ผมพึ่งถอยหมวกมาใหม่ไม่กี่วันมานี้เนื่องจากใบเก่า Bilmola Explorer แทบจะหมดสภาพแล้ว
โดยใบใหม่ผมตั้งสเปคไว้ว่า
- เป็นหมวกยกคาง
- ราคาไม่เกิน 8,000
- สีพื้นๆ ลายไม่ยุ่บยั่บ กับทรงที่ถูกใจ

สเปคสี่ข้อข้างบนทำเอาผมมึนตึ้บเพราะเป็นหมวกยกคางในราคาแค่ 8,000 เลยเหลือไม่กี่รุ่นเท่านั้น
ตอนแรกมอง LS2 ไว้เพราะเคยใช้มาก่อน ทุกอย่างก็โอเคใช้ได้นะเพียงแต่หมวกโทรมไวไปหน่อยเลยข้ามไป
มองที่ Bilmola Explorer ตัวใหม่ก็ออกแบบไม่โดนใจอีกทั้งรูปทรงทั้งสี ไปมอง HJC ก็ยังทรงไม่ถูกใจ
เสิร์จหาในเนตทีละร้านๆจนเจอ CABERG DUKE หลังจากโทรถามแล้วผมก็รีบบิดไปที่ร้านหมีตาดำเลยครับ
ตอนแรกผมไม่รู้จักหมวกยี่ห้อนี้เลย แต่ด้วยสินค้าทุกชิ้นที่ผมซื้อจากร้านนี้มักจะอยู่ยงคงกระพันมาก
เลยค่อนข้างไว้ใจสินค้าที่ร้านนี้เลือกมาขายครับ ไปถึงมีหมวกให้ลองใส่และโชว์ไว้หลายสีแต่ไซส์ผมเหลือแค่ 2 สี
ซึ่งผมกำลังชั่งใจระหว่างดำล้วน กับดำลายขาวเลยไม่ต้องคิดมากเลยครับเอาตัวดำลายขาวมา





ปุ่มกดไว้ยกคาง วันแรกนี่เงอะๆงะๆครับเพราะไม่คุ้นมือยังจับจังหวะไม่ได้
แต่ตอนนี้เริ่มโอเคขึ้นแล้วครับ นิ้วชี้จิ้ม นิ้วโป้งช้อนแล้วดึงขึ้นเลย



ตัวเลื่อนเปิด-ปิดช่องรับอากาศของหมวกครับ



ชิลด์แว่นดำมันจะเลื่อนขึ้นสุดแค่นี้ คือเหลืออยู่ราว 1 นิ้ว (เป็นทุกใบ) ตอนแรกก็งงว่าทำไว้ทำไม



ปุ่มเลื่อนเปิด-ปิดแว่นดำครับ เปิดคือเปิด ปิดคือปิด ไม่มีแอบเลื่อนลงแบบ Bilmola ใบเก่า
แม้จะเจอทางขรุขระ ตกหลุม หรือโดดคอสะพาน แว่นดำยังอยู่ที่เดิมครับ





ชอบทรงหมวกมากโดนใจดี



นวมข้างใต้ครับ ลำบากตอนใส่ไปหน่อย แต่ใส่แล้วนวมส่วนหลังด้านล่างหมวกมันหนุนตรงท้ายทอยกระชับดี



ตัวควิ๊กรีลีสงานดีกว่าหมวกราคา 3,000 - 4,000 แบบรู้สึกได้ และในภาพจะเห็นสีขาวๆตรงรูครับ
มันคือชั้นโฟมซึ่งโฟมถูกเซาะร่องไว้กว้างให้อากาศไหลผ่านเข้ามาครับ หมวกที่เคยใช้มาผมว่ามันสบายหัวแล้วนะ
เจอแบบนี้ไปสบายหัวมากครับตอนขี่รถ



ยกคางขึ้นมาแต่ละทีตอนดันเข้าล็อคมันจะมีเสียงกึ้กดังเข้าหูเลย (ถ้าใส่หมวกอยู่จะรู้สึกว่ามันดังมาก)



ไม่ต้องกลัวว่าคางที่ยกจะหล่นลงมาเพราะมีตัวล็อคคางไม่ให้มันร่วงลงมาครับ
(ผมว่าถึงไม่ล็อคก็หล่นลงมาโคตะระยากอยู่ดีสำหรับหมวกตัวนี้)



