อันนี้คือใช้ได้ทั้งหญิงและชายนะ
ผมว่าสมองนั่นก็คือ"สติ"
ยกตัวอย่าง
เพื่อนผมเคยเจอผู้หญิงคนนึง มีหนี้สินบานเบอะ เพราะนิสัยใช้เงินเกินตัว
มาคบเพื่อให้เพื่อนผม"ใช้หนี้" สุดท้ายพอเพื่อนผมช็อตหาไม่ได้ก็ให้ไปยืมคนนู้นคนนี้
สุดท้ายพอเพื่อนผมไม่ไหว ญ ก็ชิ่งหนี เพื่อนผมที่เกิดมาไม่เคยแม้แต่ยืมเงินใครต้องเป็นหนี้เป็นสิน
และ ยังมีอีกหลายเคสเช่นประเภทเจ้าชู้ ซุกเมีย ซุกกิ๊กไว้หลายคน
สลับรางไปเรื่อยให้เจ็บปวด
ผมเห็นหลายคนใคร ชอบเอาหัวใจนำหน้า หัวใจมันคิดไม่ได้ มันเลยทำให้ขาดสติ
เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่เข้ามา เขาใช้"ความรัก"มาเป็นตัวล่อ เขามีเจตนาอะไรกับเรา เซ็กซ์ หรือ ทรัพย์สินเงินทอง
หรืออาจจะทั้งสองอย่าง ทำไมเราไม่ใช้สมองนำหัวใจล่ะ
วิธีใช้สมองนำหัวใจ คือ การลองใจ
หลายคนบอกว่าการลองใจไม่ใช่ความรัก
แต่ผมบอกว่า การลองใจนี่แหละคือการพิสูจน์ความรัก
ว่าคนๆนี้จะฝากชีวิต จะให้เป็นพ่อของลูก หรือ แม่ของลูกเราได้มั้ย
การลองใจคือการใช้"สติ" การมีสติคือการรู้สึกตัว ไม่หลงไปกับคำพูด และ คารม
พ่อผมสอนมาตั้งแต่เด็กว่า
"จะดูคนว่าคนนั้นเป็นยังไง ให้ดูที่พฤติกรรม ไม่ใช่คำพูด"
เพราะคนเราจะพูดอะไรก็ได้ จะโกหก หรือ พูดสวยหรูให้ดูดี แค่ไหนก็ได้
ถ้าพูดอย่าง เช่น ฉันรักเธอ แต่ไม่เคยมาหา โทรไปก็ปิดเครื่อง ผลุบๆโผล่ๆแปลว่าไม่ใช่และ
หรือ ฉันคบกับเธอไม่ใช่เพราะเงินของเธอนะ แต่โทรมา ขอยืมเงิน ขอของต่างๆ ให้เลี้ยงนู่นเลี้ยงนี้
แต่เราอยากเจอ ก็ไม่เคยมาหา หรือ พูดอะไรกลับกลอกตลอดเวลา วันนี้พูดอย่าง อีกวันพูดอย่าง
อธิบายง่ายๆ
สำหรับหลายคนเก่งแค่เรื่องคารม ดังนั้นคำว่ารักสำหรับเขา "รักจึงเป็นแค่คำพูด"
อีกอย่างนึง คนพวกนี้จะขออะไรคุณ เขาจะอ้างความลำบาก สารพัดเรื่องเดือดร้อนต่างๆนานา ให้คุณเห็นใจ
เขาจะยกย่องคุณว่าคุณเก่ง หรือ ให้เป็นฮีโร่ ว่าคุณเท่านั้นที่ช่วยเขาได้
แต่พอให้ไปแล้ว ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม หรือทำตัวหายจ้อยผลุบๆโผล่ๆ จะโผล่มาอีกทีคือเดือดร้อน (แต่จริงๆไม่ได้เดือดร้อนหรอกแค่เงินเที่ยวผับคืนนี้ไม่มี เป็นต้น)
ดังนั้น คนหลายคนเก่งเรื่องการพูด พูดให้เราเชื่อ พูดให้ความหวังเพื่อต้องการสิ่งบางอย่าง
เช่นบอกว่าจะไปเที่ยวด้วย หรือ บอกว่ารัก แต่มาขอเงิน ของสิ่งของ หรือ ขอsex พอได้ก็หายหัว อย่างงี้ไม่ใช่และ
