สวัสดีค่า ! ก่อนจะเริ่มรีวิว ขอฝากกระทู้เก่า ๆ ด้วยนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กันโนะ ><
[ เที่ยวไปเหอะ ] เชียงใหม่หน้าฝน 4 วัน 3 คืน (ดอยอินทนนท์ / แม่กลางหลวง / ป่าบงเปียง / ตัวเมือง) ฉบับ Backpack !
http://ppantip.com/topic/34106129
บันทึกการเดินทาง : แค้มปิ้งครั้งแรก ณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ.กาญจนบุรี ( 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว )
http://ppantip.com/topic/32772866
บันทึกการเดินทาง : ผู้หญิงหนึ่งคน จักรยานพับหนึ่งคัน ลุยเมืองกาญฯ 2 วัน 1 คืน (กรุงเทพ-กาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ)
http://ppantip.com/topic/32559612
บันทึกการเดินทาง : เอาจักรยาน (พับ) ขึ้นรถไฟ ไปปั่นไกลที่มวกเหล็ก (กรุงเทพ-น้ำตกเจ็ดสาวน้อย) + เส้นทางการปั่น
http://ppantip.com/topic/32506979
บันทึกการเดินทาง : ปั่นจักรยานเดี่ยวเที่ยวกระเพาะหมู (ช่องนนทรี - บางกระเจ้า)
http://ppantip.com/topic/32456954
ทริปนี้เราเดินทางไประหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2558 แต่ที่บอกว่า 3 วัน 2 คืนเพราะเสียเวลาไปกับการเดินทางขาไปและกลับ เราเลยไม่นับนะ แหะๆ . . . ช่วงนี้เป็นช่วงหยุดยาว เชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอนเริ่มมีลมหนาวแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงพีคของปายกับปางอุ๋ง ดังนั้นข้อดีของทริปนี้ คือ
คุณจะได้เที่ยวภาคเหนือในบรรยากาศหนาว ๆ โดยที่ไม่ต้องแออัดกับกองทัพนักท่องเที่ยวนั่นเอง
แผนการเดินทางและค่าใช้จ่ายในทริปอย่างคร่าว ๆ ลองเอาไปปรับกันดูนะคะ ^ ^
เลิกงานแล้ว ไปเที่ยวได้ ! ! [ กรุงเทพ - เชียงใหม่ ]
นาฬิกาบอกเวลา 18:00 น. เรารีบเดินทางออกจากออฟฟิสพร้อมด้วยกระเป๋าเป้ใบน้อยและเต๊นท์ลายทหารคู่ใจ มุ่งสู่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และด้วยความที่ลาพักร้อนก่อนหยุดยาว 1 วัน ทำให้การนั่งแท็กซี่จากบีทีเอสไปหมอชิต 2 เป็นอะไรที่ถนนโล่งมาก ^ ^ . . . ทริปนี้เราจองตั๋วล่วงหน้าเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งก็โชคดีมากที่เที่ยวรถที่ต้องการไม่เต็มหมดเสียก่อน
เวลา 20:15 น. ล้อรถเริ่มหมุนเพื่อพาเราสู่เชียงใหม่แล้ว . . .
