อีกรูปก่อนออกเดินทางครับ
เริ่มเดินทางกันเลยครับ (ตามมานะครับทุกท่าน)
เส้นทางทั้งหมดจะเป็นเส้นทางดิน และ ทางลำธาร ครับ ช่วงแรกจะตัดผ่านที่ประกอบอาชีพของชาวบ้านที่นั้นคือปลูกมัน ข้าวโพด เป็นต้นครับ
จัดว่ายานพาหนะคันนี้เป็นเป็นประเภท สะเทินน้ําสะเทินบก ก็ว่าได้ครับ
พวกเราจะใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเราครับ
ซึ่งก็มีแค่เส้นทางเดียวนี่แระครับ 555+
ข้อมูลใน GOOGLE MAP บอกกับเราว่าเส้นทางนี้ไม่สามารถคำนวณเส้นทางการขับรถได้อีกด้วยนะฮ๊าฟท่านผู้ชม
ทางลงเนินๆแรกครับ เป็นทางระหว่างเขา
มองไปไกลๆ เห็นท้องฟ้ามืด ทำท่าว่าฝนจะตกด้วย
แต่พวกเราก็ บ่ย่าน ครับ
หันกลับไปมองด้านหลังเห็นเนินแรกที่เราลงมาเมื่อกี้ โอ้โห มันสูงมาก
ตอนก่อนลงดูเหมือนว่าจะไม่สูงมากนัก
เส้นทางบางช่วง(ส่วนใหญ่) จะเป็นดินโคลนครับ
พวกเราโชคดีมากเลยครับที่เมฆตั้งท่าขู่เฉยๆ
ระหว่างทางพวกเราได้ชั่งใจกันว่าจะถามคำถามนี้กับพี่คนขับดีใหม
คำถามที่พวกเราอยากจะถามคือ "พี่เดินทางเส้นนี้บ่อยใหม"
แต่บอกตามตรงว่า กลัวคำตอบครับ
แต่ความอยากรู้ยังไม่หมดไปเลยตัดสินใจถามครับ
เรา:พี่ๆพี่เดินทางเส้นนี้บ่อยใหมครับ ?
พี่คนขับ : ไม่บ่อยครับผม
พี่คนขับแกเว้นระยะคำพูดไว้สักพัก (แต่ทำไมมันานจัง)
พี่คนขับ : นาน ๆ มาที มาหาของป่าครับ แต่ก็บ่อยนะครับ
เรา
คิดในใจ) เหมือนพี่เค้ากลัวพวกเราจะกลัวเลยพูดว่าบ่อย 555+
ก็อย่างที่บอกตอนแรกไงครับว่า
พวกเรามาด้วยใจเต็มร้อย เพื่อน้อง ๆ ไม่มีอะไรที่หยุดพวกเราได้ครับ
ทางลงเนิน ต้องขอบอกเลยว่าลื่นมาก มาก ถึงมากที่สุด
บวกกับทางที่ต้องข้ามลำน้ำข้างหน้า โดยที่สะพานจะทำจาก ไม้ครับ
ส่วนตัวผมถือว่าทางนี้เป็นเส้นทางที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีเลย
แบบว่าใจเต้นแรงมากครับ
ทางน้ำครับ ในภาพนี้ผมขอขยายความว่า
ทาง=เส้นทางที่ใช้ในการเดินทาง
น้ำ = แม่น้ำ,ลำคลอง
ทาง + น้ำ จึงเท่ากับ เส้นทางที่ใช้ในการเดินทางในแม่น้ำ ครับ
ตรรกะมั่วของผมเองครับ 5555
เหลือแต่คุณผู้หญิงกับคนขับรถ เอ๊ะ ! แล้วพวกผู้ชายถอนตัวกลับกันแล้วหรือ ?