ถ้าพูดอย่าง แต่ กำลังทำอีกอย่าง หรือพูดแก้ตัว ให้รู้ไว้ว่าเขากำลังโกหกคุณอยู่
ในสังคมยุคปัจจุบันนี้ หน้าสวยหน้าหล่อแต่งตัวดี แต่ภายในจิตใจไม่ดีก็เยอะแยะ
ดังนั้น เราควรใช้"สติ" ด้วยการ"ลองใจ"
การลองใจง่ายๆ
คือ ทำตัวเองให้lowที่สุด สมมุติมาคบกับเรา
เช่น พาไปกินข้าวข้างทางซิ พานั่งรถเมล์ซิ หรือ ทำตัวกระจอกๆ ไม่ซื้อของ ไม่ตามใจดูซิ
เจอกันไม่นานมาขอตัง อ้างแม่ป่วย ญาติตาย เราก็บอกไปว่า พ่อเราก็เพิ่งเข้าโรงบาล ไม่มีให้
อย่าคิดว่าไม่มี มีเยอะแยะ เจอไม่ทันไร ขอยืมเงินแล้ว ผมเคยเจอมาหลายคนแบบเนี้ย ก็อย่างน้อย4-5คน แหม คุยกันแป๊บเดียวขอเงิน
เช่น คนนึงบอกว่าอยู่หมอชิตแม่ไม่สบายจะขอเงินค่ารถกลับต่างจังหวัด ให้โอนมาให้หน่อย
ผมบอกเหรอ แล้วผมก็วางไป โทรมาอีก2-3ครั้งผมไม่รับ แล้วก็ไม่เคยโทรมาอีกเลย
อีกคนเจอในเน็ท มาครั้งแรกพาเพื่อนมาด้วย3คน ยืนคุยกันกินไรดี กินฟูจิดีกว่า
ผมเลยลองใจ บอกว่า น้องครับพี่พกมาแค่500 (จริงพกมาพันกว่าบาท) คือ ผมก็คิดไว้ถ้าผมเลี้ยงแค่น้องคนที่มาเดทด้วยแค่คนเดียว ก็โอเค
แต่ถ้าเลี้ยงยกแก้งค์ก็คงต้องชิ่ง แต่ถ้า3คนนั้นมาต่างคนต่างจ่ายก็ต้องบอกว่า"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพวกเราจ่ายเอง"
แต่น้องเขาดันบอกว่า พี่ไปกดเงินมาเพิ่มสิ ผมคิดในใจ นั่นไง ผมเลยบอกว่าน้องรออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวพี่มาไปกดเงินก่อน
ผมเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้วก็ขึ้นbtsกลับบ้านเลย ถามว่าเสียดายมั้ย ตอบเลยว่าไม่
เราต้องการแฟน ไม่ใช่ต้องการ"ปลิง" เราต้องการคนรู้ที่มาเป็นคู่ใจ"ไม่ใช่คนที่ทำให้เราต้องลำบากใจ"
จริงๆพฤติกรรมไม่ต้องดูนานๆหรอก แค่เจอกันครั้งแรกๆ ถ้าคบไม่ทันไร ก็เอ่ยเรื่องตัง ขอจงรบถอยให้ห่าง
ถ้าพูดเรื่องตัง แล้วมาพูดเรื่องความเดือดร้อน ให้จงคิดไว้ว่า โกหก90% คำพูดน่ะ คนเราจะพูดอะไรก็ได้ เหมือนนักการเมืองอะ พูดให้คนหลงคารมจนรบราตีกันไม่จบไม่สิ้น เรื่องโกหกพกลมทั้งน้านนนนน
การพูดเรื่องเดือดร้อนให้คนที่เพิ่งรู้จักเนี่ยนะ คิดดิ ว่าเดือดร้อนจริงรึ เออ เราไม่หลงกล แต่คนอีกมากมายหลงกลนะ555+
และจงอย่าไปเสียดาย เขาไป ก็ปล่อยให้เขาไป ลองคบไปสักพักดูน่า เผื่อเปลี่ยนเขาได้
