สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทู้แรกที่เราตั้งในพันธุ์ทิพย์เลย ตอนแรกตั้งใจว่าจะเป็นผู้อ่านอย่างเดียว แต่วันนี้ไม่รู้จะถามใครไม่รู้จะพึ่งใครเลยมาตั้งกระทู้ถามในนี้ รบกวนด้วยนะคะ
คือเรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราอาศัยอยู่ต่างประเทศ เพิ่งย้ายเข้าที่อยู่ใหม่กับแฟนเมื่อสองเดือนที่แล้ว ตอนกลางวันแฟนไปทำงาน เราก็ทำงานอยู่ที่บ้าน(เป็นฟรีแลนซ์) หลังจากอยู่มาได้สักพักก็เจอเรื่องแปลกๆค่ะ มีสองเรื่อง ซึ่งไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่
===เรื่องแรก===
เมื่อเดือนที่แล้วตอนเรานอนอยู่คนเดียวที่บ้าน (แฟนออกไปแล้ว เรายังไม่ตื่น) อยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนเดินวนไปวนมาในห้องนั่งเล่นแบบเอาส้นเท้าลง เสียงมันดังกว่าปกติมาก นอกจากเสียงเดินยังมีเสียงลากเฟอร์นิเจอร์ไปมา เราก็ใจไม่ดี ลืมล๊อคห้องหรือเปล่านะเมื่อคืน โจรขึ้นบ้านหรือเปล่า เอาไงดี คิดคิดคิดอยู่ตั้งนานก็ตัดสินใจว่าจะลุกไปดูให้รู้เลยว่าเป็นอะไรกันแน่ ปรากฏว่าก่อนจะลุกออกจากเตียงก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องเรียกว่า "แม่จ๋า อย่าไปเลย!" เราก็หันไปมอง เจอเด็กผู้ชายตัวขาวๆอวบๆ หน้าตาน่ารักน่าชังมาก มาแบบจัดเต็ม ไว้จุกบนหัว มีกำไลทองที่ข้อมือข้อเท้าทั้งสองข้างมีกระดิ่งกริ๊งๆกำลังดึงแขนเราไว้
เด็ก: แม่อย่าเพิ่งไปเลย อยู่กับหนูก่อน มีคนไม่ดีอยู่ในห้องนั่งเล่นแม่ ปล่อยเขาเดินไปนั่นแหละ ระหว่างนี้เล่นกับหนูก่อน
เรา : ได้สิ เล่นอะไรกันดี
เด็ก : เล่นอะไรก็ได้จ้ะ
เราก็เลยเอาเด็กมากอดๆๆๆ เล่นด้วยเหมือนเล่นกับเด็กทารก จับโยนมั่ง จ๊ะเอ๋มั่ง เด็กก็ดูมีความสุขมากหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ส่วนตัวเราเองก็รู้สึกผูกพันกับเด็ก แบบเหมือนเป็นลูกของตัวเอง ไม่รู้ทำไมแต่ตอนนั้นรู้สึกว่ารักเด็กคนนี้มาก
เด็ก : พอแล้วจ้ะแม่ หนูเหงามาตั้งน๊านนาน แต่ตอนนี้หนูอยากกินขนมบ้างล่ะ
เรา : เอาขนมอะไรดี?
