แม่ตื่นนอนมาอาบน้ำตั้งแต่ตี 4 และปลุกเฮียตอนตี 5 ระหว่างที่เฮียล้างหน้าแปรงฟัน (ไม่อาบน้ำ อิอิ) แม่ขอตัวไปสวดมนต์รอเฮียที่องค์พระธาตุอินแขวน เราวางแผนจะไปใส่บาตรและดูทะเลหมอกพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่จุดชมวิว ในตอนเช้าลานกว้างแถวๆองค์พระธาตุอินแขวนจะมีพระสงฆ์มาเดินบิณฑบาตไปมาให้เราได้ร่วมใส่บาตรทำบุญกัน ของใส่บาตรส่วนใหญ่สามารถซื้อได้กับเด็กๆชาวพม่าที่มาเดินขายเป็นชุดๆ ชุดละ 1,000 จั๊ต เป็นพวกชุดอาหารเช้าปลาท่องโก๋ แต่ถ้าใครไม่ต้องการซื้อก็สามารถนำของใส่บาตรติดมาจากไทยก็ได้ครับ เฮียและแม่ซื้อของใส่บาตรไป 9 ชุด ทั้งหมด 9,000 จั๊ต  หลังจากที่เราสองแม่ลูกใส่บาตรเสร็จ ก่อนที่เราจะไปดูทะเลหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้น  เฮียได้เดินไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนและนำไปนมัสการองค์พระธาตุอินแขวนเป็นครั้งที่ 2 ก่อนฟ้าจะสว่างพอดี นมัสการเสร็จเฮียและแม่ก็เดินไปดูทะเลหมอกและรอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว เช้านี้อากาศดีมาก คุ้มค่าที่ตื่นเช้าขึ้นมาชมวิวจริงๆครับ







          เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ถึงเวลาอาบน้ำของเฮีย  ก่อนที่เฮียและแม่จะไปทานอาหารเช้าและ Check-out  ออกจากโรงแรมเพื่อกลับไปย่างกุ้ง  อาหารเช้ามื้อนี้มีให้เลือกมากมายตักได้ไม่อั้นและดูถูกสุขอนามัยมากดี  แต่เฮียไม่ค่อยทานอะไรเยอะในยามเช้าเท่าไหร่นัก  เฮียตักแค่ข้าวผัดไข่กับไข่เจียวมาพร้อมกับน้ำส้ม 1 แก้ว นั่งทานได้สักพักพนักงานก็เดินมาเสริฟผลไม้  ที่นี่แตงโมลูกใหญ่มากครับ หวานอร่อย อิ่มนี้ราคารวมกับค่าที่พักเรียบร้อยตั้งแต่แรกเข้า

          ก่อนที่จะ Check-out  ออกจากโรงแรม เฮียและแม่ก็ได้ไปนมัสการองค์พระธาตุอินแขวนเป็นรอบที่ 3 ซื้อดอกไม้ธูปเทียน แต่ครั้งนี้เฮียเดินไปซื้อแผ่นทองเพิ่มด้วย   ซึ่งแผ่นทองขายในราคาชุดล่ะ 1,750 จั๊ต เฮียให้แม่อธิษฐานก่อนแล้วเฮียค่อยอธิษฐานตามพร้อมกับลงไปปิดทองที่องค์พระธาตุอินแขวนอย่างใกล้ชิดสุดๆ บุญใหญ่มากๆครับ วิธีอธิษฐานสำหรับผู้ชายที่สามารถลงไปปิดทองที่องค์พระธาตุอินแขวนได้ เมื่อปิดทองลงไปที่องค์พระธาตุแล้วให้เรานำหน้าผากแตะไปที่องค์พระธาตุพร้อมกับอธิษฐานขอพร