คนเราเปลี่ยนกันง่ายๆหรอกครับ คนเราเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน สังคมไม่เหมือนกัน การอบรมทางบ้านไม่เหมือนกัน
เรามีอิทธิพลกับเขาแค่ไหนในการเปลี่ยนแปลงเขา เอาแค่ตัวเองเปลี่ยนนิสัยแย่ๆของตัวเองได้รึยัง บางคนก็รู้นิสัยแย่ๆของตัวเองคืออะไร แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ ดังนั้นเปลี่ยนตัวเองยังไม่ค่อยจะได้เลย อย่าคิดไปเปลี่ยนคนอื่น
เข้าใจว่าเสียดายเขา แต่ซักวันเขาก็ต้องทิ้งเราไปอยู่ดี แถมสร้างบาดแผลในใจหรือหนี้สินให้ เอาหรือ ตัดไฟจากต้นลมดีกว่า
การลองใจอาจจะสูญเสียคนที่เข้ามา และ จากไปหลายคนหน่อย ก็ไม่เสียหายนี่ถ้าสักวันคนสักคนที่ดีจริงๆเดินเข้ามา
ถ้าเราลองหาไปเรื่อยๆมันต้องเจอเองแหละ
แต่เชื่อสิ ถ้ามีสักคนที่เข้ามาไม่หวังผลประโยชน์จากเรา ไม่ล้อหลอกเรา คำพูดเชื่อถือได้ ต้องการเราจริงๆ
เมื่อหมดระยะลองใจ นั่นแหละเราถึงเปลี่ยนจากสมองมาให้หัวใจคนที่ควรจะสมควรได้
(ผมว่าควรลองใจสักครึ่งปีกำลังดี แต่ส่วนมากพวกไม่จริงใจเดือนสองเดือนเห็นว่าเราไม่หลงกลก็ตีจากแล้ว)
ทำไมเขาถึงบอกว่า"รัก"ให้ใช้"หัวใจ"ไม่ใช่"สมอง" แต่จริงๆแล้วรักที่ดีควรใช้"สมอง"แล้วค่อยใช้"หัวใจ"
ผมว่าสมองนั่นก็คือ"สติ"
ยกตัวอย่าง
เพื่อนผมเคยเจอผู้หญิงคนนึง มีหนี้สินบานเบอะ เพราะนิสัยใช้เงินเกินตัว
มาคบเพื่อให้เพื่อนผม"ใช้หนี้" สุดท้ายพอเพื่อนผมช็อตหาไม่ได้ก็ให้ไปยืมคนนู้นคนนี้
สุดท้ายพอเพื่อนผมไม่ไหว ญ ก็ชิ่งหนี เพื่อนผมที่เกิดมาไม่เคยแม้แต่ยืมเงินใครต้องเป็นหนี้เป็นสิน
และ ยังมีอีกหลายเคสเช่นประเภทเจ้าชู้ ซุกเมีย ซุกกิ๊กไว้หลายคน
สลับรางไปเรื่อยให้เจ็บปวด
ผมเห็นหลายคนใคร ชอบเอาหัวใจนำหน้า หัวใจมันคิดไม่ได้ มันเลยทำให้ขาดสติ
เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่เข้ามา เขาใช้"ความรัก"มาเป็นตัวล่อ เขามีเจตนาอะไรกับเรา เซ็กซ์ หรือ ทรัพย์สินเงินทอง
หรืออาจจะทั้งสองอย่าง ทำไมเราไม่ใช้สมองนำหัวใจล่ะ
วิธีใช้สมองนำหัวใจ คือ การลองใจ
หลายคนบอกว่าการลองใจไม่ใช่ความรัก
แต่ผมบอกว่า การลองใจนี่แหละคือการพิสูจน์ความรัก
ว่าคนๆนี้จะฝากชีวิต จะให้เป็นพ่อของลูก หรือ แม่ของลูกเราได้มั้ย
การลองใจคือการใช้"สติ" การมีสติคือการรู้สึกตัว ไม่หลงไปกับคำพูด และ คารม
