โรคพยาธิเม็ดเลือด และพยาธิหนอนหัวใจ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

กระทู้สนทนา
พยาธิเม็ดเลือดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ ถ้าเราใส่ใจตต่อน้องหมาและอดทนสู้ไปกะน้องหมาและรับการรักษาที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องค่ะ
ก็สามารถรักษาให้หายได้ค่ะ แต่ก็อาจกลับมาเป็นได้อีกถ้าสภาพแวดล้อมเอื้อต่อ เห็บหมัด และยุงค่ะ

หัวใจสำคัญของการป้องกันน้องหมาจากพยาธิเม็ดเลือดคือ เห็บค่ะ และ พยาธิหนอนหัวใจคือ ยุงค่ะ

ระยะเวลาการรักษาเห็นผลภายในสี่สัปดาห์ โดยการให้ยาทาน ครบสี่สัปดาห์ ทำการตรวจเลือดซ้ำค่ะ





น้องถุงทองค่ะ ตัวผู้ เรารับมาเลี้ยงหลังจากน้องถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้ในบ้านเช่าค่ะ น้องมาแพ็คคู่ค่ะ กะ น้องถุงเงิน




น้องถุงเงิน ตัวเมียค่ะ ทั้งคู่ ตอนรับมาสภาพยับเยิน เหม็นมาก น่าสงสารค่ะ หลังจากรับมาวันแรก พาไปอาบน้ำตัดขนสั้นเลยค่ะ
พอขนสั้นจึงได้พบว่าสภาพผิวมีแต่ตุ่มแดงๆ น้องๆมีเห็บหมัดเกาะมาประปรายเนื่องจากร้านอาบน้ำตัดขนเอาออกให้บ้างแล้ว น้องๆคันกันมากค่ะ
เราจึงนำมาหมักขมิ้น มะกูด กำมะถันและน้ำมันมะพร้าวค่ะ รักษาเชื้อราและผิวหนังแพ้เบื้องต้น เราทำต่อเนื่องสามครั้ง เห็บหมัดหลุดหมด ผิวเริ่มดีขึ้นน้องไม่คันแล้วค่ะจากวันแรกเกากันทั้งวันค่ะ หลังจากนั้นก็ทำติดต่อสัปดาห์ล่ะครั้งค่ะเพื่อบำรุงผิวและขน

วันถัดมาพาไปพบแพทย์ เพื่อฉีดยากันเห็บหมัด ทำหมัน และฉีดวัคซีนค่ะ ที่ รพส รังสิตปทุม
คุณหมอแนะนำให้ทำการตรวจเลือดเป็นอันดับแรกค่ะ

หลังจากตรวจเลือดพบว่า น้องถุงทองเป็นพยาธิเม็ดเลือด ส่วนถุงเงินเป็นพยาธิหนอนหัวใจ เหมือนถูกหวยแจ็คพอต สองเด้งเลย
ใจแทบสลาย อะไรกันนี่ ถ้าเราไม่รับน้องๆมาอุปการะ จะเกิดอะไรขึ้น จะมีคนพาไปรักษาไหม น้องๆคงต้องตายแน่ๆ
เราตั้งสติได้ ถามคุณหมอว่า อันตรายไหม ติดคนได้ไหม จะรักษาได้ไหมอย่างไรดี

คุณหมอบอกว่าพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากเห็บเป็นพาหะ
ส่วนพยาธิหนอนหัวใจเกิดจากยุงเป็นพาหะค่ะ ไม่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ค่ะ แต่ถ้าเราเจอยุงที่กัดสุนัขที่เป็นพยาธิหนอนหัวใจมากัดเราจึงสามารถติดเชื้อได้ค่ะ พยาธิเม็ดเลือดไม่ติดต่อสู่คนค่ะ ทั้งสองโรคมีอันตรายถึงชีวิตสัตว์ทั้งคู่ค่ะ แต่ถ้าทราบและรักษาอย่างถูกวิธีแต่เนิ่นๆสามารถรักษาได้ค่ะ

น้องถุงทอง มีการรักษาแบบทานยาต่อเนื่องสี่สัปดาห์ค่ะ ได้แก่ ยารักษาพยาธิเม็ดเลือด ยาบำรุงเลือด ยาบำรุงตับ และวิตตามินเสริมค่ะ มีอาหารบำรุงแบบกระป๋องมาด้วย

อาการน้องถุงทอง พยาธิเม็ดเลือด
ตอนเป็นน่าตกใจค่ะ ตัวร้อนไข้สูงมากค่ะ  มีจ้ำจุดตามตัว ในตาแดงค่ะ ซึม ไม่เห่าเลย ขาไม่มีแรง หงุดหงิด ทานอาหารไม่ได้ มีอาเจียนบางครั้งค่ะ แต่ไม่มีเลือดกำเดาไหลค่ะ น้องน้ำหนักลดลงเลยค่ะ

