ความรู้สึกหลังจากที่ดู Water Boyy

ออกตัวก่อนเลยว่าไปดูหลังเรื่องนี้เพราะ ซิกแพคน้องเงินและกางเกงว่ายน้ำ

หนังเรื่องนี้ผมดูไปครึ่งเรื่องแล้วรู้สึกว่าไม่มีอะไรเลย ฮ่าๆๆ นอกจากซิกแพคและกางเกงในของหนุ่มๆ ครึ่งหลังมาเริ่มดราม่าทั้งเรื่องครอบครัว และเรื่องความรัก ซึ่งเหมือนจะดีแต่ก็ยังไม่สุด

หลายฉาก หลายบทที่เหมือนจะกำลังดีแต่ก็กลายเป็นเฉยๆซะงั้น เพราะความไม่สมเหตสมผลของพฤติกรรมตัวละคร ดูแล้วคิดในใจอ้อมันเป็นแฟนกันหรอ อ่าวแล้วไมมันไม่ดูแลผู้หญิงเลยหล่ะวะ หรือว่ามันไม่ได้รักกัน อ่าวแล้วมันเป็นแฟนกันทำไม

พอดูมาถึงปลายๆเรื่อง ยิ่งรู้สึกเลยว่ามีหลายฉากที่ไม่จำเป็น น่าจะเอาช่วงเวลาเหล่านั้นมาปูเรื่องหรือมาขมวดปมให้มันดูมีอะไร หรือมาช่วยทำให้อารมณ์ของหนังมันพีคยังจะดีซะกว่า

มีฉากฟินหลายฉาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะถ้าหนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องให้ดูเรียลกว่านี้ฉากฟินต่างๆจากพีคมาก รวมถึงฉากดราม่าที่ควรจะรู้สึกเศร้าก็กลับเป็นเฉยๆเพราะไม่มีการสานต่ออารมณ์ต่างๆเลย

ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ดนตรีประกอบ ไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของหนังดีขึ้นเลย ขึ้นมาอลังการตลอด ฉากเศ้ราๆอยู่ดี พอตัวเอกมาคุยกับจับมือกัน เสียงเพลงอันแสนสดใสก็ดังออกมา ไอความดราม่าที่ควรจะเป็นก็หายไป

สรุปแล้ว มันรู้สึกเสียดาย แต่ไม่ได้เสียดายเงินนะที่จ่ายไป (เพราะซิกแพคกับกางเกงในและการบดบี้ริมฝีปากช่วยให้เงินที่เสียค่าบัตรไปคุ้มขึ้นมาเลยทีเดียว) เสียดายความสามารถของน้องเงิน และคุณตู่ นพพล บทที่เหมือนจะดี แต่ก็มีไร้สาระมากจนเกินไป เสียดายตรงที่มันเกือบจะดีนี่แหละ

ให้คะแนนแบบปกติ ให้ 4.5/10
ให้คะแนนแบบไม่ปกติ(เน้นซิฟแพคน้องๆ) 7/10
ให้คะแนนน้องเงิน (8/10)
คะแนนดนตรีประกอบ (2/10) คือไม่ได้ช่วงส่งเสริมอะไรเลยแถมยังรู้สึกรำคาญด้วย

อีกอย่างหนึ่งคือ ถามว่าทำไมต้อง Waterboy ทำไมต้องเป็นนักว่ายน้ำ เหตุผลก็คือจะได้มีเหตุผลในการถอดเสื้อและใส่แต่กางเกงว่ายน้ำไง

แต่ก็ไม่ผิดหวังอะไรมากมายนะครับ เพราะดู lovesick มาจนจบได้ก็คงไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกผิดหวังไปได้มากกว่านี้เท่าไรนักหรอกครับ ดูเพลินๆก็โอเคครับ
ขอบคุณสำหรับซิกแพคและเป้าน้องเงินมากครับ กราบบบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่