สวัสดีค่า วันนี้ขออัญเชิญไอเท็มกันแดดที่ใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 58 มารีวิวกัน
มาเริ่มที่ สภาพผิว กันก่อน เป็นคนผิวผสมค่ะ T-zone มันมาก หน้าแก้มก็มัน รูขุมขนกว้าง ข้างแก้มถ้าอากาศเย็นจะแห้งค่ะ นอกจากผิวหน้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อากาศช่วงนี้ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นกัน
เดี๋ยวฝนเดี๋ยวก็ร้อน บางวันเที่ยงก็แดดแร๊งแรง นึกว่าเมษาหน้าร้อน
ลมหนาวก็เริ่มพัดผ่านเข้ามาพอให้ได้ชื้นใจแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ต้องขอป้องกันตัวเองไว้ก่อน
กระทู้นี้ไม่มีพลีชีพ ไม่ไหวจะเคลียกะแดด
ส่วนตัวเป็นคนชอบกันแดดสูตรน้ำ มากกว่าเนื้อครีม เพราะที่เคยใช้มาบางยี่ห้อหนัก เกลี่ยยาก
ใช้แล้วอุดตัน เลยขอโบกมือลาขาดกัน ไม่ใช้กันแดดกันเลยพักใหญ่ อีกหนึ่งปัญหาหลักคือ เมคอัพเยิ้มระหว่างวัน
กลัวดำก็กลัว กลัวเมคอัพเยิ้มอีก เลยมาจบที่สูตรน้ำนี้แหละ
มาเริ่มกันตามลำดับความสูง 5555
อัญเชิญตัวแรก
1.Origina Sun Care Fluid spf 50 PA+++
25 ml. 590.-
น้องเล็กเตี้ยสุด ได้มาในราคาโปรโมชั่น ก่อนจะใช้ต้องเขย่าขวดก่อน
เนื้อสัมผัส Texture = สูตรน้ำแต่มีความเข้นข้น ไม่เหลวมาก เกลี่ยง่าย น่าจะมีซิลิโคนจากสัมผัสที่ลื่นๆ เล็กน้อยตอนทา สีขาวแต่ไม่วอก ฟีลหลังทาถือว่าผ่าน ทา ก่อนการลงรองพื้น รู้สึกว่าทำให้การเกลี่ยรองพื้นเนียนขึ้น จากที่ลองใช้ไม่อุดตัน จขกท. คลีนซิ่งวอเตอร์ ล้างด้วยเจลล้างหน้าต่อ
ความมัน = หลังทาผิววาวๆ ฉ่ำๆ นิดนึง ไม่เยิ้มระหว่างวัน
กลิ่น = ไม่มีแอลกอฮอลล์และน้ำหอม ไม่เหม็นกลิ่นเคมี
สรุป : 9 /10
2. Biore UV Color Control CC Milk SPF 50+ PA++++ 290 บาท
ตัวนี้เป็นกันแดดสีเนื้อ ให้ลุคเบาๆ ใสๆ กะว่าได้ตัวนี้มาจะได้ทาทีเดียวจบเลย
เนื้อสัมผัส Texture = เนื้อน้ำแต่ค่อนข้างเกลี่ยยาก เราทาแล้วเป็นคราบ
ร้องไห้สุดคือมันตกร่อง เนื่องจากเราหน้าทีโซนมันและรูขุมขนกว้าง
ไม่ได้ให้การปกปิดเท่าไหร่นะคะ เหมาะกับคนที่ผิวไม่มีปัญหาอันนี้น่าจะโอเค
ความมัน = ไม่คุมมัน 2-3 ชม. เริ่มเยิ้ม ไม่คุมมันนะคะ
กลิ่น = มีน้ำหอม และ Lกฮ ตามสไตล์ Biore
ตอนนี้ก็ย้ายมาทาคอแทนแล้ว เสียดายอ่ะ
สรุป : 7/10
3.Za TRUE WHITE POWER BLOCK UV SPF 50+ PA++++ Baby Powder
ขนาด 50 ml. ราคา 380.-
เนื้อสัมผัส Texture = เนื้อน้ำเช่นกันสีขาว บางเบากว่าแบบครีม ทาแล้วไม่วอกดีค่ะ กลืนไปกับผิว
เกลี่ยแล้วเหมือนเซตตัวเป็นแป้งนิดนึง แต่รู้สึกได้ถึงแอลกอฮอล์ ผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องระวัง
