คาดหวังอะไรไปเรื่อยเปื่อย แบบลมๆ แล้งๆ...
=========================
ส่วนหนึ่งของความยุ่งเหยิงและพันตูของการเมืองไทยในตอนนี้ส่วนหนึ่งมาจากความล้มเหลวของกลุ่มคนที่ต้องการกำจัดทักษิณ ความล้มเหลวที่ไม่สามารถกำจัดทักษิณให้พ้นไปจากการเมือง(เช่นว่า การปฏิวัติที่เสียของ การดิสเครดิตโครงการต่าง การบอยคอตการเลือกตั้ง หรือแม้แต่การพุ่งสังหารตัวบุคคล) ความล้มเหลวเหล่านั้นนอกจากจะถูกมองข้ามแล้ว ฝ่ายตรงข้ามทักษิณกลับเพิ่มอาณาเขตแห่งการกำจัด/ไล่ล่ากว้างขึ้นไปอีก จากการพุ่งเป้าไปยังทักษิณคนเดียวในระยะแรก เริ่มเบนพุ่งเป้าที่ที่ญาติพี่น้อง และตระกูลชินวัตรทั้งตระกูล..ความยุ่งเหยิงก็เพิ่มขึ้น และดูเหมือนว่าก็ยิ่งล้มเหลวมากขึ้น ยิ่งล้มเหลวก็ยิ่งสร้างความคลั่งแค้นและผูกเจ็บให้พวกเขา
ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าถูกทิ้งกองเอาไว้ ขาดการประเมินผลและไม่ใส่ใจ กลับมีแต่จะเดินหน้าเพื่อกำจัดทักษิณและตระกูลให้ได้เพียงอย่างเดียวนั้น......พวกเขาคงลืมไปว่า “เวลา” ที่จะมาไล่ล่าทักษิณและตระกูลชินวัตรนั้นมันก็น้อยลงไปๆ ที่สำคัญอำนาจที่หนุนหลังพวกเขาอยู่นั้นก็ใช่จะอยู่นิจนิรันดร์..... เมื่อไหร่ที่“อำนาจ” และ “ผลประโยชน์” เปลี่ยนกระแส ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกเขาทิ้งเอาไว้จะกลายเป็นหอกย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาเองในรูปแบบของการแก้แค้น คงไม่เกินเลยนักถ้าจะพูดว่าการเมืองไทยที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่มาตั้งแต่ปี 2475 เพราะการ “แก้แค้น” โดยแท้จริง.....
รูปแบบของกำจัดศรัตรูทางเมืองในหลายปีที่ผ่านมา ยังคงการใช้วิธีเดิมๆ...อาศัยอำนาจศาล อำนาจทหาร อาศัยองค์กรอิสระ ที่ผ่านๆ มาก็ประจักษ์แล้วว่าล้มเหลว....และรังแต่จะทำให้ประเทศชาติบอบช้ำหนักลงไปอีก คนบางคนที่เคยพูดและเชื่อว่า "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" เอาเข้าจริงๆ กลับรับตำแหน่งรัฐมนตรีจากรัฐบาลได้อำนาจมาจาการปล้นอย่างไม่เคอะเขิน
สมัยที่นายกษิต ภิรมย์เป็น รมว. ต่างประเทศการไล่ล่าเป็นไปทั้งรูปแบบนามธรรมและรูปธรรม ขับเครื่องบินไอพ่นไล่ล่าเหนือน่านน้ำไทยและเขมรก็เคยทำมาแล้ว ต้องผิดใจกับประเทศอื่นๆ ก็เคยมาแล้ว.......สำนวนไทย “ขี่ช้างไล่จักตั๊กแตน” ยังน้อยด้วยซ้ำไป
การพยายามกำจัดยิ่งคุณลักษณ์ด้วยนโยบายการจำนำข้าวในตอนนี้นั้น.....ก็ยิ่งจะตอกย้ำความล้มเหลวของการพยายามกำจัดคนตระกูลชินวัตรมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าผลจะลงเอยที่คุณยิ่งลักษณ์ต้องติดคุกหรือไม่ก็ตาม.....
ข้าแต่ศาลที่เคารพ.........”ธรรม” ที่เป็นข้อยุติมีให้นำมาใช้อยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน “อธรรม” ที่คิดว่าเป็นข้อยุติก็เป็นภาพลวงให้หลงเข้าไปได้เช่นกัน.....เชื่อว่าตรงนี้พณ ท่านย่อมรู้ดีกว่าผมหลายเท่านัก
............หวังว่าสักวันหนึ่ง.......
