สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิวรีสอร์ท
Ville De La Vie @เขาใหญ่ ที่ได้มีโอกาสไปมาเมื่อ 23-10-2558 ที่ผ่านมานะคะ จริงๆ จุดประสงค์นอกจากจะมารีวิวฉบับมินินี้แล้ว ตั้งใจอยากทำอะไรซักอย่างตอบแทนให้กับความอบอุ่น ความน่ารัก ที่ทางรีสอร์ทมอบให้ค่า และขอออกตัวเลยว่า ไม่มีส่วนได้เสียใดๆทั้งสิ้น มันเป็นคุณค่าทางจิตใจล้วนๆค่า >< มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ปล.ภาพถ่ายรูปมาไม่มากนะคะ ขอโต้ดดด้วยคร่า
ทำไมถึงเลือกที่นี่
จิงๆ แล้วอยากไปรีสอร์ทเขาใหญ่ที่เปน Pool villa ค่ะ แต่มาจองใกล้ๆวันหยุดยาว ที่ที่อยากไปเลยเต็มค่ะ เราเลยอ่านรีวิวโดยเน้นที่ความเป็นส่วนตัวและ “อาหารอร่อย” (ก็ไม่ค่อยเหนแก่กินเท่าไหร่อะนะ) อ่านรีวิวจากทั้ง pantip และ agoda จนตาแฉะ สุดท้าย ได้ที่นี่ค่ะ Ville De La vie และก็ไม่ผิดหวังจิงๆ
การจอง
เรา add Line โทรจองกับรีสอร์ท สิ่งที่เป็นความประทับใจคือ รีสอร์ท take care เราดีมาก ตั้งแต่คุยไลน์แล้ว และได้ดูเมนู สั่งอาหารมื้อค่ำล่วงหน้าผ่านไลน์ ชีวิตดี๊ดีค่ะ
การเดินทาง
จากกรุงเทพมาเขาใหญ่ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ค่ะ (รถค่อนข้างติด) ตอนจอง ทางรีสอร์ทได้ส่งแผนที่และตำแหน่ง GPS ให้ ในครั้งนี้ถือว่า Google Map และ GPS เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง , ทางเข้ารีสอร์ท สำหรับคนไม่รู้เส้นทางก็จะลำบากแน่นอนค่ะถ้าคุณไม่มี GPS แต่ดีที่รีสอร์ทมีป้ายบอกทางตลอดค่ะ
คำเตือน : สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเข้ารีสอร์ท
ขนมค่ะ เพราะ Seven เขาใหญ่มีน้อย ซึ่งห่างจากรีสอร์ทไกลอยู่ (ใกล้สุดประมาณ 15km) คือ อ่านมาจากหลายรีวิวแล้วว่า เข้าไปรีสอร์ทแล้ว อย่าออกมาอีกเลย อันนี้จริงค่ะ แต่เข้าใจได้นะ ว่าถ้าคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัวที่เป็นธรรมชาติแบบประชิดติดภูเขางี้ ยอมค่ะ (จิงๆวันที่ไปลืมซื้อของติดมือมาใส่บาตร เลยต้องออกไปหา seven อีกรอบ พอขากลับมืดมากกกกค่ะ แบบไม่ค่อยจะมีไฟริมถนน กลัวมาก ว่าจะมีซอมบี้วิ่งออกมาแบบในเรื่อง walking dead -“-)
