สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
เรื่องควรบอกหรือไม่ควรบอก อันนี้ตอบไม่ได้ค่ะพ่อแม่ของแต่ละครอบครัวคิดไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าถามว่า ถ้าเราเป็นแม่ที่มีลูกสาว
ลูกสาวเรียนจบมีงานทำ มีเงินเดือน รับผิดชอบตัวเองได้
อยู่กับผู้ชาย ที่มีงานทำ มีเงินเดือน ไม่ได้เกาะลูกสาวเราไม่ได้หลอกเอาเงิน หรือติดการพนันติดยา
แค่นี้เราก็ว่าเรารับได้ค่ะ ไม่ได้เสียใจ ไม่รู้สึกว่าลูกไร้คุณค่าหรือมีตำหนิ
ส่วนชาวบ้านจะนินทา หาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เราคงไม่สนใจค่ะ ให้พูดไป
แต่เราคงรู้สึกดีมากกว่าถ้าลูกมาบอกเราเอง เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
จารีตสังคมมันก็แค่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมเป็นไปในทิศทางเดียวกันค่ะ อาจจะถูกมองว่าเป็นสิ่งดีงาม แต่เรื่องแต่งงานเรามองว่าเป็นค่านิยมมากกว่าจารีต
เพราะถึงไม่แต่ง ก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนจากการไม่แต่ง อันนี้พูดในกรณีทั้งฝ่ายหญิงและชายเลี้ยงดูตัวเองได้และสมัครใจไม่แต่งหรือยังไม่พร้อมแต่งนะคะ
เราไม่เข้าใจว่าทำไมสังคมต้องเป็นตัวตัดสินว่า อย่าได้กันก่อนแต่ง อย่าอยู่ก่อนแต่ง พ่อแม่จะเสียใจอะไรแบบนี้
(อันนี้เราพูดในกรณีทั้งหญิงและชายเรียนจบมีงานทำแล้วนะคะ กรณีเดียวเท่านัน เพราะถ้าวัยเรียนแล้วไปอยู่ด้วยกันเราก็ไม่โอเคค่ะ)
แต่คนที่รับผิดชอบตัวเองได้แล้วทำไมต้องมีบรรทัดฐานสังคมคอยกำหนดชีวิต
ในเมื่อคุณสบายใจอยากทำอะไรก็ชีวิตใครชีวิตมัน ทำไมต้องไปนินทา หรือเดือดร้อนแทนเขา
เราว่าคบกันมานานขนาดไหน แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงตัวตนก็ไม่ถูกเปิดเผย 100% หรอกค่ะ
มันจะไปเปิดเผยอย่างแท้จริงหลังแต่งงาน หรือหลังจากอยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนั้นแหละจะรับอีกฝ่ายได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง แต่งงานแล้วด้วยแล้วเพิ่งมาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายที่ตัวเองรับไม่ได้สุดๆ ...ก็นานาจิตตังค่ะ
ความรู้สึกเราคือ รู้เช่นเห็นชาติให้มากที่สุดก่อนจะแต่งงาน คือสิ่งที่เราโอเคที่สุด เพราะจะได้แน่ใจว่าไม่มีอะไรที่เรารับไม่ได้ ยกเว้นนอกใจอันนี้ยังไงก็รับไม่ได้ค่ะ
แต่ถ้าถามว่า ถ้าเราเป็นแม่ที่มีลูกสาว
ลูกสาวเรียนจบมีงานทำ มีเงินเดือน รับผิดชอบตัวเองได้
อยู่กับผู้ชาย ที่มีงานทำ มีเงินเดือน ไม่ได้เกาะลูกสาวเราไม่ได้หลอกเอาเงิน หรือติดการพนันติดยา
แค่นี้เราก็ว่าเรารับได้ค่ะ ไม่ได้เสียใจ ไม่รู้สึกว่าลูกไร้คุณค่าหรือมีตำหนิ
ส่วนชาวบ้านจะนินทา หาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เราคงไม่สนใจค่ะ ให้พูดไป
แต่เราคงรู้สึกดีมากกว่าถ้าลูกมาบอกเราเอง เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
จารีตสังคมมันก็แค่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมเป็นไปในทิศทางเดียวกันค่ะ อาจจะถูกมองว่าเป็นสิ่งดีงาม แต่เรื่องแต่งงานเรามองว่าเป็นค่านิยมมากกว่าจารีต
เพราะถึงไม่แต่ง ก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนจากการไม่แต่ง อันนี้พูดในกรณีทั้งฝ่ายหญิงและชายเลี้ยงดูตัวเองได้และสมัครใจไม่แต่งหรือยังไม่พร้อมแต่งนะคะ
