สวัสดีค่ะ เราเป็นแฟนบอลทีมชาติเยอรมันกับทีมชาติเบลเยียม เพิ่งรีวิวเป็นกระทู้แรก มีอะไรผิดพลาดติชมหรือแนะนำมาได้เลย เราเพิ่งกลับมาจากทริปไปดูบอลที่เยอรมันและเบลเยียมค่ะ ทริปนี้เป็นทริปแรกของการตามมาดูบอลถึงถิ่น 555 ปกติเขาจะมาหาเราช่วงปรีซีซั่น เราก็ตะลอนๆไปตามนักเตะเอาแถวนี้ค่ะ ยังไม่เคยและไม่พร้อมไปเยอรมันสักที แต่ในชีวิตแฟนบอลอย่างเรา ต้องไปดูที่สนามอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เราเชียร์ทีมชาติเยอรมันมาตั้งแต่ตอนแฟรงค์ เบามันน์กัปตันสโมสรเบรเมนติดทีมชาติ น่าจะช่วง 2004 ที่เยอรมันกำลังวิกฤติ 555 แล้วก็ช่วงบอลโลก2006 ที่เซบาสเตียน เคห์ลอยู่ในทีมชาติ เราชอบ2คนนี้มาก ส่วนในรุ่นปัจจุบัน เราเป็นแฟนเมซุต โอซิล เราชอบตอนเขาอยู่เบรเมนมากค่ะ ติดตามเขาอยู่พอสมควร โอซิลกับดีเอโก้ แวร์เดอร์เบรเมนสมัยนั้นคือสุดๆแล้ว หลังจากนั้นก็ตามดูเขามาเรื่อยๆค่ะ ตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรมากตามห่างๆ เพราะเราชอบเกาหลีด้วย ส่วนใหญ่เลยจะทุ่มกับทางนี้มากกว่า 555 เราชอบดูบอลเยอรมันสุดๆ ชอบดูบอลบุนเดสลีกาด้วยค่ะ ความจริงเราเชียร์ทีมชาติเป็นหลักแต่สโมสรที่ชื่นชอบก็มีเหมือนกัน(ไว้จะเล่าตอนไปดูบอลสโมสรในตอนถัดไป)
เราคิดแพลนนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วค่ะ เราไปดูบอลทั้งหมด 5 นัดทั้งทีมชาติและสโมสร แต่เราจะเลือกรีวิวสัก 3 นัดละกันเนอะ(5 นัด จะเยอะไปไหน555) เผื่อไว้เป็นไกด์ไลน์ให้กับผู้ที่สนใจไปดูบอลเยอรมันทั้งสโมสรหรือทีมชาติ และทีมชาติเบลเยียม หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
"บอลพาไป" ตอนที่ 1 แฮปปี้กับทีมชาติเยอรมัน
ไม่พูดนานมาเข้าเรื่อง นัดแรกที่เราไปดูคือทีมชาติเยอรมันค่ะ ตอนแรกเราลังเลค่ะว่าจะไปดูช่วงเดือนกันยายน(พบโปแลนด์)หรือตุลาคม(พบจอร์เจีย)ดี พบโปแลนด์เราก็อยากดูค่ะ แต่นะสุดท้ายเราเลือกนัดช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงเดือนวันเกิดของโอซิล เรากะเตรียมของขวัญไปให้เขาด้วย
มาถึงขั้นตอนจองตั๋วเครื่องบิน จริงๆเรียกได้ว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบมากๆ คือตอนนั้นเรารู้แค่แพลนของทีมชาติค่ะ ของสโมสรเราไม่รู้อะไรเลย เพราะมันจะเป็นตารางในฤดูกาลถัดไปหรือก็คือฤดูกาลนี้ล่ะค่ะ(2015/16) คือเป็นโชคของเราแล้วว่าช่วงที่เราจะจองนั้นมันจะตรงใจเรามั้ย(ส่วนจะตรงหรือไม่ตรง ไว้เล่าในตอนบอลสโมสรเนอะ) บังเอิญว่าช่วงนั้นมันมีโปรค่ะ จากเพจอาแปะ เราก็เล็งๆดูๆอยู่สักพักค่ะ เฮ้ย ราคามันถูกมาก โปรของ Etihad ค่ะ โดยการจองแบบมัลติหรือจองแบบหลายเมืองจะได้ตั๋วถูก เช่นไปขึ้นเครื่องที่เมืองอื่นเช่นกัวลาลัมเปอร์หรือสิงคโปร์ แต่ขากลับมาลงที่ไทยอะไรแบบนี้ ตัวเราทำงานอยู่สิงคโปร์ค่ะ เราเลยเลือกออกจากสิงคโปร์ละกัน ซึ่งของEtihadจะต้องไปต่อเครื่องที่อาบูดาบี ขั้นตอนการต่อเครื่องก็ไม่ยากอะไรมากค่ะ ขาลงรอบไปเราเลือกลงเครื่องที่แฟรงก์เฟิร์ต ค่อยต่อรถไฟไปไลพ์ซิกเอา ส่วนขากลับเราไปขึ้นที่มิวนิกและเลือกลงที่กรุงเทพฯ และซื้อตั๋วเครื่องบินแยกกลับมาสิงคโปร์อีกที เราเลยจองตั๋วเครื่องบินวันที่ 9 ตุลาคมเพื่อไปถึงที่นู่นวันที่ 10 โปรแกรมแข่งคือวันที่ 11ค่ะ เราจองตั๋วตั้งแต่ต้นปีเลย น่าจะหลังปลายเดือนมกราคมถ้าจำไม่ผิด(ฟิตมาก555) สรุปการจองตั๋วเครื่องบินของเราคือ
สิงคโปร์ - แฟรงก์เฟิร์ต วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม เดินทางช่วงกลางคืนถึงเช้าวันที่ 10
ขากลับ มิวนิก - กรุงเทพฯ วันที่ 25 ตุลาคม ในราคาหมื่นหกกว่าๆ
ตามนี้เลยจ้า
พอได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ขั้นตอนต่อไปของเราคือ เช็คข่าวของทีมชาติเท่าที่เช็คได้ทั้งหมด หากเราทำการบ้านมาดี ทุกเรื่องก็จะง่ายขึ้น เราเป็นแอดมินของทวิตเตอร์ DFB_Thailand(@dfb_th)อยู่แล้ว(โฆษณาไปอีก55) การเช็คข่าวต่างๆเป็นอะไรที่เราทำอยู่แล้วเป็นประจำเลยสบายหน่อย ข้อดีของเดเอฟเบหรือสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันคือมีแพลนที่แน่นอน บอกวันที่แข่ง พบกับใคร รายการไหนบ้าง ตอนเข้าแคมป์ทีมชาติทำอะไรบ้าง วันขายตั๋ว เรียกได้ว่าละเอียดยิบ เชียร์เยอรมันไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ #โฆษณา 555 เราเลยสามารถแพลนได้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าเราไปนัดนี้ นัดที่เราไป แข่งที่เมืองไลพ์ซิก ช่วงทีมชาติเรียกได้ว่าเรามีแพลนที่ค่อนข้างแน่นอนมากกว่าแพลนของสโมสรเสียอีก หลังจากนั้นเราก็จัดการจองโรงแรม เช็คตารางรถไฟ เส้นทางการไปสนาม และรายละเอียดอื่นๆรอคอยวันที่จะจองตั๋วค่ะ(วันขายตั๋ว เดเอฟเบจะประกาศในเว็บไซต์ตลอดค่ะ แต่ถ้าไม่อยากพลาด ไม่ได้เข้าเว็บอยู่ตลอดก็ตามทวิตเตอร์หลักของเดเอฟเบเลย @DFB_Team // @DFB_Team_EN)
เอาล่ะมาถึงขั้นตอนจองตั๋ว ก่อนอื่นเราขอออกตัวไว้สักนิดว่าเราเป็นสมาชิกของแฟนคลับทีมชาติเยอรมัน ซึ่งจะมีเสียค่าธรรมเนียม 50 ยูโรต่อปี เราเพิ่งตัดสินใจทำหลังจากจองตั๋วเครื่องบินไปเดือนนึงโดยคิดว่าเป็นไปเถอะไม่เสียหาย เราอยากเป็นด้วย 555
อันนี้คือหน้าตาบัตรของเราค่ะ หลังสมัครสมาชิกก็จะถูกส่งมาหลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน
