สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ความเชื่อของคนไทยที่คุณคิดว่าผิดมาจากไหน ?
ตอบ - ก็มาจากญี่ปุ่นเอง
อิมเมจโอตาคุ อ้วน ใส่แว่น เสื้อโคร่ง ๆ แบกเป้ใบใหญ่ ดูน่ารังเกียจ มาจากประเทศไทยหรอ ก็ไม่ใช่ - คนญี่ปุ่นวาดออกมา
การ์ตูนญี่ปุ่นเอง ก็มีทั้งตัวละครที่ชอบประกาศตัวว่าเป็นโอตาคุ จนเพื่อน ๆ ตกใจ จนเพื่อน ๆ ยี้ก็มี
ตัวละครที่เป็นโอตาคุแล้วไม่อยากให้ใครรู้ก็มี กลัวโดนเพื่อนเกลียด กลัวพ่อแม่ว่า ก็เยอะแยะ
ขนาดโด18+ ส่วนใหญ่พอพูดถึงโอตาคุปุ๊บ ก็คาแรคเตอร์อ้วนใส่แว่นแบกเป้ เหมือนเป็นตัวแทนภาพลักษณ์คนประเภทนี้
ตัวละครหญิงพอเห็นก็ทำท่าทางขยะแขยง รังเกียจ ไล่ให้ไปตาย บลาบลา
สรุป คำนี้เคยใช้เป็นคำเหยียดมาก่อน ข้อเท็จจริงนี้ทุกคนก็รู้ และมันก็เผยแพร่มายังประเทศไทย เพราะสื่อการ์ตูน
แถมคำเฉพาะเจาะจงอย่างนีทก็ยังไม่ค่อยบูม ดังนั้นโอตาคุมักจะพ่วงคำว่านีทไปในตัวเสมอ
การ์ตูนยุคหลังจากคำว่าโอตาคุบูมขึ้นมา มักจะทำให้โอตาคุเป็นสาวน้อยน่ารักเพียบพร้อม หรือพระเอกหล่อ ๆ แต่ดันแอบเป็นโอตาคุ
และคนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็พยายามช่วยกัน ทำให้คำนี้ซอฟท์ลงเรื่อย ๆ เรียกว่า ปรับภาพลักษณ์โอตาคุซะใหม่
ให้คนทั่วไป เห็นว่าโอตาคุ ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น พอมันเริ่มซอฟท์ลง ต่างชาติก็รับไปแบบที่ซอฟท์ลงแล้ว โดยเฉพาะพวกซีกโลกฝั่งซ้าย
แต่ที่ไทยมันต่างกัน เพราะเรารับตอนที่คำว่า "โอตาคุ" เป็นคำเหยียดเข้ามาเต็มๆ
คนที่รังเกียจคำว่าโอตาคุ เค้าไม่ได้เข้าใจผิด แต่เค้ายึดถือความหมายตอนแรกที่เค้าได้ยินมัน จากสื่อของญี่ปุ่นเอง
ส่วนคุณ เชื่อในความหมายตอนที่มันซอฟท์ลงแล้ว และตัวคุณก็อยู่ใน "สภาพแวดล้อมโอตาคุ" จึงมีความคิดบวกต่อคำนี้มากกว่าคนนอก
แน่นอนที่ญี่ปุ่นเองความคิดที่รังเกียจโอตาคุ มันก็ยังฝังอยู่ในหัวคนบางคน ไม่งั้นภาพลักษณ์โอตาคุ คงเป็นบวกร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว
ในการ์ตูนญี่ปุ่นเองคำคำนี้ก็ยังมาใช้กับตัวละครประเภทนี้อยู่เรื่อย ๆ ถ้าความหมายมันไม่ใช่ แล้วการ์ตูนญี่ปุ่นจะไปใช้ทำไมล่ะ ?