สวัสดีเชียงใหม่ขอใช้เป็นทางผ่านหน่อยนะ [ อาเขต - ปาย ]
9 ชั่วโมงบนรถทัวร์ผ่านไป เราก็เดินทางมาถึงสถานีขนส่งเชียงใหม่หรืออาเขตตอน 06:00 น. แว้บไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วเริ่มมองหา
คิวรถตู้เปรมประชา เพื่อจะซื้อตั๋วไปปายทันที
[ คิวรถตู้เปรมประชาตั้งอยู่ที่อาเขตใหม่ ดังนั้นหากใครไม่รู้ว่าลงรถทัวร์ที่อาเขตใหม่หรือเก่าแนะนำว่าให้ถามจนท.เลย เพราะทั้ง 2 แห่งนั้นห่างกันเพียงแค่ข้ามถนน ]
สำหรับการเดินทางจากอาเขตไปปายนั้นมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ คือ
รถตู้และรถบัสหวานเย็น ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคงหนีไม่พ้นรถตู้ และหากจะไปเที่ยวช่วงหยุดยาวแบบนี้ แนะนำว่าให้กดจองในเว็บไซต์เสียก่อน เพราะหากไปซื้อเอาหน้างานโอกาสที่คุณจะได้นั่งรถหวานเย็นนั้นมีสูงมาก นอกจากนี้หากมีแผนการเดินทางที่แน่นอนก็จองตั๋วขากลับไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยก็ได้
ตารางเวลาเดินรถของบริษัทเปรมประชาขนส่ง
*** Premprachatransports.com/ticket-th เว็บของบริษัทเปรมประชา โดยทริปนี้เราใช้เส้นทางเชียงใหม่ – ปาย – แม่ฮ่องสอนนะจ๊ะ
เช่ามอไซต์ขี่เที่ยวทั่วปายเพลิน ๆ
เรานั่งรถตู้จากอาเขตรอบ 07:30 น. ใช้เวลา 3 ชม. ถึงปายประมาณ 10:30 น. นึกขึ้นได้ว่าลืมจองตั๋วรถตู้ที่จะไปแม่ฮ่องสอนพรุ่งนี้ - - แต่ไม่เป็นไรใจร่ม ๆ ไว้ เพราะที่ท่ารถปายมีเค้าเตอร์จองตั๋วอยู่ ดังนั้นเดินไปซื้อได้เลย (ปาย-แม่ฮ่องสอน 150 บ. รอบ 08:30 น.) ได้ตั๋วเป็นที่เรีนบร้อยเราก็เดินไปร้านเช่ามอไซต์ซึ่งอยู่ข้างท่ารถตู้ (เช่า 1 วัน 200 บ. มัดจำ 1,000 บ.) . . . หลังจากได้มอไซต์แล้วก็ขี่ไปเช็คอินห้องพักกัน !!!!
สำหรับที่พักในปายนั้นเราเลือก
K.K. Hut Guest House โดยส่วนตัวชอบมาก ๆ เพราะเหมือนเป็นมุมสงบเล็ก ๆ ในปาย ราคาคืนละ 320 บาทเท่านั้นไม่มีแอร์ มี Wi-fi ห้องน้ำรวม มีน้ำอุ่น และหากใครอยากได้ห้องพักที่มีห้องน้ำส่วนตัว ที่นี่ก็มีให้แค่เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยแต่เป็นบ้านปูนนะ ส่วนเราอยากไกวเปลหน้ากระท่อมเล่นเลยเลือกแบบนี้
สำหรับบรรยากาศก็ชิลล์มาก มีไก่ มีแมววิ่งไปมา อ่อ ! ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วย . . . 99 % ของลูกค้าที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติ อย่างบางคนอยู่มาจะเป็นเดือนแล้ว [ พี่เจ้าของบอกมา ] ดังนั้นหากใครเน้นชิลล์ ๆ ง่าย ๆ ไม่ติดสบายมากก็แนะนำนะ ถูกดีด้วย พี่เจ้าของก็เป็นกันเองสุด ๆ ^ ^
หลังจากเก็บข้าวของและพอได้พัก เราก็ขี่มอไซต์เที่ยวปายโดยใช้แผนที่เมืองปายที่หยิบมาจากท่ารถปายนี่แหละไปยังที่เที่ยวสำคัญต่าง ๆ
