ผมมารีวิวการท่องเที่ยวแบบประหยัดในสไตล์ผมอีกครั้งครับ ครั้งนี้ผมพาไปเที่ยว 2 ประเทศ คือ กัมพูชากับเวียดนามครับ

ช่วงที่ผมไปมาคือช่วงสงกรานต์ วันที่ 11-14 เมษายน 2558 ทริปนี้มีเวลาจำกัด แต่ก็จะเที่ยวให้คุ้มที่สุดครับ


นัดเจอกับเพื่อนอีก 4 คน ตอน 6 โมงเช้าที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ทริปยังไม่ทันเริ่ม เพื่อนผมลืม Passport ไว้ที่หอที่มหาวิทยาลัย จึงต้องกลับไปเอา กว่าเพื่อนจะกลับมาก็ประมาณ 10 โมงเช้า ซึ่งวันที่ 11 คนกำลังทะยอยออกจากกรุงเทพ คนเยอะมาก ผมก็จองรถตู้ไปอรัญประเทศ รอบ 13.00 น. กว่าจากถึงด่านไทย-กัมพูชา ประมาณ 6 โมงเย็น ผมก็ผ่านด่านไทย ด่านกัมพูชาไม่ยากเลยครับ ประทับตราหนังสือเดินทางอย่างเดียว ไม่มีค่าธรรมเนียมเลยครับ   
เมื่อผมออกมาจากด่านกัมพูชา ก็มาหารถไปเสียมราฐ ซึ่งรถที่ผมหา ส่วนมากก็เป็นรถแท๊กซี่หมด จากข้อมูลที่เคยหามาเขาบอกประมาณ 1500-2000 บาท พวกผมก็ต่อสุดใจ ได้มา 1600 ครับ ซึ่งตอนนั้นกว่าจะได้ก็นานพอสมควร เพราะเป็นช่วงเทศกาลนักท่องเที่ยวเยอะ เลยตั้งราคาสูงๆ ไว้ พี่คนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ผมใช้ภาษาเครื่องคิดเลขอย่างเดียว รู้แล้วรู้รอดประมาณ 3 ทุ่ม ก็มาถึงเสียมราฐอย่างปลอดภัย ขั้นตอนต่อไปคือหาโรงแรมที่ผมได้จองไว้ มีพี่คนกัมพูชาใจดีขี่มอเตอร์ไซด์พาไปหาที่พัก ซึ่งไม่ไกลจากที่เราลงรถ เดินไปก็ถึง ค่าที่พักคืนแรก 5 คน 2 ห้องเฉลี่ยนคนละ 300 บาท (ห้องแอร์+น้ำอุ่น+wifi)
หลังจาก check in ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง พวกผมก็ออกมาเดินเล่น ในเมืองเสียมราฐ เดินเล่นแถว Pub Street ซึ่งเป็น ย่านคล้ายๆ กับข้าวสารบ้านเรา บวกกับพวกผมต้องหารถเพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังโฮจิมินห์ในคืนวันที่ 12 ซึ่งรถที่เราได้มากเป็นรถนั่ง ไม่ได้รถนอน เพราะมันเต็ม ได้มาในราคาประมาณ 300 บาท





ตอนเช้าผมก็หารถแท็กซี่เช่า เพื่อให้เขาพาไปเที่ยวเขตนครวัด นครธม ได้มาเฉลี่ยนคนละ 200 บาท (ทั้งวัน) ลุงคนขับก็พาไปซื้อตั๋วในราคาคนละ 20 USD ครับ ซึ่งก่อนไปเที่ยวผม Check out ที่ โรงแรมเรียบร้อย แต่ว่าฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ตอนเย็นจะกลับมาเอา
ที่แรกที่พาไปก็เป็นนครวัดครับ เดินเข้าไปเรื่อยๆ







มาถึงปราสาทด้านในสุดก็ต้องเดินขึ้นไปข้างบนครับ





หลังจากนั้นลุงคนขับแท็กซี่ก็พาไปเที่ยวอีกหลายที่ที่อยู่ในเขตนครวัด นครธม ผมขอไม่อธิบายรายละเอียดแต่จะให้ชมภาพบรรยากาศอย่างเดียว













หลังจากชมบรรยากาศนครวัด นครธม เรียบร้อย ผมก็ให้ลุงส่งตรงห้างในเมืองเสียมราฐ เพื่อจะเดินเล่นแล้วก็จะเดินกลับโรงแรมกันเอง ซึ่งที่เรามาถึงก็เย็นมากแล้ว ก็หาอะไรทานก่อนกลับโรงแรม






กลับโรงแรมมาพวกผมก็มาขอโรงแรมเพื่ออาบน้ำ ซึ่งรอบรถที่เราจะไปโฮจิมินห์เป็นรอบประมาณ 4 ทุ่ม คืนนี้ผมจะนอนกันบนรถ


ตื่นเช้ามาเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตอนจองรถเขาบอกว่ารถจะตรงไปโฮจิมินห์เลย แต่สุดท้ายผมมาถึงพนมเปญตอน 7 โมงเช้า แต่ต้องมาเปลี่ยนรถอีกคันตอน 11 โมงเช้า เลยทำให้แผนที่ผมวางไว้ก็เปลี่ยนหมดแทนที่จะต้องถึงโฮจิมินห์ก่อนเที่ยงก็ถึงประมาณ 1 ทุ่มแทน แต่ช่วงที่ผมนั่งรอรถไปโฮจิมินห์ ผมก็ไปเดินเล่นในเมืองพนมเปญ
บรรยากาศในพนมเปญ






พอ 11 โมงเช้าเราขึ้นรถ ตอนมืดๆก็มาถึงโฮจิมินห์ ผมก็เดินหาโรงแรมที่ได้จองไว้ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็เจอ ราคาโรงแรมที่นี่ก็ตกคนละประมาณ 300 บาทเหมือนกับเสียมราฐ (wifi+แอร์+น้ำอุ่น) หลังจาก Check in เสร็จผมก็ออกมาเดินเล่นในเมืองโฮจิมินห์ เมืองนี้รถเยอะมาก
บรรยากาศตอนผมเดินเล่นตอนกลางคืน







ตื่นเช้า ผมก็เดินเล่นในตัวโฮจิมินห์ พร้อมกับ Check out แล้วก็ฝากของไว้ที่โรงแรม
บรรยากาศตอนเดินเล่น



เดินไปเรื่อยๆก็เจอกับ Landmark ของที่นี่คือไปรษณีย์โฮจิมินห์

บรรยากาศข้างใน

ข้างๆ กันก็จะเป็นโบสถ์คริสต์

หลังจากนั้นเดินไปเรื่อยๆ ทางที่จะกลับโรงแรมก็เจอพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่างผมเลยลองเข้าไปเสียประมาณ 40 บาทต่อคน

ข้างในก็มีประวัติศาสตร์ของโฮจิมินห์



ข้างในมีคนมาพรีเว้ดดิ้งด้วย

ออกจากพิพิธภัณฑ์ก็เดินผ่านตลาด

สุดท้ายประมาณบ่ายสองครึ่งผมก็มาเอาของที่ฝากไว้ที่โรงแรมแล้วก็จ้างแท๊กซี่ไปสนามบิน ราคาประมาณ 400 บาท
ถึงสนามบินก็มา Check in  17.10 น. ก็บินกลับสนามบินสุวรรณภูมิ

ถึงไทยโดยสวัสดิภาพ