ยามเมื่อถึงรีสอร์ท
• โอ้ววววว เจ้า มันสวยงามมากยิ่ง จริงๆ คือ เจ้าของคงมีศิลปะอยู่เต็มหัวใจ (ดูได้ตามรูปที่ถ่ายมาบางส่วนด้านล่างค่ะ) สภาพของต้นไม้ใบหญ้า ทุกอย่างคือ ความเอาใจใส่ดูแลอย่างดีค่ะ รีสอร์ทที่เป็นบ้านวิลล่ามีเพียงไม่กี่หลังค่ะ (10หลัง) จะเรียกชื่อบ้านและตกแต่งบ้านแตกต่างกันไปตามชื่อ เราได้วิลล่าบ้าน Venezia (ตามรูปค่ะ) ทั้งรีสอร์ทมีทั้งหมดเพียง 14 ห้อง
• เข้ามาเช็คอินได้ตั้งแต่ 14.00 เป็นต้นไปค่ะ เช็คเสร็จปุ้บพี่พนักงานผู้น่ารักก็จะพาเราและสมบัติขึ้นรถกอล์ฟไปส่งถึงบ้าน
ยามเมื่อถึงบ้านพักวิลล่า
• ความประทับใจ (ที่เราไม่เคยพบที่ไหน) รีสอร์ทเปิดแอร์เย็นฉ่ำรอเราไว้แล้วค่า บอกแล้วว่าเค้าใส่ใจ
• รอบๆ บ้านจะเป็นหญ้าที่ขึ้นเขียวขจี แบบดูแลอย่างดี ข้างนอกจะมีชิงช้าทรงเรือแขวนไว้ให้นั่งเล่นด้วย บริเวณด้านนอกของบ้านแต่ละหลังนี่กว้างมาก แบบ อยากให้รีสอร์ททำสระว่ายน้ำเปน pool villa มากเลยค่ะ
• ในบ้าน ตกแต่งสวยงามมากค่ะ โดยเฉพาะเพดาน ส่วนคุณแฟนเราชอบประตูค่ะ โดยเฉพาะประตูห้องน้ำ บอกแล้วว่าเจ้าของมีศิลปะอยู่เต็มหัวใจ
• เตียงนุ่ม กว้าง น่านอน ไปถึงเมื่อแอร์เยนขนาดนี้ก็นอนเลยค่ะ ข้างๆมีพัดลมจิ๋วขนาดเล็ก แต่พัดแรงมาก ไว้เผื่ออยากรับลมธรรมชาติ
• ในห้องสิ่งที่ฟรีให้คือ น้ำประมาณ 4 ขวด ในตู้เย็น และมีชา กาแฟ ไมโล ไว้ให้ชงกินกับขนมที่วางไว้ใกล้กันค่า ไม่ฟรีในตู้เยนก็จะมีพวกนม น้ำผลไม้ เบียร์อีกสองป๋อง
• ห้องนอนมีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกไปเป็นระเบียง เห็นวิวภูเขา และฟาร์มข้าวโพดค่ะ สวยงามมากๆ โดยเฉพาะตอนเช้า
• ห้องพักทุกห้องมีกล่องรับสัญญาณ (เค้าเรียกว่ากล่องไรอ้ะ) คือแบบได้ดูหนังช่อง FOX ชัดกว่าอยู่กทม.
• ห้องน้ำบ้าง ห้องน้ำกว้างงงงมาก แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำนะ (อยากให้มีๆ) แต่ไม่เป็นไรค่ะ มีชุดแปรงสีฟัน หวี หมวกคลุม สบู่เหลว ยาสระผมครีมนวด.. สิ่งที่ตกใจคือ ฝักบัวและอ่างล้างหน้า มันมีไฟแบบหลากสีออกมาตอนเราเปิดก๊อกน้ำ (ตามรูป) คือ ชอบอ่ะ เข้าไปก็เล่นแต่ไอ้นี่นี่ล่ะค่ะ มันคือศิลปะ!