*** เผอิญไม่ได้ถ่ายมาขออนุญาติใช้แผนที่จาก www.maehongson-th.com/pai/pai-map-update.jpg มาลงเพื่อให้เห็นภาพรวมนะคะ
ระหว่างทางจะได้พบกับวิวธรรมชาติและฟ้าสวย ๆ แบบนี้ แต่แดดแรงใช่เล่นเลยล่ะ
แผนของเราคือขี่ลงใต้โดยใช้ถนนสายรองจนถึงสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายแล้ววนกลับขึ้นเหนือสู่ตัวเมืองปายโดยใช้ถนนสายหลัก ซึ่งถนนทั้ง 2 สายก็มีที่เที่ยวให้ได้แวะตลอด
สถานที่แรกที่เราแวะ คือ
วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา ด้านหลังโบสถ์จะมีเจดีย์เก่า รวมถึงจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อของปายด้วย
วิวสวย ๆ เมื่อมองจากวัดพระธาตุแม่เย็น
แบบพาโนราม่ากันบ้าง
จากนั้นเราก็ขี่รถกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ
สำหรับถนนที่ปายนั้นขี่ง่ายมาก ไม่ค่อยมีรถ สองข้าวทางมีวิวสวย ๆ ให้ดูตลอด แต่ที่เราชอบคงเป็นทาง
อุโมงค์ต้นไม้ นี่แหละเพราะแปลกตาดี
ขับไปอีกเรื่อย ๆ จะเจอกับปางเลี้ยงช้างด้วย บางปางเราสามารถติดต่อกับจนท. เพื่อขี่ช้างเที่ยวได้ด้วยนะ
จอดแวะเช็คอินที่
สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่า
จากนั้นข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปายที่อยู่ข้างกันแล้วใช้ถนนสายหลักตีกลับขึ้นเหนือสู่เมืองปาย
ขับมาสัก 10 นาที จะเจอกับ
กองแลน [ Pai Canyon] ขึ้นบันไดไปพอได้เหงื่อก็จะเจอกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและทิวทัศน์อันงดงามแบบ 360 องศา แถมที่นี่ยังเคยใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง
ปายอินเลิฟ อีกด้วย
ทิวทัศน์อันงดงามเมื่อมองจากกองแลน
จากกองแลนเราขี่รถไปเรื่อย ๆ จะพบกับรีสอร์ทและร้านกาแฟตลอดสองข้างทาง บางร้านสามารถเข้าไปชมวิวกันได้อย่างฟรี ๆ
และร้านที่พลาดไม่ได้ต้องนี้เลย
คอฟฟี่ อิน เลิฟ [ Coffee in Love ] เราพักเหนื่อยจากการขี่รถด้วยการนั่งทานอาหารพร้อมมองอาทิตย์ตกดินเพลิน ๆ
บรรยากาศและทิวทัศน์ของร้าน
เที่ยวจนใกล้มืดกได้เวลาหาปั๊มเติมน้ำมันแล้วขี่รถกลับที่พัก พอสัก 20:00 น. ก็ออกไป
ตลาดคนเดิน โดยสิ่งที่อยากแนะนำก็คงจะเป็นของกิน เรียงมาตั้งแต่น้ำกระบอก ลูกชิ้นยักษ์ ป้อเปี๊ยะกล้วย ยำหมี่ และขนมงาเหนียว ๆ หากมาแล้วต้องลองให้ได้เลยนะ !
ถนนคนเดินที่นี่วายตอน 22:00 น. เมื่ออิ่มหนำกับนานาอาหารกันแล้วก็ขี่รถกลับที่พักเป็นอันจบวันแรกของทริป . . .
หลังจากที่ได้ลองทำความรู้จักกับปายมาหนึ่งวันเต็ม ต้องยอมรับเลยว่าปายกลายเป็นเมืองธุรกิจเต็มรูปแบบ ที่หากใครหวังจะมาสัมผัสวิถีชาวบ้านดั้งเดิมก็อาจจะพบเจอได้ยาก แต่สำหรับใครที่อยากมานอนพักรีสอร์ทเก๋ ๆ ดูวิวสวย ๆ ปายก็เป็นตัวเลือกสำหรับการพักผ่อนชิลล์ ๆ ที่ดีทีเดียวเลย !