เราใช้แล้วมีผดๆขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าคุมมันไม่ดีเท่ารุ่นเก่า แต่รุ่นเก่าเคยใช้แล้วมันอุดตัน ต้องทำความสะอาดดีๆ
กลิ่น = คล้ายๆ แป้งเด็ก
สรุป : 8/10
4.PROVAMED Sun Aqua Serum (Sensitive SPF 50)
40 ml ราคา 450 บาท
เนื้อสัมผัส Texture = เบามาก เนื้อเป็นน้ำเลยค่ะ เป็นอีกตัวที่รู้สึกว่าทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว แต่ตัวนี้ไม่มี PA + แหะ
กลิ่น = ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
มาดูว่า PA คืออะไร ? ขอแปะไว้เป็นความรู้
PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซืมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ
ค่า PA มี 3 ระดับคือ PA+,PA++ และ PA+++
PA+++ นั้นสำหรับผู้ที่ต้องการ การปกป้องสูง (เจอกับแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน)
PA+ สำหรับผู้ที่ต้องการปกปกแสงแดด จากกิจกรรมทั่ว ๆไป (อาจจะไม่ได้เจอกับแสงมากนัก)
สำหรับตัวนี้เราเลยคิดว่าไม่เหมาะกับออกแดดแรงเท่าไหร่นะ ถ้าทำงานในออฟฟิศพอไหวค่า ราคากำลังดี
สรุป : 9/10
ตามพิธี แต่ขอไม่พลีชีพ เกรงว่าจะเป็นหมูแดดเดียว
สูสีๆ พยายามหยดเล็งให้ปริมาณเท่าๆ กันแล้วนะ
ผ่านไป ซีเอ ไหลซะงั้น
ทิ้งไว้ 30 นาที ได้ดังภาพ
เรื่องความมัน Origina และ Provamed ถือว่าใกล้เคียงกัน
ต่างที่ค่ากันแดด ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ Provamed มีออกตัวใหม่รึยังน้า อยากให้มี PA++++ ไปเลย มันจะเริศมากกก
ขวดนึงใช้ได้นานมาก และ เนื้อ Provamed จะเหลว เนื้อบางกว่า ส่วนของ Origina ยังมีความครีมมี่ สีออกเหลืองกว่านิดหน่อย
ขอมอบ มง ให้ 2 ไอเท็มนี้ จะซ้ายหรือขวาก็ผ่านค่า ตอนนี้ใช้อยู่ 2 ตัวนี้ และก็ชอบมาก ไม่เยิ้มด้วยยิ่งรักเลย วันนี้พกมาเทสต์ดูอีกซักรอบ
ภาพแรก : แดดอ่อน ๆ ตอน 11.00 ใกล้หน้าหนาวค่ะ ดูจากภาพก็เป็นแดดเบาๆ .. TT
ภาพที่ 2 : 14.00 แดดเปลี่ยนทิศ ทิ้งไว้ 3 ชม. ช่วงแรกโปรวาเมดไม่เยิ้มเลย เริศมากๆ ส่วน Origina จะมีน้ำมันช่วงแรกเล็กน้อย และก็คงสภาพไม่มีออกมาอีก
หวังว่ารีวิวกันแดดนี้จะเป็นตัวช่วยเป็นหนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจในการหาครีมกันแดดดี ๆ ที่เหมาะกับคุณผู้อ่านได้บ้างนะคะ
ปล. ทั้งนี้สภาพผิวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เงินในกระเป๋าก็เช่นกัน ไม่ว่ารีวิวไหนๆ ใช้วิจารณญาณส่วนตัว สติตัดสินใจกันด้วยน้า
[CR] Mini Review : กระทู้ (ไม่ขอ) พลีชีพ กันแดดท้าลมหนาว ..?