พ่อผมสอนมาตั้งแต่เด็กว่า
"จะดูคนว่าคนนั้นเป็นยังไง ให้ดูที่พฤติกรรม ไม่ใช่คำพูด"
เพราะคนเราจะพูดอะไรก็ได้ จะโกหก หรือ พูดสวยหรูให้ดูดี แค่ไหนก็ได้
ถ้าพูดอย่าง เช่น ฉันรักเธอ แต่ไม่เคยมาหา โทรไปก็ปิดเครื่อง ผลุบๆโผล่ๆแปลว่าไม่ใช่และ
หรือ ฉันคบกับเธอไม่ใช่เพราะเงินของเธอนะ แต่โทรมา ขอยืมเงิน ขอของต่างๆ ให้เลี้ยงนู่นเลี้ยงนี้
แต่เราอยากเจอ ก็ไม่เคยมาหา หรือ พูดอะไรกลับกลอกตลอดเวลา วันนี้พูดอย่าง อีกวันพูดอย่าง
อธิบายง่ายๆ
สำหรับหลายคนเก่งแค่เรื่องคารม ดังนั้นคำว่ารักสำหรับเขา "รักจึงเป็นแค่คำพูด"
อีกอย่างนึง คนพวกนี้จะขออะไรคุณ เขาจะอ้างความลำบาก สารพัดเรื่องเดือดร้อนต่างๆนานา ให้คุณเห็นใจ
เขาจะยกย่องคุณว่าคุณเก่ง หรือ ให้เป็นฮีโร่ ว่าคุณเท่านั้นที่ช่วยเขาได้
แต่พอให้ไปแล้ว ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม หรือทำตัวหายจ้อยผลุบๆโผล่ๆ จะโผล่มาอีกทีคือเดือดร้อน (แต่จริงๆไม่ได้เดือดร้อนหรอกแค่เงินเที่ยวผับคืนนี้ไม่มี เป็นต้น)
ดังนั้น คนหลายคนเก่งเรื่องการพูด พูดให้เราเชื่อ พูดให้ความหวังเพื่อต้องการสิ่งบางอย่าง
เช่นบอกว่าจะไปเที่ยวด้วย หรือ บอกว่ารัก แต่มาขอเงิน ของสิ่งของ หรือ ขอsex พอได้ก็หายหัว อย่างงี้ไม่ใช่และ
ถ้าพูดอย่าง แต่ กำลังทำอีกอย่าง หรือพูดแก้ตัว ให้รู้ไว้ว่าเขากำลังโกหกคุณอยู่
ในสังคมยุคปัจจุบันนี้ หน้าสวยหน้าหล่อแต่งตัวดี แต่ภายในจิตใจไม่ดีก็เยอะแยะ
ดังนั้น เราควรใช้"สติ" ด้วยการ"ลองใจ"
การลองใจง่ายๆ
คือ ทำตัวเองให้lowที่สุด สมมุติมาคบกับเรา
เช่น พาไปกินข้าวข้างทางซิ พานั่งรถเมล์ซิ หรือ ทำตัวกระจอกๆ ไม่ซื้อของ ไม่ตามใจดูซิ
เจอกันไม่นานมาขอตัง อ้างแม่ป่วย ญาติตาย เราก็บอกไปว่า พ่อเราก็เพิ่งเข้าโรงบาล ไม่มีให้
อย่าคิดว่าไม่มี มีเยอะแยะ เจอไม่ทันไร ขอยืมเงินแล้ว ผมเคยเจอมาหลายคนแบบเนี้ย ก็อย่างน้อย4-5คน แหม คุยกันแป๊บเดียวขอเงิน
เช่น คนนึงบอกว่าอยู่หมอชิตแม่ไม่สบายจะขอเงินค่ารถกลับต่างจังหวัด ให้โอนมาให้หน่อย
ผมบอกเหรอ แล้วผมก็วางไป โทรมาอีก2-3ครั้งผมไม่รับ แล้วก็ไม่เคยโทรมาอีกเลย
อีกคนเจอในเน็ท มาครั้งแรกพาเพื่อนมาด้วย3คน ยืนคุยกันกินไรดี กินฟูจิดีกว่า
ผมเลยลองใจ บอกว่า น้องครับพี่พกมาแค่500 (จริงพกมาพันกว่าบาท) คือ ผมก็คิดไว้ถ้าผมเลี้ยงแค่น้องคนที่มาเดทด้วยแค่คนเดียว ก็โอเค
