Bridge of Spies : มุมมองที่แตกต่างของช่วงสงคราม

Bridge of Spies : ช่วงสงครามมันลำบากนะ

หนังผนึกกำลังอีกครั้งของป๋า Tom Hanks กับพ่อมด Steven Spielberg กับหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของทนายผู้ได้รับโอกาส (รึซวยไม่รู้) ดูแลลูกความให้กับสายลับที่ถูกจับในสหรัฐ ชะตาชีวิตเขาอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความรักชาติและความมีมนุษยธรรมทันที และนิสัยเถรตรงของทนายแบบนี้ เขาเลยถูกพาตัวไปเป็นตัวแทนเจรจาแลกเปลี่ยนนักโทษ

ไม่ขอพูดถึงเนื้อเรื่อง เพราะน่าจะเดาๆตอนจบได้ ที่นี้อยากพูดถึงประเด็นที่บทบอกคนดูอยู่ ว่าสิ่งที่คุณยึดมั่นมาตลอดคืออะไร ระหว่างแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนที่กำลังจะเดือดร้อน หรือความมีมนุษยธรรมที่เราควรมีให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แน่นอนในนี้คนเราย่อมเลือกอย่างหลัง แต่หากมันทำให้คุณโดนทั้งประเทศโจมตีขึ้นมา เราย่อมลังเลในคติที่เรายึดมั่นแน่นอน คุณจะยอมถูกตราหน้าว่าขายชาติ ไม่รักชาติมั้ย เพียงเพื่อช่วยเหลือคนๆเดียว คนที่เขาไม่ได้ทำอะไรให้คุณด้วยซ้ำ บทสนทนาในเรื่องของผู้พิพากษาเหมือนตบหน้าอเมริกาไปฉาดหนึ่งที่บอกว่า 'ไม่เอาน่าคุณทนาย มันก็แค่สายลับรัสเซีย' บ่งบอกว่า ประเทศนี้ชอบอ้างตนว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่กลับกำลังริดรอนสิทธิคนๆหนึ่งลงไปเพียงเพราะเขาเป็นสายลับ มองอีกมุมหนึ่งคือ ช่วงสงครามน่ะ มันไว้ใจใครได้ที่ไหน

หนังเทไปทางความเห็นมนุษยธรรมมากไปว่ามันได้ผลดีกว่า แต่ก็มีเศษเสี้ยวของผลเสียในการตัดสินใจดังกล่าว

ดารานำ ไม่ต้องห่วง ยี่ห้อป๋า แบกหนังทั้งเรื่องสบาย ดาราคนอื่นไม่ถูกกลืนไปกับเนื้อเรื่อง ผู้กำกับเก่งนะที่ใช้ดนตรีประกอบ เรียกว่าน้อยมากๆเลยก็ได้ แต่มันไม่ได้ทำให้หนังน่าติดตามน้อยลงเลย

หนังไม่ใช่หนังสงครามแน่นอน เป็นหนังทิ้งประเด็นใหญ่ๆให้เราได้คิด เหมาะกับคนชอบดูหนังแล้วคิดตาม แต่ดีมั้ย ตอบเลยว่าดีมากๆ

ประวัติของตัวตนจริงตามนี้เลยครับ
https://en.m.wikipedia.org/wiki/James_B._Donovan

ฝากเพจด้วยครับ
https://www.facebook.com/i.think.i.knowbut.idont
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่