ปล่าว ๆ อย่าพึ่งคิดกันไปไกลครับผม พวกผู้ชายไม่ได้หายไปใหนครับ
"ฮุ่ย เล่ ฮุ่ย เอ้า ฮุ่ย เล่ ฮุ่ย" ผันตัวมาเป็นพนักงานดันรถคร้าาาาบผ้ม 555
ระหว่างทางแต่ยังไม่ครึ่งทาง ได้เปลี่ยนคนขับใหม่ครับ
ล้อเล่นครับแค่ถ่ายรูปครับ แบบว่านิ่งเป็นหลับขยับเป็น แช๊ะ!
ชาวบ้านสองคนเดินเท้ามาบอกว่าจะมีรถสวนทางมาครับ
เหตุด้วยทางตรงนี้เป็นทางชันและตรงโค้งหักศอกต้องข้ามสะพานไม้จึงทำให้รถไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ครับ
จึงต้องจอดรอให้รถวิ่งสวนทางไปก่อนเราจึงจะเดินทางต่อไปได้
ภาพระหว่างลงเนินนี้ครับ
"ถึงกายจะสั่นใหวแต่ใจมันสู้ เพื่อน้องๆแล้วไม่กลัวอะไร มือจับรถไว้ให้มั่นแล้วลุ๊ยยย!"
วิ่งตามสายน้ำมาเลื่อยๆก็ได้เจอกับน้องๆ 3 คนเล่นน้ำกันอยู่
สอบถามได้ความว่า อีกไม่ไกลแล้วจะถึงหมู่บ้านแล้สครับ
น้องๆ น่ารัก ครับ บอกว่าพี่ขอถ่ายรูปหน่อย รีบชู 2 นิ้วกันเลยทีเดียว
เสียดายรูปไม่ชัดครับ เพราะผมจับกล้องถ่ายด้วยมือเดียวเลยครับ
หากจับสองมือมีหวังร่วงครับ
หลังจากจุดที่เจอน้องๆ เราเดินทางต่อมาอีก 20 นาที ก็ได้เห็นหมู่บ้านกันแล้วครับผม
มองไปไกลๆ มีคนกำลังซักผ้าด้วยครับ
ขอถ่ายน้องๆกำลังซักผ้าชัดๆ อีกสักรูปครับ
ทิ้งท้ายไว้ที่รูปสองสาวก่อนนะครับ
ไว้มาติดตามกันต่อนะครับว่าในเส้นทางการเดินทางนี้จะเป็นอย่างไร
คุณครูผู้หญิงตัวคนเดียวของที่นี้ท่านเดินทางไปสอนหนังสือเด็กๆได้ อย่างไร
ตอนนี้ขออนุญาต หยุดไว้แค่นี้ก่อนครับ ขอตัวไปนอนก่อน
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้ครับ
[CR] [รีวิว]การเดินทางสำรวจเส้นทางและสถานที่โครงการ มอบความสุขให้น้อง ตอน 1 "ศศช.บ้านห้วยผักกูด"
มาเริ่มกันเลย
เกริ่นนำ
>>ความเป็นมาของ WE POSSIBLE
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
>>ข้อมูล ศศช.บ้านห้วยผักกูด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ติดตามโครงการตอน 1 "ศศช.บ้านห้วยผักกูด" ที่นี่ >>
http://ppantip.com/topic/35839374
เรามาเริ่มต้นการเดินทางกับที่นี้ครับ ปั๊ม ปตท.นครแม่สอด เป็นจุดรวมพลที่ 1เจอกันเวลา 07.00 น. ล้อหมุน 07.30 น. ครับ
**เนื่องจากเราเดินทางโดยอิงจากเวลาในแผนการเดินทางจริงเพื่อจะได้สรุปเวลาที่ใช้ในวันจริงด้วยครับว่าตรงตามแผนหรือเปล่า
เดินทางตามเส้นทางนี้ครับ
เนื่องจากเส้นทาง แม่สอด - บ้านเจดีย์โค๊ะ สามารถทำความเร็วได้ดี
แต่
เส้นทาง บ้านเจดีย์โค๊ะ - จุดรวมพลที่ 2 เป็นเส้นทางดิน ขรุขระ จึงทำความเร็วได้แค่ประมาณ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น
และแล้วเราก็มาถึงจุดรวมพลที่ 2
นี่คือโฉมหน้าแกนนำ WE POSSIBLE บางส่วนที่ร่วมเดินทางในวันนี้กันครับ
พอมาถึงจุดนัดพบที่ 2 เป็นไปตามคาดเลยครับ คลื่นโทรศัพท์ไม่มี จึงทำให้Internetไม่มี และก็ทำให้ไม่มีการติดต่อไร้สายใดๆครับ
ไม่รอช้าครับ อย่างที่เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่าว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ ลุยครับ น้ำ นม ไข่ พร๊อม!!