เช่ามอไซต์ขี่ฝ่าพันโค้งไปปางอุ๋ง
วันนี้เราตื่นแต่เช้า รีบเช็คเอ้าท์จากที่พักเพื่อไปคืนรถเช่าแล้วขึ้นรอบ 08:30 น. จากปายเพื่อไปแม่ฮ่องสอน ก่อนรถออกลุงคนขับแอบขู่เบา ๆ ว่า
“ใครจะอ้วกลุงมีถุงนะ” เอิ่ม ! ก็อย่างที่บอกกันว่าแม่ฮ่องสอนเมืองพันโค้ง ดังนั้น 3 ชั่วโมงที่อยู่บนรถตู้ให้พยายามหลับจ้าไม่งั้นมีมึนแน่นอน
ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอนตอน 11:30 น. จากขนส่งเราต้องนั่งรถเพื่อไปเช่ารถในตัวเมืองซึ่งอยู่ห่างไปไม่ถึง 10 นาที เท่าที่หาข้อมูลมามีคนแนะนำให้นั่งวิน 40 บาท แต่พอลงรถมาเจอลุงคนขับตุ๊กตุ๊กเดินมาถามพอดีเลยใช้บริการลุงเสียหน่อยในราคา 80 บ. และไม่นานเราก็มาถึงร้านรถเช่าแล้ว
ร้านรถเช่าที่เราใช้ชื่อว่า
P.A. MOTOR ตัวร้านอยู่ใกล้กับวัดจองกลาง มีรถให้เลือก 2 แบบคือแบบเครื่องเก่า (150 บ.) และแบบใหม่หน่อย (250 บ.) มอไซต์ที่เช่าต้องเป็นเกียร์ธรรมดานะเพราะต้องขี่ขึ้นลงเขาตลอด โดยเราเลือกแบบเครื่องใหม่หน่อย มัดจำ 1,000 บาท เลือกหมวกกันน๊อกปุ๊บก็ลุยกันเลย บอกนิดนึงว่าสำหรับความยากของการขี่มอไซต์ไปปางอุ๋งนั้นคือ
ทางขึ้นลงเขาและโค้งแคบ ๆ เนี้ยแหละ ดังนั้นหาคนขี่แข็ง ๆ หน่อยก็จะปลอดภัยกว่า อีกอย่างคือการแบกสัมภาระไปด้วยก็เป็นอะไรที่เอาเรื่องเหมือนกัน ฮ่า ๆ
ตามแผนที่ที่ร้านรถเช่าให้มา ถ้าขี่จากเมืองแม่ฮ่องสอนโดยไม่แวะที่ไหนเลยจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ระหว่างทางจะมีที่เที่ยวเด่น ๆ อย่าง สะพานซูตองเป้ ถ้ำปลา ภูโคลน และน้ำตกผาเสื่อ
จุดสีแดงคือเมืองแม่ฮ่องสอน ดาวแดงคือปางอุ๋ง ส่วนจุดอื่น ๆ คือที่เที่ยวต่าง ๆ ที่สามารถแวะได้ ยังไงลองถามพี่ที่ร้านดูก็ได้นะ
สำหรับการขี่มอไซต์จากแม่ฮ่องสอนไปปางอุ๋งของเราจะเป็นอย่างไร ตามไปอ่านความเห็นข้างล่างเลยจ้า
[CR] บันทึกการเดินทาง : ทริปแม่ฮ่องสอนพันโค้ง 3 วัน 2 คืน แบ็คแพ็คไปปาย เช่ามอไซต์ไปปางอุ๋ง
สวัสดีค่า ! ก่อนจะเริ่มรีวิว ขอฝากกระทู้เก่า ๆ ด้วยนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กันโนะ ><
[ เที่ยวไปเหอะ ] เชียงใหม่หน้าฝน 4 วัน 3 คืน (ดอยอินทนนท์ / แม่กลางหลวง / ป่าบงเปียง / ตัวเมือง) ฉบับ Backpack !
http://ppantip.com/topic/34106129
บันทึกการเดินทาง : แค้มปิ้งครั้งแรก ณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ.กาญจนบุรี ( 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว )
http://ppantip.com/topic/32772866
บันทึกการเดินทาง : ผู้หญิงหนึ่งคน จักรยานพับหนึ่งคัน ลุยเมืองกาญฯ 2 วัน 1 คืน (กรุงเทพ-กาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ)
http://ppantip.com/topic/32559612
บันทึกการเดินทาง : เอาจักรยาน (พับ) ขึ้นรถไฟ ไปปั่นไกลที่มวกเหล็ก (กรุงเทพ-น้ำตกเจ็ดสาวน้อย) + เส้นทางการปั่น
http://ppantip.com/topic/32506979
บันทึกการเดินทาง : ปั่นจักรยานเดี่ยวเที่ยวกระเพาะหมู (ช่องนนทรี - บางกระเจ้า)
http://ppantip.com/topic/32456954
ทริปนี้เราเดินทางไประหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2558 แต่ที่บอกว่า 3 วัน 2 คืนเพราะเสียเวลาไปกับการเดินทางขาไปและกลับ เราเลยไม่นับนะ แหะๆ . . . ช่วงนี้เป็นช่วงหยุดยาว เชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอนเริ่มมีลมหนาวแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงพีคของปายกับปางอุ๋ง ดังนั้นข้อดีของทริปนี้ คือ คุณจะได้เที่ยวภาคเหนือในบรรยากาศหนาว ๆ โดยที่ไม่ต้องแออัดกับกองทัพนักท่องเที่ยวนั่นเอง
แผนการเดินทางและค่าใช้จ่ายในทริปอย่างคร่าว ๆ ลองเอาไปปรับกันดูนะคะ ^ ^
เลิกงานแล้ว ไปเที่ยวได้ ! ! [ กรุงเทพ - เชียงใหม่ ]
นาฬิกาบอกเวลา 18:00 น. เรารีบเดินทางออกจากออฟฟิสพร้อมด้วยกระเป๋าเป้ใบน้อยและเต๊นท์ลายทหารคู่ใจ มุ่งสู่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และด้วยความที่ลาพักร้อนก่อนหยุดยาว 1 วัน ทำให้การนั่งแท็กซี่จากบีทีเอสไปหมอชิต 2 เป็นอะไรที่ถนนโล่งมาก ^ ^ . . . ทริปนี้เราจองตั๋วล่วงหน้าเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งก็โชคดีมากที่เที่ยวรถที่ต้องการไม่เต็มหมดเสียก่อน
เวลา 20:15 น. ล้อรถเริ่มหมุนเพื่อพาเราสู่เชียงใหม่แล้ว . . .
