โตโน่ แจงกระแสปรับบทละคร หัวใจมีเงา ปัดใช้ชีวิตเลียขานาย

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สำหรับละครเรื่อง "หัวใจมีเงา" ซึ่งมีการปรับบทละครให้ต่างจากบทประพันธ์เดิม จนแฟนนิยายไม่พอใจ งานนี้ "โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" ซึ่งรับบทเป็น กวี หนึ่งในตัวละครนำของ หัวใจมีเงา ออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า

             "อันนี้ไม่ใช่ครับ อันนี้ผมคิดว่าคงจะเข้าใจกันผิดครับ ผมได้เห็นว่าเขาเข้าใจว่าหลังจากที่ผมแถลงข่าว แล้วปรับมาให้ผมเป็นพระเอก อันนี้ไม่ใช่นะครับ ละครเรื่องนี้ถ่ายจบไปนานแล้ว ถ่ายจบไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วแล้วครับ ไม่ได้เกี่ยว บทมันเป็นแบบนี้อยู่แล้วนะครับ"


ถามว่าหลังออกอากาศตอนอวสานไปแล้ว จะทำให้คอนิยายผิดหวังไหม เจ้าตัวแง้มว่า

             "ผมเข้าใจความตั้งใจของทุกคนนะครับ และผมก็รู้ว่าคนที่รักบทประพันธ์เดิม เขาก็รักในเนื้อเรื่องเดิมของเขา แต่เราก็มีแนวทางในการทำงานของเรา ซึ่งละครเรื่องนี้มันก็สอนให้รู้นะครับว่าความรักเนี่ย พอมันไม่ใช่เรื่องของคน 2 คน มันเป็นเลขที่มากกว่า 2 ขึ้นมา อย่างเรื่องนี้มันกลายเป็น 3 คน แน่นอนว่าพอต้องเลือกใครสักคนหนึ่ง มันต้องมีคนเจ็บครับ แล้วยิ่งถ้าเกิดว่า คน 2 คนนั้นก็เป็นคนดีทั้ง 2 คน เป็น 2 คนที่รักเราจริงๆ ทั้ง 2 คน ยังไงมันก็ลำบาก มันไม่เหมือนกับละครเรื่องอื่นที่เรารู้เลยว่า คนนี้เป็นคนไม่ดี คนไม่ดีต้องผิดหวัง มันไม่ใช่ครับ มันเหมือนกับชีวิตจริง ซึ่งมันก็เป็นความตั้งใจหนึ่งที่เราเล่นมานะครับ ซึ่งตัวผมเองเนี่ย ผมได้รับบรีฟมาว่าผมต้องรัก ละเวง (รับบทโดย ก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ) รักเขาคนเดียว เราก็เล่นตามที่เราได้รับมอบหมายมาครับ"


หนุ่ม โตโน่ ยืนยันไม่มีปัญหากับเจ้าของบทเด่นในนิยายอย่างหนุ่ม "แฟร์ - กันต์ดนย์ อะคาซาน" แน่นอน

             "ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ คือสำหรับตัวผมเองถ้าใครไม่สบายใจหรือใครมีปัญหาก็พูดกับผมได้เลยนะ แต่ว่าตั้งแต่เราร่วมงานกันมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นกับ โดนัท (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) กับแฟร์ กับก้อย กับทีมงานทุกคนนะครับ จริงๆ แล้วทุกคนทำงานกันอย่างหนัก แล้วก็ตั้งใจเต็มที่เพื่ออยากให้คนดูมีความสุขนะครับ" นักแสดงหนุ่มเปิดใจไม่กลัวกระแสด้านลบ "ไม่กลัวนะครับ ผมรู้สึกว่าคนที่เขามีความสุขก็มีครับ ก็มีอยู่เยอะครับ คนที่ไม่พอใจก็มี มันเป็นเรื่องธรรมดาแหละครับ แล้วเราทำงาน เรามีหน้าที่เป็นตัวละครครับ เรามีหน้าที่ทำในสิ่งที่ตัวละครตัวนี้รู้สึก แล้วก็ได้รับมอบหมายมาว่าเวอร์ชันนี้ ตัวนี้จะรู้สึกอย่างนี้นะ ในบทประพันธ์เนี่ย กวีเนี่ย พอละเวงเสียชีวิตนะครับ เขาก็มีแฟนใหม่เลย เป็นคนเจ้าชู้นะครับ ในหนังสือนะครับ แต่ในเวอร์ชันนี้ผมโดนบรีฟมาว่าละเวงตายแต่ให้รอ ดังนั้นจะให้ผมไปเล่นแบบในหนังสือก็ไม่ใช่ครับ ผมก็ต้องทำงานกับทีมงานของผมครับ"