เราไม่เข้าใจว่าทำไมสังคมต้องเป็นตัวตัดสินว่า อย่าได้กันก่อนแต่ง อย่าอยู่ก่อนแต่ง พ่อแม่จะเสียใจอะไรแบบนี้
(อันนี้เราพูดในกรณีทั้งหญิงและชายเรียนจบมีงานทำแล้วนะคะ กรณีเดียวเท่านัน เพราะถ้าวัยเรียนแล้วไปอยู่ด้วยกันเราก็ไม่โอเคค่ะ)
แต่คนที่รับผิดชอบตัวเองได้แล้วทำไมต้องมีบรรทัดฐานสังคมคอยกำหนดชีวิต
ในเมื่อคุณสบายใจอยากทำอะไรก็ชีวิตใครชีวิตมัน ทำไมต้องไปนินทา หรือเดือดร้อนแทนเขา
เราว่าคบกันมานานขนาดไหน แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงตัวตนก็ไม่ถูกเปิดเผย 100% หรอกค่ะ
มันจะไปเปิดเผยอย่างแท้จริงหลังแต่งงาน หรือหลังจากอยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนั้นแหละจะรับอีกฝ่ายได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง แต่งงานแล้วด้วยแล้วเพิ่งมาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายที่ตัวเองรับไม่ได้สุดๆ ...ก็นานาจิตตังค่ะ
ความรู้สึกเราคือ รู้เช่นเห็นชาติให้มากที่สุดก่อนจะแต่งงาน คือสิ่งที่เราโอเคที่สุด เพราะจะได้แน่ใจว่าไม่มีอะไรที่เรารับไม่ได้ ยกเว้นนอกใจอันนี้ยังไงก็รับไม่ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 70
เพราะการแต่งงานแบบไทยๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่สวยงาม ลงไปทุกวันๆไงครับ
-ต้องเอาเงินเก็บทั้งชีวิต เป็นแสนๆบาท หรือบางคู่กดไปเป็นล้าน มาละลายไปกับงานเลี้ยงคืนเดียว แขกเกินครึ่ง ไม่ได้รู้จักมักจี่ พร้อมออพชั่นเสริมงานแต่งที่โขกราคามหาโหด เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสารพัดสามสี่ชุด แค่ค่าเช่าแพงกว่าราคาชุด ช่างภาพ โรงแรม อาหาร โขกราคาทั้งนั้น เพราะงานแต่งไทยๆคือความหน้าใหญ่ ต้องมือเติบ คนอยากไม่ได้จ่าย คนจ่ายไม่ได้อยาก ยิ่งแพงยิ่งดี
-ซึ่งแม้คุณจะทำอย่างนั้น คุณก็ยังต้องโดนเอาไปเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี้ ราวกับโลกนี้มีแต่มหาเศรษฐี ไม่นับข่าวดาราไฮโซแต่งงาน ที่คนไทยสนใจเฉพาะตัวเลขสินสอดและแหวนเพชร สิบล้าน ร้อยล้าน คนธรรมดาอย่างคุณยิ่งรู้สึกแย่
-ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ใครก็ไม่รู้ที่ทั้งชีวิตคุณไม่เคยเจอหน้า ที่พร้อมจะทำลายความโรแมนติคของความรักให้พังลงไปหมดสิ้นเพื่อการแต่งงาน ไอ้นั่นไม่ได้ ไอ้นี่ไม่ได้ ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ จบงานแต่งก็จบกัน หายหมด
-เงิน เงิน และเงินเท่านั้น งานแต่งงานแบบไทยๆ มันไม่มีเศษบรรยากาศความรักอะไรมาดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากแต่งงานนักหรอก
อยู่หอพักเล็กๆด้วยกัน นั่งพื้นกินส้มตำ กินกับข้าวตามสั่งด้วยกันสองคน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันดูแลกัน มีค่ากว่างานแต่งงานเยอะ สำหรับผมนะครับ
-ต้องเอาเงินเก็บทั้งชีวิต เป็นแสนๆบาท หรือบางคู่กดไปเป็นล้าน มาละลายไปกับงานเลี้ยงคืนเดียว แขกเกินครึ่ง ไม่ได้รู้จักมักจี่ พร้อมออพชั่นเสริมงานแต่งที่โขกราคามหาโหด เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสารพัดสามสี่ชุด แค่ค่าเช่าแพงกว่าราคาชุด ช่างภาพ โรงแรม อาหาร โขกราคาทั้งนั้น เพราะงานแต่งไทยๆคือความหน้าใหญ่ ต้องมือเติบ คนอยากไม่ได้จ่าย คนจ่ายไม่ได้อยาก ยิ่งแพงยิ่งดี