เด็ก : อะไรก็ได้จ้ะ
เรา : ได้ งั้นเดี๋ยวแม่ไปหยิบบิสกิตให้จากห้องนั่งเล่นนะ
เด็ก : ไม่ได้แม่! เขายังอยู่! แม่หลับต่อเถอะ แล้วค่อยเอาขนมให้หนูตอนที่เขาไปแล้ว
เรา : โอเค
แล้วเราก็หลับต่อโดยวางเด็กไว้ข้างๆ ผ่านไปประมาณสองสามชั่วโมงตื่นขึ้นมา ไม่มีเสียงจากห้องนั่งเล่นแล้ว เด็กก็ไม่อยู่แล้ว ก็เลยเดินไปดูที่ห้องนั่งเล่น ปรากฏว่าราวตากผ้ากับโต๊ะไม่ได้อยู่ที่เดิมที่ตั้งไว้เมื่อคืน และเศษกระดาษจากโปรเจคที่ทำอยู่ตอนนี้ก็หายไปจากพื้นหมดเลยทั้งที่เมื่อคืนมันกระจายเต็มห้อง สรุปว่า ตอนนั้นก็หลอนๆไปพักนึง โทรไปปรึกษาแม่ที่ไทย แม่บอกว่าน่าจะเป็นกุมารทอง ให้ไปหาขนม น้ำหวาน และ ของกิน มาวางให้เขา และให้คอยเปลี่ยนน้ำและขนมทุกวัน เราก็ไปหาของตามนั้นมาค่ะ แต่ว่าวางขนมไว้แล้วไม่เคยเปลี่ยนเลย เปลี่ยนน้ำอยู่สองสามครั้งเวลามันระเหยจนหมดจอก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีก เพราะแฟนเป็นชาวต่างชาติแล้วเขาไม่เชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ เขาไม่ค่อยชอบที่เราเชื่อเรื่องนี้ (จริงๆก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง) เราก็เลยไม่ได้เปลี่ยนน้ำอีก แต่ยังวางไว้ที่เดิม
===เรื่องที่สอง===
เรื่องนี้เพิ่งเกิดวันนี้ค่ะ วันนี้เราไม่สบาย มีไข้ ตัวร้อน พอตกบ่ายแล้วทำงานไม่ค่อยไหวก็เลยไปนอนพัก เราหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ อยู่ๆก็ตกใจสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูดัง ปัง ปัง ปัง เรายังไม่ลุกทันทีเพราะคิดว่าอาจจะฝันไปแต่ก็มีเสียงเคาะอีก คราวนี้เคาะห้าครั้ง ดังกว่าเดิม เราก็เลยลุก เดินออกมาจากห้องนอน เดินผ่านครัว ซึ่งตอนนั้นก็มีเสียงเคาะมาอีกชุดนึง พอมาถึงหน้าประตูเราก็บิดลูกบิด แต่ลืมไปว่ามันล็อคอยู่ ตอนนั้นก็มีเสียงเคาะอีกแบบดังมากๆแบบเร่งๆๆ เราก็เลยตะโกนไปว่า "Wait, wait, I'm getting the key!" หลังจากนั้นไม่เกิน 5 วินาที เราก็เปิดประตูออกไป
...ปรากฏว่าไม่มีใครเลย ไฟบันไดก็มืดสนิท เงียบ และตอนนั้นรู้สึกว่าอากาศมันเย็นมากๆ เราก็ยืนงงอยู่พักนึง แล้วก็ตัดสินใจเคาะห้องเพื่อนบ้านคนฝรั่งเศสที่อยู่ติดกัน (คือตึกนี้อยู่กันแค่ 3 คน คือ เรา แฟน และเพื่อนบ้านหนึ่งคน ตึกมีประตูที่เชื่อมกับถนนบานเดียว พอเปิดเข้ามาแล้วก็จะมีประตูอีกบานนึง พอเปิดอีกก็จะเป็นบันไดสูงๆแคบๆ พอเดินขึ้นมาชั้นสองก็จะเจอประตูสองบานติดกัน บานนึงคือประตูอพาร์ทเม้นท์ของเรา อีกบานนึงเปิดไปจะเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นห้องของคนฝรั่งเศส) ปรากฏว่าเขาก็ไม่อยู่บ้าน เราลงไปดูตรงที่จอดจักรยาน จักรยานเขาก็ไม่อยู่ แสดงว่ายังไม่กลับ ซึ่งเราจำได้ว่าปกติเขาจะกลับมาประมาณหกโมง แล้วแฟนเรากลับมาทุ่มนึง เป็นแบบนี้ทุกวันธรรมดา
หมายเหตุ : ขณะที่พิมพ์อยู่นี่เพื่อนบ้านคนฝรั่งเศสกลับมาแล้ว เราเลยไปถามเขาว่าเขามาเคาะห้องเราเมื่อบ่ายๆหรือเปล่า เขาบอกว่าเปล่า เพิ่งกลับมา เราก็เลยส่งข้อความหาเจ้าของห้องที่เราเช่าอยู่ว่าวันนี้เขาแวะมาเคาะห้องเราหรือเปล่า เขาก็บอกว่าเปล่า เพราะตามกฏหมายอยู่ๆเขาจะมาเคาะห้องเราไม่ได้ ต้องแจ้งล่วงหน้าว่าจะมา ส่วนแฟนเราก็ยังอยู่ที่ทำงาน สรุปว่าทุกคนที่มีกุญแจเข้ามาในตึกนี้ ไม่มีใครมาเคาะห้องเราตอนบ่าย แล้วใครเคาะห้องเรา??
