==โรยตัวหุบเขาน้ำบ่อผี & ลุยถ้ำแม่ละนา อ.ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ==

ทริปสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แปะลง FB ตัวเองแล้ว

เก็บมาฝาก เพื่อนๆนักท่องเที่ยว ที่ชอบแนวลุยๆ เผื่อใครสนใจ ไปลองกันครับ

เป็นหนึ่งทริป ที่ควบสองทริป ลุยโหด ๆ เข้าด้วยกัน

#1 โรยตัว หุบเขาน้ำบ่อผี จุดโรยตัวลงหุบเขา ที่สูงสุดของไทย สูงกว่า 190 เมตร



#2 ลุยถ้ำแม่ละนานถ้ำที่ยาวสุดของเอเชีย12 กม.



ทริปที่หาโอกาสอยากไปมานานแล้ว แต่ไม่ได้ไปซักที คือ ทริป  โรยตัวที่ น้ำบ่อผี อ.ปางมะผ้าแม่ฮ่องสอน

เนื่องจากเป็น ทริปที่ยากหน่อย และค่าใช้จ่ายในการจ้าง Staff เตรียมอุปกรณ์โรยตัว ค่อนข้างสูง และเดินทางไกล เลยไม่ค่อยมีคนจัดกัน

ปีที่แล้วมีเพื่อนก๊วนปีนเขาจัด แต่ตัวเองติดทริปปีนเขาต่างประเทศ เลยไม่ได้ไปกับเค้า

ปีนี้เค้าจัดซ้ำ ส่งเสียงชวนมาเลยต้องตามไปแจม

แต่เป็นทริปเดินทางไกลไปถึงแม่ฮ่องสอน คนจัดกลัวเหนื่อยไม่คุ้มการเดินทาง เลย แถมทริป ลุยถ้ำแม่ละนา ถ้ำที่ยาว 12 กม.ยาวที่สุดในเอเชีย ที่ต้องลุยน้ำ ลุยโคลนปีน

เขาหิน ปีนเขาโคลน ล่องธารน้ำ ข้ามน้ำตก เรียกว่าเดินกันในความมืดทั้งวัน มาให้


ด้วยเป็นทริปแฝด สองทริป สามวัน

ถ้ำแม่ละนา นี่ สองปีก่อนเคยไปกับก๊วนปีนเขา หลายคนเดินกัน 13 ชม. กว่าจะออกจากถ้ำ ตี สองกว่าๆ อ้นตราย เพาะว่า ต้องปีนโขดหินสูงลื่นๆ แต่สวยคุ้ม เลยยินดีกลับไปซ้ำ

คณะเดินทางจาก กทม.กันด้วยรถตู้ประจำทีม  วันหยุดยาว ช่วงวันปิยะ รถเลยเยอะหน่อย

เราใช้เส้นทาง กรุงเทพ นครสวรรค์ ลำปาง เชียงใหม่ แม่มาลัย ปาย ปางมะผ้า

ระหว่างเส้นทางแม่มาลัย-ปาย แวะชมทะเลหมอกริมทาง สวยๆ ลงพักยืดเส้นยืดสายกัน




ออกจากกทม.กันทุ่มกว่าๆ กว่าจะถึง อ.ปาย แม่ฮ่องสอน ก็เช้าพอดี แวะทานอาหารเช้า ล้างหน้า เข้าห้องน้ำ

ก่อนต่อไป อ.ปางมะผ้า เตรียมสะเบียง สำรองกัน ก็สายๆนิด แล้วเดินทางตรงไปยัง บ้านข้าวหลาม หมู่บ้านชาวมูเซอดำ ทิ้งรถ และของที่ไม่ใช้ไว้ที่นี่ จัดเป้ ขึ้นหลัง เดินไต่ขึ้นเขา ไปยังจุดค้างแรม และ โรยตัว น้ำบ่อผี ระยะทางแค่ 3-4 กม.แต่เขาชัน ใช้เวลา ราวๆ 1 ชม.เพราะว่าทางค่อนข้างขึ้นเขาชันและลื่น



ไปถึงทานอาหารเที่ยง แล้ว เดินไปดูมุมโรยตัวจากหน้าผาที่เราเตรียมจะลงกัน


แล้วกลับมาเตรียม และ ทดสอบอุปกรณ์ ปีนเขา ก่อนฝึกซ้อมการโรยตัว  ขึ้นและ ลง สู่ก้นหุบเขา  และ Brief ภาระกิจกันโดยครูโจ้ รูปหล่อ


พอพร้อมแล้ว  ก็ทะยอยเดินเท้า กันราวๆ ครึ่งชม.ไปยังจุดโรยตัวลงสู่ก้น หุบเขา น้ำบ่อผี คนที่ยังไม่ได้ เริ่มโรยตัว ก็กางเต็นต์ ที่พักรอไว้ กันเลย

น้ำบ่อผี เป็น หลุมที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน ลงไปเหมือนพวก Sink Hole ทั้งหลาย ฃกลายเป็น ปากปล้อง ขนาดใหญ่ พื้นที่หลาย ร้อยไร่ มีความลึก ราวๆ 200 เมตร ก้น

หุบเป็นป่าดิบชื้น อุดมสมบูรณ์ ด้วยขี้ค้างคาว ที่ทับถม และ ต้นไม้สูงหลายสิบเมตร แถมหนูเยอะมาก




บางคน รวมทั้งเพื่อนก๊วนเรา ปีก่อน โรยต้วลงมาแล้ว กางเต็นต์พักนอนข้างล่าง ก็ต้องรบ กับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ และ หนูที่คอยกวน ทั้งคืน

ปีนี้ พวกเราเลยตัดสินใจ โรยตัวลงแล้ว ยอมเหนื่อยไต่ขึ้น ไปค้างคืนที่ปากปล่องแทน

หน้าผา ด้านโรยตัวลง จะเป็นด้านที่ลึกราวๆ 190 เมตร ช่วงบน จะมีผนังหินให้ยันเท้าบ้างเล็กน้อย แต่พอผ่าน 20 เมตรลงไปผนังเขา จะเว้าหายไปกลายเป็นโพรงถ้ำ ทำให้ระยะที่เหลือ ทั้งหมดเป็นการโรยตัว แบบ Free fall ลงลอยตัวอิสระ โดยใช้ อุปกรณ์  Stopper ยึดติดกับ เชือก และ Harness ไว้คอยช่วยไม่ให้รูดลงเร็วเกิน



ตอนลงไปยืนที่หน้าผาเตรียมตัว โรยตัวลง มีอันนึงที่หลอกเรามากๆ คือ เชือก โรยตัวเส้นเท่านิ้วก้อยที่ห้อยจากรอก หย่อนลงพื้นแล้วเราต้องช่วยดึงป้อนรอกให้โรยตัวลงไป


เราคิดว่าดึงเบาๆ มันก้อน่าจะส่งเข้ารอก แต่ เอาจริงๆ มันตึงหนักอึ้งเลย ตอนแรกคิดว่าข้างล่างเชือกพันติดอะไรหรือปล่าว

แต่เทรนเนอร์เค้าบอกน้ำหนักเชือกนั่นแหละ เ่ราเคยยกแต่สั้นๆมันเลยเบาๆ

แต่นี่เราต้องดึงเชื่อกที่ยาวถึงก้นหลุม ยาวร่วมสองร้อย เมตร เท่ากับยกน้ำหนัก  20-30กิโลแน่ะ

ขาลงสนุกสนาน จับคู่ Buddy กันสองคน ไต่ลงเชือกคนล่ะเส้น หยุดถ่ายรูปเล่น สลับกันไป เป็นระยะ

รอบนี้ จับคู่ กับคุณ ดวง ขาถึกลุยป่า เป็นบัดดี้

ขอบคุณที่เป็นแบบ ให้ และช่วยถ่ายรูปให้ ครับ คุณหญิง ยิ้ม







พอลงถึงก้นหุบเขาข้างล่าง  อากาศเริ่มเย็นฟ้าเริ่มมืด  ก็เดินเลาะป่าทึบ มายังฝั่ง ที่จะโรยตัวขึ้น

นั่งก่อกองไฟผิง ย่างไส้กรอก กินรอเพื่อน ที่ทะยอยโรยตัวตามลงมากัน



พักกัน ซักครู่ ก็เริ่มค่ำแล้ว  เริ่ม เตรี่ยมคนทะยอย ไต่ ย้อนกลับขึ้นไป  คนล่ะด้านกับที่ลงมา

ตอนไต่ขึ้นนี่โหดสุดๆ สำหรับคนไม่เคยปีนอย่างพวกเรา

ต้องใช้แรง ทั้งแขน และขา ช่วยดึงตัวขึ้น ราวๆ 100 เมตร กว่าจะพ้นปากปล่องขึ้นมา ขา แขน ล้า มอมแมมกันไปหมด




คุณอาร์ท เป็นคนทำสถิติ ขึ้นมาไวสุด ใช้เวลาไป 40 นาที


ผมเองใช้ไป  55 นาที

นานสุด มีน้องผู้หญิง ที่ห้อยตัวพักบนเชือก  สลับกับ พักตามชะง่อนหิน อยู่ราวๆ 4 ชม. หลับกันไปเลย ยิ้ม

ระหว่างรอเพื่อนๆ ทะยอยไต่ขึ้นมา ก็ก่อไฟกันหนาว เผามันกิน รอไปเรื่อยๆรองท้อง กัน ยิ้ม


กว่าจะขึ้นมากันหมด เก็บของกลับ มากินข้าวเย็น ก็ ตีสอง ยิ้ม

ตัวมอมแมมกันถ้วนหน้า แต่ไม่มีน้ำอาบ อาศัยทิชชู่เปียกซักแห้งกันไป ตามปกติของการเดินป่า ในจุดที่ไม่มีธารน้ำ

อากาศเย็นช่วงนี้ เย็นสบายๆ แต่รอบนี้ ผมดันลืม ถุงนอนติดมา แต่ใส่เสื้อหนา ซี

ลเต็นต์ปิดหมด โอเคไม่หนาวมาก

หลับยาว ตื่นเช้า กินอาหารเช้าง่ายๆในรางไม้ไผ่(เลียนแบบหมู อิๆ)



พอๆ สายๆ ก็เริ่มเก็บเต็นต์ ถ่ายรูปร่วมกับ ชาวบ้าน และ ครูฝึก ปิดจ๊อบกัน





เสร็จแล้ว ขึ้นเป้ เดินทาง กลับ มาขึ้นรถที่บ้านข้าวหลาม  เตรียมเดินทางต่อไปลุยถ้ำแม่ละนากัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่