มาแล้วค่ะ วันนี้จะพาไปเที่ยวจังหวัด “สมุทรปราการ” กัน
มีเวลาว่างแค่ครึ่งวัน ความจริงก็หนึ่งวันเต็มๆหรอกค่ะ แต่กว่าจะตื่นก็ 10 โมงเข้าไปแล้ว
ถือเป็นวันชิวๆค่ะ ไม่ซีเรียสมากกับการเดินทางครั้งนี้
เลือกจังหวัดใกล้กรุงเทพฯที่สุดค่ะ และเป็นที่ๆอยากไปอยู่
เคยคิดว่าจะไปนอนค้าง แต่ปัญหาคือยังไม่ได้ไปสะที
พอดีมีโอกาสนอนค้าง กทม. เช้าวันนี้เลยวางแผนเที่ยวแบบด่วนๆดูค่ะ

จาก กทม.(สุขุมวิท 64) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ ทางผ่านที่แรก
“พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ”

เสียค่าเข้าชม คนละ 200 บาท ค่าจอดรถฟรี มีรถรับ-ส่ง
ดอกไม้-ธูป ดอกบัวลอยน้ำ รวมอยู่ในค่าเข้าแล้ว

ก่อนจะไปเดินชมรอบพิพิธภัณฑ์ ก็ต้องแวะสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่กันก่อนค่ะ

พิพิธภัณฑ์นี้เขาว่ากันว่าสร้างมาจากแรงบันดาลใจของ คุณเล็ก-วิริยะพันธ์ผู้สร้างเมืองโบราณ(จังหวัดสมุทรปราการ) และปราสาทสัจธรรม(พัทยา) เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุ มรดกทางวัฒนธรรมด้านต่างๆ และเพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลป์ไทยให้คงอยู่

ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียรเป็นประติมากรรมลอยตัวด้วยวิธีเคาะมือแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากโลหะทองแดงค่ะ
มีหลายโซนค่ะ ชั้นใต้ดินเขาเรียกกันว่า “ชั้นสุวรรณภูมิ” เป็นที่เก็บของเก่าโบราณ ไม่สามารถถ่ายรูปได้

โซนกลาง(ทางขึ้นไปบริเวณตัวช้าง) ไม่ทราบชื่อชั้นค่ะ เป็นสถาปัตยกรรมสวยๆค่ะ มีกระจก หิน กระเบื้องงดงามมาก
บันไดวงกลมสูงเชียว เดินแล้วแอบเวียนหัว + ขาสั่นเบาๆ

ขึ้นไปถึงโซนสูงสุด เป็นโซนพระพุทธเจ้านะคะ (อันนี้ จขกท.ตั้งชื่อเองนะคะ)
มีรอยพระพุทธบาทจำลอง มีพระพุทธรูปต่างๆ ตกแต่งสวยงามดีค่ะ

หลังจากเดินเล่นเสร็จก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว แวะทานศูนย์อาหารของทางพิพิธภัณฑ์เลยแล้วกัน
เป็นศูนย์กลางแจ้งเล็กๆค่ะ มีอยู่ 3 ร้าน ร้านส้มตำ ร้านขนมจีน ร้านผัดไทย (ขายดีทุกร้านเพราะมีน้อยหรือป่าว)

หน้าตาอาหารค่ะ เราจัด “ส้มตำถาด” มา 150บาท

คุณสามีจัด “ผัดไทย” 60 บาท

ราคาแอบสูงเบาๆ ตามปกติแหละค่ะ สถานที่ท่องเที่ยว

ตบท้ายด้วย “ไอศกรีมนมสด” กระป๋องละ 30 บาท มีรสให้เลือกหลายรสค่ะ
เรา 2 คน เลือก “รัมเรซิน 1 + นมสด 1” อร่อยมากค่ะ นมสดจริงๆไม่หลอกลวง

ทานอาหารเสร็จเดี๋ยวไปกันต่อค่ะ “เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ”