พอดีผมได้มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยว Iceland กับเพื่อนๆ อีก 5 คนรวมแล้วทั้งหมด 6 คน กระทู้นี้จะเน้นหนักไปทางรูปหน่อยระครับ ฮาๆๆ

โดยแผนเดินทางคร่าวๆของพวกเราคือเที่ยวกัน 8 วัน 7คืน (1-8 Oct 2015) โดยจะแวะไปตามเมืองและสถานที่สำคัญต่างๆดังนี้
1-3 Oct Kirkjufell
3-5 Oct Hofn
5-7 Oct Vik
7-8 Oct Reykjvik, Blue Lagoon, Airport

การเดินทาง:
พวกผมนั่งเครื่องบินมากจาก Frankfurt มาลงที่ Keflavik Airport จากนั้นไปรับรถเช่าที่สนามบินเป็นรถ 4WD ซึ่งค่าเช่ารถทั้งหมดตีเป็นเงินไทยประมาณ 3หมื่นกลางๆครับ

มาถึงที่เมือง Grundarfjörður คืนแรกพวกผมก็ได้เห็นแสงเหนือระเบิดอยู่เต็มหลังโรงแรมเลย แต่เนื่องจากความตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก
จึงทำให้ภาพถ่ายออกมาค่อนข้างเบลอ แถมทำขาตั้งกล้องล้ม หน้าเลนส์กระแทกพื้นด้วยความประมาท -*-

อันนี้เป็นรูปภาพจากหลังโรงแรมวันรุ่งขึ้นครับ


จากนั้นพวกผมก็ขับรถจากโรงแถมไปที่เขา Kirkjufell พร้อมกับได้รูปมุมยอดฮิตของที่นี่กลับมา





Kirkjufell's reflection



Sweet Kirkjefell


Kirkjufellsfoss, น้ำตกที่อยู่ข้างหน้า Kirkjufell ครับ แต่รูปนี้ถ่ายโดยหันหลังให้กับ Kirkjufell



วิวระหว่างทางไปเขา Kirkjufell อลังการใช้ได้เลยย



ชมวิวช่วงเช้าไปแล้ว ต่อไปก็เป็นคิวของแสงเหนือที่รอคอยครับ
คืนที่2ที่ Iceland พวกผมได้มีโอกาสเห็นแสงเหนือ KP3 เต็มๆตาตั่งแต่ 4ทุ่มไปจนเกือบเที่ยงคืนเลย ^^

Aurora Show at Kirkjufell มุมนี้คือมุมในฝันเลยครับ ^^



อีกรูปนึงครับ



แนวตั้งฮะะ



Aurora blast



Aurora คืนนั้นมีหลายสีมาก ทั้งส้ม เขียว และม่วง



Aurora Hunters



Aurora across the sky



เริ่มต้นวันที่3 ที่Iceland พวกผมก็เดินทางกันต่อโดยการขับรถยาวจากฝั่งตะวันตก ไปฝั่งตะวันออกโดยพักกันที่เมือง Hofn ครับ ระหว่างทางก็จะแวะดูธารน้ำแข็ง Jökulsárlón กัน

วิวระหว่างทางที่พวกผมขับรถออกมาจาก Grundarfjörður ครับ



Way back to the country road



มาถึงที่ Jökulsárlón ปรากฎว่า ฟ้าปิดมาก ทำให้ไม่ได้ทั้งแสงเย็น และแสงเหนือที่นี่เลย



Black sand beach.



วันที่ 3 และวันที่ 4 เป็นวันที่ฟ้าปิดและฝนตกหนักมาก ทำให้พวกผมแทบไม่ได้รูปอย่างที่ตั้งใจไว้เลย T^T

Red car at Vestrahorn



ข้ามไปวันที่ 5 ซึ่งอากาสเริ่มกลับมาเป็นใจมั่งแล้ว โดยพวกผมเดินทางจากเมือง Hofn ไปที่เมือง Vik ทางตอนใต้ของ Iceland

โบสถ์ประจำเมือง Vik ครับ



แถมยังพอมีดวงได้เห็นแสงเหนือที่นี่ด้วย



สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อมาที่ Iceland คือการถ่ายรูปม้าของที่นี้





ไปต่อกับที่ Skogafross น้ำตกขนาดใหญ่ชื่อดังของที่นี่
ตอนแรกที่พวกผมไปถึงฝนลงเม็ดโปรยๆ ฟ้าปิด หลังจากนั้นไม่กี่นาทีแดดก็ออกทำให้มองเห็นสายรุ้งที่น้ำตกได้
แต่แล้วในอีกไม่กี่นาทีถัดมา พายุมาเยือนพร้อมกับลูกเห็บห่าใหญ่ -*- อากาศที่นี่ไม่แน่นอนเหมือนที่เค้าบอกมาจริงๆครับ

Skogafross with Rainbow



จากนั้นพวกผมไปต่อกันที่ landmark อีกแห่งนึ่งของ Iceland คือซากเครื่องบินรบ หรือ Wrecked plane โดยการเดินทางไปสามารถดูได้จากเว็ปนี้เลยครับ บอกค่อนข้างชัดเจนทีเดียว  http://expertvagabond.com/airplane-crash-wreckage-iceland/

ซากเครื่องบินนี้ตามข้อมูลเป็นซากเครื่องบินทหารสหัรัฐ อเมริกาซึ่งลงจอดเพราะเหตุขัดข้องทำให้น้ำมันหมด แต่ว่าไม่มีคนเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้
แต่ไม่ว่ายังไง บรรยากาศข่อนค้างหลอนเลยทีเดียว โดยเฉพาะเวลามาถ่ายแสงเหนือที่นี่ตอนกลางคืน





พวกผมมารอแสงเหนือกันที่นี่ และก็ได้เห็นดังใจหวัง โดยคืนนั้นตามพยากรณ์ KP3 ครับ

Wrecked Plane is ready to fly.







ขอจบเพียงเท่านี้ครับ แผนการเที่ยวของพวกผมคร่าวๆ ก็จะเป็นตามนี้ ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆเดี่ยวจะมาแชร์ให้เป็นขอมูลครับ
อุปกรณ์ในการถ่ายภาพที่ผมใช้คือ Nikon D800, Nikkor 20 F1.8, Nikkor 24-85 และ Tamron 70-200 VC F2.8 ครับ



ทริปนี้เป็นทริปที่ประทับใจมากๆครับ ถ้ามีโอกาสยังไงต้องไปซ้ำอีกรอบแน่ๆ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับชม และให้คำแนะนำครับ ^^