การไปอยู่ก่อนแต่ง ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ จะยอมเรื่องนี้มั้ยคะ

เราเรียนจบ ทำงานมา 3 ปีแล้วค่ะ เงินเดือนเราอยู่ในระดับมั่นคง แต่ก็ไม่ได้สูงมากนัก  ปัจจุบันอยู่ห้องพักกับแฟน (แฟนเงินเดือนสูงกว่าเรา) เรามีอะไรกันแล้ว แต่ก็ป้องกัน และแฟนก็ดูแล ใส่ใจเราดี เคยไปพบทั้งพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ไม่ได้บอกว่าเราอยู่ห้องเดียวกัน เราควรจะบอกมั้ยคะ แล้วจะพูดประมาณยังไงดี  เราลองถามตัวเองว่า ถ้าเราเป็นพ่อแม่ เรามองว่าถ้าเค้าเรียนจบ หาเลี้ยงตัวเองได้แล้วก็น่าจะปล่อยเค้าได้แล้วนะคะ เพื่อนๆคิดว่ายังไงคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
คนที่บอกว่าถ้าลูกเป็นแบบนี้เสียใจตาย
ลูกคุณไปฆ่าคนตายหรอค่ะ โตทำงานจนมีวุฒิภาวะละ ไม่ใช่เรียนอยู่ ปล่อยเขาเถอะค่ะ ดีกว่าแต่งแล้วอยู่กันไม่ได้ เลิกมาเป็นขี้ปากป่าวๆ เรียนรู้ชีวิตคู่ก่อนแต่งไปเลยดีกว่าตัดสินใจผิด  การแต่งงานมันไม่ได้การันตีความสุขในชีวิตคุณหรอกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 26
เรื่องควรบอกหรือไม่ควรบอก อันนี้ตอบไม่ได้ค่ะพ่อแม่ของแต่ละครอบครัวคิดไม่เหมือนกัน

แต่ถ้าถามว่า ถ้าเราเป็นแม่ที่มีลูกสาว
ลูกสาวเรียนจบมีงานทำ มีเงินเดือน รับผิดชอบตัวเองได้
อยู่กับผู้ชาย ที่มีงานทำ มีเงินเดือน ไม่ได้เกาะลูกสาวเราไม่ได้หลอกเอาเงิน หรือติดการพนันติดยา

แค่นี้เราก็ว่าเรารับได้ค่ะ ไม่ได้เสียใจ ไม่รู้สึกว่าลูกไร้คุณค่าหรือมีตำหนิ
ส่วนชาวบ้านจะนินทา หาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เราคงไม่สนใจค่ะ ให้พูดไป
แต่เราคงรู้สึกดีมากกว่าถ้าลูกมาบอกเราเอง เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

จารีตสังคมมันก็แค่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมเป็นไปในทิศทางเดียวกันค่ะ อาจจะถูกมองว่าเป็นสิ่งดีงาม แต่เรื่องแต่งงานเรามองว่าเป็นค่านิยมมากกว่าจารีต
เพราะถึงไม่แต่ง ก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนจากการไม่แต่ง อันนี้พูดในกรณีทั้งฝ่ายหญิงและชายเลี้ยงดูตัวเองได้และสมัครใจไม่แต่งหรือยังไม่พร้อมแต่งนะคะ

เราไม่เข้าใจว่าทำไมสังคมต้องเป็นตัวตัดสินว่า อย่าได้กันก่อนแต่ง อย่าอยู่ก่อนแต่ง พ่อแม่จะเสียใจอะไรแบบนี้

(อันนี้เราพูดในกรณีทั้งหญิงและชายเรียนจบมีงานทำแล้วนะคะ กรณีเดียวเท่านัน เพราะถ้าวัยเรียนแล้วไปอยู่ด้วยกันเราก็ไม่โอเคค่ะ)

แต่คนที่รับผิดชอบตัวเองได้แล้วทำไมต้องมีบรรทัดฐานสังคมคอยกำหนดชีวิต
ในเมื่อคุณสบายใจอยากทำอะไรก็ชีวิตใครชีวิตมัน ทำไมต้องไปนินทา หรือเดือดร้อนแทนเขา

เราว่าคบกันมานานขนาดไหน แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงตัวตนก็ไม่ถูกเปิดเผย 100% หรอกค่ะ
มันจะไปเปิดเผยอย่างแท้จริงหลังแต่งงาน หรือหลังจากอยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนั้นแหละจะรับอีกฝ่ายได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง แต่งงานแล้วด้วยแล้วเพิ่งมาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายที่ตัวเองรับไม่ได้สุดๆ ...ก็นานาจิตตังค่ะ

