การประกาศลดค่าจดจำนอง จาก 1% เหลือ 0.01% จะใช้ได้เมื่อไหร่

จากกรณีที่รัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ในตอนแรก ที่ประกาศอนุมัติร่าง และให้มีผลบังคับใช้ทันที 19 ตค.58  และมีผลต่อเนื่อง 6 เดือนสิ้นสุด มีค.59 ต่อมาเมื่อมีผู้ไปสอบถามกรมที่ดิน ได้ผลว่า ยัง เนื่องจากยังไม่มีประกาศหนังสือเวียนออกมา และยังไม่ทราบว่าจะประกาศเมื่อไหร่ ส่งผลให้การจดจำนองต้องล่าช้าออกไป หลายรายเฝ้ารอความหวังนะครับ เพราะข่าวปรากฏในทุกสื่อ  จนบัดนี้ ก็ยังไม่ปรากฏว่าจะมีการประกาศใดๆออกมา ผู้ซื้อบ้านทั้งหลังแรก และรายได้น้อยส่วนใหญ่เฝ้ารอโครงการนี้ทั้งนั้น เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเยอะมาก แต่ก็เฝ้ารอแล้วรออีก  บางรายต้องลุ้นระทึกมาก เพราะรับสิทธิ์ลดหย่อนดอกเบี้ย 1 ปี จาก ธอส. (0.8%) สำหรับผุ้มีฐานะถือว่าเล็กน้อย แต่สำหรับคนที่จะมีบ้านหลังแรกของตัวเอง ถือว่าช่วยได้เยอะมากทีเดียว แต่สิทธิ์นี้ธนาคารแจ้งว่าจะต้องจดจำนองภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2558 เทานั้น ไม่เช่นนั้น ถือว่ายกเลิก และต้องดำเนินการยื่นกู้ใหม่ทั้งหมด และอัตราดอกเบี้ยก็ใหม่ด้วย เข้าใจนะครับ ว่า บางคนก็พูดได้ว่า ถ้าคุณจะรอตรงนี้ ก็ต้องเสี่ยงนะ หรือถ้าอยากได้ดอกเบี้ยตรงนี้ ก็จดจำนองไปไม่ต้องคิดมาก ก็จริงนะ แต่ผมเชื่อมั่นในรัฐบาลบิ๊กตู่มาโดยตลอด เพราะท่านประกาศเรื่องใดมักทำกันได้โดยทันที เรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมเชื่อมั่นในชายชาติทหารของนายกนะครับ

สำหรับข่าวที่จะโพสต่อไป คือข้อความที่ได้มาจากหน้าเวปของสำนักปลัดกระทรวงการคลัง
มาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ชี้แจงว่า เนื่องจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยลดลง ประกอบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศในภาพรวมมีอุปทาน คงค้างในตลาดจำนวนมาก ทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งเมืองสำคัญในภูมิภาค เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี และขอนแก่น เป็นต้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์รวม 2 มาตรการ ดังนี้

1. มาตรการการเงิน
เพื่อเป็นการสนับสนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้สามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยในวงเงินที่สูงขึ้นด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน อันจะทำให้กลุ่มผู้ที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยและภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จึงออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง เพื่อให้ผู้กู้ใช้ในการซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด หรือเพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร โดยประมาณการวงเงินให้สินเชื่อรวมเบื้องต้น 10,000 ล้านบาท กำหนดระยะเวลารับคำขอและการทำนิติกรรม 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558  และให้ ธอส. สามารถขยายระยะเวลาได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี และมีกลุ่มเป้าหมาย คือผู้ที่มีรายได้สุทธิต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท โดยเกณฑ์หลักประกันเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของ ธอส.

2. มาตรการการคลัง
2.1 การลดค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โดยให้ลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ และห้องชุด จากเดิมร้อยละ 2 ของราคาประเมินทุนทรัพย์ในกรณีการโอน และร้อยละ 1 ของมูลค่าที่จำนอง แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ในกรณีการจำนองฯ เหลือร้อยละ 0.01 โดยมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ เพื่อเร่ง
ให้เกิดการทำนิติกรรมโดยเร็ว

2.2 การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับรายได้ที่จ่ายไปเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดินหรือห้องชุดในอาคารชุดที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเองเป็นจำนวนร้อยละ 20 ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ได้รับสิทธิจะต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มาก่อน และมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี กล่าวคือต้องเป็นการซื้อครั้งแรกและเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยจริง โดยต้องใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อเนื่องกัน 5 ปีภาษี นับแต่ปีภาษีที่มีการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ โดยให้แบ่งใช้สิทธิเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี ทั้งนี้ ต้องจ่ายค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559                                        

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการดังกล่าวข้างต้น จะสามารถช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือไม่มีรายได้ประจำ และผู้มีรายได้ปานกลางซึ่งไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ให้สามารถ ได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนได้ง่ายยิ่งขึ้น และสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ปัจจุบัน ธอส. ได้ให้ความช่วยเหลือในเรื่องสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่แล้วจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินมาตรการข้างต้นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ซื้อบ้านทั้งในส่วนของบ้านใหม่และบ้านมือสองจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนอง รวมทั้งการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาข้างต้นด้วย ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้มีรายได้น้อยโดยตรง ทั้งนี้การดำเนินมาตรการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหา

ที่มา http://www.thaigov.go.th/index.php?option=com_k2&view=item&id=96372:%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C&Itemid=241&lang=th

เหตุใดถึงกลายสภาพเป็นข้อความนี้ไปได้ จำได้ว่าเคยระบุวันที่ 19 ตุลาคม 2558 (หรือผมดูผิด) หลายคนเลื่อนนัดจำนองกันจดผู้ขายเริ่มไม่มั่นใจ หรือถ้าข้อความเดิมเป็น 19 จริงๆ ก็อยากให้ทราบว่า การประกาศสำคัญๆ อย่างนี้ ขอให้อย่าให้ข่าวที่ชี้เฉพาะก่อนเลยครับ เพราะมันทำให้คนเขาขาดความเชื่อมั่น และประชาชนเสียโอกาสกันอย่างมาก บางคนเช่าบ้านอยู่ พอจะซื้อบ้านได้เห็นโอกาสดีก็รอ  และแจ้งคืนห้องเช่า ปรากฏว่าเกิดความไม่แน่นอนขึ้น เขาจะทำอย่างไร เสียค่าเช่าต่อ / ต้องออกเพราะแจ้งไว้แล้ว / ยอมเสียค่าจดจำนองอัตราเก่าไป

ผมหวังว่าเสียงเล็กๆนี้ จะได้ยินถึงคนข้างบนบ้างนะครับ ผมเชื่อว่าท่านเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

ปล. ถ้าหากเกล้ากระผมเข้าใจอะไรผิด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ และรบกวนผู้รู้จริงอธิบายเพื่อความกระจ่างชัด และเป็นประโยชน์่ต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่