=========================
ส่วนหนึ่งของความยุ่งเหยิงและพันตูของการเมืองไทยในตอนนี้ส่วนหนึ่งมาจากความล้มเหลวของกลุ่มคนที่ต้องการกำจัดทักษิณ ความล้มเหลวที่ไม่สามารถกำจัดทักษิณให้พ้นไปจากการเมือง(เช่นว่า การปฏิวัติที่เสียของ การดิสเครดิตโครงการต่าง การบอยคอตการเลือกตั้ง หรือแม้แต่การพุ่งสังหารตัวบุคคล) ความล้มเหลวเหล่านั้นนอกจากจะถูกมองข้ามแล้ว ฝ่ายตรงข้ามทักษิณกลับเพิ่มอาณาเขตแห่งการกำจัด/ไล่ล่ากว้างขึ้นไปอีก จากการพุ่งเป้าไปยังทักษิณคนเดียวในระยะแรก เริ่มเบนพุ่งเป้าที่ที่ญาติพี่น้อง และตระกูลชินวัตรทั้งตระกูล..ความยุ่งเหยิงก็เพิ่มขึ้น และดูเหมือนว่าก็ยิ่งล้มเหลวมากขึ้น ยิ่งล้มเหลวก็ยิ่งสร้างความคลั่งแค้นและผูกเจ็บให้พวกเขา
ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าถูกทิ้งกองเอาไว้ ขาดการประเมินผลและไม่ใส่ใจ กลับมีแต่จะเดินหน้าเพื่อกำจัดทักษิณและตระกูลให้ได้เพียงอย่างเดียวนั้น......พวกเขาคงลืมไปว่า “เวลา” ที่จะมาไล่ล่าทักษิณและตระกูลชินวัตรนั้นมันก็น้อยลงไปๆ ที่สำคัญอำนาจที่หนุนหลังพวกเขาอยู่นั้นก็ใช่จะอยู่นิจนิรันดร์..... เมื่อไหร่ที่“อำนาจ” และ “ผลประโยชน์” เปลี่ยนกระแส ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกเขาทิ้งเอาไว้จะกลายเป็นหอกย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาเองในรูปแบบของการแก้แค้น คงไม่เกินเลยนักถ้าจะพูดว่าการเมืองไทยที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่มาตั้งแต่ปี 2475 เพราะการ “แก้แค้น” โดยแท้จริง.....
รูปแบบของกำจัดศรัตรูทางเมืองในหลายปีที่ผ่านมา ยังคงการใช้วิธีเดิมๆ...อาศัยอำนาจศาล อำนาจทหาร อาศัยองค์กรอิสระ ที่ผ่านๆ มาก็ประจักษ์แล้วว่าล้มเหลว....และรังแต่จะทำให้ประเทศชาติบอบช้ำหนักลงไปอีก คนบางคนที่เคยพูดและเชื่อว่า "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" เอาเข้าจริงๆ กลับรับตำแหน่งรัฐมนตรีจากรัฐบาลได้อำนาจมาจาการปล้นอย่างไม่เคอะเขิน
สมัยที่นายกษิต ภิรมย์เป็น รมว. ต่างประเทศการไล่ล่าเป็นไปทั้งรูปแบบนามธรรมและรูปธรรม ขับเครื่องบินไอพ่นไล่ล่าเหนือน่านน้ำไทยและเขมรก็เคยทำมาแล้ว ต้องผิดใจกับประเทศอื่นๆ ก็เคยมาแล้ว.......สำนวนไทย “ขี่ช้างไล่จักตั๊กแตน” ยังน้อยด้วยซ้ำไป
การพยายามกำจัดยิ่งคุณลักษณ์ด้วยนโยบายการจำนำข้าวในตอนนี้นั้น.....ก็ยิ่งจะตอกย้ำความล้มเหลวของการพยายามกำจัดคนตระกูลชินวัตรมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าผลจะลงเอยที่คุณยิ่งลักษณ์ต้องติดคุกหรือไม่ก็ตาม.....
ข้าแต่ศาลที่เคารพ.........”ธรรม” ที่เป็นข้อยุติมีให้นำมาใช้อยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน “อธรรม” ที่คิดว่าเป็นข้อยุติก็เป็นภาพลวงให้หลงเข้าไปได้เช่นกัน.....เชื่อว่าตรงนี้พณ ท่านย่อมรู้ดีกว่าผมหลายเท่านัก