ซึ่งเวลาเปิดให้จองตั๋วนั้นเขาจะให้สิทธิ์แฟนคลับก่อนบุคคลทั่วไปค่ะ แต่เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น พอวันที่ทางเดเอฟเบเปิดให้จองตั๋วนั้น บางโซนจะโดนปิดไว้ โดยเราก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน เราเลยคิดไปว่าเขาจะเปิดพร้อมกับคนทั่วไปหรือเปล่า ช่วงแฟนคลับจอง เราเลยยังลังเลค่ะ เรารอจนวันที่คนทั่วไปจองได้(สรุปว่าก็จองพร้อมทุกคนอยู่ดี555) เราถึงมานั่งเฝ้าหน้าจออีกครั้ง ปรากฎว่าโซนที่เราอยากได้ก็ยังไม่เปิดอยู่ดี เราเลยตัดสินใจกดไปเลยแล้วกัน ไม่งั้นเดี๋ยวอดที่ดีๆ ก่อนหน้าที่จะกดนั้นเรามีการเช็คข่าวก่อนค่ะว่าเยอรมันอยู่ฝั่งไหน(ข้อแนะนำในการเช็ค ไปดูนัดเก่าๆได้ เจ้าบ้านเยอรมันจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของเราเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ที่ต้องบอกว่าส่วนใหญ่เพราะในอดีต มีบางนัดที่เยอรมันอยู่ฝั่งขวานะ แล้วแต่สนามค่ะ ก็เล็งๆเอาเนอะหรือถ้าไม่รู้จริงๆก็ใช้วิธีเดา! ง่ายสุดเลย 555) เราอยากได้โซนใกล้ที่นั่งสำรองเยอรมัน ด้วยความที่เป็นติ่งเกาหลีมาก่อน เราชอบแถวหน้าๆค่ะ อยากสัมผัสบรรยากาศแบบใกล้ๆ เพื่อกันพลาดไปนั่งฝั่งที่นั่งสำรองฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวเราจะหง่าวเสียเปล่าๆ 555 เราเลยกดไปด้วยความเร็วกลัวแถวหน้าหมด และแล้ว... ก็ได้สมใจ ขอฝากอีกนิดนึงเรื่องตั๋วบอลถ้าไม่ซีเรียสเรื่องที่นั่ง ก็กดไปได้เลยนะคะ ไม่ต้องจริงจังขนาดเราก็ได้ 55555 เดี๋ยวจะแบบ เฮ้ย มันต้องขนาดนี้เลยหรอ 555 เอาจริงๆแค่เราได้เข้าไปดูในสนามก็ที่สุดในชีวิตแฟนบอลแล้ว หรือถ้าอยากได้ที่ตรงนี้ ก็เผื่อเอาไว้อีกสัก 2-3 ที่ด้วยแล้วกัน เผื่อกดไม่ทัน แต่ส่วนใหญ่ตั๋วบอลทีมชาติเยอรมันช่วงวันแรกๆจะไม่เต็มเร็วเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็แล้วแต่นัดนะ จะเป็นบางนัดเท่านั้นที่อาจจะไปไวหน่อย แต่ไม่เต็มในช่วงวันแรกๆแน่นอนค่ะ เราก็จ่ายค่าตั๋วบอลด้วยบัตรของเราไปตามที่เขาบอกในเว็บ ซึ่งระบุเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมดด้วย เราพอมีพื้นฐานเยอรมันอยู่บ้างก็อ่านเอาบ้าง กูเกิ้ลแปลบ้าง
ขั้นตอนการซื้อตั๋วบอลโดยละเอียด
1. เข้าเว็บไซต์ของเดเอฟเบ
http://www.dfb.de/index/ และเข้าไปที่ Ticket
2. เลือกนัดที่เราจะไปดูค่ะ สมมติเอาละกันเนอะว่าจะไปดูนัดกระชับมิตรที่พบอิตาลี (ขอโทษจริงๆค่ะช่วงตอนเราซื้อนัดที่เราไปดู เราไม่ได้แคปอะไรไว้เลย รีบมากกลัวไม่ได้ตั๋วที่ที่อยากได้) เราก็คลิ๊กเข้าไป
3. จะมาอยู่ในหน้านี้ค่ะ ในนี้ก็จะบอกว่านัดที่เราจะไปดูนี้จะแข่งกับใคร แข่งที่เมืองไหน สนามอะไร
และข้างล่างจะมีราคาบอกไว้ว่าโซนไหนราคาเท่าไหร่ (นัดของเราแพงสุดอยู่ที่ 80 ยูโรค่ะ นัดนี้ทะลุมา100 ยูโรเชียว)
4. เอาล่ะเราไม่ต้องสนใจข้างล่างนะ ไม่ต้องไปเลือกตั๋วตรงนั้นค่ะ เพราะถ้าเลือกตรงนั้นมันจะสุ่มที่นั่งให้เรา ไม่เอาสิ เราอยากเลือกเองนี่เนอะ ให้เราคลิ๊กตรงแพลนสนามบนหน้าจอด้านบนค่ะ