ตอนนี้เราค่อนข้างเสียขวัญ เราเล่าให้แฟนฟังแฟนก็บอกว่าคิดไปเอง อาจจะหลอนเพราะพิษไข้ แต่เราสาบานได้ว่ามีคนเคาะประตูห้องจริงๆ ถ้าคุณยืนอยู่หน้าประตูแถมมือนึงก็จับลูกบิดอยู่ เวลามีคนเคาะจากอีกฝั่งนึงมันก็ได้ยินทั้งเสียงและมีแรงสะเทือน ยังไงก็รู้ว่ามีคนเคาะจริงๆ เราบอกแฟนว่าเรากลัวแฟนก็ไม่ค่อยสนใจ เราเลยโทรหาแม่ที่ไทยอีกรอบ แม่บอกว่าน่าจะเป็นน้องกุมารมาเตือนให้เปลี่ยนน้ำเปลี่ยนขนม เราก็เลยเติมน้ำหวานและวาง M&M ไว้ให้กล่องนึง ทั้งที่ก็ไม่แน่ใจว่าตกลงที่เกิดขึ้นมันคืออะไร
คำถามคือ
1. เป็นไปได้ไหมที่สองเหตุการณ์นี้เราคิดไปเอง
2. ถ้าเราไม่ได้คิดไปเอง เราควรทำยังไง เราไม่ได้นับถือศาสนาพุทธและไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสาง ไสยศาสตร์ หรืออะไรทำนองนี้ แต่เราไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
3. ถ้าเป็นกุมารจริงๆ เป็นไปได้ไหมถ้าเราจะไม่รับเลี้ยงไว้และส่งให้คนอื่นต่อ หรืออะไรยังไง (คือ ไม่มีความรู้อะไรด้านนี้เลย)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ และถ้าใครมีคำแนะนำที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ก็ช่วยตอบเราหน่อย เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ เรากลัว ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวตอนกลางวันอีกแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องอยู่ ขอบคุณค่ะ
แบบนี้คือเจอกุมารทองหรือเปล่าคะ ใครทราบบ้างว่าต้องทำยังไงต่อไป
นี่เป็นกระทู้แรกที่เราตั้งในพันธุ์ทิพย์เลย ตอนแรกตั้งใจว่าจะเป็นผู้อ่านอย่างเดียว แต่วันนี้ไม่รู้จะถามใครไม่รู้จะพึ่งใครเลยมาตั้งกระทู้ถามในนี้ รบกวนด้วยนะคะ
คือเรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราอาศัยอยู่ต่างประเทศ เพิ่งย้ายเข้าที่อยู่ใหม่กับแฟนเมื่อสองเดือนที่แล้ว ตอนกลางวันแฟนไปทำงาน เราก็ทำงานอยู่ที่บ้าน(เป็นฟรีแลนซ์) หลังจากอยู่มาได้สักพักก็เจอเรื่องแปลกๆค่ะ มีสองเรื่อง ซึ่งไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่
===เรื่องแรก===
เมื่อเดือนที่แล้วตอนเรานอนอยู่คนเดียวที่บ้าน (แฟนออกไปแล้ว เรายังไม่ตื่น) อยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนเดินวนไปวนมาในห้องนั่งเล่นแบบเอาส้นเท้าลง เสียงมันดังกว่าปกติมาก นอกจากเสียงเดินยังมีเสียงลากเฟอร์นิเจอร์ไปมา เราก็ใจไม่ดี ลืมล๊อคห้องหรือเปล่านะเมื่อคืน โจรขึ้นบ้านหรือเปล่า เอาไงดี คิดคิดคิดอยู่ตั้งนานก็ตัดสินใจว่าจะลุกไปดูให้รู้เลยว่าเป็นอะไรกันแน่ ปรากฏว่าก่อนจะลุกออกจากเตียงก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องเรียกว่า "แม่จ๋า อย่าไปเลย!" เราก็หันไปมอง เจอเด็กผู้ชายตัวขาวๆอวบๆ หน้าตาน่ารักน่าชังมาก มาแบบจัดเต็ม ไว้จุกบนหัว มีกำไลทองที่ข้อมือข้อเท้าทั้งสองข้างมีกระดิ่งกริ๊งๆกำลังดึงแขนเราไว้
เด็ก: แม่อย่าเพิ่งไปเลย อยู่กับหนูก่อน มีคนไม่ดีอยู่ในห้องนั่งเล่นแม่ ปล่อยเขาเดินไปนั่นแหละ ระหว่างนี้เล่นกับหนูก่อน
เรา : ได้สิ เล่นอะไรกันดี
เด็ก : เล่นอะไรก็ได้จ้ะ
เราก็เลยเอาเด็กมากอดๆๆๆ เล่นด้วยเหมือนเล่นกับเด็กทารก จับโยนมั่ง จ๊ะเอ๋มั่ง เด็กก็ดูมีความสุขมากหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ส่วนตัวเราเองก็รู้สึกผูกพันกับเด็ก แบบเหมือนเป็นลูกของตัวเอง ไม่รู้ทำไมแต่ตอนนั้นรู้สึกว่ารักเด็กคนนี้มาก
เด็ก : พอแล้วจ้ะแม่ หนูเหงามาตั้งน๊านนาน แต่ตอนนี้หนูอยากกินขนมบ้างล่ะ
เรา : เอาขนมอะไรดี?