• แม้ว่าอยู่ท่ามกลางป่าและขุนเขา แต่ไม่มียุงค่ะ ประตูมีมุ้งลวด แถมขีดชอล์คกันน้องมดไว้รอบบ้าน
• สรุปสภาพบ้านนะคะ = สะอาดมาก ทุกอย่างยังใหม่ โรแมนติก อบอุ่น สวยงาม และแอร์เย็น ค่ะ
กิจกรรมในรีสอร์ท
• เราเช่ารถจักรยานกะคุณแฟนมาคนละคันค่ะ ช่วงเยนพระอาทิตย์ตกปั่นออกไปนอกรีสอร์ท ไปไกลเลยค่ะ ถนนรอบๆรีสอร์ทไม่มีรถค่ะ นานๆจะผ่านมา มีแต่ทุ่งข้าวโพด และปลูกพืชต่างๆ ปั่นจนปวดก้นกบง่ะ -“-
• ในรีสอร์ทมีน้องม้าหลายตัวเลย ให้อาหารได้ค่ะ
• มีเรือเป็ดไว้ให้ถีบ
• มีสระว่ายน้ำ ซึ่งไม่ได้ว่าย เพราะวันที่ไปเด็กๆ เค้าจองสระกันค่ะ
• ช่วงเช้ามีพระเข้ามาถึงรีสอร์ทให้ตักบาตร เราชอบมาก ท่านเป็นพระสายปฏิบัติค่ะ (มาจากวัดป่าแถวๆนั้น) วันนั้นพระท่านมาประมาณ 4-5 รูปค่ะ แขกในรีสอร์ทมาตักกันเยอะพอสมควรค่ะ (แขกที่เป็นฝรั่งก็มา) รู้สึกดีมาก ความรู้สึกต่างกับตักบาตรกับพระในเมืองกรุง อ่อ พระท่านมาประมาณ 7.30 ค่ะ (ทางรีสอร์ทมีจัดชุดอาหารใส่บาตรไว้เผื่อใครต้องการ ส่วนของเราออกไปซื้อจาก seven ไว้แล้วค่ะ)
อาหารค่ำที่รอคอย
• อ่านจากหลายรีวิว บอกว่าอร่อยกว่าร้านดังๆ แถวเขาใหญ่ เห้ยยยย มันจริงอ่ะ
• ได้มีโอกาสสั่งอาหารทางไลน์ไว้ก่อนเข้าพักค่ะ พี่พนักงานจะถามไว้แล้วว่าจะสะดวกทานกี่โมง เพราะงั้นพอนั่งปุ้บก็ได้ทานเลย (ร้านอาหารมีไวน์ มี Smirnoff มีร้านกาแฟสด)
• สั่งอาหารที่เป็น recommend ไว้ค่ะ ที่สั่ง และแนะนำอย่างยิ่งแบบห้ามพลาด คือ ขาหมูเยอรมัน , ซี่โครงหมู BBQ , ปูกะตอย(ทอดกระเทียม) , สลัดยำแซลม่อน และสปาเกตตี้ขี้เมาทะเล (คือถามว่าที่สั่งมากินหมดมั้ย .. ไม่ค่ะ เอากลับไปกินบ้านต่อ) อร่อยจริงๆ คอนเฟริ์มค่ะ ส่วนเมนูอื่นที่ recommend ไว้มาลองใหม่ค่ะ (ไม่มีรูปนะคะเพราะถ่ายไม่ทัน -“-)
• บรรยากาศ อบอุ่นและโรแมนติกค่ะ อบอุ่นเพราะ เจ้าของและพนักงานมาถามตลอดว่ารสชาติเปนไงบ้าง มาบริการบ่อยจนเกรงใจค่ะ อบอุ่นเพราะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านค่ะ โรแมนติกเพราะอาหารใต้แสงเทียน และรีสอร์ทเอาโปรเจคเตอร์ยักษ์มาตั้ง เปิด MV เพลงสากลที่เป็นฉบับ COVER อย่าง Boyce Avenue ,etc. (เพลงช้าใหม่ๆค่ะ) ซึ่งส่วนตัวชอบฟังเพลงพวกนี้มาก รู้สึกเหมือนเจ้าของเค้าชอบอะไรก็ทำอย่างนั้นให้กับลูกค้าค่ะ ซึ่งมันก็ตรงกับความชอบเราด้วย
• ทานเสร็จปุ้บ ก่อนกลับห้อง เจ้าของมา say Goodnight อีก อิอิ น่ารักค่ะ
อาหารเช้าที่รอคอยมาทั้งคืน
• อร่อยเหมือนที่รีวิวอื่นๆว่าค่ะ โดยเฉพาะข้าวต้มหมูสับ อาหารเช้าที่นี่มีเยอะค่ะ เหมาะสมกับจำนวนห้องพัก
• ที่ตักได้ไม่อั้น ได้แก่ ข้าวต้มหมูสับ ขนมปัง(เหมือนจะทำเอง)+เนยแยม แพนเค้ก+น้ำผึ้ง กล้วย สัปปะรด แตงโม มะละกอ (ปลูกเองหอมหวานค่ะ) คอนเฟล้ก นม น้ำส้ม ฯลฯ
• ที่เสริ์ฟให้ต่อคน (ตามรูปค่ะ) แฮม เบค่อน ไส้กรอก ไข่ดาว 2 ฟอง
• สรุป อร่อยมาก อบอุ่นแบบคุณแม่ญี่ปุ่นทำให้กินค่ะ และพุงจะแตก
สิ่งที่อยากแนะนำรีสอร์ท
• ทางเข้าช่วงระยะสุดท้ายก่อนเลี้ยวเข้ารีสอร์ท ขรุขระไปนิสค่ะ ดีว่ารีสอร์ทมีป้ายบอกทางตลอด
• อยากให้มีสระน้ำแบบ Pool Villa ค่ะ
• อยากให้รีสอร์ทรักษาความน่ารัก ความอบอุ่น และความจริงใจแบบนี้ตลอดไปนะคะ ทำดีมากๆแล้ว และขอให้รีสอร์ทประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป สู้ๆค่ะ
• “I’d do anything for love” ประทับใจทริปนี้มาก การทำอะไรด้วย love และเพื่อ love นี่มันมีความหมายมากจริงๆ
• สุดท้าย มีโอกาสไปอีกแน่นอนค่ะ
จากใจ.. ลูกค้าคนหนึ่ง
[CR] Ville de la Vie @เขาใหญ่ ความประทับใจอันแสนอบอุ่น #Trip2558
ปล.ภาพถ่ายรูปมาไม่มากนะคะ ขอโต้ดดด้วยคร่า
ทำไมถึงเลือกที่นี่
จิงๆ แล้วอยากไปรีสอร์ทเขาใหญ่ที่เปน Pool villa ค่ะ แต่มาจองใกล้ๆวันหยุดยาว ที่ที่อยากไปเลยเต็มค่ะ เราเลยอ่านรีวิวโดยเน้นที่ความเป็นส่วนตัวและ “อาหารอร่อย” (ก็ไม่ค่อยเหนแก่กินเท่าไหร่อะนะ) อ่านรีวิวจากทั้ง pantip และ agoda จนตาแฉะ สุดท้าย ได้ที่นี่ค่ะ Ville De La vie และก็ไม่ผิดหวังจิงๆ
การจอง
เรา add Line โทรจองกับรีสอร์ท สิ่งที่เป็นความประทับใจคือ รีสอร์ท take care เราดีมาก ตั้งแต่คุยไลน์แล้ว และได้ดูเมนู สั่งอาหารมื้อค่ำล่วงหน้าผ่านไลน์ ชีวิตดี๊ดีค่ะ
การเดินทาง
จากกรุงเทพมาเขาใหญ่ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ค่ะ (รถค่อนข้างติด) ตอนจอง ทางรีสอร์ทได้ส่งแผนที่และตำแหน่ง GPS ให้ ในครั้งนี้ถือว่า Google Map และ GPS เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง , ทางเข้ารีสอร์ท สำหรับคนไม่รู้เส้นทางก็จะลำบากแน่นอนค่ะถ้าคุณไม่มี GPS แต่ดีที่รีสอร์ทมีป้ายบอกทางตลอดค่ะ
คำเตือน : สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเข้ารีสอร์ท