5. พอคลิ๊กเสร็จ ก็จะขึ้นมาแบบนี้
6. เลือกโซนที่เราอยากนั่งค่ะ สมมตินะว่าเราอยากได้โซน 136 สีแดง ราคา 80 ยูโร มันจะขึ้นมาแบบนี้ เราก็คลิ๊กเข้าไปตรงโซนที่เราอยากนั่งค่ะ บอกต่ออีกนิดนึง บางทีเราอยากจะนั่งตรงกลางใช่มั้ยคะ นั่นแหละ มันกดไม่ได้ ที่เราบอกไปค่ะว่าบางโซนมันบล็อกไว้ เป็นแบบนี้แหละ เราจะกดเข้าไปเลือกที่นั่งในโซนนั้นไม่ได้ เอาล่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เรานั่งโซนที่เขาเปิดให้ก็ได้
7. พอคลิ๊กเข้าไป ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ ก็เป็นหน้าที่เราต่อว่าอยากจะนั่งแถวไหน ที่ตรงไหน สมมติว่าเราเลือก บล็อก 136 แถวที่ 2 ที่นั่ง 1 ละกัน
เราก็ไปกดตรงที่นั่งนั้น พอกดปุ๊บ ก็ให้คลิ๊กเลือก TICKET IN DEN WARENKORB LEGEN ละก็จะไปในหน้าถัดไป
8. เขาก็จะแจ้งเราค่ะว่าเราได้จองโซนไหน แถวอะไร ที่นั่งที่เท่าไหร่ไว้ ตรงกับที่เรากดหรือไม่
9. ขั้นตอนต่อมาคือการกรอกชื่อ-ที่อยู่และรายละเอียดที่เดเอฟเบจะส่งตั๋วมาให้เราค่ะ ตรงนี้ขอออกตัวไว้ก่อน ว่าเราไม่แน่ใจจริงๆ เพราะตัวเรามีไอดีและพาสเวิร์ดแล้ว ถ้าเราล็อคอินเข้าไป ที่อยู่ก็จะขึ้นมาทันทีไม่ต้องกรอกอะไร เราไม่แน่ใจว่ากรอกตรงนี้เสร็จละต้องไปต่อตรงไหนอีกมั้ย แต่เราจะบอกรายละเอียดการกรอกเอาไว้แล้วกันนะคะ ว่าช่องไหนคืออะไร ตามรูปเลยค่ะ
1. คำนำหน้า
2. ชื่อ
3. นามสกุล
4. หมายเลขโทรศัพท์ ใส่รหัสประเทศเราด้วยนะ +66
5. เบอร์โทรมือถือ ใส่ที่ใส่ไว้เมื่อกี้หรือไม่ต้องใส่ก็ได้
6. ชื่อถนน
7. เลขที่บ้าน
8. ตำบล อำเภอ รายละเอียดที่อยู่ใส่ไปเลย
9. รหัสไปรษณีย์
10. จังหวัด
11. ประเทศ
12. อีเมล์ที่เราใช้ปัจจุบัน
13. คอนเฟิร์มอีเมล์
14. วัน เดือน ปีเกิด
15. รหัสผ่าน
16. คอนเฟิร์มรหัสผ่าน
17. สัญชาติ
10. พอเสร็จขั้นตอนการกรอกรายละเอียดของเรามันจะขึ้นมาในหน้าลักษณะนี้ค่ะ ที่ปิดไว้สีแดงๆคือข้อมูลของเรา ชื่อและที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์
11. ในส่วนข้างล่างก็จะมีหน้าตาแบบนี้
ข้างบนสุดเหมือนเป็นช่องให้เลือก จริงๆมันไม่ให้เลือกอะไรเลยค่ะ มันบังคับเราติ๊กทั้ง 2 ช่อง 555555 2ช่องนั้นคือค่าส่งตั๋วมาให้เราส่งDHL ข้างหลังคือค่าตั๋วที่เราต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิต ส่วนล่างนั้นเราไม่แน่ใจว่าส่วนตรงนี้พูดถึงอะไรบ้าง เราก็เอามาแปลอ่านกูเกิ้ลเอา มันเป็นประมาณ term and condition อะไรทำนองนั้นค่ะ เราก็ติ๊กไปทุกช่องที่เขามีให้ติ๊กเลย พอติ๊กเสร็จถึงจะไปหน้าต่อไปได้
12. ข้างล่างมันจะรวมราคาที่เราจะต้องจ่ายในนัดนั้นเบ็ดเสร็จรวมค่าส่งด้วย เป็นส่งDHLค่ะ ค่าส่งอยู่ที่ 20 ยูโร