(จากการนัดแนะกับคุณครูทราย (ท่านคือคุณครูคนเดียวที่สอน นักเรียนร่วม 50 ชีวิต อยู่ที่ ศศช.บ้านห้วยผักกูด ตังแต่ระดับชั้น อ.1 - ป.6 ครับ) ว่าในเวลา 09.30 น. จะมียานพาหนะส่วนตัวของชาวบ้านลงมาจากหมู่บ้านเพื่อมารับพวกเราโดยเฉพาะครับ เพราะรถที่พวกเรานั่งมาจากตัวอำเภอจนถึงจุดนัดพบแห่งนี้ ไม่สามารถเดินทางขึ้นไปถึง ศศช.บ้านห้วยผักกูดได้(เพราะเหตุได โปรดติดตามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรู้เลย!! ))
ทีมงานจึงได้ประชุมย่อยกันสักหน่อย เพื่อสรุประยะเวลาที่เราใช้ในการเดินทาง
ไม่รีรอ พุ่งเข้าไปช่วยน้องๆกันครับ
พวกเรานั่งปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี จะโทรกลับไปถามคุณครูก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
จนในที่สุด ท่าน อบต. เจ้าของร้านขายของชำ เดินมาคุยกับพวกเราและท่านได้ทราบถึงปัญหา ท่านจึงอาสาโทรติดต่อกับคุณครูให้ครับ
ท่านผู้ชมคง งองูสองตัวกันแล้วใช่ใหมครับ ว่าท่าน อบต. โทรหาคุณครูได้อย่างไร
และรูปต่อไปนี่คือคำตอบครับ......
ทำให้ท่าน อบต. ติดต่อกับคุณครูได้ และความว่า รถยังไม่ลงมาเนื่องจากคนขับรถรอคุณครูโทรไปคอนเฟิร์ม
(หมูบ้านข้างบนจะมีจุดใช้โทรศัพท์แค่บ้างจุดครับ ต้องไป ณ. ที่นั้นๆจึงใช้ได้ โดยจะเป็นพื้นที่บนเขาสูงครับ)
แต่คุณครูท่านติดธุระเลยลืมโทรไปคอนเฟิร์มครับ พวกเราจึงได้หารือกัน พร้อมคุณครู(ทางโทรศัพท์) และท่าน อบต. ได้ข้อสรุปว่า
ท่าน อบต.จะช่วยจัดหารถชาวบ้านแถวนี้ให้ แต่ไม่รับปากว่าจะได้ใหม เนื่องจากเป็นเวลาที่สายแล้ว
ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มีรถส่วนตัวจะออกไปทำงานกันหมดตั้งแต่เช้าตรู่ครับ
แช๊ะซิคะ แช๊ะกันสักหน่อย เสียงคุณผู้หญิงแว่วมาแต่ไกล
พร้อมนะครับ 0 1 2 " เดินทางแบบนี้ไม่ต้องแต่งตัวสวยนะครับ " ท่าน อบต. ทิ้งท้ายก่อนที่จะขับรถออกไปจัดหารถ
