“คุณชายอดัม” รับซื้อละคร “พันท้ายนรสิงห์” คืนจากทางช่อง 3 ในราคาเดียวกับที่ทางช่อง 3 จ้างให้ผลิต เหตุมองว่าช่องโมโน29 ให้เวลาที่เหมาะสมกว่าปัดมีปัญหากับวิกพระราม 4

             เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาหลายปี สำหรับละครฟอร์มยักษ์เรื่อง “พันท้ายนรสิงห์” ของผู้จัด “ท่านมุ้ย” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ที่ผลิตให้ทางช่อง 3 ตั้งแต่ประมาณปี 2554 จนล่าสุดถ่ายทำเสร็จมาเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคิวออนแอร์ โดยมีข่าวว่าออกมาว่า ทางช่อง 3 จะนำละครเรื่องนี้ฉายเป็นละครก่อนข่าว ซึ่งทางท่านมุ้ยยืนยันว่าละครถูกทำมาเป็นละครหลังข่าว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอด จนล่าสุดมีข่าวว่า “คุณชายอดัม” ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล โอรสของท่านมุ้ย เตรียมนำละครเรื่องนี้ไปฉายกับทางช่องโมโน 29 ทาง “นสพ.คมชัดลึก” เลยติดต่อขอสัมภาษณ์เรื่องนี้

           “พันท้ายนรสิงห์เราจะนำมาฉายกับทางช่องโมโน ส่วนกับทางช่อง 3 ก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไร เหมือนกับว่าเราซื้อเรื่องนี้กลับมาเป็นของเรา ส่วนเรื่องราคาที่ซื้อกลับมานั้น ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่เป็นราคาเดียวกับที่ทางช่อง 3 จ่ายให้เราในตอนนั้น เหมือนว่าเราขอเป็นคนลงทุนทำเรื่องนี้แทน ละครในช่วงพาร์มไทม์ราคาประมาณ 1,500,000-2,500,000 บาท 10 ตอนก็ปาเข้าไป 20 กว่าล้าน ของเรามีประมาณ 24 ตอน เพราะฉะนั้นที่มีข่าวออกมาว่าราคาประมาณ 30 ล้านบาท ไม่ได้ถือว่าแพง ยิ่งถ้าเป็นละครฟอร์มใหญ่ ราคา 2-3 ล้านบาทต่อตอนด้วยซ้ำไป ดังนั้นจึงไม่ได้ถือว่าเป็นราคาที่เรียกว่าแพง ซึ่งอย่างที่บอกผมก็ไม่แน่ใจว่าราคาจริงเท่าไหร่กันแน่” คุณชายอดัมเผย

           คุณชายอดัมยังเสริมอีกว่า นอกจาก “พันท้ายฯ” จะออนแอร์กับทางช่อง โมโน ปีหน้าแล้ว ปลายปีนี้ยังจะได้ชมเรื่องนี้ในรูปแบบของภาพยนตร์อีกด้วย พร้อมเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจซื้อเรื่องนี้คืนจากช่อง 3

           “ที่ตัดสินใจซื้อเรื่องนี้คืนจากช่อง 3 เพราะเรารู้สึกว่าการออนแอร์ของเรา มันเหมาะกับที่อื่นที่ให้เวลาที่ดี เราคิดว่าตรงนี้มันน่าจะเวิร์กกว่า กับทางช่อง 3 เมื่อเราสร้างเสร็จปุ๊บ แต่อาจจะไม่เหมาะกับทางช่องเขา ในเรื่องของช่วงเวลาและการสนับสนุน เราก็มีการปรึกษาว่างั้นเราขอเปลี่ยน ทางช่อง 3 ก็โอเค เป็นการตกลงกันเรียบร้อย (อยากให้พันท้ายฯ ออนแอร์ในช่วงหลังข่าวใช่ไหม) เราในฐานะของผู้ผลิตที่ตั้งใจทำงาน เรามีนักแสดงที่มีคุณภาพ มีโปรดักชั่นที่มีคุณภาพ เราลงทุนและเราใส่ใจ เราคิดว่าการที่เราได้รับการสนับสนุนให้ลงในช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่คู่ควรมันก็น่าจะดีกว่า การที่เราซื้อเรื่องนี้คืนมา ไม่ใช่ว่าทางช่อง 3 ไม่ดี แต่เราคิดว่าอะไรที่เหมาะสมกับสิ่งไหนมากกว่า มันเป็นกรณีๆ ไป เราเป็นผู้จัดอิสระ สิ่งที่เราทำคือเราทำสิ่งที่ดีให้กับทางช่องนั้นๆ ถ้าเขาคิดว่าสิ่งที่เราทำยังไม่เหมาะ ไม่ควร และมองไม่ตรงกับเรา เราก็เลยคิดว่า เราควรจะนำโปรเจกท์นี้ไปในจุดที่เหมาะสมกว่า” คุณชายอดัมกล่าวปิดท้าย

ขอมูลจาก : http://www.komchadluek.net/detail/20151022/215507.html