สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เราก็เห็นด้วยกับคห2 นะว่า แม้ร่างจะเป็นอย่างไร แต่หัวใจยังคงความรักเดิม นั้นไม่ผิด
แต่บทที่ปรับเขียนให้พระเอก นางเอกกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สนใจสังคมและศีลธรรม
คำพูดแต่ละคำ บ่งบอก ว่าคิดถึงแต่ตัวเอง
นางเอกไม่รักษาน้ำใจสามี และพ่อแม่ พระเอก บอกนางเอกให้นึกถึงแต่ความสุขของตัวเอง
เราไม่รู้ว่า มันคืนอะไรให้สังคม
ให้คนเห็นดีกับการให้ความสำคัญแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก?
คนอื่นช่างมัน?
ถ้าเขาจะปรับบทให้ทั้งสองคนพยายามหักห้ามความรัก เพราะนางเอกอยู่ในสภาพลูกเมียคนอื่น
แล้วพระรองรับรู้ได้ว่านางเอกไม่มีความสุข เพราะไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก
แล้วเสียสละนางเอกให้พระเอก
แบบนี้ จะออกมาสวยกว่า
แต่บทที่ปรับเขียนให้พระเอก นางเอกกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สนใจสังคมและศีลธรรม
คำพูดแต่ละคำ บ่งบอก ว่าคิดถึงแต่ตัวเอง
นางเอกไม่รักษาน้ำใจสามี และพ่อแม่ พระเอก บอกนางเอกให้นึกถึงแต่ความสุขของตัวเอง
เราไม่รู้ว่า มันคืนอะไรให้สังคม
ให้คนเห็นดีกับการให้ความสำคัญแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก?
คนอื่นช่างมัน?
ถ้าเขาจะปรับบทให้ทั้งสองคนพยายามหักห้ามความรัก เพราะนางเอกอยู่ในสภาพลูกเมียคนอื่น
แล้วพระรองรับรู้ได้ว่านางเอกไม่มีความสุข เพราะไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก
แล้วเสียสละนางเอกให้พระเอก
แบบนี้ จะออกมาสวยกว่า
ความคิดเห็นที่ 7
ปัญหาของละครเรื่องนี้ อย่างเดียวล้วนๆ คือ ไม่สามารถโน้มน้าวใจให้คนเชื่อได้ว่า กวีกับละเวง(ภาคโดนัท) รักกันมากจริงๆ
ดูให้ตายยังไงก็ไม่เห็นความผูกพัน เอาเข้าจริงๆ ละเวงภาคก้อยยังดูรักกับกวีมากกว่าภาคโดนัทซะอีก ทั้งๆ ที่ออกมาน้อยมาก
และกวีก็เชื่อง่ายไปว่า คนในร่างวสีคือละเวง ง่ายเหมือนสะกดจิตให้เชื่อ
วสีบอกกวีแค่เบรคเดียว เบรคต่อมาเนียนเป็นแฟนกันได้สบายมาก
น่าจะมีบทตะขิดตะขวงใจบ้าง กระอักกระอ่วนบ้าง เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แล้วค่อยๆ มีพัฒนาการไปพร้อมคนดู จะน่าเชื่อกว่านี้
นึกถึงความเป็นจริง อยู่ดีๆ เราจะคุ้นเคยกับใครสักคนที่ไม่เคยเห็นหน้า มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ต่อให้ข้างในคือคนที่เรารู้จักจริงๆ ก็เถอะ