นัดนั้นที่เราต้องจ่ายเลยเท่ากับ 100 ยูโรนั่นเอง หลังจากนั้นก็กด KAUF ABSCHLIESSEN เข้าสู่หน้าต่อไป
13. ตรงนี้เป็นส่วนของรายละเอียดของบัตรที่เราจะจ่ายค่ะ
ก็กรอกไป พอกรอกเสร็จให้คลิ๊ก Bestatigen แต่ถ้าอยากกลับไปแก้ไขส่วนไหนก็คลิ๊ก Abbrechen ค่ะ
14. เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในการจองตั๋วไปดูทีมชาติเยอรมัน ไม่ยากนะคะ เขาก็จะส่งรายละเอียดมาให้เราในอีเมล์ค่ะ เป็นภาษาเยอรมันอีกตามเคย และอีกประมาณ 1-2 เดือนตั๋วก็จะถูกส่งมาตามที่อยู่ที่เราให้ไว้ ตั๋วก็จะหน้าตาเป็นเช่นนี้แล
เสร็จสรรพ ตั๋วบอลได้มาแล้ว พร้อมลุยจ้า
[CR] รีวิวประสบการณ์"บอลพาไป" ดูบอลที่เยอรมันและเบลเยียม
เราคิดแพลนนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วค่ะ เราไปดูบอลทั้งหมด 5 นัดทั้งทีมชาติและสโมสร แต่เราจะเลือกรีวิวสัก 3 นัดละกันเนอะ(5 นัด จะเยอะไปไหน555) เผื่อไว้เป็นไกด์ไลน์ให้กับผู้ที่สนใจไปดูบอลเยอรมันทั้งสโมสรหรือทีมชาติ และทีมชาติเบลเยียม หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
"บอลพาไป" ตอนที่ 1 แฮปปี้กับทีมชาติเยอรมัน
ไม่พูดนานมาเข้าเรื่อง นัดแรกที่เราไปดูคือทีมชาติเยอรมันค่ะ ตอนแรกเราลังเลค่ะว่าจะไปดูช่วงเดือนกันยายน(พบโปแลนด์)หรือตุลาคม(พบจอร์เจีย)ดี พบโปแลนด์เราก็อยากดูค่ะ แต่นะสุดท้ายเราเลือกนัดช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงเดือนวันเกิดของโอซิล เรากะเตรียมของขวัญไปให้เขาด้วย
มาถึงขั้นตอนจองตั๋วเครื่องบิน จริงๆเรียกได้ว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบมากๆ คือตอนนั้นเรารู้แค่แพลนของทีมชาติค่ะ ของสโมสรเราไม่รู้อะไรเลย เพราะมันจะเป็นตารางในฤดูกาลถัดไปหรือก็คือฤดูกาลนี้ล่ะค่ะ(2015/16) คือเป็นโชคของเราแล้วว่าช่วงที่เราจะจองนั้นมันจะตรงใจเรามั้ย(ส่วนจะตรงหรือไม่ตรง ไว้เล่าในตอนบอลสโมสรเนอะ) บังเอิญว่าช่วงนั้นมันมีโปรค่ะ จากเพจอาแปะ เราก็เล็งๆดูๆอยู่สักพักค่ะ เฮ้ย ราคามันถูกมาก โปรของ Etihad ค่ะ โดยการจองแบบมัลติหรือจองแบบหลายเมืองจะได้ตั๋วถูก เช่นไปขึ้นเครื่องที่เมืองอื่นเช่นกัวลาลัมเปอร์หรือสิงคโปร์ แต่ขากลับมาลงที่ไทยอะไรแบบนี้ ตัวเราทำงานอยู่สิงคโปร์ค่ะ เราเลยเลือกออกจากสิงคโปร์ละกัน ซึ่งของEtihadจะต้องไปต่อเครื่องที่อาบูดาบี ขั้นตอนการต่อเครื่องก็ไม่ยากอะไรมากค่ะ ขาลงรอบไปเราเลือกลงเครื่องที่แฟรงก์เฟิร์ต ค่อยต่อรถไฟไปไลพ์ซิกเอา ส่วนขากลับเราไปขึ้นที่มิวนิกและเลือกลงที่กรุงเทพฯ และซื้อตั๋วเครื่องบินแยกกลับมาสิงคโปร์อีกที เราเลยจองตั๋วเครื่องบินวันที่ 9 ตุลาคมเพื่อไปถึงที่นู่นวันที่ 10 โปรแกรมแข่งคือวันที่ 11ค่ะ เราจองตั๋วตั้งแต่ต้นปีเลย น่าจะหลังปลายเดือนมกราคมถ้าจำไม่ผิด(ฟิตมาก555) สรุปการจองตั๋วเครื่องบินของเราคือ
