ปีนี้เป็นวันเกิดครบ 35 ปี พอดิบพอดี แถมภรรยาต้องเข้าเวรที่ทำงาน ผมจึงโทรหาช่างภาพในจังหวัดกาญจนบุรี ว่าอยากออกไปถ่ายรูป ซึ่งน้องๆ ช่างภาพที่ไปด้วยต่างมีฝีไม้ลายมือในการถ่ายรูปแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดอยู่แล้ว เลยโชคดีหากได้น้องๆ ร่วมทริปไปด้วยต้องได้ภาพสวยๆ กลับมาแน่ เราเริ่มออกเดินทาง 06.00 น. จากตัวจังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ร่วมทริปไปกัน 4 คน แวะทานข้าวเช้าที่ร้านในตำบลลาดหญ้า แล้วขับรถขึ้นทางเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นถนนลาดยางอย่างดี เหมาะกับการเดินทางไปเช้า เย็นกลับเช่นนี้ยิ่ง ถึงที่หมายประมาณ 8.20 น. (รวมเวลาทานอาหารเช้า)

ระยะทางจากกรุงเทพประมาณ 240 Km (มีรถประจำทางมาถึงแค่เขื่อนศรีนครินทร์ นอกนั้นต้องเหมารถขึ้นไปเอง)
ค่าใช้จ่ายในการเข้าอุทยาน (จำเท่าที่จำได้)
รถยนต์คันละ 30 บาท
นักท่องเที่ยวชาวไทย 100 บาท
นักท่องเที่ยวต่างชาติ 300 บาท

ไปถึงก็จัดแจงกล้องใส่ฟิลเตอร์ CPL พร้อมขาตั้งกล้อง เดินขึ้นชั้น 7 ก่อน (ที่ตั้งอุทยานจะอยู่ชั้น 4) ตั้งใจเดินสักพัก ระยะทางประมาณ 700 เมตร ถึงชั้นที่ 6 ตกใจในความสวยงาม (ปกติจะตั้งแคมป์แค่ที่ชั้น 4 แล้วเดินลงไปชั้น 1) ไปครั้งนี้ใช้กล้อง NIKON D610 / 18-35 mm f3.5-4.5G / ขาตั้งกล้องสั่งจากเน็ต / ฟิลเตอร์ Tinaya

นี่คือภาพชั้น 6 ครับ ชื่อของเค้าคือ "ดงผีเสื้อ"


เดินไปสักพักก็ถึงชั้น 7  ฟ้าใสจัดถ่ายรูปออกมาทำให้เห็นแสงเป็นดวงๆ น้องช่างภาพที่ถ่ายแหล่งท่องเที่ยวก็บอกให้ผมรอจนกว่ามีเมฆมาบังแสงอาทิตย์ ไม่งั้นถ่ายออกมาขี้เหร่แน่นอน แต่รอจนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีเมฆสักก้อน น้องๆ ทนไม่ไหวจึงย้ายมาถ่ายชั้นอื่นต่อ  เลยเอาภาพที่มีแสงลอดมาแต่งให้ชมกัน ชื่อของเค้าคือ "ร่มเกล้า"


ใช้เวลาในการรอแสงและถ่ายชั้น 6 และ 7 อยู่เกือบ 3 ชั่วโมง (ชั้น 5 ไม่รู้จะถ่ายยังไงมันเห็นแค่น้ำเป็นสายไหลลงรูครับ 555) พอใกล้เที่ยงก็เดินลงมาทานข้าว ร้านอาหารที่อุทยานสะอาดและราคาไม่แพงครับ พอทานอาหารเรียบร้อยก็เดินไปถ่ายรูปมุมมหาชนเวลามาน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นครับ

มุมมหาชนน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น (ฉัตรแก้ว)


พอลงตามทางเดินที่อุทยานยกพื้นและปูด้วยไม้อย่างดี ทำให้รู้สึกว่ามันเดินสะดวกมาก เมื่อเทียบกับตอน 15 ปี ที่แล้ว เดินยังลำบากถ้าสะพายกล้องมาด้วยจบชีวิตกล้องแน่นอน แต่ปัจจุบันทางเดินทำอย่างดีสวยงาม


พอจะเดินลงก็จะมีจุดที่ห้ามน้ำอาหารหรือเครื่องดื่มลงไปในน้ำตก (แต่ก็เห็นขยะอยู่บ้าง น่าจะมีพวกแอบเอาลงไป ที่เห็นเป็นแก้วน้ำชานมไข่มุก คาดว่าคนไทยเราแน่ๆ ) พอลงไปถึงตกกระใจ นักท่องเที่ยวเต็มเลย แล้วจะถ่ายภาพยังไงกันเนี่ย (ปกติต้องมาวันธรรมดา หากจะมาเก็บภาพน้ำตกโดยเฉพาะ) เลยตัดสินใจเดินไปชั้น 1 ก็ยังมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้างแต่น้อยกว่าชั้นอื่นๆ พอไปถึงแดดออก น้ำตกขึ้นลายครับ  เลยต้องรอสักพัก ให้นักท่องเที่ยวบางตาลงแต่ฟ้าก็ไม่เป็นใจไม่มีเมฆมาบักแสงอาทิตย์สักก้อน เลยได้ภาพนี้มาฝากครับ

ชั้นที่ 1 "ดงว่าน"


พอถ่ายชั้น 1 ได้รูปมาก็เดินขึ้นเลื่อยๆ มาชั้นด้านบน ระหว่างทางก็พูดกับน้องๆ ว่าเราต้องทำใจและเอาภาพมามีคนไม่เป็นไรเนอะๆ (พูดปลอดใจตัวเอง)

ชั้น 2 "ม่านขมิ้น" (รูปนี้แต่งภาพนิสนึง เพราะด้านบนน้ำตกมันว่างๆ ครับ)


ตอนลงใน Pantip รู้สึกสับสนว่าอันไหนชั้น 2 อันไหนชั้น 3 กันแน่ เลยลงอีกภาพนะครับ


ชั้น 3 "วังหน้าผา"


ชั้น 4 "ฉัตรแก้ว"


สุดท้ายอยากให้มาเที่ยวกันเยอะๆ ครับ ช่วงนี้บรรยากาศดี อากาศเย็นๆ สบายครับ แล้วอย่าลืมรักษากฏเพื่อให้ธรรมชาติอยู่คู่กับเรานานๆ ให้ลูกหลานได้เห็นความสวยงามตลอดไปด้วยนะครับ

ปล. หากผมลงชื่อและชั้นของน้ำตกผิด ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ครับ