สวัสดี วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ กลุ่มเด็กมหาลัยปี 2 กลุ่มหนึ่งที่ต้องถ่ายทำหนังสั้นส่งอาจารย์
ในหัวข้อ ซ่อนหา Hide & Seek ถามว่าเกี่ยวอะไรกับหัวข้อกระทู้ มันเกี่ยวตรงที่ว่า เราเลือกสถานที่นี้
นั่นคือโพธารามนั่นเองเป็นสถานที่ถ่ายทำ แต่ยังมีสถานที่อื่นในจังหวัดราชบุรีด้วย เราเดินทางไปที่นั่น 2 รอบ
โดยเราจะเล่าสถานที่และเอารูป ทั้ง 2 รอบที่ไปมารวมให้ดูละกัน ไปกันเลย
เริ่มจาก ออกเดินทาง เพื่อให้ได้ฟิลลิ่งความรู้สึกของตัวละคร จะนั่งรถตู้ไปลงโพธารามมันก็คงไม่ใช่ มันต้องรถไฟสิ เย่
เราเดินทางออกจากหอตอนตี 5 ไปยังหัวลำโพง กว่าจะถึงก็ประมาณ 6 โมง
ไปเก็บบรรยากาศก่อนขึ้นรถไฟสักหน่อย




เราจองตั๋วรอบ 9.20 น.
จากหัวลำโพงไปโพธาราม


ระหว่างทั้งสองครั้งที่ไป มันมีอะไรให้เราได้พบเจอแตกต่างกันไป เรื่องราวบนรถไฟมันมีสเน่ห์ในตัวของมัน
ผู้คนที่ออกเดินทาง บางคนไปทำงาน บางคนกลับบ้าน ทุกคนมีสตอรี่ที่น่าค้นหาเป็นของตัวเอง



เราได้พบกับป้าปู คนนึงที่เราขอให้มาร่วมช่วยแสดงกับเรา
ป้าดูน่ารักใจดี เรื่องราวของป้าทำให้เราได้คิดอะไรหลายอย่าง ที่สิ่งที่เกิดขึ้นกับป้ามันทำให้เราสะเทือนใจ

ระหว่างทางป้าสอนเราหลายอย่างมาก การใช้ชีวิต และทางด้านความคิดต่าง บางเรื่องที่คุยกันถึงขั้นน้ำตาคลอกันเลย
เรื่องราวสเน่ห์ของรถไฟ มีอีกเยอะ อยากให้คุณลองไปสัมผัสดู



แน่นอนว่าเราไม่ปล่อยให้เวลาบนรถไปเสียป่าว ถ่ายกันไป หาอะไรกินกันไป

ข้าวกระทงหน่อยมั้ย กระทงละ 10 บาท

ขาดไม่ได้ ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท อร่อยสุดๆ จัดกันไปคนละ 2-3 ห่อ


เราเดินทางมาถึงที่โพธารามตามกำหนด ตลอดทางที่ผ่านมา ก็กินมาตลอดทางเลย แต่ยังกินได้อีกนะ 55555
ไปเชคอินเข้าโรงแรมกันเถอะ แล้วไปหาของกินกันต่อ
โรงแรงที่เราพัก ชื่อ โรงแรมPho๑ บ้านสุขพันธ์ โพธาราม
อยู่ไม่ไกลจากสถานีมาก แค่เดินข้ามมาอีกฝั่ง ก็เห็นป้ายโรงแรมแล้ว ไปกันเลย

ถึงโรงแรมแล้ว โรงแรมดัดแปลงมาจากโรงเรียนประถมเก่า ให้อารมณ์เหมือนคุณมาโรงเรียน
บรรยากาศที่นี่ดีมาก สงบสุดๆ พี่เจ้าของเป็นกันเอง เราไปอยู่ที่นั่นทั้ง 2 ครั้งประทับใจป้าแม่บ้านที่คอยดูแล เค้าใจดี แนะนำเราตลอด
ราคาที่นี่ไม่แพงนะ ลองมากันนะ

ห้องนอนที่นี่ไม่ธรรมดานะ แต่ละห้องจะเป็นชื่อชั้น อนุบาล - ป6 น่ารักสุดๆ เราไปพักกัน 2 รอบ หลายคนพักไปแทบจะครบทุกห้องแล้ว