มาเริ่มที่ สภาพผิว กันก่อน เป็นคนผิวผสมค่ะ T-zone มันมาก หน้าแก้มก็มัน รูขุมขนกว้าง ข้างแก้มถ้าอากาศเย็นจะแห้งค่ะ นอกจากผิวหน้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อากาศช่วงนี้ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นกัน
เดี๋ยวฝนเดี๋ยวก็ร้อน บางวันเที่ยงก็แดดแร๊งแรง นึกว่าเมษาหน้าร้อน
ลมหนาวก็เริ่มพัดผ่านเข้ามาพอให้ได้ชื้นใจแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ต้องขอป้องกันตัวเองไว้ก่อน
กระทู้นี้ไม่มีพลีชีพ ไม่ไหวจะเคลียกะแดด
ส่วนตัวเป็นคนชอบกันแดดสูตรน้ำ มากกว่าเนื้อครีม เพราะที่เคยใช้มาบางยี่ห้อหนัก เกลี่ยยาก
ใช้แล้วอุดตัน เลยขอโบกมือลาขาดกัน ไม่ใช้กันแดดกันเลยพักใหญ่ อีกหนึ่งปัญหาหลักคือ เมคอัพเยิ้มระหว่างวัน
กลัวดำก็กลัว กลัวเมคอัพเยิ้มอีก เลยมาจบที่สูตรน้ำนี้แหละ
มาเริ่มกันตามลำดับความสูง 5555
อัญเชิญตัวแรก
1.Origina Sun Care Fluid spf 50 PA+++
25 ml. 590.-
น้องเล็กเตี้ยสุด ได้มาในราคาโปรโมชั่น ก่อนจะใช้ต้องเขย่าขวดก่อน
เนื้อสัมผัส Texture = สูตรน้ำแต่มีความเข้นข้น ไม่เหลวมาก เกลี่ยง่าย น่าจะมีซิลิโคนจากสัมผัสที่ลื่นๆ เล็กน้อยตอนทา สีขาวแต่ไม่วอก ฟีลหลังทาถือว่าผ่าน ทา ก่อนการลงรองพื้น รู้สึกว่าทำให้การเกลี่ยรองพื้นเนียนขึ้น จากที่ลองใช้ไม่อุดตัน จขกท. คลีนซิ่งวอเตอร์ ล้างด้วยเจลล้างหน้าต่อ
ความมัน = หลังทาผิววาวๆ ฉ่ำๆ นิดนึง ไม่เยิ้มระหว่างวัน
กลิ่น = ไม่มีแอลกอฮอลล์และน้ำหอม ไม่เหม็นกลิ่นเคมี
สรุป : 9 /10
2. Biore UV Color Control CC Milk SPF 50+ PA++++ 290 บาท
ตัวนี้เป็นกันแดดสีเนื้อ ให้ลุคเบาๆ ใสๆ กะว่าได้ตัวนี้มาจะได้ทาทีเดียวจบเลย
เนื้อสัมผัส Texture = เนื้อน้ำแต่ค่อนข้างเกลี่ยยาก เราทาแล้วเป็นคราบ
ร้องไห้สุดคือมันตกร่อง เนื่องจากเราหน้าทีโซนมันและรูขุมขนกว้าง
ไม่ได้ให้การปกปิดเท่าไหร่นะคะ เหมาะกับคนที่ผิวไม่มีปัญหาอันนี้น่าจะโอเค
ความมัน = ไม่คุมมัน 2-3 ชม. เริ่มเยิ้ม ไม่คุมมันนะคะ
กลิ่น = มีน้ำหอม และ Lกฮ ตามสไตล์ Biore
ตอนนี้ก็ย้ายมาทาคอแทนแล้ว เสียดายอ่ะ
สรุป : 7/10
3.Za TRUE WHITE POWER BLOCK UV SPF 50+ PA++++ Baby Powder
ขนาด 50 ml. ราคา 380.-
เนื้อสัมผัส Texture = เนื้อน้ำเช่นกันสีขาว บางเบากว่าแบบครีม ทาแล้วไม่วอกดีค่ะ กลืนไปกับผิว
เกลี่ยแล้วเหมือนเซตตัวเป็นแป้งนิดนึง แต่รู้สึกได้ถึงแอลกอฮอล์ ผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องระวัง
เราใช้แล้วมีผดๆขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าคุมมันไม่ดีเท่ารุ่นเก่า แต่รุ่นเก่าเคยใช้แล้วมันอุดตัน ต้องทำความสะอาดดีๆ
กลิ่น = คล้ายๆ แป้งเด็ก
สรุป : 8/10
4.PROVAMED Sun Aqua Serum (Sensitive SPF 50)
40 ml ราคา 450 บาท
เนื้อสัมผัส Texture = เบามาก เนื้อเป็นน้ำเลยค่ะ เป็นอีกตัวที่รู้สึกว่าทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว แต่ตัวนี้ไม่มี PA + แหะ
กลิ่น = ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
มาดูว่า PA คืออะไร ? ขอแปะไว้เป็นความรู้
PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซืมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ
ค่า PA มี 3 ระดับคือ PA+,PA++ และ PA+++
PA+++ นั้นสำหรับผู้ที่ต้องการ การปกป้องสูง (เจอกับแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน)
PA+ สำหรับผู้ที่ต้องการปกปกแสงแดด จากกิจกรรมทั่ว ๆไป (อาจจะไม่ได้เจอกับแสงมากนัก)
สำหรับตัวนี้เราเลยคิดว่าไม่เหมาะกับออกแดดแรงเท่าไหร่นะ ถ้าทำงานในออฟฟิศพอไหวค่า ราคากำลังดี
สรุป : 9/10
ตามพิธี แต่ขอไม่พลีชีพ เกรงว่าจะเป็นหมูแดดเดียว
สูสีๆ พยายามหยดเล็งให้ปริมาณเท่าๆ กันแล้วนะ
ผ่านไป ซีเอ ไหลซะงั้น
ทิ้งไว้ 30 นาที ได้ดังภาพ
เรื่องความมัน Origina และ Provamed ถือว่าใกล้เคียงกัน
ต่างที่ค่ากันแดด ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ Provamed มีออกตัวใหม่รึยังน้า อยากให้มี PA++++ ไปเลย มันจะเริศมากกก
ขวดนึงใช้ได้นานมาก และ เนื้อ Provamed จะเหลว เนื้อบางกว่า ส่วนของ Origina ยังมีความครีมมี่ สีออกเหลืองกว่านิดหน่อย
ขอมอบ มง ให้ 2 ไอเท็มนี้ จะซ้ายหรือขวาก็ผ่านค่า ตอนนี้ใช้อยู่ 2 ตัวนี้ และก็ชอบมาก ไม่เยิ้มด้วยยิ่งรักเลย วันนี้พกมาเทสต์ดูอีกซักรอบ
ภาพแรก : แดดอ่อน ๆ ตอน 11.00 ใกล้หน้าหนาวค่ะ ดูจากภาพก็เป็นแดดเบาๆ .. TT
ภาพที่ 2 : 14.00 แดดเปลี่ยนทิศ ทิ้งไว้ 3 ชม. ช่วงแรกโปรวาเมดไม่เยิ้มเลย เริศมากๆ ส่วน Origina จะมีน้ำมันช่วงแรกเล็กน้อย และก็คงสภาพไม่มีออกมาอีก
หวังว่ารีวิวกันแดดนี้จะเป็นตัวช่วยเป็นหนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจในการหาครีมกันแดดดี ๆ ที่เหมาะกับคุณผู้อ่านได้บ้างนะคะ
ปล. ทั้งนี้สภาพผิวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เงินในกระเป๋าก็เช่นกัน ไม่ว่ารีวิวไหนๆ ใช้วิจารณญาณส่วนตัว สติตัดสินใจกันด้วยน้า