ถ้าพูดถึงสุดยอดโค้ชทีมชาติไทยในปัจจุบันทุกคนคงยกให้ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองคือโค้ชทีมชาติที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมาเพราะผลงานเป็นที่ประจักษ์กับแฟนบอลชาวไทยทุกคนแล้วว่าสุดยอดแค่ไหน ส่วนโค้ชท่านอื่นที่เคยสร้างชื่อให้ทีมชาติไทยที่แฟนบอลหลายคนคงยังนึกถึงได้แก่ปีเตอร์ วิท, คาร์ลอส คัลวาโญ่, ปีเตอร์ รีดหรือแม้แต่เชฟเฟอร์
แต่มีโค้ชอยู่ท่านนึงที่ผมมีความประทับใจและยังอยู่ในความทรงจำของผมตลอดมา แม้ว่าผลงานในยุคที่ท่านคุมทีมชาติไทยไม่ได้โดดเด่นเหมือนโค้ชหลายๆท่านที่กล่าวมาต้น แต่ท่านก็เป็นโค้ชทีมชาติไทยที่ปั้นลูกศิษย์ของท่านจากเด็กโนเนมจากต่างจังหวัดให้พัฒนาฝีเท้าจนติดทีมชาติไทยและได้มีโอกาสไปค้าแข้งในทวีปยุโรป 2 คนและลีคชั้นนำของเอเซียในยุคนั้นอีก 1 คน
ท่านผู้นี้คือท่านอาจารย์ประวิทย์ ไชยสาม อดีตโค้ชของสโมสรราชประชาและทีมชาติไทยผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านผู้นี้เป็นโค้ชผู้ปลุกปั้น 3 นักเตะในตำนานทีมชาติไทยจนได้มีโอกาสไปค้าแข้งในยุโรปและลีคชั้นนำของเอเซียในอดีต
- โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุลจนสามารถไปค้าแข้งกับทีมฮาธาเบอร์ลิน ของเยอรมันได้
- โค้ชป้ำ วรวรรณ ชิตะวณิชจนสามารถไปค้าแข้งกับทีมวีบอร์คของเดนมาร์คได้
- เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนจนสามารถไปค้าแข้งกับทีมลัคกี้โกลสตาร์ของเกาหลีใต้ได้ จนกระทั่งสามารถกวาดรางวัลในเคลีคได้เกือบทุกรางวัล
ผลงานในยุคของท่านส่วนใหญ่แชมป์ที่ทีมชาติไทยในยุคนั้นได้คือแชมป์คิงคัพส์ครั้งที่ 14, 15 และ 16 และแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 11 และครั้งที่ 12 โดยเฉพาะคิงคัพส์ครั้งที่ 11 นัดชิงชนะเลิศทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือชุดใหญ่ได้เป็นครั้งแรก 2-1
ส่วนผลงานในระดับทวีปคือการนำทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่มฟุตบอลปรีโอลิมปิค รอบคัดเลือกปี 1984 ซึ่งไทยอยู่สายเดียวกับ
- ทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ที่นำทัพโดยชอยซุนโฮศูนย์หน้าดาราเอเซียชุดฟุตบอลโลกในปี 1986
- ทีมชาติจีนชุดใหญ่ที่นำทัพโดยหลิวไห่กวงศูนย์หน้าดาราเอเซียของจีน
- ทีมชาติฮ่องกง
ซึ่งผลงานในรอบคัดเลือกทีมชาติไทยสามารถเอาชนะได้ทั้งทีมชั้นนำของเอเซียอย่างเกาหลีใต้ชุดใหญ่ไป 2-1จากการยิงของปิยะพงษ์ ผิวอ่อนและวรวรรณ ชิตะวณิช และชนะทีมชาติจีนชุดใหญ่ 1-0 จากการยิงของปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายที่สิงคโปร์ แต่ผลงานในรอบ 10 ทีมสุดท้ายไม่ดีนัก เนื่องไทยสามารถเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ได้เพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น 5-2 จากการยิงของปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 3 ประตู ชลอ หงษ์ขจรและเฉลิมวุฒ สง่าพลอีกคนละ 1 ประตู
ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนเคยบอกว่าท่านอาจารย์ประวิทย์เปรียบเสมือนพ่อคนที่ 2 ของเขาที่คอยดูแลสนับสนุนส่งเสริมและคอยเทรนเทคนิคในด้านฟุตบอลให้กับเขาจนกระทั่งเขาสามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้ไปค้าแข้งในเกาหลีใต้ได้