ขนมค่ะ เพราะ Seven เขาใหญ่มีน้อย ซึ่งห่างจากรีสอร์ทไกลอยู่ (ใกล้สุดประมาณ 15km) คือ อ่านมาจากหลายรีวิวแล้วว่า เข้าไปรีสอร์ทแล้ว อย่าออกมาอีกเลย อันนี้จริงค่ะ แต่เข้าใจได้นะ ว่าถ้าคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัวที่เป็นธรรมชาติแบบประชิดติดภูเขางี้ ยอมค่ะ (จิงๆวันที่ไปลืมซื้อของติดมือมาใส่บาตร เลยต้องออกไปหา seven อีกรอบ พอขากลับมืดมากกกกค่ะ แบบไม่ค่อยจะมีไฟริมถนน กลัวมาก ว่าจะมีซอมบี้วิ่งออกมาแบบในเรื่อง walking dead -“-)
ยามเมื่อถึงรีสอร์ท
• โอ้ววววว เจ้า มันสวยงามมากยิ่ง จริงๆ คือ เจ้าของคงมีศิลปะอยู่เต็มหัวใจ (ดูได้ตามรูปที่ถ่ายมาบางส่วนด้านล่างค่ะ) สภาพของต้นไม้ใบหญ้า ทุกอย่างคือ ความเอาใจใส่ดูแลอย่างดีค่ะ รีสอร์ทที่เป็นบ้านวิลล่ามีเพียงไม่กี่หลังค่ะ (10หลัง) จะเรียกชื่อบ้านและตกแต่งบ้านแตกต่างกันไปตามชื่อ เราได้วิลล่าบ้าน Venezia (ตามรูปค่ะ) ทั้งรีสอร์ทมีทั้งหมดเพียง 14 ห้อง
• เข้ามาเช็คอินได้ตั้งแต่ 14.00 เป็นต้นไปค่ะ เช็คเสร็จปุ้บพี่พนักงานผู้น่ารักก็จะพาเราและสมบัติขึ้นรถกอล์ฟไปส่งถึงบ้าน
ยามเมื่อถึงบ้านพักวิลล่า
• ความประทับใจ (ที่เราไม่เคยพบที่ไหน) รีสอร์ทเปิดแอร์เย็นฉ่ำรอเราไว้แล้วค่า บอกแล้วว่าเค้าใส่ใจ
• รอบๆ บ้านจะเป็นหญ้าที่ขึ้นเขียวขจี แบบดูแลอย่างดี ข้างนอกจะมีชิงช้าทรงเรือแขวนไว้ให้นั่งเล่นด้วย บริเวณด้านนอกของบ้านแต่ละหลังนี่กว้างมาก แบบ อยากให้รีสอร์ททำสระว่ายน้ำเปน pool villa มากเลยค่ะ
• ในบ้าน ตกแต่งสวยงามมากค่ะ โดยเฉพาะเพดาน ส่วนคุณแฟนเราชอบประตูค่ะ โดยเฉพาะประตูห้องน้ำ บอกแล้วว่าเจ้าของมีศิลปะอยู่เต็มหัวใจ
• เตียงนุ่ม กว้าง น่านอน ไปถึงเมื่อแอร์เยนขนาดนี้ก็นอนเลยค่ะ ข้างๆมีพัดลมจิ๋วขนาดเล็ก แต่พัดแรงมาก ไว้เผื่ออยากรับลมธรรมชาติ
• ในห้องสิ่งที่ฟรีให้คือ น้ำประมาณ 4 ขวด ในตู้เย็น และมีชา กาแฟ ไมโล ไว้ให้ชงกินกับขนมที่วางไว้ใกล้กันค่า ไม่ฟรีในตู้เยนก็จะมีพวกนม น้ำผลไม้ เบียร์อีกสองป๋อง
• ห้องนอนมีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกไปเป็นระเบียง เห็นวิวภูเขา และฟาร์มข้าวโพดค่ะ สวยงามมากๆ โดยเฉพาะตอนเช้า
• ห้องพักทุกห้องมีกล่องรับสัญญาณ (เค้าเรียกว่ากล่องไรอ้ะ) คือแบบได้ดูหนังช่อง FOX ชัดกว่าอยู่กทม.
• ห้องน้ำบ้าง ห้องน้ำกว้างงงงมาก แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำนะ (อยากให้มีๆ) แต่ไม่เป็นไรค่ะ มีชุดแปรงสีฟัน หวี หมวกคลุม สบู่เหลว ยาสระผมครีมนวด.. สิ่งที่ตกใจคือ ฝักบัวและอ่างล้างหน้า มันมีไฟแบบหลากสีออกมาตอนเราเปิดก๊อกน้ำ (ตามรูป) คือ ชอบอ่ะ เข้าไปก็เล่นแต่ไอ้นี่นี่ล่ะค่ะ มันคือศิลปะ!
• แม้ว่าอยู่ท่ามกลางป่าและขุนเขา แต่ไม่มียุงค่ะ ประตูมีมุ้งลวด แถมขีดชอล์คกันน้องมดไว้รอบบ้าน
• สรุปสภาพบ้านนะคะ = สะอาดมาก ทุกอย่างยังใหม่ โรแมนติก อบอุ่น สวยงาม และแอร์เย็น ค่ะ
กิจกรรมในรีสอร์ท
• เราเช่ารถจักรยานกะคุณแฟนมาคนละคันค่ะ ช่วงเยนพระอาทิตย์ตกปั่นออกไปนอกรีสอร์ท ไปไกลเลยค่ะ ถนนรอบๆรีสอร์ทไม่มีรถค่ะ นานๆจะผ่านมา มีแต่ทุ่งข้าวโพด และปลูกพืชต่างๆ ปั่นจนปวดก้นกบง่ะ -“-
• ในรีสอร์ทมีน้องม้าหลายตัวเลย ให้อาหารได้ค่ะ
• มีเรือเป็ดไว้ให้ถีบ
• มีสระว่ายน้ำ ซึ่งไม่ได้ว่าย เพราะวันที่ไปเด็กๆ เค้าจองสระกันค่ะ
• ช่วงเช้ามีพระเข้ามาถึงรีสอร์ทให้ตักบาตร เราชอบมาก ท่านเป็นพระสายปฏิบัติค่ะ (มาจากวัดป่าแถวๆนั้น) วันนั้นพระท่านมาประมาณ 4-5 รูปค่ะ แขกในรีสอร์ทมาตักกันเยอะพอสมควรค่ะ (แขกที่เป็นฝรั่งก็มา) รู้สึกดีมาก ความรู้สึกต่างกับตักบาตรกับพระในเมืองกรุง อ่อ พระท่านมาประมาณ 7.30 ค่ะ (ทางรีสอร์ทมีจัดชุดอาหารใส่บาตรไว้เผื่อใครต้องการ ส่วนของเราออกไปซื้อจาก seven ไว้แล้วค่ะ)
อาหารค่ำที่รอคอย
• อ่านจากหลายรีวิว บอกว่าอร่อยกว่าร้านดังๆ แถวเขาใหญ่ เห้ยยยย มันจริงอ่ะ
• ได้มีโอกาสสั่งอาหารทางไลน์ไว้ก่อนเข้าพักค่ะ พี่พนักงานจะถามไว้แล้วว่าจะสะดวกทานกี่โมง เพราะงั้นพอนั่งปุ้บก็ได้ทานเลย (ร้านอาหารมีไวน์ มี Smirnoff มีร้านกาแฟสด)
• สั่งอาหารที่เป็น recommend ไว้ค่ะ ที่สั่ง และแนะนำอย่างยิ่งแบบห้ามพลาด คือ ขาหมูเยอรมัน , ซี่โครงหมู BBQ , ปูกะตอย(ทอดกระเทียม) , สลัดยำแซลม่อน และสปาเกตตี้ขี้เมาทะเล (คือถามว่าที่สั่งมากินหมดมั้ย .. ไม่ค่ะ เอากลับไปกินบ้านต่อ) อร่อยจริงๆ คอนเฟริ์มค่ะ ส่วนเมนูอื่นที่ recommend ไว้มาลองใหม่ค่ะ (ไม่มีรูปนะคะเพราะถ่ายไม่ทัน -“-)