สวัสดีเชียงใหม่ขอใช้เป็นทางผ่านหน่อยนะ [ อาเขต - ปาย ]
9 ชั่วโมงบนรถทัวร์ผ่านไป เราก็เดินทางมาถึงสถานีขนส่งเชียงใหม่หรืออาเขตตอน 06:00 น. แว้บไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วเริ่มมองหา คิวรถตู้เปรมประชา เพื่อจะซื้อตั๋วไปปายทันที [ คิวรถตู้เปรมประชาตั้งอยู่ที่อาเขตใหม่ ดังนั้นหากใครไม่รู้ว่าลงรถทัวร์ที่อาเขตใหม่หรือเก่าแนะนำว่าให้ถามจนท.เลย เพราะทั้ง 2 แห่งนั้นห่างกันเพียงแค่ข้ามถนน ]
สำหรับการเดินทางจากอาเขตไปปายนั้นมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ คือ รถตู้และรถบัสหวานเย็น ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคงหนีไม่พ้นรถตู้ และหากจะไปเที่ยวช่วงหยุดยาวแบบนี้ แนะนำว่าให้กดจองในเว็บไซต์เสียก่อน เพราะหากไปซื้อเอาหน้างานโอกาสที่คุณจะได้นั่งรถหวานเย็นนั้นมีสูงมาก นอกจากนี้หากมีแผนการเดินทางที่แน่นอนก็จองตั๋วขากลับไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยก็ได้
ตารางเวลาเดินรถของบริษัทเปรมประชาขนส่ง
*** Premprachatransports.com/ticket-th เว็บของบริษัทเปรมประชา โดยทริปนี้เราใช้เส้นทางเชียงใหม่ – ปาย – แม่ฮ่องสอนนะจ๊ะ
เช่ามอไซต์ขี่เที่ยวทั่วปายเพลิน ๆ
เรานั่งรถตู้จากอาเขตรอบ 07:30 น. ใช้เวลา 3 ชม. ถึงปายประมาณ 10:30 น. นึกขึ้นได้ว่าลืมจองตั๋วรถตู้ที่จะไปแม่ฮ่องสอนพรุ่งนี้ - - แต่ไม่เป็นไรใจร่ม ๆ ไว้ เพราะที่ท่ารถปายมีเค้าเตอร์จองตั๋วอยู่ ดังนั้นเดินไปซื้อได้เลย (ปาย-แม่ฮ่องสอน 150 บ. รอบ 08:30 น.) ได้ตั๋วเป็นที่เรีนบร้อยเราก็เดินไปร้านเช่ามอไซต์ซึ่งอยู่ข้างท่ารถตู้ (เช่า 1 วัน 200 บ. มัดจำ 1,000 บ.) . . . หลังจากได้มอไซต์แล้วก็ขี่ไปเช็คอินห้องพักกัน !!!!