          Check-out   เสร็จเรียบร้อยเฮียและแม่ได้นัดเด็กแบกกระเป๋า (เจ้าโบโบ้) ไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เค้าก็มารออยู่หน้าโรงแรมตามเวลานัดดีมาก (มาก่อนเวลา)   ขากลับเด็กแบกกระเป๋าเรียกค่าแบกกระเป๋าสูงไปหน่อยแต่เฮียก็จ่ายไปโดยที่ไม่ได้ต่อรองราคาอะไรเลยเพราะเฮียตั้งใจมาทำบุญจริงๆ เงินไม่กี่ร้อยก็คงไม่ทำให้เราเดือดร้อนอะไรมากมายจริงมั้ยครับ ?  เฮียมีความรู้สึกว่านั่งรถขาลงจากพระธาตุอินแขวนไม่สนุกเท่าขาขึ้นสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังแอบหวาดเสียวเล็กน้อย เมื่อรถลงมาถึงที่ “คิมปุน” จะมีเด็กวิ่งรถมารอถามเราว่าจะกลับย่างกุ้งรึเปล่า? และเค้าก็จะเสนอราคามาให้โดยปกติราคาทั่วไปก็จะตกอยู่ที่คนละ 7,000 จั๊ต



          เฮียและแม่ได้ตอบตกลงเด็กวิ่งรถตามราคาที่ได้บอกมาคือ คนละ 7,000 จั๊ต โดยที่ก่อนจะจ่ายเงินเฮียถามย้ำแล้วย้ำอีกว่า รถเปิดแอร์ตลอดทางใช่มั้ย ดีที่สุดแล้วใช่มั้ย ? เด็กวิ่งรถบอกว่า ใช่!!! เด็กวิ่งรถช่วยแบกกระเป๋าสัมภาระขอเฮียและแม่พร้อมกับพาเดินไปที่ท่ารถ (ไม่ไกลมาก)




          รถที่เฮียและแม่จะนั่งกลับย่างกุ้งคือรถคันฝั่งซ้ายมือ (คันสีขาว) สภาพรถก็ไม่แตกต่างกับรถขามาเลยครับ เห็นแล้วเพลีย!!!  เฮียลองถามเด็กวิ่งรถว่า แล้วรถคันข้างๆ เค้าไปย่างกุ้งมั้ย ? เด็กวิ่งรถบอกว่าไม่ไป ซึ่งสภาพรถคันข้างๆดีมากพอๆกับนครชัยแอร์บ้านเรา...หลังจากที่เฮียจ่ายเงินและรอขึ้นรถกลับย่างกุ้ง  เฮียก็ได้เดินไปคุยกับคนขับรถบริษัทข้างๆ (คันสีเหลือง) และได้ถามเค้าว่าไม่ไปย่างกุ้งหรอครับ ? คำตอบที่เฮียได้  มันทำให้เฮียตาสว่างขึ้นและรู้ทันทีว่าเด็กวิ่งรถได้หลอกเฮียเข้าเสียแล้ว  เฮียตัดสินใจเรียกเด็กวิ่งรถมาคุยแล้วบอกกับเด็กวิ่งรถว่าจะไม่ไปคันนี้แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า รถเก่ากว่า  ออกช้า ไม่เปิดแอร์และที่สำคัญไม่สะอาด ซึ่งถ้าเฮียขึ้นรถคันนี้เฮียจะต้องรอเกือบๆ 1 ชั่วโมงกว่ารถจะออก  เฮียต่อรองจะขอเงินคืนกับเด็กวิ่งรถเพราะจะขึ้นรถบัสคันสีเหลืองที่จอดอยู่ข้างๆ ช่วงเวลานั้นเด็กวิ่งรถหน้าเสียมาก และได้พาเฮียเดินไปคุยกับคนขายตั๋ว

