังเลิกเรียนเค้าก้อชวนเราไปอ่านพระคัมภีร์เราก้อบอกไปเหมือนเดิมนะเราเป็นพุทธนะ
เพื่อนๆก้อบอกเป็นพุทธไม่เปนไร มาฟังด้วยกันได้ เราก้อโอเคเหมือนเพื่อนชวนอะ เราก้อไป เค้าก้อจะพุดประมาณว่า
     - เราเป็นลูกของพระเจ้า พระเจ้าเป็นพ่อของเราทุกคน
     - พูดถึงการล้างบาป
     - ให้พระคัมภีร์เรามาอ่าน
     - ฯลฯ
     
    คือเราโอเค นะ เชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี เคารพในเพื่อนทั้งคนไทยและฝรั่งนะ ที่เป็นมอรมอน
แต่
    หลังจากนั้นมิชชั่นนารีก้อโทรมาวันศุกร์ว่างไหม วันอาทิตว่างไหม ให้มาโบสถ์มาฟังสวดมนต์กัน เราก้อโอเคว่างพอดี เร้ยไป
เค้าก้อพุดถึงเรื่องบัพติศมา เราก้อฟังไปคล้อยตามไปเค้าก้อถามเราสนใจที่จะบัติศมาไหม คือตอนแรกเรายังไม่เข้าใจนะ บัติศมาคืออะไร
เราก้อถามเค้าใหม่ให้เค้าทวนอีกรอบคือเราไม่เคยเข้าโบสถ์มาก่อนหน้านี้ ไม่เคยรู้จักศาสนาคริสต์เร้ย เราก้องง
    
    บัติศมา ความหมายโดยรวมก้อคือการเปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสต์ และต้องนับถือพระเจ้าเพียงองค์เดียว
และหลังจากเราเป็นคริตส์แร้ว เราต้องไม่
   - ไม่ไหว้พระ ไม่สวดมนต์ ไม่เข้าวัด
   - หากมีพระอยู่ในบ้านเราต้องเอาเก็บใส่ลังไว้
   - ไม่กินกาแฟ ชา

เรา : เราเจอสามข้อนี้ไปเราแบบ เฮ้ย เราเป็นพุทธมาตั้งแต่เกิด เข้าวัดทำบุญกับที่บ้านมาตลอด วัดเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตครอบครัวเรานะ
เพื่อนๆ ที่เป็นมอรมอน : ต่อไปนี้ก้อไม่ต้อเข้าวัดทำบุญแร้วไง
เรา : ไม่ได้หรอกแม่เราชอบชวนไปเข้าวัดทำบุญเราขัดแม่กับญาติๆ ไม่ได้หรอก
เพื่อนๆ ที่เป็นมอรมอน : ก้อชวนเข้ามาเข้าโบสถ์แทนไง
เรา : คิดในใจนะ ไม่ได้พูดออกไปคือ อึ้งอยู่ (หือออออ คือบ้านเราเป็นพุทธกันหมดตั้งแต่ชวด อยู่ดีๆ จะไปบอกเค้าไม่ต้องไปวัดทำบุญหรอ ???
       ก้อเหนญาติๆ เค้าไปวัดกันทีไรก้อมีความสุขดี นะ ตอนเด็กๆเราก้อชอบเรียนวิชาพุทธศาสนาด้วย เราชอบไปเที่ยวตามวัดกับครอบครัว            ศึกษาประวัติของวัดนั้นๆ แร้วจะมาไม่ให้เราไม่ไปวัดนะหรอ)
เพื่อนๆ ที่เป็นมอรมอน : คงเหนเราเงียบไป เค้าก้อบอกลองชวนญาติมาโบสถ์สิ
เรา : ยังไม่คิดจะเปลี่ยนศาสนาคะ
เพื่อนๆ ที่เป็นมอรมอน : ทำไมกลัวที่บ้านว่า หรือ มีปัญหากับที่บ้านหรอ เราก้อเปลี่ยนคนเดียวก่อนได้นะ เค้าก้อเปลี่ยนคนเดียวในบ้านเหมือนกัน ลองไปคิดดูนะ
เรา : คือตูคิดแร้วคะ เคารพในทุกคนที่เปลี่ยนศาสนานะ แต่ทำไมต้องพูดเหมือนบังคับตูด้วยวะ (คิดในใจนะไม่ได้พูดออกไป)
เพื่อนๆ ที่เป็นมอรมอน : หลายคนก้อแชร์ประสบการ์ณในการเปลี่ยนศาสนา ชีวิตเค้าดีขึ้นนะ ต้งแต่มาเชื่อพระเจ้า
เรา : ดีใจด้วยนะ คือ ดีใจจริงๆ นะ

    จากนั้นเราก้อขอกลับบ้านก่อนเพราะสามทุ่มกว่าแร้ว ทุกคนก้อย้ำให้เรากลับไปอ่านพระคัมภีร์นะ มีไลน์มากันด้วย อ่านพระคัมภีร์หรือยัง วันนี้
เราก้อลองอ่านดูนะ ก้อคล้ายศาสนาพุทธ อะ สอนให้เราทำความดี