นอกจากนี้อดีตนักเตะทีมชาติไทยอีกหลายคนก็ได้ท่านอาจารย์ประวิทย์เป็นผู้ฝึกสอนจนได้ติดทีมชาติเช่นสมปอง นันทประภาศิลป์ สุทิน ไชยกิตติ สุรัก ไชยกิตติ เป็นต้น
ตำนานโค้ชทีมชาติไทยที่ปลุกปั้น 3 นักเตะให้สามารถไปค้าแข้งในยุโรปและลีคชั้นนำของเอเซียได้ในอดีต
แต่มีโค้ชอยู่ท่านนึงที่ผมมีความประทับใจและยังอยู่ในความทรงจำของผมตลอดมา แม้ว่าผลงานในยุคที่ท่านคุมทีมชาติไทยไม่ได้โดดเด่นเหมือนโค้ชหลายๆท่านที่กล่าวมาต้น แต่ท่านก็เป็นโค้ชทีมชาติไทยที่ปั้นลูกศิษย์ของท่านจากเด็กโนเนมจากต่างจังหวัดให้พัฒนาฝีเท้าจนติดทีมชาติไทยและได้มีโอกาสไปค้าแข้งในทวีปยุโรป 2 คนและลีคชั้นนำของเอเซียในยุคนั้นอีก 1 คน
ท่านผู้นี้คือท่านอาจารย์ประวิทย์ ไชยสาม อดีตโค้ชของสโมสรราชประชาและทีมชาติไทยผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านผู้นี้เป็นโค้ชผู้ปลุกปั้น 3 นักเตะในตำนานทีมชาติไทยจนได้มีโอกาสไปค้าแข้งในยุโรปและลีคชั้นนำของเอเซียในอดีต
- โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุลจนสามารถไปค้าแข้งกับทีมฮาธาเบอร์ลิน ของเยอรมันได้
- โค้ชป้ำ วรวรรณ ชิตะวณิชจนสามารถไปค้าแข้งกับทีมวีบอร์คของเดนมาร์คได้
- เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนจนสามารถไปค้าแข้งกับทีมลัคกี้โกลสตาร์ของเกาหลีใต้ได้ จนกระทั่งสามารถกวาดรางวัลในเคลีคได้เกือบทุกรางวัล
ผลงานในยุคของท่านส่วนใหญ่แชมป์ที่ทีมชาติไทยในยุคนั้นได้คือแชมป์คิงคัพส์ครั้งที่ 14, 15 และ 16 และแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 11 และครั้งที่ 12 โดยเฉพาะคิงคัพส์ครั้งที่ 11 นัดชิงชนะเลิศทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือชุดใหญ่ได้เป็นครั้งแรก 2-1
ส่วนผลงานในระดับทวีปคือการนำทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่มฟุตบอลปรีโอลิมปิค รอบคัดเลือกปี 1984 ซึ่งไทยอยู่สายเดียวกับ
- ทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ที่นำทัพโดยชอยซุนโฮศูนย์หน้าดาราเอเซียชุดฟุตบอลโลกในปี 1986
- ทีมชาติจีนชุดใหญ่ที่นำทัพโดยหลิวไห่กวงศูนย์หน้าดาราเอเซียของจีน
- ทีมชาติฮ่องกง
ซึ่งผลงานในรอบคัดเลือกทีมชาติไทยสามารถเอาชนะได้ทั้งทีมชั้นนำของเอเซียอย่างเกาหลีใต้ชุดใหญ่ไป 2-1จากการยิงของปิยะพงษ์ ผิวอ่อนและวรวรรณ ชิตะวณิช และชนะทีมชาติจีนชุดใหญ่ 1-0 จากการยิงของปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายที่สิงคโปร์ แต่ผลงานในรอบ 10 ทีมสุดท้ายไม่ดีนัก เนื่องไทยสามารถเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ได้เพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น 5-2 จากการยิงของปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 3 ประตู ชลอ หงษ์ขจรและเฉลิมวุฒ สง่าพลอีกคนละ 1 ประตู
ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนเคยบอกว่าท่านอาจารย์ประวิทย์เปรียบเสมือนพ่อคนที่ 2 ของเขาที่คอยดูแลสนับสนุนส่งเสริมและคอยเทรนเทคนิคในด้านฟุตบอลให้กับเขาจนกระทั่งเขาสามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้ไปค้าแข้งในเกาหลีใต้ได้
นอกจากนี้อดีตนักเตะทีมชาติไทยอีกหลายคนก็ได้ท่านอาจารย์ประวิทย์เป็นผู้ฝึกสอนจนได้ติดทีมชาติเช่นสมปอง นันทประภาศิลป์ สุทิน ไชยกิตติ สุรัก ไชยกิตติ เป็นต้น