สำหรับที่พักในปายนั้นเราเลือก K.K. Hut Guest House โดยส่วนตัวชอบมาก ๆ เพราะเหมือนเป็นมุมสงบเล็ก ๆ ในปาย ราคาคืนละ 320 บาทเท่านั้นไม่มีแอร์ มี Wi-fi ห้องน้ำรวม มีน้ำอุ่น และหากใครอยากได้ห้องพักที่มีห้องน้ำส่วนตัว ที่นี่ก็มีให้แค่เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยแต่เป็นบ้านปูนนะ ส่วนเราอยากไกวเปลหน้ากระท่อมเล่นเลยเลือกแบบนี้
สำหรับบรรยากาศก็ชิลล์มาก มีไก่ มีแมววิ่งไปมา อ่อ ! ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วย . . . 99 % ของลูกค้าที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติ อย่างบางคนอยู่มาจะเป็นเดือนแล้ว [ พี่เจ้าของบอกมา ] ดังนั้นหากใครเน้นชิลล์ ๆ ง่าย ๆ ไม่ติดสบายมากก็แนะนำนะ ถูกดีด้วย พี่เจ้าของก็เป็นกันเองสุด ๆ ^ ^
หลังจากเก็บข้าวของและพอได้พัก เราก็ขี่มอไซต์เที่ยวปายโดยใช้แผนที่เมืองปายที่หยิบมาจากท่ารถปายนี่แหละไปยังที่เที่ยวสำคัญต่าง ๆ
*** เผอิญไม่ได้ถ่ายมาขออนุญาติใช้แผนที่จาก www.maehongson-th.com/pai/pai-map-update.jpg มาลงเพื่อให้เห็นภาพรวมนะคะ
ระหว่างทางจะได้พบกับวิวธรรมชาติและฟ้าสวย ๆ แบบนี้ แต่แดดแรงใช่เล่นเลยล่ะ
แผนของเราคือขี่ลงใต้โดยใช้ถนนสายรองจนถึงสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายแล้ววนกลับขึ้นเหนือสู่ตัวเมืองปายโดยใช้ถนนสายหลัก ซึ่งถนนทั้ง 2 สายก็มีที่เที่ยวให้ได้แวะตลอด
สถานที่แรกที่เราแวะ คือ วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา ด้านหลังโบสถ์จะมีเจดีย์เก่า รวมถึงจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อของปายด้วย
วิวสวย ๆ เมื่อมองจากวัดพระธาตุแม่เย็น
แบบพาโนราม่ากันบ้าง
จากนั้นเราก็ขี่รถกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ
สำหรับถนนที่ปายนั้นขี่ง่ายมาก ไม่ค่อยมีรถ สองข้าวทางมีวิวสวย ๆ ให้ดูตลอด แต่ที่เราชอบคงเป็นทาง อุโมงค์ต้นไม้ นี่แหละเพราะแปลกตาดี
ขับไปอีกเรื่อย ๆ จะเจอกับปางเลี้ยงช้างด้วย บางปางเราสามารถติดต่อกับจนท. เพื่อขี่ช้างเที่ยวได้ด้วยนะ
จอดแวะเช็คอินที่ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่า
จากนั้นข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปายที่อยู่ข้างกันแล้วใช้ถนนสายหลักตีกลับขึ้นเหนือสู่เมืองปาย
ขับมาสัก 10 นาที จะเจอกับ กองแลน [ Pai Canyon] ขึ้นบันไดไปพอได้เหงื่อก็จะเจอกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและทิวทัศน์อันงดงามแบบ 360 องศา แถมที่นี่ยังเคยใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง ปายอินเลิฟ อีกด้วย
ทิวทัศน์อันงดงามเมื่อมองจากกองแลน
จากกองแลนเราขี่รถไปเรื่อย ๆ จะพบกับรีสอร์ทและร้านกาแฟตลอดสองข้างทาง บางร้านสามารถเข้าไปชมวิวกันได้อย่างฟรี ๆ
และร้านที่พลาดไม่ได้ต้องนี้เลย คอฟฟี่ อิน เลิฟ [ Coffee in Love ] เราพักเหนื่อยจากการขี่รถด้วยการนั่งทานอาหารพร้อมมองอาทิตย์ตกดินเพลิน ๆ
บรรยากาศและทิวทัศน์ของร้าน
เที่ยวจนใกล้มืดกได้เวลาหาปั๊มเติมน้ำมันแล้วขี่รถกลับที่พัก พอสัก 20:00 น. ก็ออกไป ตลาดคนเดิน โดยสิ่งที่อยากแนะนำก็คงจะเป็นของกิน เรียงมาตั้งแต่น้ำกระบอก ลูกชิ้นยักษ์ ป้อเปี๊ยะกล้วย ยำหมี่ และขนมงาเหนียว ๆ หากมาแล้วต้องลองให้ได้เลยนะ !