          สรุปคือเค้าไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นและไม่ขอคืนเงินที่เฮียและแม่ได้จ่ายไปทั้งหมด 14,000 จั๊ต  เฮียตัดสินใจเดินไปเอากระเป๋าสัมภาระลงจากรถคันนั้นและซื้อตั๋วบริษัทรถบัสคันสีเหลืองทันที ราคาเท่ากันครับ คนละ 7,000 จั๊ต แต่เรื่องคุณภาพแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  ถึงแม้จะเสียเงินจ่ายใหม่อีกรอบ แต่ก็ถือว่าคุ้มมากครับ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสุดๆ เพราะรถบัสบริษัทนี้เปิดแอร์ตลอดทาง สภาพรถดีเยี่ยม สะอาดและเร็วกว่ารถธรรมดา  เฮียและแม่ได้ออกจาก “คิมปุน” เวลา 11.00 น.ตรงและถึงย่างกุ้งในเวลา บ่าย 3 โมงตรง ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงในการเดินทางจากพระธาตุอินแขวนสู่ย่างกุ้ง




          เฮียถามคนขับรถและได้ทราบว่าภาษาพม่าที่ติดอยู่หน้ารถกับในตั๋วรถคือชื่อบริษัทรถบัส อ่านว่า Yoe Yoe Lay (โย โย่ เลย์) สำหรับใครที่เดินทางมาพม่าเองเฮียแนะนำให้ขึ้นรถบริษัทนี้ครับ  แต่ถ้าใครอยากจะสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้านจริงๆ ก็สามารถนั่งรถแบบธรรมดาได้   ( แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าราคาเท่ากัน )

          บ่าย 3 โมงตรง เฮียและแม่ได้มาถึงสถานีขนส่งอองมิงกาลาที่ย่างกุ้ง เฮียแนะนำครับว่าถ้าลงจากรถบัสแล้วให้เดินออกมาขึ้นแท็กซี่ที่ด้านหน้าหรือไม่ก็ด้านนอกสถานีขนส่งเอาครับ ราคาแท็กซี่จากสถานีขนส่งอองมิงกาลาไปในตัวเมืองย่างกุ้งจะต้องอยู่ที่ 6,000 – 7,000 จั๊ต จะไม่เกินนี้ครับ เฮียได้เอาที่อยู่โรงแรมที่เฮียจะพักในย่างกุ้ง ให้แท็กซี่พาไป เข้าไปในตัวเมืองย่างกุ้งใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมง (รถติด) เฮียและแม่ก็ถึงที่พัก เป็นที่ทราบกันดีแล้วนะครับว่าเฮียและแม่มาเที่ยวพม่าโดยที่ไม่ได้จองที่พักเอาไว้ล่วงหน้าเลย... แต่ในเมื่อมาทำบุญผลคงส่งผลให้เฮียและแม่ ไม่มีอุปสรรคใดๆจากการหาที่พักเลยครับ โรงแรมที่เฮียและแม่พักพึ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ทางโรงแรมลดค่าที่พักให้เราสองแม่ลูก 10 ดอลลาร์ ราคารวม 2 คืน เพียง 50 ดอลลาร์ พร้อมอาหารเช้า คิดเป็นเงินไทยแค่คนละ 3 ร้อยกว่าบาทต่อคน ต่อคืน ถือว่าถูกและดีมากๆครับ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวย่างกุ้ง แต่ยังไม่มีที่พัก เฮียขอแนะนำโรงแรมนี้เลยครับ










          ขนของเข้าที่พักและดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ก็หายเหนื่อยจากการเดินทางขึ้นมาหน่อย  ก้มหน้าดูนาฬิกา 5 โมงเย็นแล้ว เฮียและแม่ตัดสินใจจะไปเจดีย์โบตะตาว (Botahtaung Pagoda) ซึ่งที่เจดีย์แห่งนี้คนไทยจะทราบกันดีครับว่า มีวิหารของเทพทันใจตั้งอยู่ด้านข้างของเจดีย์ด้วย จากโรมแรมที่เฮียพักสามารถเดินไปเจดีย์โบตะตาวโดยใช้เวลาเพียง  20 นาที  ลองถามทางกับพนักงานที่โรงแรมได้ครับ ทางจำไม่ยากส่วนมากก็เดินติดกับถนนใหญ่ ค่าเข้าเจดีย์โบตะตาวคนละ 3 ดอลลาร์ หรือ 4,000 จั๊ต










