>> ธุรกิจหมาที่ใครๆ ไม่รู้ <<

ปอมเมอเรเนียน ปอม เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก น่ารัก โด่งดังจาก boo ถูกโหวต เป็นหมาน่ารักที่สุดในโลก จนตลาดปอมในไทย คึกคัก มูลค่าตลาด market cap. สูงมาก ตลาดในประเทศ และ ต่างประเทศ ประมาณการส่งออก ค่อนข้างสูงทีเดียว ดูจาก facebook กลุ่มประกวดสุนัข และในประเทศ จากประสบการณ์ ฟาร์มระดับกลางๆ  ปีๆ หนึ่ง ยอดขาย 1 ล้านขึ้น บางปี เฉียด 2 ล้าน

ถ้าฟาร์มใหญ่ ๆ ไม่อยากคิด เพราะ สนนราคา ลูกปอม เกรดประกวด ตัวละ 100k ขึ้นไป ฟาร์มปอม จึงขยายตัวอย่างมาก บางครั้ง บางช่วง ตลาดอาจจะมียอดซื้อขายตกลงไปบ้าง ส่วนใหญ่จะสะเทือนผู้ค้ารายย่อย ฟาร์มเล็ก หรือ ฟาร์มใหญ่ ที่เน้น ปริมาณ ไม่มีชื่อเสียง แต่ ทุกอย่างล้วนมีต้นทุน ฟาร์มที่มีชื่อเสียงจะมีพ่อพันธุ์ประดับบารมี จากในประเทศไทยบ้าง ต่างประเทศบ้าง บางตัวหลักล้าน ในประเทศไทยเคยมีการซื้อขาย กัน ถึง 7 ล้าน ตัวเลขนี้ ฟังมาจากฝ่ายเดียว จึงขอให้พิจารณาเอง จะเชื่อหรือไม่ เพราะฟังมาเช่นกัน ค่าน้ำเชื้อ 1 แสน ต่อการขึ้น 2 รอบ ส่วนติด ไม่ติด เทิร์นหรือไม่อยู่ที่เงื่อนไขการตกลงกันก่อนผสม เพราะเงินแค่นี้สำหรับคนรวย ซื้อหมาขนาดนี้ เขาไม่เสียเวลาเทิร์นครั้งต่อไป ต้องคุยตกลงให้ดี ค่าผสมมาตราฐานอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่น ต่อพ่อพันธุ์ระดับแถวหน้าเมืองไทย ต่ำกว่านี้ 2-3 หมื่น อยู่ที่ต่อรอง และความสนิทส่วนตัว

ในแต่ละฟาร์มลูกปอม ระดับกลาง ตลาด upper medium class หรือ medium class ค่าผสมอยู่ที่ประมาณ 2.5-6 หมื่น ราวๆ เกรดนี้ ต้องวัดดวงหน่อย เพราะ มีโอกาส เพี้ยน หรือ แปลงร่าง สูง ส่วนใหญ่เน้นขายพ่อพันธุ์ ใช้พ่อเป็น ธงนำ ส่วน สายแม่ เน้น กลางๆ ค่าผสม เกรดนี้ ก็ 2.5 หมื่น ลงมา rate พวกนี้ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่ต่อรอง และความสนิทสนมส่วนตัว หรือ change to change แลกเปลี่ยนตามเงื่อนไข เช่น แลกผสม พ่อพันธุ์ หรือขอซื้อ ลูกหมา แถมแลกผสม

ฟาร์มปอมตลาดล่าง เยอะมาก ไม่ค่อยทราบรายละเอียด แต่รู้ว่าเยอะมาก เชียงใหม่ นครปฐม เป็น factor ปั๊ม ส่ง กันเลยทีเดียว ส่วนพ่อพันธุ์ เน้น ซื้อต่อ โละๆ จาก ฟาร์ม กลางๆ ส่งไม้ต่อมา ลูกปอม ก็ หลักพันกลางๆ ถึง ปลายๆ

ตลาดปอม มี market share สูงมาก ทำให้มี supplier สูงตาม ส่วน demand ใน ตลาดต่างประเทศ ก็มี order มาเรื่อยๆ  ส่วนในประเทศ ก็ 2 ปีนี้ ทรงๆ ไม่ทรุดมาก อยู่ในเกณท์ ตลาดนิ่ง คงที่ เพราะมี player หน้าใหม่ ๆ มาเรื่อยๆ แต่หลายต่อหลายราย ก็กระเด็นออกจากวงการไป ด้วย ไม่มีเวลาดูแล เพราะทำธุรกิจด้านอื่นเป็นหลัก หรือไม่ได้จริงจังกับอาชีพเลี้ยงปอมเสริมตรงนี้ ด้วยต้นทุนก็สูงเป็นเงาตามตัว ลงทุนทำฟาร์ม ตกแต่งสถานที่เลี้ยงก็หลักล้านเลยทีเดียว ลงทุนใน goods สินค้า ปอม ก็ เกณท์ประมาณ พ่อพันธุ์หลัก 2 ตัว แม่พันธุ์ 10 ตัว ก็ หลายแสน จนถึงเกือบล้านเลยทีเดียว ค่าโสหุ้ยต่างๆ ค่าอาหาร ยา วัคซีน ค่าหมอ ในกรณีผ่าตัด ผ่าคลอด หรือ โรคต่างๆ กระดูกหัก ต้นทุนผันแปร ค่าการตลาด กรณีประกวด เพื่อสร้าง value ให้ตัวเอง ประกวดแชมป์ไทยแลนด์ ประมาณ 3 หมื่น ต่อการ เทรน และ จูง โดย handler มืออาชีพบางคน หรือพยายาม up grade ตัวเอง อาชีพนี้จึงเกิดมา พร้อมกับตลาดปอม เหมือนดารานักแสดง ต้องมี ผจก.ส่วนตัว ธุรกิจย่อมมีขึ้นมีลง ตามระบบเศรษฐกิจ และความต้องการในตลาด กำลังซื้อ หรือผลกระทบตัวอื่น ดาราเห่อเลี้ยง สุนัขกัดคนตาย พวกนี้เป็นปัจจัยรอง