-ซึ่งแม้คุณจะทำอย่างนั้น คุณก็ยังต้องโดนเอาไปเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี้ ราวกับโลกนี้มีแต่มหาเศรษฐี ไม่นับข่าวดาราไฮโซแต่งงาน ที่คนไทยสนใจเฉพาะตัวเลขสินสอดและแหวนเพชร สิบล้าน ร้อยล้าน คนธรรมดาอย่างคุณยิ่งรู้สึกแย่
-ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ใครก็ไม่รู้ที่ทั้งชีวิตคุณไม่เคยเจอหน้า ที่พร้อมจะทำลายความโรแมนติคของความรักให้พังลงไปหมดสิ้นเพื่อการแต่งงาน ไอ้นั่นไม่ได้ ไอ้นี่ไม่ได้ ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ จบงานแต่งก็จบกัน หายหมด
-เงิน เงิน และเงินเท่านั้น งานแต่งงานแบบไทยๆ มันไม่มีเศษบรรยากาศความรักอะไรมาดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากแต่งงานนักหรอก
อยู่หอพักเล็กๆด้วยกัน นั่งพื้นกินส้มตำ กินกับข้าวตามสั่งด้วยกันสองคน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันดูแลกัน มีค่ากว่างานแต่งงานเยอะ สำหรับผมนะครับ
ความคิดเห็นที่ 17
เราเฉยๆ นะ ถ้าทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องขอเงินพ่อเงินแม่ เคยผ่านจุดนี้มาแล้วเหมือนกัน เราอยู่กับแฟนมาสองปี แล้วก็จัดงานแต่งงาน พี่สาวเราเนี่ยแหละ ยังไปบ่นลับหลังเลยว่า มันไม่ได้แต่งหรอก แต่เรามั่นใจในตัวผู้ชายคนนี้ไง ป้องกันดีๆ อย่าเพิ่งให้มีลูกนะคะ อยู่ด้วยมันก็เป็นการศึกษานิสัยใจคอกัน บางทีคนเราคบกันมาเป็นสิบปี แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกัน ก็ไม่รู้นิสัยใจคอกันจริงๆ หรอกค่ะ อย่าไปคิดว่าอยู่กันก่อนแต่งแล้วจะเป็นการลดคุณค่าในตัวเอง หรือว่าง่าย เราทำงานเลี้ยงตัวเองได้ มีการศึกษาที่ดี กตัญญูต่อพ่อแม่ ก็มีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ได้ไปวิ่งไล่ผู้ชายนี่ อย่าไปแคร์ขี้ปากชาวบ้าน
ปล. ถ้าไม่นับเรื่องพละกำลัง หญิงกับชายเท่าเทียมกันค่ะ ถ้าวันนึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่ หรือเจอใครที่ดีกว่า แล้วเลิกกัน ไม่มีใครเสียเปรียบ หรือได้เปรียบหรอกค่ะ และผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงที่ผ่านผัชายมาแล้วไม่ดี ก็อย่าไปเอาทำพันธุ์ค่ะ อยู่สวยๆ เริ่ดๆ ของเราไป
ปล. ถ้าไม่นับเรื่องพละกำลัง หญิงกับชายเท่าเทียมกันค่ะ ถ้าวันนึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่ หรือเจอใครที่ดีกว่า แล้วเลิกกัน ไม่มีใครเสียเปรียบ หรือได้เปรียบหรอกค่ะ และผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงที่ผ่านผัชายมาแล้วไม่ดี ก็อย่าไปเอาทำพันธุ์ค่ะ อยู่สวยๆ เริ่ดๆ ของเราไป
ความคิดเห็นที่ 3
อยู่ก่อนแต่ง โอกาสที่จะไม่ได้แต่งมีเยอะนะคะ เพราะส่วนมากผู้ชายคิดว่าเสียเงินแต่งงานไปสุดท้ายก็อยู่ด้วยกันแบบเดิมไม่มีอะไรแตกต่าง วันก่อนก็เพิ่งเห็นกระทู้นี้ http://m.ppantip.com/topic/34348889?
แต่ก็แล้วแต่จขกท. บางคนไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีงานแต่งงาน อันนั้นคงไม่เป็นไรค่ะ
แต่ก็แล้วแต่จขกท. บางคนไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีงานแต่งงาน อันนั้นคงไม่เป็นไรค่ะ
แสดงความคิดเห็น
การไปอยู่ก่อนแต่ง ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ จะยอมเรื่องนี้มั้ยคะ