หลุยส์ฟานกัล เทรนเนอร์ชั้นครู ผู้มีประสบการณ์มากมาย ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกอย่างแล้ว กับหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอล
เขาประสบความสำเร็จมากมาย กับผลงานระดับสโมสรในแทบทุกลีกใหญ่ของยุโรป และล่าสุดกับทีมชาติฮอลแลนด์
ถ้าเขาวางมือหลังจบฟุตบอลโลก2014 ก็คงบอกลาไปได้อย่างสวยงาม กับผลงานแก้เกมระดับสุดยอด และอันดับ3ฟุตบอลโลก
แต่เมื่อมีข้อเสนอจากแมนยูไนเต็ดเข้ามา เขาก็ตัดสินใจต่อเวลาตัวเองอีก3ปี และลั่นวาจาว่า นี่จะเป็นงานสุดท้ายของเขา
แฟนแมนยูไนเต็ดเริ่มต้นกับเขาด้วยความหวัง ก่อนจะกลายเป็นความพังลงเรื่อยๆ ส่วนตัวบอกตรงๆว่าไม่แน่ใจในตัวฟานกัล
ไม่รู้เขาเต็มที่กับงานนี้แค่ไหน แอคชั่นที่เคยเห็น อารมณ์ร่วมกับเกม ชัดๆคือที่ลุกมาตีมือกับRVP หลังตีเสมอสเปนในบอลโลก
แต่พอมาคุมปีศาจแดง ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันหายไปไหนหมด การนั่งแช่อยู่กับเก้าอี้ โดยให้เหตุผลว่า เขาวางแผนลงไปทุกอย่างแล้ว
จะลุกขึ้นมาโหวกเหวกโวยวาย ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร มันเป็นเหตุผลที่ตลก ถ้างั้นที่ป๋าทำตลอด27ปี ก็คงเป็นอะไรที่ไร้สาระ
ที่ปีหลังๆทีมคัมแบคมาชนะไม่ค่อยได้ บางนัดเล่นเหมือนขาดแรงกระตุ้น เป็นตัวเราหันมาเจอโค้ชนั่งซึม ก็คงขี้เกียจวิ่งเหมือนกัน
เกริ่นซะยาว ขอวกมาที่หัวข้อกระทู้ ขอโฟกัสที่นักเตะคนสำคัญของเรา ที่อยู่กับทีมมานานที่สุดในชุดนี้ กัปตันทีม "เวย์น รูนี่ย์"
อย่างที่ทุกคนคงเห็นกันอยู่ ว่าฟอร์มของรูนี่ย์เป็นยังไงในตอนนี้ ทุกคนทั้งโลกที่เป็นแฟนผีคงมีความเห็นไปในทางเดียวกัน
ว่าชั่วโมงนี้ รูนี่ย์ไม่เหมาะ อย่าว่าแต่เหมาะกับการเป็นตัวจริง หรือได้เล่นตลอด90นาที แม้แต่ลงสำรอง เขาก็ไม่ดีพอ
ขอออกตัวก่อนว่า ทั้งหมดนี้ ผมแทบไม่ได้โทษรูนี่ย์เลย เพราะนักเตะทุกคนมีสิทธิ์ฟอร์มตก เจอช่วงเวลาที่เล่นไม่ดีอยู่แล้ว
จะด้วยอายุที่มากขึ้น หรือร่างกายอะไรก็ตาม อย่างกิ๊กส์หรือสโคลส์ก็มีช่วงเล่นแย่เมื่อแก่ขึ้น ไม่ใช่ว่าเล่นได้ดีตลอดจนเลิก
แต่สิ่งที่ต่างคือ สองคนนั้นมีป๋าคอยดูแล และใช้งานอย่างเหมาะสม ป๋ารู้ว่าควรใช้งานนักเตะของเขาอย่างไรบ้าง
รู้ว่าใครเหมาะ หรือไม่เหมาะกับเกมแบบไหน บรรดาตัวเก๋าที่เริ่มแก่ตัว ป๋ารู้ว่าควรจะใช้ประสบการณ์ของพวกนี้ช่วยทีมได้ยังไง