สิงคโปร์ - แฟรงก์เฟิร์ต วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม เดินทางช่วงกลางคืนถึงเช้าวันที่ 10
ขากลับ มิวนิก - กรุงเทพฯ วันที่ 25 ตุลาคม ในราคาหมื่นหกกว่าๆ
ตามนี้เลยจ้า
พอได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ขั้นตอนต่อไปของเราคือ เช็คข่าวของทีมชาติเท่าที่เช็คได้ทั้งหมด หากเราทำการบ้านมาดี ทุกเรื่องก็จะง่ายขึ้น เราเป็นแอดมินของทวิตเตอร์ DFB_Thailand(@dfb_th)อยู่แล้ว(โฆษณาไปอีก55) การเช็คข่าวต่างๆเป็นอะไรที่เราทำอยู่แล้วเป็นประจำเลยสบายหน่อย ข้อดีของเดเอฟเบหรือสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันคือมีแพลนที่แน่นอน บอกวันที่แข่ง พบกับใคร รายการไหนบ้าง ตอนเข้าแคมป์ทีมชาติทำอะไรบ้าง วันขายตั๋ว เรียกได้ว่าละเอียดยิบ เชียร์เยอรมันไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ #โฆษณา 555 เราเลยสามารถแพลนได้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าเราไปนัดนี้ นัดที่เราไป แข่งที่เมืองไลพ์ซิก ช่วงทีมชาติเรียกได้ว่าเรามีแพลนที่ค่อนข้างแน่นอนมากกว่าแพลนของสโมสรเสียอีก หลังจากนั้นเราก็จัดการจองโรงแรม เช็คตารางรถไฟ เส้นทางการไปสนาม และรายละเอียดอื่นๆรอคอยวันที่จะจองตั๋วค่ะ(วันขายตั๋ว เดเอฟเบจะประกาศในเว็บไซต์ตลอดค่ะ แต่ถ้าไม่อยากพลาด ไม่ได้เข้าเว็บอยู่ตลอดก็ตามทวิตเตอร์หลักของเดเอฟเบเลย @DFB_Team // @DFB_Team_EN)
เอาล่ะมาถึงขั้นตอนจองตั๋ว ก่อนอื่นเราขอออกตัวไว้สักนิดว่าเราเป็นสมาชิกของแฟนคลับทีมชาติเยอรมัน ซึ่งจะมีเสียค่าธรรมเนียม 50 ยูโรต่อปี เราเพิ่งตัดสินใจทำหลังจากจองตั๋วเครื่องบินไปเดือนนึงโดยคิดว่าเป็นไปเถอะไม่เสียหาย เราอยากเป็นด้วย 555
อันนี้คือหน้าตาบัตรของเราค่ะ หลังสมัครสมาชิกก็จะถูกส่งมาหลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน
ซึ่งเวลาเปิดให้จองตั๋วนั้นเขาจะให้สิทธิ์แฟนคลับก่อนบุคคลทั่วไปค่ะ แต่เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น พอวันที่ทางเดเอฟเบเปิดให้จองตั๋วนั้น บางโซนจะโดนปิดไว้ โดยเราก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน เราเลยคิดไปว่าเขาจะเปิดพร้อมกับคนทั่วไปหรือเปล่า ช่วงแฟนคลับจอง เราเลยยังลังเลค่ะ เรารอจนวันที่คนทั่วไปจองได้(สรุปว่าก็จองพร้อมทุกคนอยู่ดี555) เราถึงมานั่งเฝ้าหน้าจออีกครั้ง ปรากฎว่าโซนที่เราอยากได้ก็ยังไม่เปิดอยู่ดี เราเลยตัดสินใจกดไปเลยแล้วกัน ไม่งั้นเดี๋ยวอดที่ดีๆ ก่อนหน้าที่จะกดนั้นเรามีการเช็คข่าวก่อนค่ะว่าเยอรมันอยู่ฝั่งไหน(ข้อแนะนำในการเช็ค ไปดูนัดเก่าๆได้ เจ้าบ้านเยอรมันจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของเราเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ที่ต้องบอกว่าส่วนใหญ่เพราะในอดีต