ส่วนเรื่องที่มีคนมองว่ากลับมาเป็นลูกรักของช่องนั้น โตโน่ ค้านว่า

             "ไม่ใช่ครับ ละครเรื่องนี้จบไปเมื่อปีที่แล้วนะครับ ในตอนนั้นเนี่ยข่าวยังลงอยู่เลยนะครับว่าผมไม่ใช่ลูกรักนะครับ และตัวผมเอง ผมไม่เคยอยากเป็นลูกรักนะครับ ผมไม่ได้ภูมิใจกับการที่ถ้าผมจะก้าวขึ้นมาเหนือคนอื่นด้วยอภิสิทธิ์พิเศษนะครับ ผมไม่เคยภูมิใจในจุดนั้นนะครับ การที่ผมมีทุกวันนี้ได้ การที่ผมเป็นตัวของผมทุกวันนี้เนี่ย ถ้าผมจะทำตัวเพื่อเอาใจใคร หรือเป็นลูกรักของใคร ผมก็คงไม่ภูมิใจหรอกครับ ผมโตโน่ก็คือโตโน่นะครับ โตโน่ตอบกับสื่อแบบนี้ คืออย่างนี้ โตโน่รักก็คือโตโน่รัก โตโน่เลิกก็คือโตโน่เลิก ดังนั้นผมไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อเลียแข้งเลียขานาย แล้วให้นายมาบอกว่าเป็นลูกรัก ผมจะไม่ภูมิใจนะครับ แล้วคนที่ทำแบบนั้น ไม่ได้รักนายจริงแน่นอนครับ การที่เราจะตอบแทนผู้มีพระคุณได้นะครับ การที่เราจะตอบแทนคนดูได้ คือการทุ่มเทงานทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขครับผม ซึ่งนั่นคือวิธีของผมครับ"


ดาราหนุ่มเล่าเรื่องที่สวมชุดตุ๊กตาหมีไปแสดงความยินดีกับน้องชายร่วมก๊วนอย่าง "กัน - นภัทร อินทร์ใจเอื้อ" ในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่า

             "เราก็ไม่เคยทำแบบนี้นะครับ คือผมก็คิดว่าเออมันเป็นวันดีๆ ของน้องผม แล้วเราก็ชอบแกล้งเขานะครับ ไม่ว่าจะเป็นกัน เป็นริท (เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช) เราก็แกล้งมัน ก็มีน้อยใจ มีงอนอะไรอย่างนี้ครับ อย่างวันเกิดริท ผมก็จะแกล้งอวยพรกัน วันเกิดกัน ผมก็อวยพรริท คือไม่สนใจ แล้วมันก็จะเป็นแบบ เออ แล้วแต่พี่เลย พี่อยากทำอะไรก็แล้วแต่พี่ น้อยใจตามประสาเด็กๆ เขานะ" นักร้องหน้าตี๋เผยที่มาของชุดตุ๊กตาหมีว่า "ก็คือผมโทรไปครับ ผมก็เข้ากูเกิลครับ แล้วก็เสิร์ชว่าเช่าชุดมาสคอตครับผม แล้วผมก็รู้ว่ากันชอบพวกคอมมิกส์ แต่พอดีพวกไอรอนแมน พวกกัปตันอเมริกา ชุดมันรัด แล้วเราจะไปเดินในมหาลัย มันก็อายครับ เราก็คิดว่าชุดมาสคอตมันควรเป็นตัวบวมๆ น่ารักๆ เราก็เลยเอาชุดหมีเท็ด หนักอยู่ หัวก็ประมาณ 5 โลได้ครับ แต่ก็โอเคครับ เราเห็นน้องมีความสุข เราเห็นแฟนคลับมีความสุข แล้วไม่ใช่แค่กันนะ น้องๆ ที่เรียนจบในวันนั้นเขาก็ดีใจครับ เราก็ได้ถ่ายรูปกับคนอื่นด้วย ที่เช่ามามันก็คุ้มนะครับ ผมว่ามันก็คุ้ม"


เครดิต : http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=4150328
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่