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การตะบี้ตะบันส่งลงเล่นตลอด90นาที การันตีเป็นตัวจริงทุกนัดแน่ๆ แม้แต่คุณจะเป็นกัปตันทีมก็ตาม
เฮียเนฟ (แกรี่ เนวิลล์) ช่วงใกล้เลิก ก็เจ็บยาว และกลับมาร่างกายไม่ดีเหมือนเดิม หรือวิดิชก็มีช่วงเจ็บยาว กลับมาก็ไม่ได้มีฟอร์มดีที่สุด
ป๋าก็รู้จักใช้ กล้าพัก และส่งลงเมื่อเขารู้ว่านักเตะคนนั้นๆ จะช่วยทีมได้ แต่สิ่งที่ฟานกัลกำลังทำกับรูนี่ย์ คือเหมือนพ่อที่ชอบสปอยล์ลูก
โค้ชที่ดีควรเลือกนักเตะลงสนาม จากความพร้อม รวมถึงฟอร์มที่เห็นในสนามซ้อม ซึ่งก็มั่นใจว่ารูนคงไม่ได้เล่นต่างจากเวลาลงสนามจริง
สิ่งเดียวที่เขามีตอนนี้ ที่เหมาะสมจะเป็นกัปตัน คือเพื่อนๆในทีมทุกคนรักเขา และพร้อมสนับสนุน ไม่ได้มีใครคิดจะต่อต้านอะไร
แต่ฟานกัลก็ควรจะดูแลนักเตะของเขาได้ดีกว่านี้ สิ่งที่รูนี่ย์ต้องการเวลานี้คือการได้พัก บางทีอาจทำให้ความกระหาย และแรงจูงใจกลับมา
แต่ในเมื่อผู้จัดการทีมต้องการให้ลงเล่น เขาก็ลงสนามอย่างมืออาชีพ เพียงแต่ความพยายามเต็มที่ที่สุด มันเร่งฟอร์มได้แค่นี้จริงๆ
ด้วยประสบการณ์ระดับฟานกัล เขาควรรู้วิธีจัดการ ที่จะทำให้รูนกลับมาเป็นรูนคนเดิมที่น่ากลัวสำหรับกองหลังคู่แข่งได้อีกครั้ง
ไม่ใช่เอาแต่หัวแข็ง เชื่อแต่ความคิดตัวเอง นักข่าวถามก็ตอบแต่ไม่มีอะไรต้องพูดเรื่องรูน รูนเป็นข้อยกเว้นในทุกกรณีแบบนี้
ทุกวันนี้เวลาเห็นฟอร์มในสนาม นอกจากแฟนทีมตัวเองจะส่ายหัว แฟนทีมคู่แข่งก็เหมือนยินดี ที่เหมือนได้เจอคู่ต่อสู้ที่เหลือ10คน
รูนี่ย์กำลังจะมี Testimonial ครบ12ปีที่อยู่กับทีมในปีหน้า ซึ่งคนจะได้รับเกียรตินี้ ต้องเป็นตำนานของทีมนั้นๆจริงๆ
ซึ่งผลงาน สถิติต่างๆทุกอย่างของเขา ก็รอจ่อเป็นตำนานของทีมแน่ๆอยู่แล้ว เพียงแต่เส้นทางของเขายังไม่จบ แล้วกับเวลาที่เหลือล่ะ?
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป จาก"ตำนาน"จอมถล่มประตู จะกลายเป็นแค่"ตัวตลก"ให้คู่แข่งหัวเราะไหม ถ้ายังปล่อยไปแบบนี้ ก็คงเป็นแบบนั้น
และไม่ใช่แค่ตัวนักเตะ ฟานกัลเองที่เป็นโค้ชระดับตำนาน แต่ทุกวันนี้ แฟนผีคงรู้สึกหลายครั้ง ว่าเขาเหมือนคนเพิ่งหัดคุมทีมฟุตบอล
บางทีอาจจะไม่ใช่แค่รูนี่ย์ ตัวหลุยส์ฟานกัลเองก็ตาม จากยอดโค้ชระดับตำนาน อาจจะกลายเป็นแค่โค้ชระดับอนุบาลเองก็ได้...