แสดงว่าการเหยียดลึก ๆ ในใจยังมีอยู่บ้าง ไม่ได้หมดไปซะทีเดียว ในขณะที่บางคนก็เฉย ๆ กับคำคำนี้ไปแล้ว
เทียบกับไทยก็เหมือนคำว่าเกรียน ติ่ง แว้นซ์ อะไรพวกนี้ เริ่มจากคำเหยียดก่อน เป็นที่รังเกียจ แล้วก็ซอฟท์ลงเรื่อย ๆ
สมัยก่อนด่าใครว่าเกรียนนี่คือรังเกียจเลยนะ เดี๋ยวนี้เอามาพูดขำ ๆ กับเพื่อนได้สบาย ๆ "แกเกรียนว่ะ" ขำ ๆ กันไป
แต่คนที่บอกว่า ลองใส่ลายโมเอะไปเดินสิ มีแต่คนรังเกียจ
อันนั้นก็เกินไปจริง ๆ เพราะคนเราส่วนใหญ่ถ้ารังเกียจอะไรก็ไม่แสดงออกชัดเจนหรอก ยิ่งเป็นคนญี่ปุ่นอีก
ไม่มีใครรังเกียจออกนอกหน้าขนาดที่กล่าวอ้างหรอก แต่ในใจเราไม่รู้
ตอบ - ก็มาจากญี่ปุ่นเอง
อิมเมจโอตาคุ อ้วน ใส่แว่น เสื้อโคร่ง ๆ แบกเป้ใบใหญ่ ดูน่ารังเกียจ มาจากประเทศไทยหรอ ก็ไม่ใช่ - คนญี่ปุ่นวาดออกมา
การ์ตูนญี่ปุ่นเอง ก็มีทั้งตัวละครที่ชอบประกาศตัวว่าเป็นโอตาคุ จนเพื่อน ๆ ตกใจ จนเพื่อน ๆ ยี้ก็มี
ตัวละครที่เป็นโอตาคุแล้วไม่อยากให้ใครรู้ก็มี กลัวโดนเพื่อนเกลียด กลัวพ่อแม่ว่า ก็เยอะแยะ
ขนาดโด18+ ส่วนใหญ่พอพูดถึงโอตาคุปุ๊บ ก็คาแรคเตอร์อ้วนใส่แว่นแบกเป้ เหมือนเป็นตัวแทนภาพลักษณ์คนประเภทนี้
ตัวละครหญิงพอเห็นก็ทำท่าทางขยะแขยง รังเกียจ ไล่ให้ไปตาย บลาบลา
สรุป คำนี้เคยใช้เป็นคำเหยียดมาก่อน ข้อเท็จจริงนี้ทุกคนก็รู้ และมันก็เผยแพร่มายังประเทศไทย เพราะสื่อการ์ตูน
แถมคำเฉพาะเจาะจงอย่างนีทก็ยังไม่ค่อยบูม ดังนั้นโอตาคุมักจะพ่วงคำว่านีทไปในตัวเสมอ
การ์ตูนยุคหลังจากคำว่าโอตาคุบูมขึ้นมา มักจะทำให้โอตาคุเป็นสาวน้อยน่ารักเพียบพร้อม หรือพระเอกหล่อ ๆ แต่ดันแอบเป็นโอตาคุ
และคนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็พยายามช่วยกัน ทำให้คำนี้ซอฟท์ลงเรื่อย ๆ เรียกว่า ปรับภาพลักษณ์โอตาคุซะใหม่
ให้คนทั่วไป เห็นว่าโอตาคุ ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น พอมันเริ่มซอฟท์ลง ต่างชาติก็รับไปแบบที่ซอฟท์ลงแล้ว โดยเฉพาะพวกซีกโลกฝั่งซ้าย
แต่ที่ไทยมันต่างกัน เพราะเรารับตอนที่คำว่า "โอตาคุ" เป็นคำเหยียดเข้ามาเต็มๆ
คนที่รังเกียจคำว่าโอตาคุ เค้าไม่ได้เข้าใจผิด แต่เค้ายึดถือความหมายตอนแรกที่เค้าได้ยินมัน จากสื่อของญี่ปุ่นเอง
ส่วนคุณ เชื่อในความหมายตอนที่มันซอฟท์ลงแล้ว และตัวคุณก็อยู่ใน "สภาพแวดล้อมโอตาคุ" จึงมีความคิดบวกต่อคำนี้มากกว่าคนนอก
แน่นอนที่ญี่ปุ่นเองความคิดที่รังเกียจโอตาคุ มันก็ยังฝังอยู่ในหัวคนบางคน ไม่งั้นภาพลักษณ์โอตาคุ คงเป็นบวกร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว
ในการ์ตูนญี่ปุ่นเองคำคำนี้ก็ยังมาใช้กับตัวละครประเภทนี้อยู่เรื่อย ๆ ถ้าความหมายมันไม่ใช่ แล้วการ์ตูนญี่ปุ่นจะไปใช้ทำไมล่ะ ?