• บรรยากาศ อบอุ่นและโรแมนติกค่ะ อบอุ่นเพราะ เจ้าของและพนักงานมาถามตลอดว่ารสชาติเปนไงบ้าง มาบริการบ่อยจนเกรงใจค่ะ อบอุ่นเพราะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านค่ะ โรแมนติกเพราะอาหารใต้แสงเทียน และรีสอร์ทเอาโปรเจคเตอร์ยักษ์มาตั้ง เปิด MV เพลงสากลที่เป็นฉบับ COVER อย่าง Boyce Avenue ,etc. (เพลงช้าใหม่ๆค่ะ) ซึ่งส่วนตัวชอบฟังเพลงพวกนี้มาก รู้สึกเหมือนเจ้าของเค้าชอบอะไรก็ทำอย่างนั้นให้กับลูกค้าค่ะ ซึ่งมันก็ตรงกับความชอบเราด้วย
• ทานเสร็จปุ้บ ก่อนกลับห้อง เจ้าของมา say Goodnight อีก อิอิ น่ารักค่ะ
อาหารเช้าที่รอคอยมาทั้งคืน
• อร่อยเหมือนที่รีวิวอื่นๆว่าค่ะ โดยเฉพาะข้าวต้มหมูสับ อาหารเช้าที่นี่มีเยอะค่ะ เหมาะสมกับจำนวนห้องพัก
• ที่ตักได้ไม่อั้น ได้แก่ ข้าวต้มหมูสับ ขนมปัง(เหมือนจะทำเอง)+เนยแยม แพนเค้ก+น้ำผึ้ง กล้วย สัปปะรด แตงโม มะละกอ (ปลูกเองหอมหวานค่ะ) คอนเฟล้ก นม น้ำส้ม ฯลฯ
• ที่เสริ์ฟให้ต่อคน (ตามรูปค่ะ) แฮม เบค่อน ไส้กรอก ไข่ดาว 2 ฟอง
• สรุป อร่อยมาก อบอุ่นแบบคุณแม่ญี่ปุ่นทำให้กินค่ะ และพุงจะแตก
สิ่งที่อยากแนะนำรีสอร์ท
• ทางเข้าช่วงระยะสุดท้ายก่อนเลี้ยวเข้ารีสอร์ท ขรุขระไปนิสค่ะ ดีว่ารีสอร์ทมีป้ายบอกทางตลอด
• อยากให้มีสระน้ำแบบ Pool Villa ค่ะ
• อยากให้รีสอร์ทรักษาความน่ารัก ความอบอุ่น และความจริงใจแบบนี้ตลอดไปนะคะ ทำดีมากๆแล้ว และขอให้รีสอร์ทประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป สู้ๆค่ะ
• “I’d do anything for love” ประทับใจทริปนี้มาก การทำอะไรด้วย love และเพื่อ love นี่มันมีความหมายมากจริงๆ
• สุดท้าย มีโอกาสไปอีกแน่นอนค่ะ
จากใจ.. ลูกค้าคนหนึ่ง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น