พวกผู้หญิงก็พร้อมใจกัน หันหน้ามาสบตากัน แล้วออกแนวประมาณว่านี่ธรรมดานะคะ
และแล้ว แล้ว แล้ว
แต๊น แต๊นๆๆๆๆ
รถส่วนตัวของชาวบ้าน+คนขับรถส่วนตัว ที่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางทริปนี้ฮ๊าฟ
ใช่ครับ... ผมไม่ได้ลงรูปผิดแต่อย่างใด และท่านก็ไม่ได้ตาฝาดด้วย
รถส่วนตัวของชาวบ้านชนิดนี้เรียกว่า "รถไถ หรือ รถอี(เซนเซอร์)แต๊ก หรือ รถอี(เซนเซอร์)ตุ๊ก บรา บรา ตามที่ท่านเข้าใจกันเลยครับ"
รออะไรละครับท่านผู้ชม รีบจับจองที่นั่งกันเลยครับ รถพร้อมแล้ว คนพร้อมตั้งแต่เมื่อวาน
พอจับจองที่นั่งกันแล้ว พวกเราก็ไม่เคยที่จะลืม
อีกรูปก่อนออกเดินทางครับ
เริ่มเดินทางกันเลยครับ (ตามมานะครับทุกท่าน)
เส้นทางทั้งหมดจะเป็นเส้นทางดิน และ ทางลำธาร ครับ ช่วงแรกจะตัดผ่านที่ประกอบอาชีพของชาวบ้านที่นั้นคือปลูกมัน ข้าวโพด เป็นต้นครับ
จัดว่ายานพาหนะคันนี้เป็นเป็นประเภท สะเทินน้ําสะเทินบก ก็ว่าได้ครับ
พวกเราจะใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเราครับ
ซึ่งก็มีแค่เส้นทางเดียวนี่แระครับ 555+
ข้อมูลใน GOOGLE MAP บอกกับเราว่าเส้นทางนี้ไม่สามารถคำนวณเส้นทางการขับรถได้อีกด้วยนะฮ๊าฟท่านผู้ชม
ทางลงเนินๆแรกครับ เป็นทางระหว่างเขา
มองไปไกลๆ เห็นท้องฟ้ามืด ทำท่าว่าฝนจะตกด้วย
แต่พวกเราก็ บ่ย่าน ครับ
หันกลับไปมองด้านหลังเห็นเนินแรกที่เราลงมาเมื่อกี้ โอ้โห มันสูงมาก
ตอนก่อนลงดูเหมือนว่าจะไม่สูงมากนัก
เส้นทางบางช่วง(ส่วนใหญ่) จะเป็นดินโคลนครับ
พวกเราโชคดีมากเลยครับที่เมฆตั้งท่าขู่เฉยๆ
ระหว่างทางพวกเราได้ชั่งใจกันว่าจะถามคำถามนี้กับพี่คนขับดีใหม
คำถามที่พวกเราอยากจะถามคือ "พี่เดินทางเส้นนี้บ่อยใหม"
แต่บอกตามตรงว่า กลัวคำตอบครับ
แต่ความอยากรู้ยังไม่หมดไปเลยตัดสินใจถามครับ
เรา:พี่ๆพี่เดินทางเส้นนี้บ่อยใหมครับ ?