มีบางนัดที่เยอรมันอยู่ฝั่งขวานะ แล้วแต่สนามค่ะ ก็เล็งๆเอาเนอะหรือถ้าไม่รู้จริงๆก็ใช้วิธีเดา! ง่ายสุดเลย 555) เราอยากได้โซนใกล้ที่นั่งสำรองเยอรมัน ด้วยความที่เป็นติ่งเกาหลีมาก่อน เราชอบแถวหน้าๆค่ะ อยากสัมผัสบรรยากาศแบบใกล้ๆ เพื่อกันพลาดไปนั่งฝั่งที่นั่งสำรองฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวเราจะหง่าวเสียเปล่าๆ 555 เราเลยกดไปด้วยความเร็วกลัวแถวหน้าหมด และแล้ว... ก็ได้สมใจ ขอฝากอีกนิดนึงเรื่องตั๋วบอลถ้าไม่ซีเรียสเรื่องที่นั่ง ก็กดไปได้เลยนะคะ ไม่ต้องจริงจังขนาดเราก็ได้ 55555 เดี๋ยวจะแบบ เฮ้ย มันต้องขนาดนี้เลยหรอ 555 เอาจริงๆแค่เราได้เข้าไปดูในสนามก็ที่สุดในชีวิตแฟนบอลแล้ว หรือถ้าอยากได้ที่ตรงนี้ ก็เผื่อเอาไว้อีกสัก 2-3 ที่ด้วยแล้วกัน เผื่อกดไม่ทัน แต่ส่วนใหญ่ตั๋วบอลทีมชาติเยอรมันช่วงวันแรกๆจะไม่เต็มเร็วเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็แล้วแต่นัดนะ จะเป็นบางนัดเท่านั้นที่อาจจะไปไวหน่อย แต่ไม่เต็มในช่วงวันแรกๆแน่นอนค่ะ เราก็จ่ายค่าตั๋วบอลด้วยบัตรของเราไปตามที่เขาบอกในเว็บ ซึ่งระบุเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมดด้วย เราพอมีพื้นฐานเยอรมันอยู่บ้างก็อ่านเอาบ้าง กูเกิ้ลแปลบ้าง
ขั้นตอนการซื้อตั๋วบอลโดยละเอียด
1. เข้าเว็บไซต์ของเดเอฟเบ http://www.dfb.de/index/ และเข้าไปที่ Ticket
2. เลือกนัดที่เราจะไปดูค่ะ สมมติเอาละกันเนอะว่าจะไปดูนัดกระชับมิตรที่พบอิตาลี (ขอโทษจริงๆค่ะช่วงตอนเราซื้อนัดที่เราไปดู เราไม่ได้แคปอะไรไว้เลย รีบมากกลัวไม่ได้ตั๋วที่ที่อยากได้) เราก็คลิ๊กเข้าไป
3. จะมาอยู่ในหน้านี้ค่ะ ในนี้ก็จะบอกว่านัดที่เราจะไปดูนี้จะแข่งกับใคร แข่งที่เมืองไหน สนามอะไร
และข้างล่างจะมีราคาบอกไว้ว่าโซนไหนราคาเท่าไหร่ (นัดของเราแพงสุดอยู่ที่ 80 ยูโรค่ะ นัดนี้ทะลุมา100 ยูโรเชียว)
4. เอาล่ะเราไม่ต้องสนใจข้างล่างนะ ไม่ต้องไปเลือกตั๋วตรงนั้นค่ะ เพราะถ้าเลือกตรงนั้นมันจะสุ่มที่นั่งให้เรา ไม่เอาสิ เราอยากเลือกเองนี่เนอะ ให้เราคลิ๊กตรงแพลนสนามบนหน้าจอด้านบนค่ะ
5. พอคลิ๊กเสร็จ ก็จะขึ้นมาแบบนี้
6. เลือกโซนที่เราอยากนั่งค่ะ สมมตินะว่าเราอยากได้โซน 136 สีแดง ราคา 80 ยูโร มันจะขึ้นมาแบบนี้ เราก็คลิ๊กเข้าไปตรงโซนที่เราอยากนั่งค่ะ บอกต่ออีกนิดนึง บางทีเราอยากจะนั่งตรงกลางใช่มั้ยคะ นั่นแหละ มันกดไม่ได้ ที่เราบอกไปค่ะว่าบางโซนมันบล็อกไว้ เป็นแบบนี้แหละ เราจะกดเข้าไปเลือกที่นั่งในโซนนั้นไม่ได้ เอาล่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เรานั่งโซนที่เขาเปิดให้ก็ได้