แต่ถ้าเลี้ยงยกแก้งค์ก็คงต้องชิ่ง แต่ถ้า3คนนั้นมาต่างคนต่างจ่ายก็ต้องบอกว่า"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพวกเราจ่ายเอง"
แต่น้องเขาดันบอกว่า พี่ไปกดเงินมาเพิ่มสิ ผมคิดในใจ นั่นไง ผมเลยบอกว่าน้องรออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวพี่มาไปกดเงินก่อน
ผมเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้วก็ขึ้นbtsกลับบ้านเลย ถามว่าเสียดายมั้ย ตอบเลยว่าไม่
เราต้องการแฟน ไม่ใช่ต้องการ"ปลิง" เราต้องการคนรู้ที่มาเป็นคู่ใจ"ไม่ใช่คนที่ทำให้เราต้องลำบากใจ"
จริงๆพฤติกรรมไม่ต้องดูนานๆหรอก แค่เจอกันครั้งแรกๆ ถ้าคบไม่ทันไร ก็เอ่ยเรื่องตัง ขอจงรบถอยให้ห่าง
ถ้าพูดเรื่องตัง แล้วมาพูดเรื่องความเดือดร้อน ให้จงคิดไว้ว่า โกหก90% คำพูดน่ะ คนเราจะพูดอะไรก็ได้ เหมือนนักการเมืองอะ พูดให้คนหลงคารมจนรบราตีกันไม่จบไม่สิ้น เรื่องโกหกพกลมทั้งน้านนนนน
การพูดเรื่องเดือดร้อนให้คนที่เพิ่งรู้จักเนี่ยนะ คิดดิ ว่าเดือดร้อนจริงรึ เออ เราไม่หลงกล แต่คนอีกมากมายหลงกลนะ555+
และจงอย่าไปเสียดาย เขาไป ก็ปล่อยให้เขาไป ลองคบไปสักพักดูน่า เผื่อเปลี่ยนเขาได้
คนเราเปลี่ยนกันง่ายๆหรอกครับ คนเราเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน สังคมไม่เหมือนกัน การอบรมทางบ้านไม่เหมือนกัน
เรามีอิทธิพลกับเขาแค่ไหนในการเปลี่ยนแปลงเขา เอาแค่ตัวเองเปลี่ยนนิสัยแย่ๆของตัวเองได้รึยัง บางคนก็รู้นิสัยแย่ๆของตัวเองคืออะไร แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ ดังนั้นเปลี่ยนตัวเองยังไม่ค่อยจะได้เลย อย่าคิดไปเปลี่ยนคนอื่น
เข้าใจว่าเสียดายเขา แต่ซักวันเขาก็ต้องทิ้งเราไปอยู่ดี แถมสร้างบาดแผลในใจหรือหนี้สินให้ เอาหรือ ตัดไฟจากต้นลมดีกว่า
การลองใจอาจจะสูญเสียคนที่เข้ามา และ จากไปหลายคนหน่อย ก็ไม่เสียหายนี่ถ้าสักวันคนสักคนที่ดีจริงๆเดินเข้ามา
ถ้าเราลองหาไปเรื่อยๆมันต้องเจอเองแหละ
แต่เชื่อสิ ถ้ามีสักคนที่เข้ามาไม่หวังผลประโยชน์จากเรา ไม่ล้อหลอกเรา คำพูดเชื่อถือได้ ต้องการเราจริงๆ
เมื่อหมดระยะลองใจ นั่นแหละเราถึงเปลี่ยนจากสมองมาให้หัวใจคนที่ควรจะสมควรได้
(ผมว่าควรลองใจสักครึ่งปีกำลังดี แต่ส่วนมากพวกไม่จริงใจเดือนสองเดือนเห็นว่าเราไม่หลงกลก็ตีจากแล้ว)