ที่นี่มีจักรยานให้ปั่นเล่นด้วยน้า ฟรีไปเลย

เจ้าเหมียวประจำโรงแรม มันขี้อ้อนมาก หากห้องไหนมีคนสวยๆมาพักมันจะมารอคุณอยู่หน้าห้องแน่นอน
แต่มันไม่เข้าคุณหรอก เรียกยังไงมันก็ไม่เข้า เจ้าเหมียวนิสัยดีแน่นอน

เราได้รับการสนุนทริปนี้ จาก ครอบครัว ฐิติโชติรัตนา
มีอากู๋ มณเฑียร ฉินส่งธีระพานิช
และ อาอี๊ อุดมลักษณ์ เพชรเเก้ว

เป็นไกด์คอยพาไปยังสถานที่ต่างๆ พร้อมส่งสะเบียงตลอดเวลา เรียกว่าทำให้เราไม่อดอยากกับเลย อากู๋ กะ อาอี๊น่ารักมาก

ก่อนออกเดินทางอากู๋และอี๊ ก้ยังจะชวนไปหาอะไรกินใส่ท้องก่อน ร้านแรกร้านโอชา
หมูอร่อย น้ำซุปอร่อย ปลื้มกันยกแก็งค์

ถึงเวลาจ่ายตังค์กู๋จัดการให้เรียบร้อยเรารู้สึกเกรงใจเลยคิดตลอดทางว่า เราจะต้องจ่ายกันเองนะ ฮึบ

หลังจากทานเสร็จเราก็ไปวัดกันต่อ ชื่อวัดคงคาราม เป็นวัดที่มีพิพิธภัณฑ์อยู่ที่วัดด้วย เสียค่าเข้าคนละ 10 บาท
แน่นอนว่าเราจะใช้เงินกองกลางที่รวมกันไว้แต่แรกจ่าย แต่ไม่ทันจ้าาา อี๊กับกู๋จัดการให้หมดแล้ว
[หลังจากนั้นฝ่ายเหรัญญิกเลยต้องคิดหาวิธีจ่ายเงินให้ทันกู๋กับอี๊ให้ได้]
ในพิพิธพันธ์ เค้าไม่ให้ถ่ายรูปเนอะเลยไม่ค่อยมีรูปที่นี่ แต่ถ้าได้รองไปรับรองจะติดใจ ที่สำคัณน้องๆที่นี่น่ารัก


ต่อไป เราก็จะไปวัดกันต่อ เฮ่ ไปวัดขนอนกัน ไป โกว เลส โกว

วัดขนอนเป็นวัดขนาดใหญ่ มีพิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับหนังใหญ่ด้วย ตื่นเต้นกันสุดๆ





ป่ ไปต่อกันเถอะ เราคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหนกันดี อี๊เลยเสนอว่าให้เราไปตลาดเจ็ดเสมียนมั้ย อาจมีอะไรน่าสนใจ

ระหว่างทางก็ถ่ายเล่นกันไปเรื่อยๆ
ตลาดเจ็ดเสมียน เป็นตลาดที่มีความน่าสนใจตรงี่จะมีการเเสดงพิ้นบ้านมาโชว์ด้วย
แต่วันที่พวกเราไปไม่ใช่วันที่มีกาแสดงเลยพลาดไป แต่ไม่พลาดไปซักทุกอย่างนะ ที่นั่นเป็นตลาดแน่นอนว่าก็ต้องมีของกิน
เราแนะนำร้านขนมไทยที่นั่น ขนมถูกมาก มีคุณตา คุณยาย ทำขนมมาขาย อร่อยแบบดั่งเดิม ชื่นใจสุดๆ






เดินตลาดเสร็จ ไปต่อกันดีกว่า อี๊บอกว่าจะพาเราไปเถ่าฮงไถ่ ไปทุ่งปอเทือง แล้วจะไปดูค้างคาวต่อ เรารีบขึ้นรถกันเลย
นี่ๆ เถ้าฮงไถ่ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเลย เอาจริงๆมันเป็นสถานที่ขายผลิตภัณฑ์ซักมากกว่า หากใครสนใจงานเซรามิก เราว่าที่นี่คุณน่าจะชอบ


เอารูปอากู๋ กับ หลานรัก มาฝาก

ไปต่อกันเลย ต่อไปเป็นทุ่งปอเทือง เดินทางไกลพอสมควรเราถึงขั้นหลับกันเลย แต่พอมาถึงมันคุ้มมากจริงๆ





มีต่อนะคะ