ตรงจุดที่เสียดสีทั้งหมดจะเป็นพลาสติก (Bilmola ใบก่อนนี้รอยขูดผิวหมวกตรึมเพราะคางที่ยกขึ้นมามันโดนสีหมวกเต็มๆ)



ของแถมมีแผ่นกันฝ้าของ Pin Lock แถมมาให้ด้วย

สรุปจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ความเร็วสูงสุดที่ลอง 140

คุณภาพงาน : ดีมากทุกๆจุด ไม่มีเสียงอ๊อดๆแอ๊ดๆตอนใส่เหมือบใบเก่า ปุ่มต่างๆแลดูแข็งแรงทนทาน (มาก)
อะไหล่ : สามารถเปลี่ยนชิลด์ แว่นดำ นวม ได้ (หมวกสมัยนี้ทำได้ทุกใบแต่เปลี่ยนแว่นดำด้านในได้เองนี่หมวกตัวล่างๆยังทำไม่ได้)
การใช้งาน : ผมประทับใจมากเรื่องการเก็บเสียงครับแตกต่างกับหมวกที่ผมเคยใช้มาคนละเรื่องเลย
                เสียงเครื่องยนต์รถตัวเองขนาดลากไปจนรอบตัดยังเสียงเบาเลยครับ
                ทำให้โฟกัสกับการขี่รถได้ดีมาก  แว่นดำที่ห้อยอยู่นิ้วนึงมันบังแสงอาทิตย์ยามบ่ายหรือสาย
                ให้ตาเราได้ครับ แต่มันจะบังตาเราตอนหมอบลงสุด (แต่พวกสายหมอบคงไม่ใช้หมวกฟลิปอัพกันหรอกมั้ง)
                บาลานซ์หมวกดีมากแม้จะเป็นตอนที่ยกคางขึ้นน.น.ก็ยังไม่เทไปด้านหน้า ตัวหมวกลู่ลมดีหัวไม่แกว่งเลยที่ 140
                ระบบถ่ายเทอากาศดีครับถ้ารถวิ่งอยู่นี่เย็นหัวแบบรู้สึกได้ ระบบฟลิปอัพแน่นหนา แต่เพราะแน่นหนานี่แหละตอนเอาขึ้น
                เสียงดังกึ๊กดังมาก ส่วนปุ่มล็อคไม่ให้ตัวยกคางร่วงลงมาก็แข็งไปหน่อย (ถึงไม่ล็อคผมก็ว่ามันไม่ร่วงมาแน่ๆอ่ะ 555+)
                ชิลด์หน้านุ่มมือมากกกกกกกกกกตอนเลื่อนขึ้นลงนี่หมวกแทบไม่ขยับเลยครับ ใครที่ใช้หมวกตัวล่างๆมาก่อน
                คงจะนึกออกตอนที่จะเปิดชิลด์หมวกมันจะขยับตามแรงดึงมือเราเลย และจะดังแกรกกกกก
                แว่นดำด้านในคุณภาพดีไม่หลอกตาครับแต่ตอนใช้ผมว่ามันลงมาน้อยไปหน่อยนึงแต่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

สรุปโดยรวมผมประทับใจกับหมวกใบนี้ที่ผมยอมเอาเงิน 8,900 (ตัวสีพื้น 8,000) ไปแลกมามากครับ
แล้วเจ้าหมวกใบนี้มันได้ SHARP ระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว หมวกเต็มใบไม่ฟลิปอัพบางรุ่นมีอายครับ
http://sharp.direct.gov.uk/testsratings/caberg-duke-and-tourmax
และ 87% ของการกระแทกตัวยกคางยังล็อคอยู่ปกติดีด้วยครับ
และแฟนยังทักว่าใบใหม่นี้ดูเล็กกว่าใบเก่าด้วย (ใบเก่ากับใบนี้ไซส์เท่ากันคือ L )

ผมให้คะแนน 4.5 ดาว หักไปครึ่งดาวเพราะใส่หัวยากนิดๆ กับระบบฟลิปอัพแน่นปึ้กจะดันขึ้นสุดทีนี่ต้องมีออกแรงหน่อยครับ
ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