ถนนคนเดินที่นี่วายตอน 22:00 น. เมื่ออิ่มหนำกับนานาอาหารกันแล้วก็ขี่รถกลับที่พักเป็นอันจบวันแรกของทริป . . .
หลังจากที่ได้ลองทำความรู้จักกับปายมาหนึ่งวันเต็ม ต้องยอมรับเลยว่าปายกลายเป็นเมืองธุรกิจเต็มรูปแบบ ที่หากใครหวังจะมาสัมผัสวิถีชาวบ้านดั้งเดิมก็อาจจะพบเจอได้ยาก แต่สำหรับใครที่อยากมานอนพักรีสอร์ทเก๋ ๆ ดูวิวสวย ๆ ปายก็เป็นตัวเลือกสำหรับการพักผ่อนชิลล์ ๆ ที่ดีทีเดียวเลย !
เช่ามอไซต์ขี่ฝ่าพันโค้งไปปางอุ๋ง
วันนี้เราตื่นแต่เช้า รีบเช็คเอ้าท์จากที่พักเพื่อไปคืนรถเช่าแล้วขึ้นรอบ 08:30 น. จากปายเพื่อไปแม่ฮ่องสอน ก่อนรถออกลุงคนขับแอบขู่เบา ๆ ว่า “ใครจะอ้วกลุงมีถุงนะ” เอิ่ม ! ก็อย่างที่บอกกันว่าแม่ฮ่องสอนเมืองพันโค้ง ดังนั้น 3 ชั่วโมงที่อยู่บนรถตู้ให้พยายามหลับจ้าไม่งั้นมีมึนแน่นอน
ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอนตอน 11:30 น. จากขนส่งเราต้องนั่งรถเพื่อไปเช่ารถในตัวเมืองซึ่งอยู่ห่างไปไม่ถึง 10 นาที เท่าที่หาข้อมูลมามีคนแนะนำให้นั่งวิน 40 บาท แต่พอลงรถมาเจอลุงคนขับตุ๊กตุ๊กเดินมาถามพอดีเลยใช้บริการลุงเสียหน่อยในราคา 80 บ. และไม่นานเราก็มาถึงร้านรถเช่าแล้ว
ร้านรถเช่าที่เราใช้ชื่อว่า P.A. MOTOR ตัวร้านอยู่ใกล้กับวัดจองกลาง มีรถให้เลือก 2 แบบคือแบบเครื่องเก่า (150 บ.) และแบบใหม่หน่อย (250 บ.) มอไซต์ที่เช่าต้องเป็นเกียร์ธรรมดานะเพราะต้องขี่ขึ้นลงเขาตลอด โดยเราเลือกแบบเครื่องใหม่หน่อย มัดจำ 1,000 บาท เลือกหมวกกันน๊อกปุ๊บก็ลุยกันเลย บอกนิดนึงว่าสำหรับความยากของการขี่มอไซต์ไปปางอุ๋งนั้นคือ ทางขึ้นลงเขาและโค้งแคบ ๆ เนี้ยแหละ ดังนั้นหาคนขี่แข็ง ๆ หน่อยก็จะปลอดภัยกว่า อีกอย่างคือการแบกสัมภาระไปด้วยก็เป็นอะไรที่เอาเรื่องเหมือนกัน ฮ่า ๆ
ตามแผนที่ที่ร้านรถเช่าให้มา ถ้าขี่จากเมืองแม่ฮ่องสอนโดยไม่แวะที่ไหนเลยจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ระหว่างทางจะมีที่เที่ยวเด่น ๆ อย่าง สะพานซูตองเป้ ถ้ำปลา ภูโคลน และน้ำตกผาเสื่อ
จุดสีแดงคือเมืองแม่ฮ่องสอน ดาวแดงคือปางอุ๋ง ส่วนจุดอื่น ๆ คือที่เที่ยวต่าง ๆ ที่สามารถแวะได้ ยังไงลองถามพี่ที่ร้านดูก็ได้นะ
สำหรับการขี่มอไซต์จากแม่ฮ่องสอนไปปางอุ๋งของเราจะเป็นอย่างไร ตามไปอ่านความเห็นข้างล่างเลยจ้า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น