เด็ก : อะไรก็ได้จ้ะ
เรา : ได้ งั้นเดี๋ยวแม่ไปหยิบบิสกิตให้จากห้องนั่งเล่นนะ
เด็ก : ไม่ได้แม่! เขายังอยู่! แม่หลับต่อเถอะ แล้วค่อยเอาขนมให้หนูตอนที่เขาไปแล้ว
เรา : โอเค
แล้วเราก็หลับต่อโดยวางเด็กไว้ข้างๆ ผ่านไปประมาณสองสามชั่วโมงตื่นขึ้นมา ไม่มีเสียงจากห้องนั่งเล่นแล้ว เด็กก็ไม่อยู่แล้ว ก็เลยเดินไปดูที่ห้องนั่งเล่น ปรากฏว่าราวตากผ้ากับโต๊ะไม่ได้อยู่ที่เดิมที่ตั้งไว้เมื่อคืน และเศษกระดาษจากโปรเจคที่ทำอยู่ตอนนี้ก็หายไปจากพื้นหมดเลยทั้งที่เมื่อคืนมันกระจายเต็มห้อง สรุปว่า ตอนนั้นก็หลอนๆไปพักนึง โทรไปปรึกษาแม่ที่ไทย แม่บอกว่าน่าจะเป็นกุมารทอง ให้ไปหาขนม น้ำหวาน และ ของกิน มาวางให้เขา และให้คอยเปลี่ยนน้ำและขนมทุกวัน เราก็ไปหาของตามนั้นมาค่ะ แต่ว่าวางขนมไว้แล้วไม่เคยเปลี่ยนเลย เปลี่ยนน้ำอยู่สองสามครั้งเวลามันระเหยจนหมดจอก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีก เพราะแฟนเป็นชาวต่างชาติแล้วเขาไม่เชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ เขาไม่ค่อยชอบที่เราเชื่อเรื่องนี้ (จริงๆก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง) เราก็เลยไม่ได้เปลี่ยนน้ำอีก แต่ยังวางไว้ที่เดิม
===เรื่องที่สอง===
เรื่องนี้เพิ่งเกิดวันนี้ค่ะ วันนี้เราไม่สบาย มีไข้ ตัวร้อน พอตกบ่ายแล้วทำงานไม่ค่อยไหวก็เลยไปนอนพัก เราหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ อยู่ๆก็ตกใจสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูดัง ปัง ปัง ปัง เรายังไม่ลุกทันทีเพราะคิดว่าอาจจะฝันไปแต่ก็มีเสียงเคาะอีก คราวนี้เคาะห้าครั้ง ดังกว่าเดิม เราก็เลยลุก เดินออกมาจากห้องนอน เดินผ่านครัว ซึ่งตอนนั้นก็มีเสียงเคาะมาอีกชุดนึง พอมาถึงหน้าประตูเราก็บิดลูกบิด แต่ลืมไปว่ามันล็อคอยู่ ตอนนั้นก็มีเสียงเคาะอีกแบบดังมากๆแบบเร่งๆๆ เราก็เลยตะโกนไปว่า "Wait, wait, I'm getting the key!" หลังจากนั้นไม่เกิน 5 วินาที เราก็เปิดประตูออกไป
...ปรากฏว่าไม่มีใครเลย ไฟบันไดก็มืดสนิท เงียบ และตอนนั้นรู้สึกว่าอากาศมันเย็นมากๆ เราก็ยืนงงอยู่พักนึง แล้วก็ตัดสินใจเคาะห้องเพื่อนบ้านคนฝรั่งเศสที่อยู่ติดกัน (คือตึกนี้อยู่กันแค่ 3 คน คือ เรา แฟน และเพื่อนบ้านหนึ่งคน ตึกมีประตูที่เชื่อมกับถนนบานเดียว พอเปิดเข้ามาแล้วก็จะมีประตูอีกบานนึง พอเปิดอีกก็จะเป็นบันไดสูงๆแคบๆ พอเดินขึ้นมาชั้นสองก็จะเจอประตูสองบานติดกัน บานนึงคือประตูอพาร์ทเม้นท์ของเรา อีกบานนึงเปิดไปจะเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นห้องของคนฝรั่งเศส) ปรากฏว่าเขาก็ไม่อยู่บ้าน เราลงไปดูตรงที่จอดจักรยาน จักรยานเขาก็ไม่อยู่ แสดงว่ายังไม่กลับ ซึ่งเราจำได้ว่าปกติเขาจะกลับมาประมาณหกโมง แล้วแฟนเรากลับมาทุ่มนึง เป็นแบบนี้ทุกวันธรรมดา
หมายเหตุ : ขณะที่พิมพ์อยู่นี่เพื่อนบ้านคนฝรั่งเศสกลับมาแล้ว เราเลยไปถามเขาว่าเขามาเคาะห้องเราเมื่อบ่ายๆหรือเปล่า เขาบอกว่าเปล่า เพิ่งกลับมา เราก็เลยส่งข้อความหาเจ้าของห้องที่เราเช่าอยู่ว่าวันนี้เขาแวะมาเคาะห้องเราหรือเปล่า เขาก็บอกว่าเปล่า เพราะตามกฏหมายอยู่ๆเขาจะมาเคาะห้องเราไม่ได้ ต้องแจ้งล่วงหน้าว่าจะมา ส่วนแฟนเราก็ยังอยู่ที่ทำงาน สรุปว่าทุกคนที่มีกุญแจเข้ามาในตึกนี้ ไม่มีใครมาเคาะห้องเราตอนบ่าย แล้วใครเคาะห้องเรา??
ตอนนี้เราค่อนข้างเสียขวัญ เราเล่าให้แฟนฟังแฟนก็บอกว่าคิดไปเอง อาจจะหลอนเพราะพิษไข้ แต่เราสาบานได้ว่ามีคนเคาะประตูห้องจริงๆ ถ้าคุณยืนอยู่หน้าประตูแถมมือนึงก็จับลูกบิดอยู่ เวลามีคนเคาะจากอีกฝั่งนึงมันก็ได้ยินทั้งเสียงและมีแรงสะเทือน ยังไงก็รู้ว่ามีคนเคาะจริงๆ เราบอกแฟนว่าเรากลัวแฟนก็ไม่ค่อยสนใจ เราเลยโทรหาแม่ที่ไทยอีกรอบ แม่บอกว่าน่าจะเป็นน้องกุมารมาเตือนให้เปลี่ยนน้ำเปลี่ยนขนม เราก็เลยเติมน้ำหวานและวาง M&M ไว้ให้กล่องนึง ทั้งที่ก็ไม่แน่ใจว่าตกลงที่เกิดขึ้นมันคืออะไร
คำถามคือ
1. เป็นไปได้ไหมที่สองเหตุการณ์นี้เราคิดไปเอง
2. ถ้าเราไม่ได้คิดไปเอง เราควรทำยังไง เราไม่ได้นับถือศาสนาพุทธและไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสาง ไสยศาสตร์ หรืออะไรทำนองนี้ แต่เราไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
3. ถ้าเป็นกุมารจริงๆ เป็นไปได้ไหมถ้าเราจะไม่รับเลี้ยงไว้และส่งให้คนอื่นต่อ หรืออะไรยังไง (คือ ไม่มีความรู้อะไรด้านนี้เลย)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ และถ้าใครมีคำแนะนำที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ก็ช่วยตอบเราหน่อย เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ เรากลัว ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวตอนกลางวันอีกแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องอยู่ ขอบคุณค่ะ