ฟานกัลกำลังจะทำให้ว่าที่ "ตำนาน" กลายเป็นแค่เพียง "ตัวตลก"
เขาประสบความสำเร็จมากมาย กับผลงานระดับสโมสรในแทบทุกลีกใหญ่ของยุโรป และล่าสุดกับทีมชาติฮอลแลนด์
ถ้าเขาวางมือหลังจบฟุตบอลโลก2014 ก็คงบอกลาไปได้อย่างสวยงาม กับผลงานแก้เกมระดับสุดยอด และอันดับ3ฟุตบอลโลก
แต่เมื่อมีข้อเสนอจากแมนยูไนเต็ดเข้ามา เขาก็ตัดสินใจต่อเวลาตัวเองอีก3ปี และลั่นวาจาว่า นี่จะเป็นงานสุดท้ายของเขา
แฟนแมนยูไนเต็ดเริ่มต้นกับเขาด้วยความหวัง ก่อนจะกลายเป็นความพังลงเรื่อยๆ ส่วนตัวบอกตรงๆว่าไม่แน่ใจในตัวฟานกัล
ไม่รู้เขาเต็มที่กับงานนี้แค่ไหน แอคชั่นที่เคยเห็น อารมณ์ร่วมกับเกม ชัดๆคือที่ลุกมาตีมือกับRVP หลังตีเสมอสเปนในบอลโลก
แต่พอมาคุมปีศาจแดง ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันหายไปไหนหมด การนั่งแช่อยู่กับเก้าอี้ โดยให้เหตุผลว่า เขาวางแผนลงไปทุกอย่างแล้ว
จะลุกขึ้นมาโหวกเหวกโวยวาย ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร มันเป็นเหตุผลที่ตลก ถ้างั้นที่ป๋าทำตลอด27ปี ก็คงเป็นอะไรที่ไร้สาระ
ที่ปีหลังๆทีมคัมแบคมาชนะไม่ค่อยได้ บางนัดเล่นเหมือนขาดแรงกระตุ้น เป็นตัวเราหันมาเจอโค้ชนั่งซึม ก็คงขี้เกียจวิ่งเหมือนกัน
เกริ่นซะยาว ขอวกมาที่หัวข้อกระทู้ ขอโฟกัสที่นักเตะคนสำคัญของเรา ที่อยู่กับทีมมานานที่สุดในชุดนี้ กัปตันทีม "เวย์น รูนี่ย์"
อย่างที่ทุกคนคงเห็นกันอยู่ ว่าฟอร์มของรูนี่ย์เป็นยังไงในตอนนี้ ทุกคนทั้งโลกที่เป็นแฟนผีคงมีความเห็นไปในทางเดียวกัน
ว่าชั่วโมงนี้ รูนี่ย์ไม่เหมาะ อย่าว่าแต่เหมาะกับการเป็นตัวจริง หรือได้เล่นตลอด90นาที แม้แต่ลงสำรอง เขาก็ไม่ดีพอ
ขอออกตัวก่อนว่า ทั้งหมดนี้ ผมแทบไม่ได้โทษรูนี่ย์เลย เพราะนักเตะทุกคนมีสิทธิ์ฟอร์มตก เจอช่วงเวลาที่เล่นไม่ดีอยู่แล้ว
จะด้วยอายุที่มากขึ้น หรือร่างกายอะไรก็ตาม อย่างกิ๊กส์หรือสโคลส์ก็มีช่วงเล่นแย่เมื่อแก่ขึ้น ไม่ใช่ว่าเล่นได้ดีตลอดจนเลิก
แต่สิ่งที่ต่างคือ สองคนนั้นมีป๋าคอยดูแล และใช้งานอย่างเหมาะสม ป๋ารู้ว่าควรใช้งานนักเตะของเขาอย่างไรบ้าง
รู้ว่าใครเหมาะ หรือไม่เหมาะกับเกมแบบไหน บรรดาตัวเก๋าที่เริ่มแก่ตัว ป๋ารู้ว่าควรจะใช้ประสบการณ์ของพวกนี้ช่วยทีมได้ยังไง