พี่คนขับ : ไม่บ่อยครับผม
พี่คนขับแกเว้นระยะคำพูดไว้สักพัก (แต่ทำไมมันานจัง)
พี่คนขับ : นาน ๆ มาที มาหาของป่าครับ แต่ก็บ่อยนะครับ
เราคิดในใจ) เหมือนพี่เค้ากลัวพวกเราจะกลัวเลยพูดว่าบ่อย 555+
ก็อย่างที่บอกตอนแรกไงครับว่า
พวกเรามาด้วยใจเต็มร้อย เพื่อน้อง ๆ ไม่มีอะไรที่หยุดพวกเราได้ครับ
ทางลงเนิน ต้องขอบอกเลยว่าลื่นมาก มาก ถึงมากที่สุด
บวกกับทางที่ต้องข้ามลำน้ำข้างหน้า โดยที่สะพานจะทำจาก ไม้ครับ
ส่วนตัวผมถือว่าทางนี้เป็นเส้นทางที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีเลย
แบบว่าใจเต้นแรงมากครับ
ทางน้ำครับ ในภาพนี้ผมขอขยายความว่า
ทาง=เส้นทางที่ใช้ในการเดินทาง
น้ำ = แม่น้ำ,ลำคลอง
ทาง + น้ำ จึงเท่ากับ เส้นทางที่ใช้ในการเดินทางในแม่น้ำ ครับ ตรรกะมั่วของผมเองครับ 5555
เหลือแต่คุณผู้หญิงกับคนขับรถ เอ๊ะ ! แล้วพวกผู้ชายถอนตัวกลับกันแล้วหรือ ?
ปล่าว ๆ อย่าพึ่งคิดกันไปไกลครับผม พวกผู้ชายไม่ได้หายไปใหนครับ
"ฮุ่ย เล่ ฮุ่ย เอ้า ฮุ่ย เล่ ฮุ่ย" ผันตัวมาเป็นพนักงานดันรถคร้าาาาบผ้ม 555
ระหว่างทางแต่ยังไม่ครึ่งทาง ได้เปลี่ยนคนขับใหม่ครับ
ล้อเล่นครับแค่ถ่ายรูปครับ แบบว่านิ่งเป็นหลับขยับเป็น แช๊ะ!
ชาวบ้านสองคนเดินเท้ามาบอกว่าจะมีรถสวนทางมาครับ
เหตุด้วยทางตรงนี้เป็นทางชันและตรงโค้งหักศอกต้องข้ามสะพานไม้จึงทำให้รถไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ครับ
จึงต้องจอดรอให้รถวิ่งสวนทางไปก่อนเราจึงจะเดินทางต่อไปได้
ภาพระหว่างลงเนินนี้ครับ
"ถึงกายจะสั่นใหวแต่ใจมันสู้ เพื่อน้องๆแล้วไม่กลัวอะไร มือจับรถไว้ให้มั่นแล้วลุ๊ยยย!"
วิ่งตามสายน้ำมาเลื่อยๆก็ได้เจอกับน้องๆ 3 คนเล่นน้ำกันอยู่
สอบถามได้ความว่า อีกไม่ไกลแล้วจะถึงหมู่บ้านแล้สครับ
น้องๆ น่ารัก ครับ บอกว่าพี่ขอถ่ายรูปหน่อย รีบชู 2 นิ้วกันเลยทีเดียว
เสียดายรูปไม่ชัดครับ เพราะผมจับกล้องถ่ายด้วยมือเดียวเลยครับ
หากจับสองมือมีหวังร่วงครับ
หลังจากจุดที่เจอน้องๆ เราเดินทางต่อมาอีก 20 นาที ก็ได้เห็นหมู่บ้านกันแล้วครับผม
มองไปไกลๆ มีคนกำลังซักผ้าด้วยครับ
ขอถ่ายน้องๆกำลังซักผ้าชัดๆ อีกสักรูปครับ
ทิ้งท้ายไว้ที่รูปสองสาวก่อนนะครับ
ไว้มาติดตามกันต่อนะครับว่าในเส้นทางการเดินทางนี้จะเป็นอย่างไร
คุณครูผู้หญิงตัวคนเดียวของที่นี้ท่านเดินทางไปสอนหนังสือเด็กๆได้ อย่างไร
ตอนนี้ขออนุญาต หยุดไว้แค่นี้ก่อนครับ ขอตัวไปนอนก่อน
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้ครับ