แสดงว่าการเหยียดลึก ๆ ในใจยังมีอยู่บ้าง ไม่ได้หมดไปซะทีเดียว ในขณะที่บางคนก็เฉย ๆ กับคำคำนี้ไปแล้ว
เทียบกับไทยก็เหมือนคำว่าเกรียน ติ่ง แว้นซ์ อะไรพวกนี้ เริ่มจากคำเหยียดก่อน เป็นที่รังเกียจ แล้วก็ซอฟท์ลงเรื่อย ๆ
สมัยก่อนด่าใครว่าเกรียนนี่คือรังเกียจเลยนะ เดี๋ยวนี้เอามาพูดขำ ๆ กับเพื่อนได้สบาย ๆ "แกเกรียนว่ะ" ขำ ๆ กันไป
แต่คนที่บอกว่า ลองใส่ลายโมเอะไปเดินสิ มีแต่คนรังเกียจ
อันนั้นก็เกินไปจริง ๆ เพราะคนเราส่วนใหญ่ถ้ารังเกียจอะไรก็ไม่แสดงออกชัดเจนหรอก ยิ่งเป็นคนญี่ปุ่นอีก
ไม่มีใครรังเกียจออกนอกหน้าขนาดที่กล่าวอ้างหรอก แต่ในใจเราไม่รู้
แสดงความคิดเห็น
ความคิดที่ว่า โอตาคุ หมายถึงคน น่ารังเกียจ เก็บตัว เข้าสังคมไม่ได้ มาจากไหนครับ?
(อยู่ดีๆก็โดนยัดเยียดมาสามสี่รอบแล้ว)
https://scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xaf1/v/t1.0-9/1512419_10152599773044388_3235414239180911951_n.jpg?oh=a6a29bd52d4c514a56468b98f83e2e31&oe=56BFF8C0
ผมคือคนขวานะครับ
ปัจจุบันทำงานอยู่ญี่ปุ่น อยู่มาตั้งแต่ปี2007แล้ว ถ้าหักช่วงที่กลับไทยไปก็อยู่มาร่วม5ปีกว่า
ใน1ปีที่ผ่านมา ผมทำงานที่ชิบูยะ
เสื้ออนิเมแบบที่ผมใส่ในภาพ ผมใส่เดินผ่านสถานีชิบูยะเฉลี่ยอาทิตย์ละ6รอบ (เสื้อแนวนี้อาทิตย์ละ3วัน ไปกลับจากที่ทำงาน)
และ ถ้ามีใครถามผมว่าผมเป็นโอตาคุหรือเปล่า ผมก็จะตอบว่าผมเป็นโอตาคุครับ
-------------------------------------------
คราวก่อน ผมลองทำการสอบถาม เพื่อจะดูว่าคนไทยมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับโอตาคุ
แล้วทีนี้ผมก็อยากจะขอถามหน่อยครับว่า ความเห็นพวกนี้ มีที่มาจากไหนหรือครับ?
1. โอตาคุ เป็นพวกเก็บตัวเข้าสังคมไม่ได้ (เรื่องชอบมังงะอนิเมมาทีหลัง บางคนเอาเรื่องไม่เข้าสังคมอย่างเดียวเป็นเกณท์ตัดสิน)
2. คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่รังเกียจโอตาคุ ให้ลองใส่เสื้ออนิเม แล้วเดินในสถานีรถไฟดูสิ แล้วจะรู้
3. ถ้าบอกว่าตัวเองเป็นโอตาคุ จะหมดอนาคตเลยนะ
-------------------------------------------
ข้อ1 ผมแย้งไปแล้วว่าโอตาคุไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจไปตามนั้น
ถ้าอยากจะตัดสินให้ได้ว่านั่นแหละคือโอตาคุ ขอเชิญอ่านและเม้นในกระทู้นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/34339902
ณ ที่นี้ อยากจะถามว่า ความเชื่อที่ว่าโอตาคุเป็นอย่างนั้น มีที่มาจากไหนครับ?
--------------------------------------------
ข้อ2 ผมลองทำตามคำท้ามาปีหนึ่งแล้ว ในสถานีชิบูยะ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นใครมาทำสีหน้ารังเกียจใส่ผม
เรื่องเคยมาญี่ปุ่น หรือ เคยอาศัยอยู่ญี่ปุ่นหรือเปล่า อันนี้อีกเรื่องหนึ่ง
แต่จากการที่ทดลองสอบถาม คนที่พูดความเห็นนี้มาส่วนใหญ่พูดญี่ปุ่นไม่ได้
ความเชื่อนี้มาจากไหนครับ?
--------------------------------------------
ข้อ3 ตอนนี้ผมมีงานทำเพราะปล่าวประกาศบอกชาวโลกว่าตัวเองเป็นโอตาคุ
พนักงานร่วมบริษัทในลิงค์ด้านล่างนี่ก็เรียกตัวเองว่าเป็น ดีไซน์โอตาคุ (บทความทางการของบริษัท แต่ไม้ได้ยัดเยียดให้พูด)
https://www.wantedly.com/companies/altplus/employee_interviews/11108
กับคนอื่นๆที่ไม่ได้เป็นโอตาคุ ก็พูดกันได้ตามปกติ แค่ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว เพราะไม่ได้ชอบเรื่องเดียวกัน
แล้วไอ้ที่ว่า ถ้าบอกว่าตัวเองเป็นโอตาคุ จะหมดอนาคตเลยนะ มันมาจากไหนหรือครับ?