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การตะบี้ตะบันส่งลงเล่นตลอด90นาที การันตีเป็นตัวจริงทุกนัดแน่ๆ แม้แต่คุณจะเป็นกัปตันทีมก็ตาม
เฮียเนฟ (แกรี่ เนวิลล์) ช่วงใกล้เลิก ก็เจ็บยาว และกลับมาร่างกายไม่ดีเหมือนเดิม หรือวิดิชก็มีช่วงเจ็บยาว กลับมาก็ไม่ได้มีฟอร์มดีที่สุด
ป๋าก็รู้จักใช้ กล้าพัก และส่งลงเมื่อเขารู้ว่านักเตะคนนั้นๆ จะช่วยทีมได้ แต่สิ่งที่ฟานกัลกำลังทำกับรูนี่ย์ คือเหมือนพ่อที่ชอบสปอยล์ลูก
โค้ชที่ดีควรเลือกนักเตะลงสนาม จากความพร้อม รวมถึงฟอร์มที่เห็นในสนามซ้อม ซึ่งก็มั่นใจว่ารูนคงไม่ได้เล่นต่างจากเวลาลงสนามจริง
สิ่งเดียวที่เขามีตอนนี้ ที่เหมาะสมจะเป็นกัปตัน คือเพื่อนๆในทีมทุกคนรักเขา และพร้อมสนับสนุน ไม่ได้มีใครคิดจะต่อต้านอะไร
แต่ฟานกัลก็ควรจะดูแลนักเตะของเขาได้ดีกว่านี้ สิ่งที่รูนี่ย์ต้องการเวลานี้คือการได้พัก บางทีอาจทำให้ความกระหาย และแรงจูงใจกลับมา
แต่ในเมื่อผู้จัดการทีมต้องการให้ลงเล่น เขาก็ลงสนามอย่างมืออาชีพ เพียงแต่ความพยายามเต็มที่ที่สุด มันเร่งฟอร์มได้แค่นี้จริงๆ
ด้วยประสบการณ์ระดับฟานกัล เขาควรรู้วิธีจัดการ ที่จะทำให้รูนกลับมาเป็นรูนคนเดิมที่น่ากลัวสำหรับกองหลังคู่แข่งได้อีกครั้ง
ไม่ใช่เอาแต่หัวแข็ง เชื่อแต่ความคิดตัวเอง นักข่าวถามก็ตอบแต่ไม่มีอะไรต้องพูดเรื่องรูน รูนเป็นข้อยกเว้นในทุกกรณีแบบนี้
ทุกวันนี้เวลาเห็นฟอร์มในสนาม นอกจากแฟนทีมตัวเองจะส่ายหัว แฟนทีมคู่แข่งก็เหมือนยินดี ที่เหมือนได้เจอคู่ต่อสู้ที่เหลือ10คน
รูนี่ย์กำลังจะมี Testimonial ครบ12ปีที่อยู่กับทีมในปีหน้า ซึ่งคนจะได้รับเกียรตินี้ ต้องเป็นตำนานของทีมนั้นๆจริงๆ
ซึ่งผลงาน สถิติต่างๆทุกอย่างของเขา ก็รอจ่อเป็นตำนานของทีมแน่ๆอยู่แล้ว เพียงแต่เส้นทางของเขายังไม่จบ แล้วกับเวลาที่เหลือล่ะ?
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป จาก"ตำนาน"จอมถล่มประตู จะกลายเป็นแค่"ตัวตลก"ให้คู่แข่งหัวเราะไหม ถ้ายังปล่อยไปแบบนี้ ก็คงเป็นแบบนั้น
และไม่ใช่แค่ตัวนักเตะ ฟานกัลเองที่เป็นโค้ชระดับตำนาน แต่ทุกวันนี้ แฟนผีคงรู้สึกหลายครั้ง ว่าเขาเหมือนคนเพิ่งหัดคุมทีมฟุตบอล
บางทีอาจจะไม่ใช่แค่รูนี่ย์ ตัวหลุยส์ฟานกัลเองก็ตาม จากยอดโค้ชระดับตำนาน อาจจะกลายเป็นแค่โค้ชระดับอนุบาลเองก็ได้...