          เฮียและแม่ออกมาจากเจดีย์โบตะตาวก็ 6 โมงเย็นพอดีและได้ต่อแท็กซี่ไปที่เจดีย์สุเล... เจดีย์สุเลเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองย่างกุ้ง นอกจากนี้ก็ยังเป็นวงเวียนให้รถวิ่งอีกด้วย ค่าเข้าคนละ 2 ดอลลาร์ หรือ 2,000 จั๊ต หลังจากที่เฮียและแม่นมัสการเจดีย์สุเลเป็นอันเสร็จ ท้องก็ร้อง จ๊อกๆ คืนนี้ไม่รู้จะทานอะไรดี อาหารพม่าก็ไม่ค่อยถนัด  เฮียเลยตัดสินใจพาแม่โบกแท็กซี่จากเจดีย์สุเลไปนั่งกิน KFC (ได้ข่าวว่าพึ่งเปิดเมื่อต้นปีด้วย) แท็กซี่บางคันไม่รู้จัก KFC แต่เราสามารถพูดเป็นภาษาพม่าได้ง่ายๆว่า > แก่ – แอฟ – สี่ – แจ๊ะ – ตา – จ่อ – มิน  หรือช่องทางที่ง่ายกว่านี้คือเอารูปคุณลุงผู้พันให้แท็กซี่ดูเลยครับ รับลองไปลงถูกที่แน่นอน!!! เฮียคิดว่า KFC ในย่างกุ้งคงเป็นสาขาแรกและสาขาเดี่ยวในพม่าครับ (ไม่มั่นใจ)  KFC ตั้งอยู่ตรงข้ามกับตลาดสก๊อต แต่เลยตลาดสก๊อตไปนิดหน่อย ถ้าใครอยากจะเดินมาทาน KFC จากตลาดสก็อต ก็สามารถเดินขึ้นสะพานลอยข้ามฝั่งไปทานกันได้ครับ พนักงานที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก มื้อนี้เฮียจ่ายไปในราวๆ 13,000 จั๊ต




          รสชาติซอสที่นี่ไม่ค่อยถูกปากเฮียเท่าไหร่นัก > <!!! ซอสมะเขือเทศนี่เปรี้ยวแบบแปลกๆไม่ค่อยเหมือนบ้านเราหรือในต่างประเทศเลย ยิ่งซอสพริกนี่อย่าให้เฮียได้พูดถึง รสชาติยิ่งไม่ถูกปากเฮียที่สุด... แต่ไม่แน่อาจจะถูกปากคุณก็ได้นะครับ...สรุปมื้อนี้เฮียจัดไก่เพียวๆ กับข้าวสวยพร้อมซุปร้อนๆ ไก่น้ำมันเยิ้มเลย  ที่อร่อยที่สุดคงเป็นทาร์ตไข่ รสชาติบ้านเราเลยครับ หลังจากที่อิ่มจากมื้อนี้แล้วเฮียก็นั่งแท็กซี่กลับที่พัก ใครที่มาเที่ยวย่างกุ้งเฮียแนะนำให้ใช้บริการแท็กซี่ครับ เพราะค่าแท็กซี่ที่นี่ไม่แพงเท่าบ้านเรา แถมยังสะดวกไม่เสียเวลาไปไหนมาไหนอีกด้วย  เฮียและแม่กลับมาถึงที่พักในราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง แม่รีบเข้าห้องพักไปอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อน  ส่วนเฮียหรอ... WIFI ที่นี่แรงมาก ขอจัดซะหน่อย ><!!! นั่งอัพรูปเพลิน จากที่เมื่อวาน WIFI โรมแรมบนพระธาตุอินแขวนเข้าไม่ได้เลย