หลังจากรับยาวันแรกไม่เป็นผล น้องอาเจียน ทานอาหารไม่ได้เลย เจ็บตามตัวค่ะ เดินลำบาก เราเริ่มน้ำตาไหล นึกในใจว่าไม่รอดแน่เลย กระซิบที่หูน้อง
ว่าแม่รักหนูนะ แม่จะรักษาหนูให้หาย อยู่กะแม่นะ อดทนนะลูก เหมือนเค้าจะรู้ค่ะ มองหน้าเราเอาหัวมาซุกที่ตักเราค่ะ จากนั้นพาไปพบคุณหมอต้องให้น้ำเกลือช่วยเพื่อให้มีแรงค่ะ
พอเข้าวันที่สอง ถุงทองก็ยังทานอาหารไม่ได้ ทำให้ทานยาไม่ได้ด้วย แย่ลง คุณหมอแนะนำอาหารกระป๋องสำหรับสุนัขป่วย  a/d ค่ะ ป้อนให้น้องแบบยัดเข้าไปในปากเลยค่ะ อาหารมันนิ่มมากและไม่ต้องให้ปริมาณมาก มีสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็น หลังจากนั้นก็ป้อนยาค่ะ วิตตามินน้องเป็นแบบเจล ป้อนง่ายค่ะ ทำให้มื้อที่สามผ่านไปด้วยดี เข้าวันที่สี่น้องเริ่มทานเองได้บ้างค่ะ เคี้ยวได้ คืออาหารที่เราให้เป็นแบบนิ่มผสมกรุบกรอบค่ะ ของ royal canin exigent มันจะกรอบแต่ไม่แข็งละลายในน้ำลายสุนัขแล้วมันอ่อนค่ะผสมกับ jerhight holistic นี้ก็เม็ดนุ่มๆ ฉีกไก่ต้มใส่ไข่นิดหน่อยคือบำรุงเลือดค่ะ ทำให้น้องทานง่ายขึ้น จากนั้น ป้อนยาได้ง่ายขึ้น คุณหมอโทรถามอาการและย้ำให้เข้ามารับยาต่อเนื่องค่ะ
เข้าวันที่ห้าเริ่มมีความหวัง น้องเริ่มเห่า เดินได้คล่องขึ้น ทานอาหารได้เยอะขึ้นค่ะ เราเริ่มใจชื้นขึ้นค่ะ วันที่หกไปรับยาคุณหมอตรวจวัดไข้ ดูอาการเบื้องต้น เริ่มดีขึ้นตามลำดับค่ะ  อาการดีขึ้นเห็นได้ชัด น้องวิ่งได้ ทานได้ เห่าได้ปกติ ดวงตาแจ่มใสขึ้นค่ะ น้องถุงทองรับยาต่อเนื่องจนเมื่อวานนี้ค่ะครบสี่สัปดาห์ คุณหมอนัดตรวจเลือดซ้ำค่ะ

ผลเลือดออกมาค่อนข้างดีค่ะ ไม่พบเชื้อพยาธิเม็ดเลือดแล้ว  เย้ สิ้นสุดความกลัวแล้วค่ะ น้องหายแล้ว แต่เราก็ต้องดูแลน้องต่อเนื่องไม่ให้เชื้อกลับมาอีกค่ะ คือต้องดูแลที่หลับที่นอนที่เล่นให้ปลอดเห็บหมัดยุงโดยสิ้นเชิงค่ะ ทานอาหารบำรุงต่อไปค่ะ

พยาธิหนอนหัวใน ของน้องถุงเงิน ตัวเมีย  
อาการน้องจะซึม หงอยๆ เหนื่อยง่ายหายใจหอบๆ เร็วๆค่ะ ถ่ายมีเหลวบ้างค่ะ ทานไม่ค่อยได้เช่นกัน คุณหมอฉีดยา เห็บหมัดพยาธิหนอนหัวใจ แล้วให้ ยา heardgard ก็ทานไปสองครั้งแล้วค่ะห่างกันสี่สัปดาห์เช่นกัน  มีทานวิตตามินเสริมแบบเจล อาหารเราให้แบบถุงทองค่ะ อาหารเม็ดผสมไข่และไก่ฉีกนิดหน่อยค่ะ อาการดีขึ้นค่ะ เห็นได้ชัดค่ะ คุณหมอนัดตรวจเลือดซ้ำอีกเดือนหน้าค่ะ

รูปที่เห็นเป็นรูปถ่ายเมื่อวานค่ะ ดีขึ้นทั้งคู่ค่ะ ร่าเริง สดใสขี้เล่น และทานอาหารได้ปกติ
เราจึงนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังสำหรับเจ้าของสุนัขที่กำลังสู้ไไปกะน้องหมา ด้วยโรคที่ร้ายแรงนี้ ต้องอดทนนะค่ะ
และดูแลเค้าอยู่กะเค้าตลอดเวลาค่ะ ยิ่งถ้าอ่อนแรงมาก เลือดกำเดาไหลและทานอาหารไม่ได้ด้วยยิ่งน่าห่วงค่ะ
คอยสังเกตุอาการและบอกคุณหมอที่ทำการรักษาเป็นระยะเพื่อจะได้ให้ยาและทำการรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ
สิ่งสำคัญคือหลังจากหายแล้วต้องรักษาความสะอาด ล้างทำความสะอาดที่หลับที่นอนทุกวันค่ะ และต้องพยายามให้น้องหมาทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารสุนัขคือดีสุดแล้วค่ะ เพราะเค้าจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองได้ด้วยจะทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่