หลังจากที่ Eagle Blade 16GB (4G) เปิดตัวและมีการวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2558 ดีแทคช็อปสาขาใกล้บ้าน เอามาวางจำหน่ายประมาณ 20 ตุลาคม ในที่สุดก็มีโอกาสซื้อมาลอง (ประเด็นคือต้องการหาเครื่องที่สเปกดีกว่าหรือเท่ากับ Zenfone 5 2GB/16GB ในราคาประมาณ 4xxx)

สเปกคร่าวๆ
- รองรับ 4G คลื่น 2100MHz และคลื่น 1800MHz และ 3G 850MHz
- หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว มาพร้อมกับจอแสดงผลความคมชัดระดับ HD IPS (1280×800) ขอบโค้งมนด้วยกระจกแบบ 2.5D
- ระบบประมวลผล MT6735P Quad Core 1.0GHz (64 Bit)  RAM 2GB, ROM 16GB รองรับ MicroSD สูงสุด 32GB
- ความละเอียดกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED, ความละเอียดกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชหน้า และเซ็นเซอร์กล้องจาก Samsung
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- แบตเตอรี่ 2,200mAh
- ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น Android 5.1 (Lollipop)
- ฟรี case และฟิล์มติดหน้าจอ

เปิดกล่องมาครั้งแรก ถึงกับอึ้ง เนื่องจากฝาหลังท้อง...ทอง โซลิดโกลด์ เป็นพลาสติกที่เคลือบมัน ลายสีทองเป็นเส้นๆ ดูเหมือนโลหะ ที่ดูแล้ว สด ลิเก มาก (เมื่อเทียบกับ Eagle Blade 8GB สีแชมเปญโกลด์ ที่ออกแบบมา ทองแบบด้านๆ ขอบของเครื่องก็เป็นสีทองแบบด้านๆ ดูคล้าย ไอโฟน 6 มาก) โชคดีที่รุ่นนี้ แถมเคสหนัง(เทียม)มาให้ด้วย เลยโอเค ที่ไม่ต้องโชว์ฝาหลังทองลิเกๆ แบบนี้ (16GB ขอบจะเป็นพลาสติกที่ชุบโครเมียมเป็นมันเงาทอง ฝาหลังจึงออกแบบมาให้มัน เงาด้วย)

ตอนที่ซื้อราคา 3195 บาท ลดจาก 4Gเฟสทิวัล 1000 บาท ใช้ลดส่วนย้ายค่าย 1500 บาท เหลือราคาเครื่อง 695 บาท จ่ายรายเดือนล่วงหน้า 3 เดือนๆ ละ 599 บาท (ไม่รวมแวต) เป็นเงิน 1923 บาท สรุปจ่ายวันรับเครื่อง 2618 บาท (ถ้ารวมภาระผูกพันอีก 3 เดือน 1923 บาท ราคาเครื่องรวม 4541 บาทเท่านั้นเอง)

ด้านการใช้งาน เมื่อเทียบกับ Wiko Highway Signs ประมาณ 3000 บาท (รูปร่างคล้ายไอโฟน 4s ที่เอามาเทียบเพราะ เดิมราคาเปิดตัวปีที่แล้ว สูงถึง 6990 บาท สเปกพอๆ กับ Zenfone 5 แต่ปัจจุบันหาซื้อได้ในราคาประมาณ 3000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีในตอนนี้) รู้สึกชอบมากกว่า ถึงแม้ว่า อีเกิลเบรด 16GB จะได้คะแนน Antutu ประมาณ 21xxx (พอๆ กับ Zenfone 5 2GB/16GB) การเล่นเกมอย่าง Need for Speed Most Wanted, Asphalt 8 ก็สามารถเล่นได้ ในระดับที่พอใจ (แต่ Wiko Signs เล่นไม่ได้ T_T)

ก่อนซื้อออกมาจากร้าน ก็ลองกด *983*0# (ในโปรแกรม Phone เพื่อทดสอบเครื่องก่อนได้ค่ะ)

สิ่งที่โอเค
- เล่น Facebook, Line, Cookie Run เกมทั่วๆ ไปที่กราฟิกไม่สูงได้สบายๆ (ในขณะที่ Wiko Signs คะแนนสูงแต่เล่นไม่ค่อยได้)
- ราคารวม 4541 บาท (แพ็กเกจ 599 บาท โทร 300 นาที เน็ต 5GB+(2GB 6 เดือน) รวม 6 เดือน) เมื่อเทียบกับซื้อเครื่องเปล่า 5390 บาท (ประหยัดไปประมาณ 850 บาท)
- ความเร็วในการใช้งาน ลื่นไหลดี (ถ้าอยากทดสอบ ก็ลองทดสอบได้ที่ดีแทคช็อป)
- ถ่ายรูปได้สวยงาม
- ดีกว่า ซื้อ True Lenovo A6000 ที่ได้เครื่องฟรี แต่ต้องเสียค่าบริการรายเดือนๆ ละ 599 บาท 12 เดือน
- ใช้งานซิม my ได้ แต่ต้องให้เป็นซิม 1 (ปกติใช้ Dtac เป็นซิม 1 และ Ture เป็นซิม 2)

สิ่งที่ไม่ประทับใจ
- เป็นสีทองที่ลิเกมากๆ (ชดเชยด้วยการใส่เคสที่แถมมาให้) ถ้าสามารถซื้ออะไหล่ฝาหลังของ Eagle Blade 8GB มา ก็สามารถใส่แทนได้ แต่จะมีขายหรือไม่ ไม่แน่ใจ
- ไม่สนับสนุน OTG แต่ก็นะ เครื่องราคาถูก ไม่ค่อยสนับสนุนอยู่แล้ว (แต่ Wiko Signs สนับสนุน OTG นะ) แต่ก็สามารถใส่ MicroSD ในเครื่องได้อยู่แล้ว
- ซื้อมาครั้งแรก ไฟที่"ขอบ"ด้านล่างของจอภาพ จะมีแสงออกมาเป็นดวงๆ ไม่สม่ำเสมอ แต่จนท.ก็ยินดีที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้
- ต่อมา สอบถามไปยัง Call Center ของ 1678 จนท. แจ้งว่า ไฟที่"ขอบ"ด้านล่างของจอภาพ จะมีแสงออกมาเป็นดวงๆ ไม่สม่ำเสมอ เป็นเรื่องปกติของเครื่องรุ่นนี้ ใครที่จะซื้อ ถ้ารับข้อนี้ไม่ได้ ก็ไม่ควรซื้อนะคะ (ก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่า ข้อผิดพลาดแบบนี้ เป็นเรื่องปกติ)