แต่นี่ตัดแปะกันชุ่ยมาก ไม่มีความอินแต่อย่างใด เหมือนรถสีขาวที่ติดสติกเกอร์ "รถคันนี้สีเขียว" แล้วให้คนอ่านเชื่อตาม ใครจะไปเชื่อ
น่าเสียดายที่ ep 1-4 ทำไว้ดีมาก ปูเรื่องมาเตรียมให้ละเวงเตรียมใจอ่อนให้โยธาเต็มที่ แต่อยู่ดีๆ ก็หักดิบเบรคคนดูหัวทิ่มซะงั้น
เอ้า เบรคหัวทิ่มก็ได้ ไม่ว่า มาถึงป่านนี้แล้ว เราไม่ยึดติดแล้วว่าพระเอกต้องเป็นโยธา แต่มันต้องทำให้คนดูอินกว่านี้ได้สิ
ดูให้ตายยังไงก็ไม่เห็นความผูกพัน เอาเข้าจริงๆ ละเวงภาคก้อยยังดูรักกับกวีมากกว่าภาคโดนัทซะอีก ทั้งๆ ที่ออกมาน้อยมาก
และกวีก็เชื่อง่ายไปว่า คนในร่างวสีคือละเวง ง่ายเหมือนสะกดจิตให้เชื่อ
วสีบอกกวีแค่เบรคเดียว เบรคต่อมาเนียนเป็นแฟนกันได้สบายมาก
น่าจะมีบทตะขิดตะขวงใจบ้าง กระอักกระอ่วนบ้าง เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แล้วค่อยๆ มีพัฒนาการไปพร้อมคนดู จะน่าเชื่อกว่านี้
นึกถึงความเป็นจริง อยู่ดีๆ เราจะคุ้นเคยกับใครสักคนที่ไม่เคยเห็นหน้า มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ต่อให้ข้างในคือคนที่เรารู้จักจริงๆ ก็เถอะ
แต่นี่ตัดแปะกันชุ่ยมาก ไม่มีความอินแต่อย่างใด เหมือนรถสีขาวที่ติดสติกเกอร์ "รถคันนี้สีเขียว" แล้วให้คนอ่านเชื่อตาม ใครจะไปเชื่อ
น่าเสียดายที่ ep 1-4 ทำไว้ดีมาก ปูเรื่องมาเตรียมให้ละเวงเตรียมใจอ่อนให้โยธาเต็มที่ แต่อยู่ดีๆ ก็หักดิบเบรคคนดูหัวทิ่มซะงั้น
เอ้า เบรคหัวทิ่มก็ได้ ไม่ว่า มาถึงป่านนี้แล้ว เราไม่ยึดติดแล้วว่าพระเอกต้องเป็นโยธา แต่มันต้องทำให้คนดูอินกว่านี้ได้สิ
แสดงความคิดเห็น
ได้ดู หัวใจมีเงา ตอนที่ 11 แล้ว โคตรเกลียด สัมภเวสี (กวี+วสี) มากๆ ทั้งเห็นแก่ตัว หน้าด้าน ไม่นึกถึงใจผู้อื่น
ปรับบทได้ต่ำตมจริงๆ ถามหน่อยเหอะ เขียนบทมาแล้วอ่านทวนดูกันบ้างหรือเปล่า ถ่ายแล้วมานั่งดูจอมอนิเตอร์บ้างไหม
หรือทีมงานพวกคุณดูแล้วอิน หรือแม้ว่าจะเป็นคำสั่งจากเบื้องบน ก็ไม่น่าสร้างออกมาเละขนาดนี้
ยังกล้าพูดว่าเราสร้างต้องให้อะไรกับสังคม อะไรคือคืนกำไรให้สังคมไม่ทราบ? บทเละเทะมาก
อยากให้คุณมีจุดยืนมากกว่านี้นะคุณชฎาพร ก็เห็นใจนะที่เรื่องแรกก็โดนขนาดนี้ แต่ช่วยไม่ได้ ฆ่าตัวเองชัดๆ
คำพูดกวีกับลูกทีม ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ
ถามหน่อยเหอะ ถ้านังละเวงมันไปสิงในร่างช้างม้าวัวควาย หรือหมาแมว แมลงสาป งูเงี้ยว ยังจะเอามั้ยอั้ยกวี
หรือถ้าละเวงไปเข้าร่างผู้ชายหรือเกย์ ยังจะรักที่จิตใจใช่ร่างกายภายนอกหรือเปล่า ตอบ!! บทเซ็งชะมัด