คำตอบคือ ไอ้หลอดไฟที่ว่า คือหลอดยาว ใช่เปล่า ไม่ใช่หลอกลม หรือหลอด LED

ถ้าใช่หลอดยาว ก็มีคำตอบ

คำตอบคือ แสดงว่าสายไฟที่เชื่อมต่อกับหลอดไฟ และทีวี คือสายเดียวกัน กลไกของหลอดไฟยาวจะมีอยู่ว่า

เมือเวลาเปิดหลอดไฟ มันจะกินไฟมากถึง 300V ซึ่งมากกว่าไฟบ้านปกติทั่วไปที่การไฟฟ้าจ่ายมา หลอดไฟจึงต้องมี

สตาร์เตอร์ เป็นตัวช่วยดึงไฟให้มาถึง 300V ตอนเปิดหลอดไฟมันเลยกระพริบ ๆ แล้วพอไฟดึงมา 300V แล้วไฟติด

สาร์เตอร์ ก็จะไม่ทำงานแล้ว หลอดไฟก็จะติดคงที่และกินไฟปกติ ซึ่งการเปิดปิดหลอดไฟบ่อย ๆ จะทำให้กินไฟมาก เฉลีย เปิด 1 ครั้ง

อาจจะกินไฟถึง 5 บาทต่อครั้ง (ค่าโดยเฉลียเดา) เพราะฉะนั้นทำไมเวลาเปิดไฟ แล้วกำลังใช้งานทีวี หรือ คอม มันจะดับกระพริบ ๆ

แล้วพอไฟติด มันก็กลายเป็นปกติ คำตอบคือ ทั้งสายไฟและหลอดไฟ บางบ้านใช้สายนเดียวกัน และเมือเราเปิดไฟ จากที่บอกมันกินไฟถึง 300V

มันจึงทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า บางชนิดที่เราต่อ เกิดอาการไฟไม่เพียงพอ มันก็เลยดับ กระพริบ ๆ ถ้าเป็นทีวี คงไม่เท่าไร

แต่ถ้าเป็นคอม มีหวังพัง เพราะฉะนั้น ิธีการแก้ไขคือ จะเปิดไฟ ควรจะปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า บางตัวก่อน หากรู้ว่า หลอดไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าตัวนั้น

มันใช้สายไฟเดียวกัน สังเกตได้จากสายไฟ มันจะลากตรงมาที่ สวืทเปิด ปิด หลอดไฟ แล้วลากลงมาที่ เต้ารับปล๊กไฟอีก นั่นแหละคือสายเดียวกัน

ไม่ควรเปิดไฟ ตอนที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียบใช้งานอยู่


ปล. บ้านเราก็เป็น พวกหมู่บ้าน หลายบ้านออกแบบ เดินสายไฟห่วย ๆ สายหลอดไฟ ควรจะเดินสายแยกออกจากอุปกรณ์ไฟฟ้า

อย่างเด็ดขาด แต่หลายบ้าน สายไฟ 1 เส้น นี่ลากเข้า สวิทไฟ (ตัวบน) แล้วลากลงมา เข้า เต้ารับ (ตัวล่าง) ไม่รู้ตั้งกี่ตัวกี่ตัว

โดยที่สายไฟมีเพียงแค่ 1 เส้น ห่วยแตกการออกแบบ แบบนี้