ส่วนตลาดที่โตขึ้น ย่อมมีพ่อค้าหัวใสเพิ่มขึ้น ผลิต สินค้าเข้าสู่ระบบ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อตลาดส่วนใหญ่ กรณีหลอกขาย หลอกโอนเงิน กันทาง e-market พวกนี้ เหมือนเหลือบสังคม คอยตามเกาะกินเหมือนเห็บหมา ทำให้เสื่อมเสียในวงการ และปัญหาที่แก้ยากอีกตัว คือ ปัญหา ภายในที่หมักหมม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ขัดแย้ง ทำลายคู่แข่ง ฝ่ายตรงข้าม ถึงขึ้นนัดมาเคลียร์ใจ ยกพวกจะถล่มกันก็มี (ใช้คำว่า จะ เพราะยังไม่ถึงขั้นถล่ม หรือมีคดีความ แค่ข่มขู่ เอาชีวิตกัน ตบตี ดักกระทืบในส้วม ก็มีมาแล้ว เพราะความหมั่นไส้ มีการถากถาง เยาะเย้ย เสียงเชียร์ ทั้ง 2 ฝ่าย บางราย ไร้มารยาท ทราม ถึงขั้นไม่พอใจในคำตัดสินในการประกวด เขวี้ยงถ้วยรางวัล เดินออกจากสนาม ไม่จับมือกรรมการ ไม่รับโบว์ ก็มี ซึ่งอาการแบบนี้ ไม่สมควรเกิดขึ้น การตัดสินถือเป็นข้อยุติ ทุกคนต้องเคารพกติกา ให้เกียรติกรรมการ  หากสงสัยควรถาม เพื่อหาข้อยุติ บางทีในสายตาเราหมาเราอาจสวย แต่ในสายตาคนอื่น มันไม่ใช่ เพราะ คำตัดสินมันมี เรื่อง standard ทั้ง ยุโรป อเมริกา เช่น structure moving รวมทั้ง สี ที่แปลกตา เพศ ย่อมมีส่วนในการตัดสินทั้งนั้นครับ

ธุรกิจฟูฟ่อง เหมือน ฟองสบู่ ถูกปั่น รอวัน แตก เหมือน ตลาดอสังหาฯ  Real Estate ยุคเฟื่องฟู รายเล็ก ล้มไม่เป็นท่า ขนาดกลาง เจ๊งระนาว กลายเป็นคนเคยรวย รายใหญ่สะเทือน แต่พอเลี้ยงตัวเองรอด เพราะฐานเศรษฐกิจดีกว่า มีทุนสูง มีสายป่านที่ยาวกว่า

เหมือนตลาดอสังหาฯ ของอเมริกา เมื่อประมาณปี 2550 - 2551 ช่วงวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) หรือ วิกฤติซับไพร์ม หรือ วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis)

ธุรกิจตลาดซื้อขายสุนัขปอม จากประสบการณ์ ขอแบ่งเป็นช่วงๆ ดังนี้
- ยุคแรกๆ ช่วงปี 2534 - 2540 ซึ่งยังมีผู้เลี้ยงไม่มาก ยังไม่บูมเท่าไหร่ (Introduction Stage)
- ยุค 2540 - 2550 ยุคเติบโต ยุคนี้ ปอมไทย เริ่มไปดังอเมริกา ยุโรป (Growth Stage)
- ยุค 2550 - ปัจจุบัน ยุคอิ่มตัว (Maturity Stage)
และกำลังจะเข้าสู่ยุค down ลง ในไม่ช้า (Decline Stage)

ถ้าบทความนี้มีเนื้อหาตรงไหนไม่ถูกต้อง ขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะครับ เข้ามาดู

และสำหรับท่านที่อยากทราบเบื้องลึกหลังไมค์ได้นะครับ ยินดีแชร์ประสบการณ์กันครับ อมยิ้ม16

สนใจอ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
# กลยุทธ์การตลาดกับธุรกิจปอมเมอเรเนี่ยน #  http://ppantip.com/topic/34431877

ซือกง อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่