7. พอคลิ๊กเข้าไป ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ ก็เป็นหน้าที่เราต่อว่าอยากจะนั่งแถวไหน ที่ตรงไหน สมมติว่าเราเลือก บล็อก 136 แถวที่ 2 ที่นั่ง 1 ละกัน
เราก็ไปกดตรงที่นั่งนั้น พอกดปุ๊บ ก็ให้คลิ๊กเลือก TICKET IN DEN WARENKORB LEGEN ละก็จะไปในหน้าถัดไป
8. เขาก็จะแจ้งเราค่ะว่าเราได้จองโซนไหน แถวอะไร ที่นั่งที่เท่าไหร่ไว้ ตรงกับที่เรากดหรือไม่
9. ขั้นตอนต่อมาคือการกรอกชื่อ-ที่อยู่และรายละเอียดที่เดเอฟเบจะส่งตั๋วมาให้เราค่ะ ตรงนี้ขอออกตัวไว้ก่อน ว่าเราไม่แน่ใจจริงๆ เพราะตัวเรามีไอดีและพาสเวิร์ดแล้ว ถ้าเราล็อคอินเข้าไป ที่อยู่ก็จะขึ้นมาทันทีไม่ต้องกรอกอะไร เราไม่แน่ใจว่ากรอกตรงนี้เสร็จละต้องไปต่อตรงไหนอีกมั้ย แต่เราจะบอกรายละเอียดการกรอกเอาไว้แล้วกันนะคะ ว่าช่องไหนคืออะไร ตามรูปเลยค่ะ
1. คำนำหน้า
2. ชื่อ
3. นามสกุล
4. หมายเลขโทรศัพท์ ใส่รหัสประเทศเราด้วยนะ +66
5. เบอร์โทรมือถือ ใส่ที่ใส่ไว้เมื่อกี้หรือไม่ต้องใส่ก็ได้
6. ชื่อถนน
7. เลขที่บ้าน
8. ตำบล อำเภอ รายละเอียดที่อยู่ใส่ไปเลย
9. รหัสไปรษณีย์
10. จังหวัด
11. ประเทศ
12. อีเมล์ที่เราใช้ปัจจุบัน
13. คอนเฟิร์มอีเมล์
14. วัน เดือน ปีเกิด
15. รหัสผ่าน
16. คอนเฟิร์มรหัสผ่าน
17. สัญชาติ
10. พอเสร็จขั้นตอนการกรอกรายละเอียดของเรามันจะขึ้นมาในหน้าลักษณะนี้ค่ะ ที่ปิดไว้สีแดงๆคือข้อมูลของเรา ชื่อและที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์
11. ในส่วนข้างล่างก็จะมีหน้าตาแบบนี้
ข้างบนสุดเหมือนเป็นช่องให้เลือก จริงๆมันไม่ให้เลือกอะไรเลยค่ะ มันบังคับเราติ๊กทั้ง 2 ช่อง 555555 2ช่องนั้นคือค่าส่งตั๋วมาให้เราส่งDHL ข้างหลังคือค่าตั๋วที่เราต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิต ส่วนล่างนั้นเราไม่แน่ใจว่าส่วนตรงนี้พูดถึงอะไรบ้าง เราก็เอามาแปลอ่านกูเกิ้ลเอา มันเป็นประมาณ term and condition อะไรทำนองนั้นค่ะ เราก็ติ๊กไปทุกช่องที่เขามีให้ติ๊กเลย พอติ๊กเสร็จถึงจะไปหน้าต่อไปได้
12. ข้างล่างมันจะรวมราคาที่เราจะต้องจ่ายในนัดนั้นเบ็ดเสร็จรวมค่าส่งด้วย เป็นส่งDHLค่ะ ค่าส่งอยู่ที่ 20 ยูโร
นัดนั้นที่เราต้องจ่ายเลยเท่ากับ 100 ยูโรนั่นเอง หลังจากนั้นก็กด KAUF ABSCHLIESSEN เข้าสู่หน้าต่อไป
13. ตรงนี้เป็นส่วนของรายละเอียดของบัตรที่เราจะจ่ายค่ะ
ก็กรอกไป พอกรอกเสร็จให้คลิ๊ก Bestatigen แต่ถ้าอยากกลับไปแก้ไขส่วนไหนก็คลิ๊ก Abbrechen ค่ะ
14. เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในการจองตั๋วไปดูทีมชาติเยอรมัน ไม่ยากนะคะ เขาก็จะส่งรายละเอียดมาให้เราในอีเมล์ค่ะ เป็นภาษาเยอรมันอีกตามเคย และอีกประมาณ 1-2 เดือนตั๋วก็จะถูกส่งมาตามที่อยู่ที่เราให้ไว้ ตั๋วก็จะหน้าตาเป็นเช่นนี้แล
เสร็จสรรพ ตั๋วบอลได้มาแล้ว พร้อมลุยจ้า