ความรู้สึกเราคือ รู้เช่นเห็นชาติให้มากที่สุดก่อนจะแต่งงาน คือสิ่งที่เราโอเคที่สุด เพราะจะได้แน่ใจว่าไม่มีอะไรที่เรารับไม่ได้ ยกเว้นนอกใจอันนี้ยังไงก็รับไม่ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 70
เพราะการแต่งงานแบบไทยๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่สวยงาม ลงไปทุกวันๆไงครับ

-ต้องเอาเงินเก็บทั้งชีวิต เป็นแสนๆบาท หรือบางคู่กดไปเป็นล้าน มาละลายไปกับงานเลี้ยงคืนเดียว แขกเกินครึ่ง ไม่ได้รู้จักมักจี่ พร้อมออพชั่นเสริมงานแต่งที่โขกราคามหาโหด เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสารพัดสามสี่ชุด แค่ค่าเช่าแพงกว่าราคาชุด ช่างภาพ โรงแรม อาหาร โขกราคาทั้งนั้น เพราะงานแต่งไทยๆคือความหน้าใหญ่ ต้องมือเติบ คนอยากไม่ได้จ่าย คนจ่ายไม่ได้อยาก ยิ่งแพงยิ่งดี

-ซึ่งแม้คุณจะทำอย่างนั้น คุณก็ยังต้องโดนเอาไปเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี้ ราวกับโลกนี้มีแต่มหาเศรษฐี  ไม่นับข่าวดาราไฮโซแต่งงาน ที่คนไทยสนใจเฉพาะตัวเลขสินสอดและแหวนเพชร สิบล้าน ร้อยล้าน คนธรรมดาอย่างคุณยิ่งรู้สึกแย่

-ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ใครก็ไม่รู้ที่ทั้งชีวิตคุณไม่เคยเจอหน้า ที่พร้อมจะทำลายความโรแมนติคของความรักให้พังลงไปหมดสิ้นเพื่อการแต่งงาน ไอ้นั่นไม่ได้ ไอ้นี่ไม่ได้ ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ จบงานแต่งก็จบกัน หายหมด

-เงิน เงิน และเงินเท่านั้น งานแต่งงานแบบไทยๆ มันไม่มีเศษบรรยากาศความรักอะไรมาดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากแต่งงานนักหรอก


อยู่หอพักเล็กๆด้วยกัน นั่งพื้นกินส้มตำ กินกับข้าวตามสั่งด้วยกันสองคน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันดูแลกัน มีค่ากว่างานแต่งงานเยอะ สำหรับผมนะครับ
ความคิดเห็นที่ 17
เราเฉยๆ นะ ถ้าทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องขอเงินพ่อเงินแม่ เคยผ่านจุดนี้มาแล้วเหมือนกัน เราอยู่กับแฟนมาสองปี แล้วก็จัดงานแต่งงาน พี่สาวเราเนี่ยแหละ ยังไปบ่นลับหลังเลยว่า มันไม่ได้แต่งหรอก แต่เรามั่นใจในตัวผู้ชายคนนี้ไง ป้องกันดีๆ อย่าเพิ่งให้มีลูกนะคะ อยู่ด้วยมันก็เป็นการศึกษานิสัยใจคอกัน บางทีคนเราคบกันมาเป็นสิบปี แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกัน ก็ไม่รู้นิสัยใจคอกันจริงๆ หรอกค่ะ อย่าไปคิดว่าอยู่กันก่อนแต่งแล้วจะเป็นการลดคุณค่าในตัวเอง หรือว่าง่าย เราทำงานเลี้ยงตัวเองได้ มีการศึกษาที่ดี กตัญญูต่อพ่อแม่ ก็มีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ได้ไปวิ่งไล่ผู้ชายนี่ อย่าไปแคร์ขี้ปากชาวบ้าน

ปล.​ ถ้าไม่นับเรื่องพละกำลัง หญิงกับชายเท่าเทียมกันค่ะ ถ้าวันนึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่ หรือเจอใครที่ดีกว่า แล้วเลิกกัน ไม่มีใครเสียเปรียบ หรือได้เปรียบหรอกค่ะ และผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงที่ผ่านผัชายมาแล้วไม่ดี ก็อย่าไปเอาทำพันธุ์ค่ะ อยู่สวยๆ เริ่ดๆ ของเราไป
ความคิดเห็นที่ 3
อยู่ก่อนแต่ง โอกาสที่จะไม่ได้แต่งมีเยอะนะคะ เพราะส่วนมากผู้ชายคิดว่าเสียเงินแต่งงานไปสุดท้ายก็อยู่ด้วยกันแบบเดิมไม่มีอะไรแตกต่าง วันก่อนก็เพิ่งเห็นกระทู้นี้ http://m.ppantip.com/topic/34348889?

แต่ก็แล้วแต่จขกท. บางคนไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีงานแต่งงาน อันนั้นคงไม่เป็นไรค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่