    เหตุการณ์เริ่มตึงเครียดสำหรับเรา พอไปเรียนภาษาอังกฤษ ก้อชวนเราไปสวดมนต์เหมือนเดิม หว่านล้อมให้เราเปลี่ยนศาสนา บอกถึงถ้าจะบติศมาต้องทำไรบ้าง เราก้อพยายามไม่ว่างคะ วันอาทิต เลี่ยงตลอด คือเราแค่อยากไปเรียนภาษาอังกฤษ พอเราไม่ว่างบ่อยๆ หลายอาทิตเข้า
ก้อมองเราเปลี่ยนไปกัน มีประโยคนึง #ถ้ามีเหตการ์ณอะไรเกิดขึ้นทำให้เราไม่ได้ไปธุระของเราให้เรามาโบส์ถวันอาทิตนะ มีโทรมาตามเราให้ไปให้ได้ แรกๆ เรารับโทรศัพนะ แร้วก้อปฎิเสธไป หลังๆ เราไม่รับโทรศัพท์เร้ย คือวันอาทิตวันหยุดงานเราอยากจะนอนพักผ่อน เราเร้ยบอกเค้าไปตรงๆ เค้าก้อบอกว่ามาพักผ่อนมาเจอเพื่อนๆที่โบสถ์สิ เราก้อแบบคือเราตื่นสายจากนั้นเราก้อจะกลับบ้านไปหาแม่หาญาติ อะ
  
      แต่...พอวันเสาร์ก้อโทรไปหาเราอีก ชวนเรามาเหมือนเดิม แบบเราก้ออยู่บ้านแร้วบ้านเราญาติเยอะด้วยเสียงดังเราก้อปฎิเสธไป แร้วเราบอกอยู่บ้านนะไม่สะดวกคุยแค่นี้ก่อนนะ เจอกันวันอังคารตอนเรียนภาษาอังกฤษนะ แร้วเราก้อเร้ยตัดสาย
    พอ...วันอังคารเรามาเรียนก้อให้เราไปอ่านพระคัมภีร์บทนนี้มา จด post it มาให้เราด้วยนะ เหมือนเดิมทุกคนพยายามพูดหว่านล้อมไม่พูดตรงๆให้เราเปลี่ยนศาสนานะ คือบางทีเรานั่งๆอยู่ก้อให้เราไปสวดพระคัมภีร์เราแบบปฎิเสธไม่ทันก้อต้องไป เหมือนเดิมอีกชวนเรามาวันอาทิต อีกแร้ววววววววว (เฮ้ยยยยย วันอาทิตตูกลับบ้านโว้ย ไปอยู่กับครอบครัวเล่นไพ่ตาละบาทสองบาทกับทีบ้านไงเข้าใจกูบ้างไหม พูดในใจนะ)

     เราก้อแบบยิ้มเจื่อนๆ ถ้าว่างจะมานะคะ ทุกคนมองเหมือนตูผิดอะไร ทำไมไม่มาโบสถ์ทุกวันอาทิตเหมือนคนอื่นๆ  คือขอย้ำอีกทีนะ
เราเคารพในทุกคนที่นับถือศาสนาคริสต์มอรมอน นะ และเราเชื่อว่าทุกศาสนาสอนเราเป็นคนดี เราสามารถอยู่ร่วมโลกกันได้ จริงไหม ???

แต่ทำไมต้องมาบังคับเราเปลี่ยนศาสนาด้วย ตอนนี้เราอึดอัดมากๆ อยากไปเรียนภาษาอังกฤษเจอเพื่อนๆ นะ คือบางทีเราคิดว่า เราควรจะเลิกไปโบสถ์ได้แร้วเพราะเป็นโบสถ์ของคริสต์ ถูกไหม ???

แต่เราก้อไม่อยากเสียมิตรภาพดีๆ ไปนะ คือเราบอกเพื่อนๆที่โบสถ์ไปหลายรอบแร้วเราไม่เปลี่ยนศาสนาน นะ เราเคารพที่เพื่อนๆ ที่เปลี่ยนนะ
แต่เรารู้สึกผูกผันกับศาสนาพุทธไปแร้ว เค้าก้อบอกว่าศาสนาอื่นตายแร้วไม่ได้ไปสวรรค์นะ แต่ถ้าเรานับถือพระเจ้าตายแร้วได้ไปสวรรค์แน่นอน
เราแบบ โอเคนะ แต่ละคนเชื่อสิ่งไหนแร้วคิดว่าดี เราเคารพในความคิดของเพื่อนนะ

    หลังจากนั้นเราพยายามเลี่ยงไปสวดมนต์ไปอ่านพระคัมภีร์ตลอด คือเราอยากศึกษานะ เหมือนเป็นความรู้ด้านศาสนา แต่เราไม่อยากเปลี่ยน ชวนเราไปพูดโน้มน้าวให้เราเปลี่ยนเราเก็บอาการเก็บสีหน้าที่รู้สึกกดดันไม่ได้อีกต่อไป

##### อยากถามคนที่เคยไปโบสถ์แร้วมีใครเจอแบบเราบ้างไหม เราควรทำไงดี ??? ####

  *** ขอความเห็นที่แสดงออกเกี่ยวกับคนนะ เราไม่อยากขัดแย้งเรื่องศาสนา เราเคารพที่ทุกคนนับถือศาสนาไม่เหมือนกันนะ เชื่อว่าทุกศาสนาเราอยู่ด้วยกันได้ และทุกศาสนาสอนเราเป็นคนดี นะ ***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่